ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
มงกุฎกุหลาบ ตอน ๓

สวัสดีวันจันทร์... เอ๊ย... วันอังคารค่ะ


ขออภัยอย่างมากเลยค่ะที่ฬีผิดนัด(อีกแล้ว) เมื่อวานนี้ พอดีมีเหตุนิดหน่อยค่ะ ก็เลยมาลงวันนี้แทน จะพยายามไม่ผิดนัดบ่อยๆ นะคะ (กรุยทางไว้ เผื่อมีอีก เอิ๊กส์)


ต้องขอบคุณกำลังใจล้นหลามที่ให้มาเช่นเคยค่ะ แล้วก็ขอบคุณมากสำหรับการทักท้วงเรื่องคำผิดค่ะ ถ้ามีหลุดรอดออกมาอีกก็รบกวนทักด้วยนะคะ (แหะๆ คนเขียนอ่านเองไม่ค่อยจะเจอค่ะ ต้องรบกวนเพื่อนนักอ่านด้วยค่ะ)


มาถึงตอนที่ ๓ แล้วหวังว่าเพื่อนๆ นักอ่านคงจะงงกันน้อยลง (หรือจะมากขึ้น) อย่างไรก็ฝากดินแดนแห่งแสงจันทร์และดอกกุหลาบนี้ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ



""""""""""""""""""""""""""""""""""""""



มงกุฎกุหลาบ ตอน ๓



รถกระบะคันเล็กแล่นช้าๆ เข้ามาในถนนกลางหมู่บ้าน ไคแลนต้องหยุดรถเป็นพักๆ เพราะมักจะมีผู้คนคอยทักทายอยู่ตลอด ในหมู่บ้านเล็กๆ ผู้คนมักจะรู้จักกันทั้งหมด โดยเฉพาะครูใหญ่นั้นเป็นที่นับถือของคนในหมู่บ้านเช่นเดียวกับผู้ใหญ่บ้าน

ไคแลนจอดรถหน้ารั้วของบ้านขนาดย่อมชั้นครึ่ง มีห้องใต้หลังคา ก่อด้วยอิฐก้อนใหญ่ไม่ฉาบปูน เป็นแบบบ้านที่เห็นได้ทั่วไปในแถบหุบเขากุหลาบ ไลล่าส์ลงจากรถ ลมโชยเบาๆ มากระทบผิวกายพร้อมหอบกลิ่นหอมของดอกกุหลาบและดอกไม้อื่นๆ ซึ่งเบ่งบานอยู่ทุกรั้วบ้าน

รั้วต้นกุหลาบของไคแลนไม่ใช่กุหลาบเลนีเธียซึ่งจะนำดอกไปสกัดเป็นน้ำมันกุหลาบ แต่เป็นกุหลาบพื้นเมืองอีกพันธุ์ จะเรียกว่าเป็นพันธุ์พี่น้องกับกุหลาบเลนีเธียก็ได้ เพราะลักษณะต้นและดอกจะคล้ายกันเพียงแต่ดอกเล็กกว่า สีชมพูจัดออกแดงนิดๆ ชาวบ้านนิยมนำมาทำอาหารหรือใช้ชงชา บางบ้านก็จะนำไปทำไวน์

“อ้าว... ไม่เอารถไปเหรอคะ” ไลล่าส์ถามเมื่อไคแลนดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถด้วย

“เดินไปก็ได้ บ้านผู้ใหญ่บ้านไม่ไกลเท่าไหร่ อีกอย่างช่วงนี้ป้านีน่าของไลล่าส์ขยันทำของหวานให้ลุงกินทุกวัน ต้องเดินเผาพุงเสียหน่อย” เขาลูบท้องที่ดันเสื้อและผ้าพันเอวออกมาเห็นจนเห็นได้ชัด การแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองยังเห็นอยู่ทั่วไปในเลนีเธีย

“ป้านีน่าชอบทำก็เพราะว่าลุงชอบด้วยละสิคะ” ไลล่าส์พูดกลั้วหัวเราะ

ไคแลนยิ้มกว้างโดยไม่ปฏิเสธ

“เข้าไปหาป้าเขาเถอะ ฝากบอกด้วยว่าลุงจะกลับมากินมื้อเย็นด้วยนะ อย่าเพิ่งตัดสิทธิ์ลุงออก”

