ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
พะนอขวัญ บทที่ ๓

ดีใจที่ Fed ได้แชมป์วิมเบิลดันครั้งที่ 7 พร้อมทั้งกลับมาเป็นมือหนึ่งของโลก ^^


#####################################



พะนอขวัญ บทที่ ๓




พะนอขวัญหยิบหมวกกันน็อกจากแฮนด์รถมาถือไว้ก่อนจะหันกลับไปยังรุ่นน้องทั้งสี่ที่ยกโขยงมาส่งเธอที่หน้าเรือนเล็ก แดนดินยังคงมีสีหน้าไม่สบายใจ เธอจึงเอื้อมมือขึ้นไปตบไหล่กว้างเบาๆ

“ทำหน้าตาเครียดเชียว เสียดายที่เจ๊ไม่รับตำแหน่งพี่สะใภ้ของแดนขนาดนั้น” พะนอขวัญเอ่ยกลั้วหัวเราะ “ต้องเข้าใจนะว่าเจ๊สวยเลือกได้”

แดนดินรู้ว่าคำพูดล้อๆ ของรุ่นพี่สาวนั้นเพื่อไม่ให้เขาคิดมาก แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเป็นเพราะเขาเองที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้น

“เจ๊แพง...ผมขอโทษนะ”

“เลิกทำหน้าหงอยๆ สักที แบบนี้ไม่เหมือนน้องเจ๊เลย เรื่องมันก็ไม่มีอะไรแล้ว”

แดนดินถอนหายใจ ก่อนจะพยักหน้า

“ขอบคุณเจ๊มากนะครับ”

“อืมๆ สายแล้ว รีบไปมหา’ลัยกันได้แล้ว เดี๋ยวจะส่งโปรเจคไม่ทัน แล้วค่อยเจอกันใหม่” พะนอขวัญพยักหน้าให้น้องๆ ทุกคน “มีอะไรให้ช่วยก็โทรหาเจ๊ได้ ไม่ต้องมามัวเกรงใจนะทุกคน”

“ครับเจ๊” สี่หนุ่มประสานเสียง

พะนอขวัญสวมหมวกกันน็อค แล้วขึ้นรถคู่ใจ ก่อนจะขับออกไป โดยมีน้องๆ โบกมือหยอยๆ จนพ้นสายตา สามหนุ่มหันมามองพี่ปีแก่สุดเป็นตาเดียว

“มันอะไรยังไง...บอกมาเลยนะเฮีย” คมคิดเป็นคนเอ่ยด้วยความอยากรู้ใจจะขาด พวกเขาถูกต้อนไปอยู่ในห้องครัวขณะที่พวกผู้ใหญ่ไปคุยกันที่ห้องโถง

แดนดินเบ้ปาก

“ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม”

“ไม่ได้” สามหนุ่มร้องเซ็งแซ่ ก็นี่มันเรื่องของเจ๊แพง ไม่ใช่คนอื่นเสียหน่อย พวกเขาก็ทั้งตกใจปนอึ้งกับเรื่องที่เกิดขึ้น และแน่นอนที่สุดคือ เป็นห่วงเจ๊แพงนั่นแหละ

“เออๆ เดี๋ยวเฮียเล่าให้ฟัง ตอนนี้ไปช่วยกันขนของก่อน”

พะนอขวัญเหลือบมองบ้านไม้หลังสวยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะขับรถผ่านประตูรั้ว อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้มอง เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาในบ้านหลังนี้อีกไหม

เวสป้าคันสวยค่อยๆ เคลื่อนไปตามถนนที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ คงเพราะอยู่ในซอยที่เป็นบ้านพักอาศัยเก่าแก่ ถนนไม่พลุกพล่าน หญิงสาวขับรถตัดเข้าซอยต่างๆ เพื่อไปยังอพาร์ทเมนต์ที่พัก ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ไกลจากบ้านของแดนดินนัก

เสียดาย...ยังไม่ทันได้ขอแดนดินไปดูเรือนมนิลาใกล้ๆ เลย

น่านฟ้ามองตามเด็กหนุ่มซึ่งยกโขยงออกไปส่งหญิงสาวที่หน้าบ้าน มุมปากยังคงยกนิดๆ แววตามีรอยยิ้มขันที่เจ้าตัวเผลอ แต่ผู้เป็นมารดานั้นจับตามองอยู่รู้สึกแปลกใจเพราะปกติน่านฟ้าจะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมานัก

