ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
พะนอขวัญ บทที่ ๑๑

พะนอขวัญ บทที่ ๑๑



พะนอขวัญรู้สึกเวลาหมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะทั้งสัปดาห์นั้นเธอวุ่นวายอยู่กับงานจนแทบไม่มีเวลาคิดอะไร ทั้งงานที่ยังค้างอยู่ งานใหม่ที่เพิ่งตกลงกับอังสนา และออร์เดอร์เสื้อด่วนของลูกค้าประจำ พะนอขวัญอยากมีอีกสักสิบมือ ถึงจะได้นอนบ้างไม่ได้นอนบ้างแต่ทุกอย่างก็เรียบร้อย

แม้จะยุ่งขนาดนั้น แต่ก็มีบางเรื่องที่แวบเข้ามาในความคิดบ่อยๆ

เรื่องที่ไม่ควรคิดถึง...

หัวใจที่เต้นแรงเกินปกติ

พะนอขวัญสะบัดศีรษะ ไล่ความรู้สึกไม่ปกติออกไป แล้วนึกถึงเรื่องน่าดีใจอีกเรื่องแทน วันศุกร์ที่มาถึงอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้เธอก็จะได้กลับบ้านแล้ว

กลับบ้าน...

ใช่...เธอควรจะคิดถึงเรื่องนี้มากกว่า

พะนอขวัญย้ำกับตัวเอง

โครม!!!

“เฮ้ยๆๆๆ เลิกๆๆๆ เก็บของ เลิกงานได้แล้วโว้ย...” เสียงดังโครมครามพร้อมเสียงโวยวายทำให้นักออกแบบทั้งหมดสะดุ้งเฮือก ก่อนจะหันขวับไปมองด้านหลังห้องพร้อมกัน

โตมรยืนกอดอก ยักคิ้วรับเสียงโห่ของน้องๆ ในแผนก

“อะไร...ใครกล้าขัดคำสั่งหัวหน้าแผนก” โตมรเสียงเข้ม ความจริงก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทแล้ว แต่ฝ่ายออกแบบมักจะเลิกทำงานติดพันเลยเวลาเป็นปกติ

“ใครจะกล้าล่ะยะ คุณหัวหน้าใหญ่” มัทวีเสียงสูง ทำงานร่วมกันมานานเธอชินเรื่องเอะอะโวยวายฝีมือโตมรอยู่นาน

“ร้านไหนดี...ไอ้แพงวันนี้ห้ามเบี้ยวเฮียอีกนะ” โตมรตะโกนบอกลูกน้องสาว

พะนอขวัญหัวเราะ เริ่มเก็บของบนโต๊ะ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ

“แพงมีนัดกับพวกน้องๆ อีกแล้วล่ะเฮีย”

“อะไรวะ...เห็นเด็กหน้าใสดีกว่าเฮียอีกแล้ว”

“มันก็แน่อยู่แล้ว หนุ่มหล่อๆ ของเจ้าแพงน่าสนใจกว่าเฮียหน้าโหดเป็นไหน” มัทวีไม่รอที่จะซ้ำเติม ก่อนจะลุกขึ้นโค้งรับเสียงปรบมือและโห่ร้องจากเพื่อนร่วมแผนก

“ถึงเฮียจะหน้าโหด...แต่ใจเฮียหล่อโคตรนะหนูแพง” โตมรเรียกเสียงโห่ฮาอีกรอบ บางคนเป่าปาก เคาะโต๊ะอย่างถูกใจ

พะนอขวัญหัวเราะจนแทบน้ำตาเล็ด

“หัวเราะเข้าไปเถอะ มองข้ามคนใจหล่ออย่างเฮียแล้วจะเสียใจ”

“ไม่ได้มองข้ามนะเฮีย แค่ไม่กล้ามองเท่านั้นเอง” พะนอขวัญตบมุกกลับ โตมรหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ

“เฮอะ...แล้วจะไปไหนกับน้องล่ะ”

“หมูกระทะบุฟเฟต์ล่ะเฮีย เด็กพวกนี้กินอย่างอื่นไม่ได้หรอก กินล้างกินผลาญมาก” พะนอขวัญตอบกลั้วหัวเราะ

“เฮ้ย...งั้นเฮียไปด้วยสิ ได้ไหม”

“พี่ไปด้วย” มัทวีรีบเสริม นัยน์ตาเป็นประกายวิบวับ

พะนอขวัญเลิกคิ้ว น้องๆ ของเธอเองก็รู้จักโตมรกับมัทวีและพี่ๆ ในแผนกอีกหลายคน เพราะเจ้าสี่คนนั้นแวะเวียนมาหาเธอบ่อยๆ

“อ้าว แดนโทรมาพอดีเลย” พะนอขวัญยังพูดไม่ทันได้ตอบก็ได้ยินเสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือจึงหยิบขึ้นมาดู ภาพแดนดินชูสองนิ้วหราเต็มหน้าจอ

“เวลาเดิม ร้านเดิมนะพี่นาง” เสียงแดนดินดังมาทันทีที่เธอรับสาย

พะนอขวัญส่ายหน้า เสียงหัวเราะร่วนดังมาตามสาย

“อื้ม... เดี๋ยวพวกพี่ที่ทำงานเจ๊จะไปกินด้วยนะ โอเคไหม”

“ได้เลยเจ๊ คนเยอะสนุกดี จะให้แวะไปรับที่ออฟฟิศไหมครับเจ๊”

“ไม่ต้องหรอก เจอกันที่ร้านนั่นแหละ” พะนอขวัญวางสายแล้วจึงหันมาบอกว่านัดกันที่ร้านไหน นอกจากโตมรกับมัทวีแล้วยังมีพี่อีกสามคนจะไปด้วย