ไลล่าส์โบกมือตอบผู้เป็นครูและเพื่อนบิดาเดินออกไปแล้วจึงหมุนตัว เปิดประตูรั้วเข้าไปในบริเวณบ้านซึ่งไม่ได้กว้างมาก แต่เต็มไปด้วยต้นไม้ ทั้งผักสวนครัวและดอกไม้สีสันสดใส ไลล่าส์รู้ว่าต้นไม้ทุกต้นในสวนเล็กๆ นี้ นีน่าสามารถนำมาทำอาหารหรือขนมได้ทั้งสิ้น ไม่เพียงแต่บ้านของไคแลนกับนีน่าเท่านั้น แต่ทุกบ้านในแถบนี้มักจะทำสวนครัวเล็กๆ ไว้เสมอ

หญิงสาวเดินตามทางปูด้วยแผ่นหินไปที่ประตูบ้าน แล้วเคาะพร้อมกับร้องเรียกเจ้าของบ้านดังๆ ด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“ป้านีน่าคะ ไลล่าส์เองค่ะ” ไลล่าส์รอไม่ถึงอึดใจประตูก็ถูกเปิดออกโดยสตรีสูงวัย รูปร่างท้วมในชุดพื้นเมือง กระโปรงชั้นนอกเป็นสีน้ำตาลเข้มปักลายดอกกุหลาบเล็กๆ ตามความนิยมในหมู่บ้าน ดวงตาเป็นประกายสดใส

“ไลล่าส์... ป้าคิดถึงหนูจะแย่อยู่แล้ว ไม่มาหาป้าตั้งหลายวัน” นีน่ากอดหญิงสาวที่เธอรักเหมือนลูกแรงๆ แล้วแหงนหน้ามองไลล่าส์ด้วยสายตาแกล้งดุ

“ขอโทษค่ะป้านีน่า ไลล่าส์มัวแต่ทำงาน...” ไลล่าส์ก้มลงหอมแก้มยุ้ยเบาๆ หล่อนสูงกว่านีน่าเกือบฟุต สูงกว่าผู้หญิงทั้งหมดในหมู่บ้าน รวมถึงผู้ชายอีกหลายคนด้วย ไลล่าส์ชอบความสูงของตัวเอง แต่ไม่ค่อยชอบน้ำหนักที่เกินมาด้วยสักเท่าไรนัก

“ฮึ... ไม่ต้องมาอ้างนั่นอ้างนี่” นีน่าค้อนเล็กๆ แต่ยิ้มกว้าง “วันนี้ต้องอยู่กินมื้อเย็นกับป้านะ”

“แต่ไลล่าส์ต้องเอาจักรยานไปปะยางค่ะ เมื่อเช้ายางรั่ว ต้องเดินไปโรงเรียน นี่ก็อาศัยรถของลุงไคแลนมานะคะ”

“หือ...” นีน่าชะโงกมองรถกระบะคันเล็กของสามีที่จอดอยู่หน้าบ้าน “รถมาแล้วเจ้าตัวไปไหนล่ะนั่น”

“ลุงไปหาผู้ใหญ่บ้านค่ะ อ้อ...ลุงฝากบอกว่าอย่าตัดสิทธิ์มื้อเย็นนะคะ”

“จะตัดก็เพราะแวะบ้านแล้วไม่ยอมบอกนี่แหละ” นีน่าค้อนให้เจ้าของรถกระบะ “แต่ช่างลุงเขาเถอะ ป้าสนใจไลล่าส์มากกว่า ห้ามปฏิเสธป้าด้วย เรื่องจักรยานเดี๋ยวป้าบอกให้เจ้าฮาวี่ไปเอาจักรยานมาซ่อมก็ได้” นางหมายถึงช่างซ่อมรถของหมู่บ้าน

“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ...” ไลล่าส์ไม่ค้าน “มีอะไรให้ไลล่าส์ช่วยทำบ้างคะ”

“งั้นเข้าไปในครัวกับป้า” นางจูงมือไลล่าส์เข้าบ้าน พลางชวนคุยด้วยน้ำเสียงสดใส “ป้าเพิ่งได้ปลาจากลำธารมา ตัวโตๆ ทั้งนั้นเลย ป้าว่าจะทำปลาย่างโรสแมรี่ สลัดผัก แล้วก็ตบท้ายด้วยวอฟเฟิลกุหลาบ เดี๋ยวลุงของไลล่าส์กินหมดคนเดียวจะแย่”

“โอ๊ย... ป้านีน่าไม่กลัวไลล่าส์จะแย่บ้างเหรอคะ แค่นี้ไลล่าส์ก็ว่าแย่อยู่แล้วนะคะ”