นั่นเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของน่านฟ้า

“ดูเหมือนใหญ่จะสนุกนะ”

น่านฟ้าหันกลับมาด้านมารดา ริมฝีปากขยายยิ้มมากขึ้น เมื่อครู่ที่ผ่านมามารดาคงพยายามซ่อนความกังวลและกระวนกระวายใจไว้ภายใต้สีหน้าละมุนและรอยยิ้มน้อยๆ

“คุณแม่ไม่สนุกเหรอครับ ไม่ใช่ทุกวันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนะครับ”

คุณวรัญญาถอนหายใจ ลูกชายทั้งสามของเธอ คนอื่นอาจจะมองว่าน่านฟ้าดูเงียบขรึมจนดูเหมือนกับเย็นชาเสียด้วยซ้ำ แต่เธอรู้ว่าภายใต้ใบหน้านิ่งๆ ของน่านฟ้านี่แหละที่ยียวนกวนโมโหมากที่สุด

“ไม่สนุก ถ้าจะให้ดีแม่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้” เธออดแขวะสีหน้ายิ้มๆ ของบุตรชายไม่ได้ กลายเป็นว่าสิ่งที่เธอกังวลนั้นไม่เกิดขึ้น

น่านฟ้าหัวเราะเบาๆ เขารู้ว่ามารดาทั้งตกใจและอึดอัดใจในเรื่องนี้ และในฐานะผู้ใหญ่ท่านก็ต้องวางตัวให้ดีต่อฝ่ายหญิงด้วย เพราะฝ่ายเขาเองเป็นฝ่ายต้อง ‘รับผิดชอบ’

“ผมว่ารุ่นพี่ของเล็กก็ดู...ใช้ได้ คุณแม่ไม่ชอบเหรอครับ”

“ตาใหญ่...ไม่ต้องมากวนแม่เลย” คุณวรัญญาโคลงศีรษะ ไม่ใช่ไม่ชอบหรือรังเกียจ เพราะเธอก็ไม่ได้รู้จักหญิงสาวคนนั้นพอจะตัดสินอะไรได้

ใช่เธอยอมรับว่าอึดอัดใจสำหรับเหตุการณ์แบบนี้ แม้เมื่อน่านฟ้าเอ่ยขึ้นเรื่อง ‘การแต่งงาน’ เธอก็ไม่อาจจะค้านอะไรได้ เพราะเรื่องนี้เกิดเพราะบุตรชายของเธอทั้งสองเอง ทั้งแดนดินและน่านฟ้านั่นแหละ

ทว่าคำพูดของหญิงสาวคนนั้นทำให้เธอรู้สึกโลงอกระคนประหลาดใจ

“ไม่ค่ะ แพงไม่แต่งงานเพราะเรื่องเข้าใจผิดอย่างนี้หรอกค่ะ”

ไม่ใช่แค่คำพูด แต่แววตาก็ไม่มีวี่แววซ่อนเล่ห์ใด

นั่นทำให้เธอต้องตั้งใจ ‘ดู’ หญิงสาวตรงหน้านั้นอีกครั้ง

ส่วนบุตรชายเธอก็ยืนยันความตั้งใจแบบสุภาพบุรุษที่จะรับผิดชอบชื่อเสียงของหญิงสาวไว้ แต่เธอก็พอมองออกว่าเขาตั้งใจก่อกวน...ทั้งเธอและเด็กคนนั้น

เพราะเขาไม่ยอมยืนยันว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ย้ำแต่เพียงว่าตนเองจำอะไรไม่ได้

แต่ก็ยินดีที่จะรับผิดชอบหญิงสาวเต็มที่

หากรุ่นพี่ของแดนดินก็ยังคงยืนยันความตั้งใจอย่างมั่นคงในการปฏิเสธเรื่องที่น่านฟ้าเสนอ จนทั้งสองเกือบจะเปิดฉากทุ่มเถียงกัน

เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำถูกหรือผิดที่ให้ฝ่ายหญิงเป็นคนเลือก

ความรู้สึกหนักหน่วงลึกๆ มันยังติดอยู่ในใจของเธอ

“ที่จริงผมเองก็ไม่ได้เห็นว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสนุก” รอยยิ้มในแววตาของน่านฟ้าหายไป น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น

คุณวรัญญาเลิกคิ้ว รู้ได้ว่าบุตรชายกำลังจะเอ่ยเรื่องสำคัญ

“แต่ผมนึกว่าคุณแม่ชอบ เพราะผมก็เกือบจะต้องแสดงความรับผิดชอบของสุภาพบุรุษกับคุณดาริกาของคุณแม่เหมือนกัน”