เมื่อตกลงกันได้แล้ว ทุกคนจึงเก็บข้าวของเคลื่อนขบวนออกจากแผนก เมื่อลงมาชั้นล่างปรากฏว่ามีเพียงพะนอขวัญที่มายังลานจอดรถ ส่วนคนอื่นๆ จะนั่งแท็กซี่กันไป เพราะโตมรบอกว่า

“เฮียสนับสนุนนโยบายดื่มไม่ขับ”

พะนอขวัญเองก็ตั้งใจจะขับรถไปเก็บที่อพาร์ทเมนต์ก่อนค่อยตามไป เพราะร้านที่จะไปกันไม่ได้อยู่ละแวกบริษัทจึงไม่คิดจะขับพี่ตองไป







พะนอขวัญมาถึงร้านเจ้าประจำ ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยซึ่งเธอฝากท้องตั้งแต่ยังเรียนอยู่ จนตอนนี้ก็ยังแวะเวียนมาเสมอ ไม่ต้องโทรศัพท์หาน้องๆ แค่มองปราดเดียวก็เห็นว่านั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง เธอเดินตัดร้านไป ที่โต๊ะมีเตาตั้งเรียบร้อยพร้อมกับสารพัดจานเต็มโต๊ะ

หากกำลังจะถึงโต๊ะก็เลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าไม่ใช่เฉพาะรุ่นน้องและเพื่อนร่วมงาน แต่มีเขตชลนั่งอยู่ด้วย

วันนี้มีแค่สองพี่น้อง...ล่ะมั้ง

พะนอขวัญกะพริบตา เปิดยิ้มเมื่อทุกคนหันมาโบกไม้โบกมือให้กับเธอ แดนดินลุกขึ้นกวักมือพร้อมกับเรียกเธอเสียงดัง พะนอขวัญส่ายหน้า รีบเดินเข้าไปที่โต๊ะก่อนที่คนทั้งร้านจะรู้จักชื่อเธอ

“เบาๆ ก็ได้ คนรู้จักเจ๊ทั้งร้านแล้ว” พะนอขวัญถลึงตาใส่หลานรหัสซึ่งยิ้มแป้น

เขตชลยืนขึ้น แล้วกระแทกน้องชายซึ่งนั่งติดกันออกไป

“เชิญครับคุณแพง”

พะนอขวัญหัวเราะเบาๆ ส่วนแดนดินหน้ามุ่ย และใช้อภิสิทธิ์รุ่นพี่สั่งให้แมทธิวที่นั่งถัดไปย้ายที่ น้องสุดท้องในสายรหัสบ่นพึมพำหากยอมไปแต่โดยดี พร้อมกับยกจานของตัวเองที่มีหมูย่างสุกแล้วเกือบครึ่งจานอย่างห่วงแหน เพราะยังมีสองรุ่นพี่อย่างคมคิดกับวาษิตคอยฉกอยู่บ่อยๆ

“มาได้ยังไงคะ” พะนอขวัญทักเขตชล พลางมองเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินถูกปลดกระดุมบนออก แขนเสื้อถูกพับลวกๆ มาไว้ที่ข้อศอก ชายถูกดึงออกมาจากกางเกง ดูแล้วไม่ต่างจากพนักงานออฟฟิศหนุ่มทั่วไป ไม่ใช่หนึ่งในกลุ่มผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่

หากจะต่างก็คือ หนุ่มออฟฟิศทั่วไปไม่ได้หล่อขนาดนี้

“มาเพราะหัวใจเรียกร้องหาคุณแพงครับ”

“ฮิ้ววว...” เสียงโห่ร้องมาจากโตมรพร้อมคณะน้องๆ รวมทั้งมัทวีที่กรีดร้องล้อเลียน พวกเธอมาถึงร้านก็มีน้องๆ ของพะนอขวัญนั่งหน้าหล่อทั้งกลุ่ม และยังเพิ่มหนุ่มหล่อทั้งเข้มทั้งกวนมาอีกคน

หนุ่มหล่อแนะนำตัวเองว่าเป็นพี่ชายของแดนดิน เป็นคู่พี่น้องที่หน้าตาดีจริงๆ

“โอ๊ย...เจ๊อิจฉา” มัทวีกรีดร้อง ไม่รู้ว่าพะนอขวัญทำบุญมาด้วยอะไรถึงรู้จักผู้ชายหน้าตาดีมากมายขนาดนี้

พะนอขวัญหัวเราะร่วน ชักชินการหยอกนิดหยอดหน่อยของเขตชลแล้ว สบตาคมวาววับนั้นด้วยรอยยิ้มขำ

“ไม่ได้เห็นหน้าคำแพงตั้งหลายวัน...บ่เห็นหน้าเจ้า กินเข้าวบ่ลง” เขตชลหยอดอีก ก่อนจะส่ายหน้าเมื่ออีกฝ่ายไม่เขิน แต่กลับหัวเราะชอบใจ

“ไม่เสียทีที่เป็นเด็กขอนแก่นนะ สำเนียงเป๊ะมาก”

“แน่นอนเจ๊ พี่กลางจีบสาวมาทั่วขอนแก่นแล้ว ไม่เป๊ะได้ไง” แดนดินยักคิ้ว แล้วหันไปรับชุดจานที่บริกรนำมาให้พะนอขวัญ

“ชอบใส่ร้ายพี่ประจำนะคุณหนูเล็ก” เขตชลแสยะยิ้มใส่น้องชาย

“คนเขาพูดความจริง” แดนดินแบะปากใส่แขกไม่ได้รับเชิญ เพราะเขตชลที่กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านได้ยินเขาโทรศัพท์คุยกับรุ่นพี่สาวจึงยัดเยียดตัวเองตามมาด้วย ยกเลิกนัดกับเพื่อนเสียเฉยๆ