นีน่ามองรูปร่างของหญิงสาวแล้วหัวเราะ

“แย่ตรงไหน... ป้าว่าดีออก” นีน่าบอกยิ้มๆ จากเด็กหญิงตัวน้อยสมัยก่อนกลายมาเป็นสาวสะพรั่ง ไลล่าส์ของนางก็เหมือนกุหลาบเลนีเธียนั่นแหละ อาจไม่ใช่กุหลาบก้านตรงสำหรับปักแจกัน แต่เป็นกุหลาบเลนีเธียที่ดอกโต กลิ่นหอม เหมาะสำหรับสกัดเป็นน้ำมันกุหลาบ...เป็นที่ต้องการของผู้หญิงทั่วโลก “ไลล่าส์ของป้าออกจะสวยน่ารัก พวกหนุ่มๆ อยากจะแลกเหรียญจารึกกับไลล่าส์จะตาย”

ไลล่าส์หัวเราะ นัยน์ตาสีน้ำตาลทองพราวพร่าง

“ป้านีน่าก็พูดอยู่เรื่อย ไม่เห็นจะมีใครสักคน”

“ก็ลองไลล่าส์ชายตามองผู้ชายสักคนสิจ๊ะ... รับรองว่ามีหนุ่มๆ ไม่ใช่แต่ในหมู่บ้านหรอก ทั้งโรซานน์นั่นแหละที่จะมาคุกเข่าให้”

ไลล่าส์ใช้มือป้ายหางตาที่น้ำตาไหลออกมาจากการหัวเราะ

“ทำเป็นหัวเราะ... ป้าจะคอยดูมงกุฎกุหลาบของไลล่าส์ว่าจะสวยขนาดไหน”







ไคแลนกลับมาถึงบ้านด้วยแววตาสดใสกว่าเมื่อตอนเย็น ทำให้สองสาวสองวัยซึ่งกำลังจัดโต๊ะอาหารเย็นอยู่ต้องถามอย่างแปลกใจ

“อารมณ์ดีอะไรขนาดนั้นคะ”

“ก็ในที่สุดจะมีเรื่องดีๆ สักทีไงจ๊ะคนสวย” ไคแลนหลิ่วตาให้ภรรยาด้วยท่าทางเจ้าชู้ คนสวยค้อนพองาม

ไลล่าส์กลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว

“เรื่องดีอะไรบ้างคะลุง”

“อย่างแรก... ผู้ใหญ่บ้านได้รับแจ้งมาแล้วว่าวันเริ่มเทศกาลกุหลาบคือคืนก่อนพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้า” ไคแลนบอก เทศกาลกุหลาบคือการเฉลิมฉลองก่อนจะเริ่มมีการเก็บเกี่ยวดอกกุหลาบจากไร่เป็นครั้งแรกในแต่ละปี ซึ่งในแต่ละปีวันเริ่มเทศกาลจะไม่ตรงกัน การกำหนดวันนั้นจะมาจากการพยากรณ์วิถีดาว

การพยากรณ์วิถีดาวนั้นเป็นความเชื่อของชาวเลนีเธียมาแต่โบราณ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเพาะปลูกหรือการเก็บเกี่ยวผลผลิต ชาวไร่ต่างก็ต้องรอฟังประกาศจากผู้พยากรณ์วิถีดาว

“ก็อีกไม่นานแล้วน่ะสิคะ” ไลล่าส์นับวัน “แล้วสะพาน...”

“นั่นก็อีกเรื่อง... วันนี้ผู้ใหญ่บ้านได้รับคำยืนยันมาว่านายทหารช่างคนใหม่จะมาถึงโรซานน์พรุ่งนี้ แล้วก็น่าจะเริ่มเข้ามาดูแลงานต่อได้เลย”

“อุ๊ย... เป็นเรื่องดีจริงๆ” นีน่ายิ้มกว้าง “สะพานจะได้เสร็จเสียที เราก็จะได้เตรียมงานเทศกาลกันอย่างสบายใจ” เทศกาลดอกกุหลาบเป็นงานใหญ่ประจำปีของเขตหุบเขากุหลาบ แต่ละหมู่บ้านจะร่วมมือร่วมใจกันจัดงาน ยิ่งในเมืองโรซานน์ก็จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้คนจากหลายเมืองมาร่วมเทศกาลความสนุกสนานนี้

แม้หลังวันเทศกาลจะเป็นการเริ่มงานหนัก แต่ทุกคนก็รอให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ

“ใช่แล้ว...เป็นข่าวดีจริงๆ ใช่ไหมล่ะ”