“ตาใหญ่” คุณวรัญญาอุทาน

น่านฟ้ายิ้มมุมปาก แต่ไม่ใช่ที่แววตา แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงนุ่ม

“คุณแม่ช่วยย้ายคุณดาริกาออกจากออฟฟิศผมด้วยนะครับ ผมอยากทำงานให้เต็มที่ ไม่ต้องมาเทคแคร์คุณหนูเวลางาน ไม่ต้องมาพะวงระวังตัวเองเวลาพักผ่อนจะมีใครถือวิสาสะเข้าห้องมาอีก”

“นี่ใหญ่หมายความว่า” คุณวรัญญาอึ้งไปกับวาจาของบุตรชาย ฟังดูร้ายกาจอยู่ไม่น้อย แต่เธอรู้ว่าน่านฟ้าไม่เคยโกหก

ดาริกาเป็นลูกสาวของเพื่อนซึ่งเธอเห็นว่ามีคุณสมบัติที่ดี จึงอยากให้ทำความรู้จักกับน่านฟ้าที่ยังไม่มีทีท่าจะมีใครจริงจังสักคน จึงขอให้น่านฟ้ารับดาริกาเป็นเลขานุการ ทั้งที่เขามีเลขานุการอยู่แล้ว แม้น่านฟ้าจะไม่ค่อยชอบใจแต่ก็ไม่ขัดเธอในทันที

“ผมไม่อยากให้คุณแม่หมางใจกับเพื่อนถ้าผมจะทำอะไรลงไปเอง” น่านฟ้ารู้ว่ามารดาต้องการอะไร เขาไม่ได้คัดค้านก็จริง แต่ตอนนี้เห็นจะไม่ไหว

ดาริการบกวนการทำงานและก้าวล่วงชีวิตส่วนตัวเขาเกินไป โดยเฉพาะการไปทำงานที่ต่างประเทศคราวนี้ ทีแรกเขาจะไปกับเลขานุการแค่สองคนเท่านั้น แต่ก็แพ้การรบเร้าของมารดาจึงต้องให้ดาริกาไปด้วย

และดาริกาก็ยุ่มย่ามมากจนเขาชักจะรับไม่ได้แล้ว

“จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้อยากแต่งงานเพราะ ‘เรื่องเข้าใจผิด’ แบบวันนี้หรอกนะครับ” เขาใช้คำของรุ่นพี่แดนดินมา

เขาไม่ได้ใส่ร้ายดาริกา แต่ถ้าเขาขาดความระมัดระวัง เหตุการณ์แบบเมื่อเช้านี้อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเขากับดาริกาได้ และแน่นอนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแบบเมื่อเช้า

น่านฟ้าหวังว่ามารดาจะเข้าใจคำพูดของเขา

คุณวรัญญาอยากจะถอนหายใจแรงๆ แสดงว่านี่คงเป็นเหตุที่น่านฟ้ารีบกลับเมืองไทย โดยทิ้งให้ดาริกากับเลขานุการอีกคนตามกลับมาทีหลัง

เมื่อน่านฟ้าออกปากขนาดนี้ เธอจะไม่ดึงดัน

“เอาเถอะ แม่จะจัดการให้”

“ขอบคุณครับ” น่านฟ้าระบายยิ้มอ่อนๆ เขารู้ว่ามารดาคงต้องยุ่งยากใจเกี่ยวกับเพื่อนและบุตรสาว แต่เขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีก

ก็เขาเคยบอกคุณแม่แต่แรกแล้วว่า อย่าคาดหวังอะไรให้มาก

“คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ ยังไงไม่ผมหรือน้องคนใดคนหนึ่งก็ต้องแต่งงาน มีหลานให้แม่อุ้มแน่นอน”

“แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ใช่ไหม” คุณวรัญญาค้อนให้บุตรชายซึ่งยิ้มกว้างรับคำประชดประชัน

พะนอขวัญขับรถคู่ใจมาถึงอพาร์ตเมนต์ซึ่งตั้งอยู่ในซอยย่อย ความกว้างของถนนนั้นรถแทบสวนกันไม่ได้ แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับชาวมอเตอร์ไซค์อย่างเธอ แต่สิ่งที่ดีก็คือค่าเช่าถูกกว่าแถบซอยหลัก มิฉะนั้นเงินเดือนคงหมดไปกับค่าที่พัก

เธอเลือกอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ใกล้ที่ทำงานซึ่งเป็นย่านธุรกิจชื่อดังใกล้กับรถไฟฟ้า แม้ค่าเช่าห้องแถบที่อยู่จะถูกกว่าแต่ก็สูงกว่าย่านที่ไกลออกไป ทว่าเธอก็เลือกที่นี่เพื่อแลกกับระยะทางและเวลาสำหรับการเดินทางในการไปทำงานที่น้อยว่ามาก

ที่สำคัญย่านนี้เป็นซอยเล็กใหญ่เชื่อมกันราวกับใยแมงมุมทำให้การเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ค่อนข้างสะดวก

พะนอขวัญจอดรถไว้ที่ใกล้ๆ กับประตูเข้าออฟฟิศของอพาร์ตเมนต์ ซึ่งทั้งตึกมีรถจักรยานยนต์อยู่ไม่ถึงสิบคัน คนในอพาร์ตเมนต์นิยมใช้รถยนต์กันมากกว่า เพราะการขับขี่รถจักรยานยนต์ในเมืองหลวงนี้แม้จะเร็วกว่า แต่ก็ต้องระมัดระวังมาก เธอเองก็ใช้เฉพาะระหว่างที่พักกับออฟฟิศเท่านั้น แค่ลัดเลาะไปตามซอยเล็กซอยน้อย ไม่ต้องออกถนนใหญ่

ยามสายแบบนี้อพาร์ตเมนต์นั้นเงียบ เพราะต่างคนต่างออกจากห้องไปทำงานกันหมด หรือแม้จะเป็นช่วงที่ผู้คนเข้าออกกันคึกคักแต่ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรสำหรับความสัมพันธ์ของผู้คนร่วมอพาร์ทเมนต์ ต่างคนต่างอยู่ ไม่รู้จักกัน ซึ่งเป็นปกติของสังคมเมือง

ถ้าเป็นบ้านเกิดเธอสิ รู้จักกันตั้งแต่หัวบ้านถึงท้ายบ้าน บางทีก็รู้จักบ้านคนอื่นดีกว่าบ้านตัวเองด้วยซ้ำ

เมื่อขึ้นมาถึงห้องพักซึ่งเป็นห้องเดี่ยวพร้อมห้องน้ำในตัวขนาดกลาง ไม่ได้เล็กจนรู้สึกอึดอัด คุ้มกับค่าเช่าที่จ่ายไป ในห้องก็มีเฟอร์เนอร์นิเจอร์จำเป็นอย่างเตียง ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ ชั้นหนังสือ โต๊ะทำงาน และมุมครัวเล็กๆ ติดระเบียง เธอพยายามตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

พะนอนขวัญรู้สึกว่าห้องนี้เพียงพอสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวที่จะว่าไปก็ไม่ค่อยได้อยู่ห้องนัก เมื่อเทียบกับห้องในหอพักของมหาวิทยาลัยซึ่งเล็กกว่าและต้องมีเพื่อนร่วมห้องด้วยก็ดีกว่า แต่อย่างว่า...ราคานั้นต่างกันลิบลับ

คนต่างจังหวัดในเมืองกรุงก็มักหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้

พะนอขวัญเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองเป็นอย่างแรก เพราะเมื่อคืนก็หลับไปทั้งอย่างนั้น

คิดแล้วก็อดนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าไม่ได้

‘เราก็แต่งงานกัน’

คำพูดที่ฟังดูเหมือนจะเป็นคำสั่งมากกว่าคำถาม บวกกับหน้านิ่งๆ ทำให้เธอรู้สึกจี๊ดที่ด้านในอกทันที เธอไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบแบบนั้นหรอก

จะให้แต่งงานกับคนที่เพิ่งพบกันไม่ถึงชั่วโมง เห็นจะไม่ใช่สิ่งที่เธอยอมรับได้ และที่สำคัญระหว่างเธอกับเขาก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นด้วย

ยิ่งเวลาผ่านไป เธอก็ยิ่งแน่ใจว่า “ไม่มีอะไร” ระหว่างเธอกับพี่ชายของแดนดิน

และอีกอย่าง...

เธอยังไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงานด้วยซ้ำ

เธอเพิ่งเรียนจบมาไม่นาน ยังอยากจะใช้ชีวิตอิสระในโลกใบนี้อีกนาน หรือไม่อีกทีเธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าการแต่งงานไม่ใช่หนึ่งในเป้าหมายของชีวิต

เพื่อนบางคนชอบค่อนว่าเธอแปลกที่ไม่คิดอยากจะมีแฟนเหมือนเพื่อนสาวอีกหลายๆ คนที่ตั้งเป้าเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ ของชีวิต บางคนพยายามที่จะขจัดความโสดออกจากตัวเองด้วยวิธีต่างๆ

เธอไม่ได้ไม่ชอบการมีคู่ แต่เธอแค่คิดว่าไม่ได้อยากมีแค่นั้น

เพราะฉะนั้น...เธอจึงปฏิเสธ ‘ความรับผิดชอบ’ อย่างหนักแน่น

พะนอขวัญถอนหายใจยาว ก่อนจะคลียิ้มบางๆ

“เกือบได้เรือนมะนิลาจริงๆ แล้วไหมล่ะ” พะนอขวัญพึมพำกับตัวอย่างขำๆ เมื่อพ้นสถานการณ์นั้นมาแล้วเธอก็สามารถมองมันในแง่เรื่องตลกได้

พะนอขวัญเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดและกางเกงเลสีส้มสะใจ เธอมีกางเกงเลสีสดๆ ที่เห็นแล้วเจ็บจี๊ดอยู่หลายตัว แล้วจึงลงไปหาอะไรกินที่ชั้นล่างของอพาร์ทเมนต์ซึ่งมีร้านอาหารตามสั่งรสชาติพอฝากท้องได้

เรื่องการกินเธอไม่ค่อยเกี่ยงอยู่แล้ว ต้องแย่สุดๆ เท่านั้นเธอถึงจะกินไม่ได้

ที่จริงแดนดินก็ชวนกินข้าวเข้าก่อน แต่เธอปฏิเสธเพราะรู้สึกทนไม่ไหวแล้วกับบรรยากาศและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอกลับออกมาตั้งหลักใหม่ดีกว่า

“อ้าวหนูแพง ไม่ไปทำงานเหรอวันนี้” คุณป้าเจ้าของร้านถามเมื่อเห็นลูกค้าประจำเข้ามาในร้าน คนในอพาร์ตเมนต์เป็นลูกค้าของนางทั้งนั้น แต่ก็มีบางคนที่สนิทเป็นพิเศษ

“ไปตอนบ่ายค่ะป้า” พะนอขวัญตอบ เพราะลางานช่วงเช้าเอาไว้ก่อนแล้วเมื่อแดนดินขอให้เธอไปช่วยทำโปรเจก

หญิงสาวเลือกที่นั่งซึ่งเป็นโต๊ะเก้าอี้พับตั้งกันง่ายๆ ตอนนี้ร้านโล่งเพราะเป็นเวลาสายมากแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเวลาเช้า เที่ยง เย็น

“แล้วจะกินอะไรดีล่ะ”

พะนอขวัญกวาดสายตามองเมนูซึ่งเป็นกระดาษแข็งแปะกับผนังให้เห็นง่ายๆ เมนูพื้นฐานและราคาไม่ได้แพงจนเกินไป

“กะเพราปลาหมึกกับไข่ดาวสุกๆ ค่ะป้า”

“ก็เหมือนเดิม จะดูเมนูทำอะไรเนี่ย” คุณป้าแซว ก่อนลุกไปทำอาหารถามที่สั่ง

พะนอขวัญหัวเราะ เมนูประจำของเธอมีอยู่ไม่กี่อย่าง สั่งวนเวียนไปมาจนคุณป้าจำได้ แต่ทุกครั้งก็ยังขอคิดสักนิด แม้จะสิ่งที่สั่งดูจะไม่ค่อยคิดเท่าไร

ชีวิตพนักงานบริษัทกับอาหารตามสั่งเป็นของคู่กัน

ไม่นานนักก็จัดการอาหารเรียบร้อย แล้วจึงกลับขึ้นไปบนห้อง จากคราวแรกที่ตั้งใจว่าจะงีบต่อ แต่ตาก็สว่างมากแล้ว พะนอขวัญจึงทรุดตัวนั่งลงข้างเตียง แล้วกวาดมือหยิบเอาอุปกรณ์ที่ซุกอยู่ใต้เตียงออกมา ทั้งกระดานรองวาด กับกระดาษหลายแผ่น และดินสอ