“เจ๊ขอน้ำเปล่านะคม” พะนอขวัญหันไปโบกมือปฏิเสธแก้วบรรจุน้ำสีอำพันที่คมคิดผสมมาให้

“นิดๆ หน่อยๆ นะเจ๊ เพิ่มรสชาติ”

“ไม่เอา...พรุ่งนี้เจ๊กลับบ้านรถเที่ยวเช้า เดี๋ยวตื่นไม่ทัน” พะนอขวัญปฏิเสธ เพราะรู้ว่ามันไม่เคยจะ ‘นิดๆ หน่อยๆ’ สักครั้ง

“อ้าว...เจ๊กลับบ้านเหรอ ของฝากๆ” วาษิตเงยหน้าขึ้นมาจากกระทะเอ่ยเป็นประโยคแรก จึงถูกทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องโห่ หากเจ้าตัวไม่ได้ยี่หระ

“ตลอดล่ะเรา” พะนอขวัญยิ้มอย่างเอ็นดูปนหมั่นไส้รุ่นน้อง แล้วหันไปรับแก้วน้ำเปล่ามาจากคมคิด ก่อนจะเริ่มลงมือคีบหมูที่สุกแล้วในกระทะมาใส่จาน โดยมีสองพี่น้องที่นั่งประกบข้างแย่งกันบริการ

“คุณแพงกลับบ้านบ่อยเหรอ”

พะนอขวัญหันไปทางเขตชล

“ส่วนใหญ่ทุกวันหยุดยาวก็จะกลับค่ะ แต่ไม่บ่อยเท่าที่อยากกลับหรอก”

เขตชลอมยิ้ม แววตาระยิบระยับเวลาพูดถึงบ้านของหญิงสาวชวนมอง เห็นได้ชัดว่าพะนอขวัญคิดถึงบ้านมาก เขาก็พอเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยู่ห่างบ้านเช่นกัน

ตอนที่เขาไปเรียนต่างจังหวัดหรือตอนอยู่ต่างประเทศ บางทีก็คิดถึงบ้านมากเช่นกัน

“วันหลังตามไปเที่ยวบ้างดีกว่า”

“ก็เชิญสิคะ ถ้าชอบเมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวายนะ อ้อ...คุณกลางเคยไปแล้วนี่นา” พะนอขวัญตอบกลั้วหัวเราะ จำได้ว่าเขาเคยบอกว่ามีเพื่อนเป็นคนบ้านเดียวกับเธอ

บางทีพะนอขวัญก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่าทำให้ถึงรู้สึกสนิทใจในการที่จะพูดคุยกับเขตชลง่ายๆ

ไม่เหมือนกับพี่ชายของเขา...

“คุณแพงรับปากแล้วนะว่าจะให้ผมไปเที่ยวบ้าน” เขตชลตีขลุมคำพูดของหญิงสาว ไม่ใส่ใจเสียงโวยวายของน้องชาย

วงหมูกระทะยิ่งนานยิ่งคุยกันเสียงดัง ชงมุกตบกันสนั่นยิ่งกว่าเวทีตลก พะนอขวัญหัวเราะจนเหนื่อย ขณะที่ชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เองก็กลมกลืนไปกับเพื่อนร่วมโต๊ะ เหมือนรู้จักกันมานาน โดยเฉพาะกับโตมรนั้นเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย

“ไม่ได้สนุกอย่างนี้มาตั้งนาน คิดถึงสมัยเรียนจริงๆ” เขตชลเปรยออกมา ทุกวันนี้เขาแทบไม่ได้เจอบรรยากาศสบายๆ เฮฮาแบบนี้เลย ที่ออกไปเที่ยวทุกวันก็ไม่ใช่แนวนี้...

“หืม...แบบที่ตอนเย็นตั้งวงหมูกระทะ ตอนดึกเชียร์บอลจนเช้ามืดแล้วย้ายมาซดข้าวต้ม ตอนสายไปหลับในห้องเล็กเชอร์ ตื่นมาตอนบ่ายไปเตะฟุตบอลแล้ววนไปที่ร้านหมูกระทะอีก”

เขตชลแทบสำลักเบียร์ที่ยกแก้วขึ้นจิบ มองหญิงสาวอย่างชื่นชม

“อื้อหือ...คุณแพง อะไรจะรู้ใจกันขนาดนี้ครับ” ที่หญิงสาวว่ามานั้นไม่ผิดสักนิด

“หึๆ...เขาเรียกว่ารู้ไส้รู้พุงต่างหากละคะ” พะนอขวัญหัวเราะ “วงจรชีวิตของพี่ชายแพงเอง จะว่าไปก็คงเป็นรุ่นพี่ของคุณนั่นแหละ”

“โอ๊ะ...อย่างนี้เห็นทีจะต้องไปเยี่ยมคุณพี่ เอ๊ย รุ่นพี่ซะหน่อย” เขตชลยิ้มกว้าง แอบยักคิ้วให้กับน้องชายที่หน้ามุ่ยเมื่อเห็นเขาคุยกับพะนอขวัญอย่างออกรส

“แล้วเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้สนุกแบบนี้เหรอคะ” พะนอขวัญอดถามไม่ได้ และได้เห็นแววตาระยิบระยับหายไปแวบหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติ

“อืม...ครับ พวกเดอะแก๊งค์ตอนเรียนทำงานต่างจังหวัดกันหมด ไม่ค่อยได้เจอกัน” เขตชลสบตาสีน้ำตาลเข้มที่มองมา

แววตาที่ทำให้เขาชะงัก...

“พวกเพื่อนไม่คบก็อย่างนี้” แดนดินไม่เปิดโอกาสที่จะซ้ำเติมพี่ชาย แล้วก็ต้องโยกตัวหลบเมื่อเขตชลเอื้อมมืออ้อมหลังรุ่นพี่สาวมาจะประทุษร้าย “เห็นไหมเจ๊แพง พี่กลางนิสัยไม่ดี ชอบทำร้ายน้อง”

“น้องมันน่ารักนักนี่” เขตชลแขวะเจ้าน้องชายตัวดีซึ่งตอนนี้ถือโอกาสอ้อนหญิงสาว ทั้งเกาะแขนและยังซบศีรษะกับไหล่หญิงสาวอีก

“โอ๊ย...” แดนดินร้องและเด้งตัวออกจากรุ่นพี่สาว

เขตชลหัวเราะร่วน เจ้าน้องตัวดีลูบหน้าผากป้อยๆ เพราะถูกหญิงสาวใช้นิ้วดีดเสียงดังจนได้ยินทั้งโต๊ะ ไม่ใช่มีเพียงเขาแต่ทั้งโต๊ะยังหัวเราะและทับถมแดนดินกันทุกคน เขาเหลือบมองรอยยิ้มของหญิงสาว

เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริงๆ นะ






พะนอขวัญโบกมือให้กับโตมรและมัทวีซึ่งนั่งแท็กซี่ไปด้วยกันเพราะบ้านอยู่ทางเดียวกัน โดยโตมรบอกว่าจะไปส่งมัทวีให้ถึงบ้านก่อน สภาพทั้งคู่เป็นไปตามที่โตมรบอกก่อนจะออกจากออฟฟิศคือ ‘เต็มที่’ เรียกว่าเดินเซกันทั้งคู่ ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ต่างกันแต่พี่ๆ ในแผนกอีกสามคนนั้นแยกไปต่อที่ลานเบียร์เพื่อเชียร์ฟุตบอลทีมโปรดคืนนี้

“ฝากด้วยนะคม” พะนอขวัญบอกกับรุ่นน้องที่ดูจะมีสติดีที่สุด จะว่าไปเธอก็ไม่ค่อยเห็นคมคิดเมาสักที และเป็นคนรับหน้าที่เก็บน้องๆ กลับบ้าน

“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวไปเอาไปนอนที่คอนโดผม พรุ่งนี้ค่อยให้กลับบ้านกัน” คมคิดรับปาก ชายตามองน้องอีกสองคนที่กอดคอกันยืนเซไปเซมาตาเยิ้ม และมองเลยไปยังพี่รหัสที่ออกอาการไม่แพ้น้องทั้งสอง แต่คราวนี้เขาไม่ต้องเก็บกลับด้วย

พะนอขวัญพยักหน้า ก่อนจะกำชับ

“แล้วก็พอนะ ไม่ต้องไปต่อกัน”

“คร้าบ...” แมทธิวกับวาษิตประสานเสียงกันอย่างยานคาง รุ่นพี่สาวได้แต่ส่ายหน้า

“ถ้างั้นพวกเรากลับเลยนะครับ เจ๊แพง พี่กลาง เฮีย” คมคิดไหว้ลาทั้งสาม แล้วจับน้องทั้งสองใส่แท็กซี่ที่มาจอดรอ

พะนอขวัญหันกลับมาสองพี่น้องที่เหลือ คนน้องนั้นเซไปแล้วแต่คนพี่ไม่ออกอาการสักนิด ทั้งๆ ที่แก้วนั้นไม่เคยพร่อง เพราะคมคิดเติมตลอด

“ถึงตาเรากลับแล้ว ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วค่อยไปต่อแท็กซี่ก็แล้วกัน” เธอบอก เพราะง่ายและเร็วที่สุดในการเดินทางกลับทั้งบ้านของสองพี่น้องและอพาร์ทเมนต์ของเธอ

“แต่ผมขับรถมานะคุณแพง”

“กินเหล้าไปขนาดนั้นห้ามขับรถค่ะ” พะนอขวัญเอ่ยเสียงแข็ง แม้ว่าเขตชลจะไม่ออกอาการ “ถึงไม่เมาก็ห้ามขับ สติไม่เต็มร้อยการตัดสินใจไม่เต็มที่ อย่าทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนกับคำว่าไม่เมาเป็นดีที่สุด”

เขตชลยิ้มกว้างกับท่าทางจริงจังของหญิงสาว

“แล้วจะให้ทิ้งรถไว้เหรอครับ”

พะนอขวัญถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายหยิบกุญแจขึ้นมาแกว่ง สัญลักษณ์บนกุญแจรถทำให้เธอคิดหนัก เพราะจะจอดรถยุโรปราคาแพงทิ้งไว้ก็ไม่ควร

แดนดินมองพี่ชายที่ยิ้มกว้างกับรุ่นพี่สาวที่กำลังนิ่วหน้า เขาคว้ากุญแจจากมือพี่ชายมาแล้วส่งให้รุ่นพี่สาว

“พี่แพงขับก็แล้วกัน”

“เอ่อ...” พะนอขวัญมองกุญแจรถอย่างลำบากใจ แม้จะมีใบขับขี่แต่ก็ไม่ค่อยได้ขับรถยนต์บ่อยนัก ใช้แต่รถจักรยานยนต์เป็นหลัก แล้วจะให้ขับรถราคาแพงแบบนี้

“จริงด้วยครับ คุณแพงขับก็แล้วกัน” เขตชลสนับสนุน ความจริงเขาจะโทรศัพท์เรียกคนขับรถที่บ้านมาขับรถกลับให้ก็ได้