มือเรียวขยับลากดินสอลงบนกระดาษ ไม่นานก็กลายเป็นภาพกลุ่มปลาหมึกกล้วยเต้นระบำ ปลาหมึกการ์ตูนหน้าตาน่ารัก อีกไม่นานมันจะถูกวาดลงบนเสื้อยืด

ตั้งแต่ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย เธอใช้เวลาว่างในการทำเสื้อยืดขาย ร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง แรกๆ เป็นแหล่งปล่อยความคิดและความสนุก ทั้งยังมีรายได้เสริมเป็นจำนวนพอสมควร เธอกับเพื่อนจึงยังทำมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะทำงานประจำกันแล้วทั้งสองคน

พะนอขวัญไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่เมืองฟ้าอมรนี้ไปตลอดชีวิต เธออยากกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัว อยากใช้ชีวิตที่ไม่ต้องรีบเร่งแข่งขันตลอดเวลา อยากใช้ชีวิตที่ผู้คนรอบตัวไม่มากแต่รู้จักกัน ไม่ใช่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่กลับหาคนรู้จักได้น้อยมากแต่เรื่องงานเป็นปัญหาใหญ่

ต้องยอมรับว่าตลาดงานของต่างจังหวัดกับกรุงเทพนั้นแตกต่างกัน เพื่อนหลายคนของเธอเมื่อเรียนจบก็ประสบปัญหาเดียวกันก็คือ ที่บ้านไม่มีตำแหน่งงานในวิชาชีพที่ตัวเองเรียนมาจึงต้องอยู่กรุงเทพหรือเมืองใหญ่ๆ เพื่อทำงาน

ความจริงเธอมีสิ่งที่อยากจะทำอยู่แล้วเมื่อกลับบ้าน

ร้านเล็กๆ ที่พอจะอยู่รอดได้ในบ้านเกิด แต่ก็ต้องหาเงินทุนจำนวนพอสมควรสำหรับความฝันและความตั้งใจนั้น

พะนอขวัญหวังว่าเงินจากงานประจำและงานเสริมจะทำให้เธอสามารถกลับบ้านได้เร็วขึ้น

และหวังว่าจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแผนการของเธอ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ปล. ไปเยี่ยมไปเยียนที่ Facebook "  ฬีฬา ฮาเร็มดอกไม้  "  ได้นะคะ ^^




Create Date : 09 กรกฎาคม 2555
Last Update : 9 กรกฎาคม 2555 10:52:03 น. 11 comments
Counter : 5928 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับของขวัญที่เฟด ได้รับ ฉลองแบบนี้ ทุกคนต้องชอบแน่ๆ


โดย: นกกระเต็น IP: 203.158.231.102 วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:08:04 น.  

 
จะถูกจีบก่อนละมั้ง


โดย: nasa IP: 202.28.78.71 วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:51:19 น.  

 
คงต้องมีเหตุบังเอิญครั้งต่อไปอีกแน่ แต่จะสถานการณ์ไหนนี่สิ


โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:13:26:52 น.  

 
ชอบนางเอกจัง


โดย: อาณาเขต IP: 223.27.233.126 วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:34:48 น.  

 
อยากจะรู้ว่าถ้าพะนอขวัญตอบตกลงน่านฟ้าจะแต่งงานด้วยจริงๆเหรอ


โดย: mimny วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:37:35 น.  

 
อยากอ่านจนจบอ่ะ เข้าใจคนทางบ้านหน่อยน้า ว่าอยากเสียเงิน


โดย: yao chan IP: 182.93.136.198 วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:29:38 น.  

 
กรี๊ดดดด หนูขวัญจะปฎิเสธทำไมอ่ะ โยนมาทางนี้ก้อได้นะ อยากได้อ่ะ


โดย: bijin-k IP: 203.150.206.90 วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:51:22 น.  

 
สวยเลือกได้ อิอิ


โดย: บ่าบี๋ วันที่: 12 กรกฎาคม 2555 เวลา:23:10:29 น.  

 
อดใจรอตอนต่อไปไม่ไหววว อ่านแล้วเสพติด ชอบนางเอกจัง


โดย: เอิงเอง IP: 119.46.191.20 วันที่: 13 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:25:31 น.  

 
เหมื่อนติดยาเสบติดจริงๆๆๆๆค่ะ


โดย: เล็ก siricharee IP: 119.46.143.241 วันที่: 15 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:55:54 น.  

 
Thank U so much


โดย: gift IP: 86.129.38.38 วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:7:41:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.