“เฮ้อ...” พะนอขวัญพยักหน้า เพราะจะทิ้งรถไว้ก็น่ากลัวกว่าการที่เธอขับเองซะอีก ถ้าเธอขับไปชนยังพอซ่อมได้ แต่ถ้าถูกขโมยโอกาสได้คืนแทบเป็นศูนย์

“งั้นกลับบ้านเรา...รักรออยู่” แดนดินครวญเพลงหงุงหงิง เกาะแขนรุ่นพี่สาวไปยังที่จอดรถ โดยมีเขตชลก้าวตาม นัยน์ตาคมมองทั้งคู่อย่างครุ่นคิด




พะนอขวัญเกร็งตลอดการขับรถคันหรูครั้งแรกในชีวิตจนมาถึงหน้าประตูรั้วบ้านของสองพี่น้องโดยสวัสดิภาพจึงลอบระบายลมหายใจขณะประตูรั้วกำลังเคลื่อนเปิดออกช้าๆ ด้วยรีโมทจากรถของเขตชล

เฮ้อ...ได้มาบ้านหลังนี้อีกแล้ว

“เข้าไปจอดที่หน้าเรือนเล็กเลยคุณแพง” เขตชลบอกหญิงสาวที่ทำท่าเหมือนลุ้นอยู่ตลอดเวลาที่ขับรถมา พะนอขวัญบอกว่าไม่ได้ขับรถยนต์บ่อยนักก็เลยไม่มั่นใจ

พะนอขวัญเคลื่อนรถไปตามที่เจ้าของบอก ความจริงเธอตั้งใจจะลงข้างหน้าแล้วเรียกแท็กซี่กลับที่พักแต่ทั้งสองพี่น้องรวมพลังค้าน เพราะดึกขนาดนี้ไม่มีทางให้เธอกลับเองคนเดียวเป็นอันขาด บอกว่าเดี๋ยวจะให้คนขับรถของที่บ้านไปส่ง

สรุปว่าเธอเถียงสู้สองหนุ่มไม่ได้ในเรื่องนี้ จึงขับรถไปจอดที่หน้าบ้านหลังเล็กซึ่งเธอรู้สึกว่าจะมีเหตุให้มาบ่อยเกินไปแล้ว

“ลงมารอที่ห้องนั่งเล่นก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวพี่ชนะคงมา” เขตชลบอกเมื่อหญิงสาวจอดรถ เขาเพิ่งโทรศัพท์หาคนขับรถประจำบ้านซึ่งยังไม่ได้เข้านอน ฝ่ายนั้นขอเวลาสักครู่แล้วจะรีบมา

พะนอขวัญพยักหน้า ไม่รู้จะค้านอะไร เมื่อลงมาจากรถแล้วก็อดถอนหายใจอีกรอบไม่ได้ เธอก้าวตามสองหนุ่มขึ้นบันไดหน้าบ้าน ประตูกระจกใสปิดสนิท เขตชลแตะนิ้วมือที่แผงโลหะด้านข้างเพื่อปล็ดล็อกประตู

ในขณะที่เรือนมะนิลาด้านหน้าเป็นเหมือนตัวแทนอดีตอันงดงาม แต่บ้านหลังนี้กลับก้าวล้ำไปกับเทคโนโลยีแทบทุกอย่าง

เขตชลเปิดประตูซึ่งถูกปลดล็อกออกแล้ว กำลังจะหันมาทางหญิงสาวเพื่อให้เธอก้าวเข้าบ้านก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงไวโอลินดังมา

“โห...ไวโอลินเซเรเนดของชูเบิร์ต...วันนี้พี่ใหญ่องค์ลงแฮะ” แดนดินผิวปากเบาๆ แม้จะยังไม่เห็นเจ้าตัวแต่เจ้าของเสียงไวโอลินต้องเป็นน่านฟ้าอย่างแน่นอน

“เซเรเนดอย่างนั้นเหรอ...หึๆ” เขตชลหัวเราะในลำคอ ก้าวเข้าไปในห้องโถง มองหาร่างสูงของพี่ชาย ก็พบว่ายืนอยู่ที่ริมสระว่ายน้ำ ประตูเชื่อมระหว่างห้องโถงกับสระว่ายน้ำถูกเปิดไว้จึงได้ยินเสียงไวโอลิน เขาหันมายังหญิงสาวก็พบว่าเธอยืนนิ่งไป

พะนอขวัญรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ เธอมักคิดว่าเสียงไอโวลินนั้นเศร้าเสียดหัวใจ จึงไม่ค่อยชอบนัก หากเสียงที่ได้ยินตอนนี้ลบสิ่งที่เคยคิดไปหมด เธอไม่มีความรู้ว่าบทเพลงนี้คืออะไร...รู้แต่ว่ามันอ่อนหวาน ล่องลอย เหมือนถูกโอบล้อมด้วยเส้นใยเบาบาง นุ่มละมุน สวยงามและแสนหวาน

แดนดินยิ้มบางๆ ขณะรุนร่างโปร่งเข้าไปในห้องโถง ก่อนจะหยุดที่ประตูทางลงสู่สระว่ายน้ำเพราะหญิงสาวไม่ก้าวต่อ สายตาพุ่งตรงไปที่ร่างสูงของพี่ชายกับไวโอลินคู่ใจ



น่านฟ้าชะงักเมื่อได้ยินเสียงเปียโนประสานมา เขาหันกลับมายังฝั่งห้องโถงและประสานสายตาเข้ากับหญิงสาวที่ยืนอยู่กับน้องชายคนเล็ก

พะนอขวัญ..?

คำถามผุดขึ้นในใจ หากมือขยับโดยอัตโนมัติเมื่อเสียงเปียโนส่งมา เขาเล่นประสานเข้ากับการเล่นเปียโนของเขตชล หากไม่ละสายตาไปจากหญิงสาวที่มองตรงมายังเขาเช่นกัน

“เฮ้อ...แบบนี้ตัวประกอบเซ็งนะนี่” แดนดินเอ่ยเบาๆ ก่อนจะเงียบให้มีเพียงเสียงจากเครื่องดนตรีสองชิ้นประสานกัน ทั้งสองเล่นประสานกันได้สอดคล้องเหมือนกับซ้อมด้วยกันบ่อยๆ

ท่วงทำนองอันแสนหวาน...ราวกับได้ยินคำกระซิบบอกรักลอยมา



น่านฟ้าลดมือทั้งสองลงเมื่อบทเพลงจบลง เขาก้าวตรงไปยังห้องโถง ไม่ถึงอึดใจก็ยืนอยู่ตรงหน้าน้องชายและหญิงสาว ส่วนน้องชายคนกลางนั้นยังนั่งอยู่ที่เปียโน หากมองมายังเขาด้วยแววตานิ่งๆ เป็นเขตชลในแบบที่อ่านยาก เดาทางไม่ออก

เขารับไหว้หญิงสาว ได้มองลึกลงไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่งาม คำถามผุดมามากมาย

ทำไมดึกป่านนี้พะนอขวัญถึงมาที่บ้าน

มากับเขตชลกับแดนดิน

ทำไมกัน

“พอดีเลย...ให้พี่ใหญ่ไปส่งเจ๊แพงดีกว่า” แดนดินเอ่ยแทรกความเงียบขึ้นมา

“หืม...” น่านฟ้าต้องละสายตาจากหญิงสาวไปยังน้องชายอย่างสงสัย

“เอ่อ...อย่ารบกวนพี่ใหญ่เลย” พะนอขวัญค้านเสียงเบา หากก็ต้องยิ้มแหยเมื่อสายตาคมตวัดกลับมายังเธออย่างเร็ว

“ไม่รบกวนหรอกน่ะเจ๊ พี่ใหญ่ไปส่งเจ๊แพงได้ใช่ไหม” แดนดินถามยิ้มๆ

“อืม...แล้วพวกนายเป็นอะไร” น่านฟ้าพยักหน้า เขาไม่มีปัญหา เพียงแต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมแดนดินกับเขตชลต้องพาพะนอขวัญมาที่บ้านก่อน

“ก็นะ...กินเหล้ากันคู่ คุณแพงก็เลยต้องเป็นคนมาส่งพวกเรา” เขตชลเป็นคนตอบ ยกมุมปากขึ้นนิดๆ มองน้องชายอย่างรู้ทันว่าจะทำอะไร “งั้นเราก็ไปส่งคุณแพงกันดีกว่า”

“พี่กลางไปอาบน้ำได้แล้ว กลิ่นเหล้าคลุ้งขนาดนี้ ให้พี่ใหญ่ไปส่งก็พอ” แดนดินแสยะยิ้ม ก้าวเข้าไปหาพี่ชายคนกลาง หยิบกุญแจรถออกมา ส่งให้กับพี่ชายคนโต “รถพี่กลางจอดอยู่หน้าบ้านนี่แหละ ดึกแล้วพี่ใหญ่รีบไปส่งเจ๊แพงเถอะ พรุ่งนี้เจ๊ต้องกลับบ้านแต่เช้าด้วย”

“เอาไปเก็บที่ห้องให้พี่ด้วย” น่านฟ้ารับกุญแจรถมา ก่อนส่งไวโอลินให้น้องชาย แล้วหันไปมายังหญิงสาว “ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะน้องแพง”

พะนอขวัญได้แต่ยิ้มรับแล้วเอ่ยลาแดนดินกับเขตชล ก่อนจะเดินตามร่างสูงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน เขตชลลุกขึ้นมากอดคอน้องชาย

“เจ้ากี้เจ้าการนักนะเรา”



น่านฟ้าเหลือบมองหญิงสาวขณะขับรถ ผมยาวสลายวันนี้ถูกถักเปียเดี่ยวทิ้งลงกลางหลังเช่นเคย เขาแทบไม่เคยเห็นเธอปล่อยผมยาวสยายเลย นอกจากตอนที่เจอกันครั้งแรก

เส้นผมนุ่มสลายที่แผ่กระจายบนร่างกายเขา

ในรถนั้นเงียบ ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของเธอกับเขาเท่านั้น

“ไปทานข้าวกับสองคนนั้นมาเหรอน้องแพง”

พะนอขวัญเหลือบมองเจ้าของเสียงนุ่มๆ ที่ดังแทรกเสียงเต้นของหัวใจเธอ มือทั้งสองกุมกันไว้ที่หน้าตักอยากจะนำมากดเหนือตำแหน่งหัวใจเผื่อมันจะเต้นเบาลงบ้าง

“ค่ะ...” พะนอขวัญตอบถนอมเสียง ตวัดสายตากลับมามองถนนเบื้องหน้า รู้สึกถึงไอร้อนผ่าวที่ใบหน้า ทำไมเธอจะต้องรู้สึกเขินมากมายขนาดนี้ “ก็สังสรรค์กันนิดหน่อยกับพวกน้องสายรหัสแล้วก็พี่ๆ ที่ออฟฟิศ”

น่านฟ้าสะกดความรู้สึกไม่ชอบใจบางอย่างไม่ให้หลุดออกมาในน้ำเสียง

“สองคนนั้นเลยต้องรบกวนน้องแพงเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้เอง” เธอจัดการเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว แต่ที่ไม่ชินก็คงจะเป็นคุณพระเอกที่กำลังขับรถให้นี่แหละ

“เมื่อกี้เล็กบอกว่าแพงจะกลับบ้านตอนเช้า หมายถึงบ้านที่ต่างจังหวัด”

“ใช่ค่ะ จองรถตั๋วรถตอนเช้าไว้” พะนอขวัญตอบ แล้วเขาก็เงียบไป หากเป็นพะนอขวัญซึ่งรู้สึกอึดอัดกับความเงียบนั้นจึงต้องเปิดบทสนทนาใหม่

“เพลงที่พี่ใหญ่เล่นชื่ออะไรคะ เพราะมาก”

“อืม...เป็น serenade ของ Franz Schubert น่ะครับ” เขาเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวาน ก็พอดีกับที่เธอหันมา นัยน์ตาคู่หวานเปล่งประกายระยิบระยับจนเขาเผลอยิ้ม

เขากลับมาจากงานเลี้ยงก็พบว่าบ้านเงียบเชียบ เพราะน้องชายทั้งสองคนยังไม่กลับ งานที่ด่วนต่างๆ ที่ประเดประดังเข้ามาทำให้เขาต้องปัดเรื่องส่วนตัวออกไปก่อน

หากเพียงแค่แวบเดียวที่นึกถึงเธอ...เขาก็หยิบไวโอลินออกมา

ใช่...เสียงที่ออกจากเครื่องดนตรีเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้บทเพลงนั้นหวานละมุนได้อย่างนั้น

พะนอขวัญกำมือแน่นขึ้น...ใบหน้าร้อนผ่าว

ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เอ่ยอะไรแท้ๆ แต่เธอกลับรู้สึกหวั่นไหวแปลกๆ แบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน

แบบที่ไม่ควรรู้สึก...กับเขา

น่านฟ้ากุมพวงมาลัย สายตามองสลับระหว่างถนนตรงหน้าและหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่เธอไม่หันมาทางเขาอีกเลยตลอดระยะทางจนกระทั่งมาถึงที่พักของเธอ เขาเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานด้านหน้า

“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ”

น่านฟ้ามองคนที่เอ่ยโดยไม่หันมาทางเขา รู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ

“น้องแพง...”

“คะ...”

“น้องแพง...” เขาเอ่ยอีกครั้งเมื่อเธอยังไม่หันมา

“น้องแพงครับ”

พะนอขวัญกลืนน้ำลาย หันไปเมื่อเขาเอ่ยเป็นครั้งที่สาม นัยน์คมสีดำนั้นมองเธออยู่

“เป็นอะไรไปครับ”

หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้า หากร่างสูงนั้นกลับขยับเขามาใกล้มากขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็...พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะครับ”

“คะ..?” พะนอขวัญแทบกลั้นหายใจ เพราะนัยน์ตาคมนั้นอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงฟุต และเธอก็ได้เห็นรอยยิ้มนั่นอีกครั้ง

“ก็...พรุ่งนี้พี่จะไปส่งน้องแพงขึ้นรถกลับบ้านยังไงครับ”

“แต่...”

“ห้ามแต่ห้ามค้าน...ตอบว่า ค่ะ ก็พอ” น่านฟ้าไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวปฏิเสธ เขาเปิดประตูรถออกแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูรถฝั่งตรงข้าม

พะนอขวัญมองมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคม

“เชิญครับ” น่านฟ้ามองมือเล็กที่ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะวางบนมือเขา และรับรู้ถึงความเย็นเฉียบและแรงสั่นน้อยๆ เขากุมไว้อย่างนุ่มนวล ขณะร่างโปร่งก้าวออกมาจากรถ

“หึๆ ฝันดีนะครับ” น่านฟ้าเอ่ยก่อนจะปล่อยมือหญิงสาว ยั้งใจไม่ให้ทำอะไรคนที่มองเขาตาโตตลอดเวลา

บางทีก็ดูน่าแกล้งชะมัด

“พบกันพรุ่งนี้นะครับ...คำแพง”


...................................



ปล. ตรงสุดท้าย ดูคุณใหญ่โรคจิตนิดๆ แฮะ 555



Create Date : 04 ตุลาคม 2555
Last Update : 4 ตุลาคม 2555 14:21:33 น. 36 comments
Counter : 7723 Pageviews.

 
ละลายยยยยย "พบกันพรุ่งนี้นะครับ...คำแพง"ว้าวววววคุณใหญ่เริ่มรุกแฮะ


โดย: panon IP: 203.158.141.3 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:14:57:11 น.  

 
อ่านไปเขินไป น่ารักมากค่ะ


โดย: ลูกหมู IP: 182.52.101.54 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:15:58:48 น.  

 
น่ารักซะไม่มี


โดย: darin IP: 125.25.210.230 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:16:04:03 น.  

 
ละลายยยยยยย อยากเป็น คำแพงงงงของพี่ใหญ่ บ้างอ่ะ


โดย: หนุ่ย IP: 110.49.243.162 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:16:07:28 น.  

 
หวิว หวิว
น่ารักม๊าก แดนดิน ช่วยพี่เขาหน่อย


โดย: pimpagee IP: 223.205.111.163 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:16:14:30 น.  

 
ขอบคุณคะ


โดย: ณัฏฐ์ IP: 118.173.116.245 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:16:23:10 น.  

 
So cute


โดย: Lek IP: 115.67.70.228 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:16:36:24 น.  

 
โอย จะละลายแทนคำแพง พี่ใหญ่รุกแล้วใช่มั้ย


โดย: nasa IP: 202.28.78.71 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:16:47:41 น.  

 
อ๊ากตอนนี้พี่ใหญ่ขี้แกล้งอ่ะ


โดย: YUI-NEMO วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:17:06:37 น.  

 
คุณใหญ่นี่ จะน่ารักไปไหน แพงจ๋าลากกลับบ้านเลยนะ อิอิ


โดย: ปูจ้า IP: 49.144.98.164 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:17:11:21 น.  

 
น่ารักจังเลยค่า.....พี่ใหญ่


โดย: Jj IP: 124.121.153.73 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:17:37:33 น.  

 
อยากละลาย เหมือนกัน.....ฮือออออ


โดย: fiction addict IP: 49.0.96.37 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:19:03:20 น.  

 
อ่านจบบท เพิ่งรู้สึกว่าปวดแก้ม ยิ้มซ้า


โดย: ติดหนึบ IP: 118.174.62.34 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:20:42:47 น.  

 
อัยย่ะ เขินอ่ะ คำแพง


โดย: bijin-k IP: 125.25.8.47 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:20:56:24 น.  

 
เขิน เปลี่ยนสรรพนามจากน้องแพง เป็น คำแพง แล้ว อ๊ายย 55 เขินยังกะเป็นคำแพงซะเอง อิอิ ตามไปบ้านคำแพงเลยพี่ใหญ่ รอ รอ รอ ต่อค๊า สนุกมาก


โดย: ฟ้าใส IP: 113.53.205.39 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:21:53:26 น.  

 
ละลาย


โดย: pat IP: 101.108.246.205 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:22:03:51 น.  

 
พี่น้องแทกทีมกันดีจัง อยากให้พี่ชายลงจากคานว่างั้นเถอะ...แหม แหม พี่ใหญ่คะ เรียก คำแพง เชียวเหรอ


โดย: ต่างแดน IP: 89.2.127.252 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:22:10:32 น.  

 
ว้าย~~~ กรี้ดๆๆ
พี่ใหญ่"รุก"แล้ว อ่านไปเขินไป ใจเต้นตามคำแพงไปด้วยเลยอ่ะ ผช.อย่างพี่ใหญ่มีจริงไหมคะเนี่ย เฮ้อ~3


โดย: ของขวัญ...^=A=^... IP: 171.99.13.191 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:22:58:50 น.  

 
อ๊ายยยยยยยยย...ใจละลายยยย แบบว่า เค้าเขินอ่ะ


โดย: หนอนฮับ IP: 101.108.239.100 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:1:12:36 น.  

 
อ๊ายยยยยยยยยยยน่ารัก จะละลายอยู่แล้วนะ


โดย: มู๋อ้วน IP: 118.174.138.117 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:2:37:25 น.  

 
อ่านแล้วกรี๊ดด. จั๊กกะจี้หัวใจดีแท้..น่ารักสุดๆค่ะ


โดย: Natee IP: 184.56.150.138 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:3:13:44 น.  

 
พี่ใหญ่สู้ๆ


โดย: mooda IP: 49.48.205.140 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:7:43:11 น.  

 
ทันงานหนังสือหรือเปล่านี้ ค่อยๆๆๆๆกระดิ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆ ค้างอ่ะ


โดย: tiwwit IP: 180.180.123.160 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:7:43:54 น.  

 
ละลายๆๆๆ อีกคนค่ะ


โดย: น้อง IP: 58.181.200.73 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:9:06:46 น.  

 
น่ารักมากๆๆๆ อ๊ะ


โดย: Si IP: 49.49.203.12 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:10:33:07 น.  

 
มีความรู้สึกเหมือนโดนแกล้งอ่ะ
ฬีฬาใจร้ายป่ะเนี่ย
รีบอัพโดยด่วนน้า หัวใจจาไม่อยู่ที่เดิมแล้ว อิอิ


โดย: yao chan IP: 125.27.99.127 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:16:34:19 น.  

 
คืนนี้น้องแพงจะนอนหลับหรือค่ะ


โดย: Grren-ant IP: 171.7.17.249 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:18:27:17 น.  

 
คุณใหญ่น่ารักอ่ะ เผด็จการแต่ปลื้มมากๆๆๆค่ะ


โดย: อิฟฟี่ IP: 180.180.56.124 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:22:32:31 น.  

 
กลับมามาอ่านอีกรอบ


โดย: pimpagee วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:8:58:35 น.  

 
เส้นผมนุ่มสลายที่แผ่กระจายบนร่างกายเขา >>> เส้นผมนุ่มสยาย...




โดย: pretty.ne วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:11:30:44 น.  

 
พี่ใหญ่เริ่มรุกแล้ว น่ารักอ่ะ


โดย: dreamer IP: 115.67.165.214 วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:18:34:02 น.  

 
พี่ใหญ่ตัวปลอมหรือป่าวเนี่ย 555+


โดย: wa-ne IP: 99.54.47.70 วันที่: 8 ตุลาคม 2555 เวลา:15:17:20 น.  

 
น่ารักสุดๆ เลย เขิลแทนนางเอกอ่ะ


โดย: eai IP: 171.97.62.234 วันที่: 8 ตุลาคม 2555 เวลา:19:56:30 น.  

 
คำแพงเขินนนนนนนน
มาบ่อยๆหน่อยซิค่ะคุณฬีฬา
อยากเจอพี่ใหญ่บ่อยๆ


โดย: wow IP: 118.173.183.172 วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:14:24:51 น.  

 
น่ารักจังเลย งานสัปดาห์หนังสือมีลุ้นมั๊ยคะเนี่ยยย อยากอ่านแบบเต็มๆ
พี่ใหญ่หวานได้อีก เล่นไวโอลิน อร๊ายยย เขิลลลล


โดย: ae IP: 27.130.150.124 วันที่: 10 ตุลาคม 2555 เวลา:13:27:25 น.  

 
เห้ยยย ทำไมอ่านๆไปกลับรู้สึกอยากให้เขตชลเป็นพระเอกก็ไม่รู้อ้ะ


โดย: นพ. IP: 124.121.64.19 วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:0:12:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.