“คำอธิฐานของไลล่าส์ก็ใกล้เป็นจริงแล้ว” ไลล่าส์ยิ้มกว้าง หันไปหยิบขวดไวน์กุหลาบสีชมพู ไวน์พื้นบ้านของเขตหุบเขากุหลาบมารินใส่แก้วแล้วเติมน้ำแร่ลงไปด้วยปริมาณครึ่งต่อครึ่ง ตามความนิยมของการดื่มไวน์ในท้องถิ่น

ปลาย่างใบโรสแมรีพร้อมด้วยเลมอนฝานสีเหลืองจัดหอมกรุ่นจากเตาถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมด้วยสลัดผักและขนมปังข้าวโพด อาหารง่ายๆ ยอดนิยมของคนในหุบเขากุหลาบหมดไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงหัวเราะจากการสนทนาอย่างอิ่มใจ ไลล่าส์เก็บจานและชามออกไปแล้วยกวอฟเฟิลหอมกลิ่นกุหลาบสูตรพิเศษของนีน่ามาแทน

“ลุงเอาไอศกรีมหรือโยเกิร์ตคะ” ไลล่าส์ถามยิ้มๆ สำหรับของหวานตบท้ายของมื้อนี้

“ไอศกรีม” ไคแลนตอบ หากถูกเสียงนุ่มนวลแต่เอาจริงของภรรยาขัดขึ้น

“เอาโยเกิร์ตจ้ะไลล่าส์”

ไลล่าส์หัวเราะ ตักโยเกิร์ตวางบนวอฟเฟิลชิ้นโตให้กับไคแลนและนีน่า ส่วนตัวเองนั้นตักไอศกรีมกุหลาบที่นีน่ามีติดบ้านอยู่ตลอด

“ขอบใจจ้ะ” นีน่ามองไอศกรีมก้อนโตของไลล่าส์ยิ้มๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปหยิบรีโมตกดเปิดโทรทัศน์ ไคแลนหันมาหลิ่วตาให้ไลล่าส์ ทำท่ากระซิบ

“เวลาของขวัญใจนีน่าเขาล่ะ”

ไลล่าส์หัวเราะคิด แต่สายตาก็จับไปยังหน้าจอโทรทัศน์ ภาพข่าวการเสด็จเปิดอาคารพิพิธภัณฑ์หลังใหม่ขององค์มกุฎราชกุมารนั้นทำให้หล่อนแทบลืมวอฟเฟิลและไอศรีมไปเลยทีเดียว

“แหม... ดูยังไงๆ ก็ทรงหล่อจริงๆ ป้าล่ะช้อบชอบ”

ไคแลนแกล้งกลอกตาล้อภรรยา แต่ก็เขาไม่ได้ค้านความเห็นนั้น นอกจากพระโฉมงามดั่งแสงจันทร์แล้วองค์มกุฎราชกุมารยังทรงมีพระจริยวัตรนุ่มนวล สง่างาม ก็ไม่ใช่เพียงภรรยาของเขา แต่เป็นผู้หญิงทั้งเลนีเธียที่เห็นพ้องต้องกัน เขาเหลือบมองไลล่าส์ เขาไม่เห็นไลล่าส์สนใจผู้ชายคนไหนก็ยังจ้องโทรทัศน์ตาไม่กะพริบ

“นี่แหละน้า พริ้นชามมิ่งตัวจริงแบบไม่ต้องฝัน” นีน่ารำพันเช่นทุกครั้ง“ใครน้า... จะเป็นซินเดอเรลล่า โชคดีได้เป็นเจ้าหญิงพระชายา”

“เจ้าชายตัวจริงก็ต้องคู่กับเจ้าหญิงตัวจริงสิคะ” ไลล่าส์ขัดยิ้มๆ “อย่างองค์แสงจันทร์ก็ต้องมีเจ้าหญิงสวยๆ ในเลนีธหรือไม่ก็พวกเลดี้ตระกูลใหญ่ๆ ให้ทรงเลือกอยู่แล้วล่ะค่ะ”

นีน่าค้อนวงใหญ่

“ให้ป้าฝันหน่อยก็ไม่ได้”

ไลล่าส์สบตากับไคแลนแล้วหัวเราะประสานกัน

“ป้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าใครจะได้ครอบครองเหรียญจารึก จันทราทรงกลดนั่นน่ะ”







ไลล่าส์จอดรถจักรยานซึ่งฮาวี่ช่างซ่อมรถของหมู่บ้านซึ่งซ่อมได้ตั้งแต่จักรยานจนถึงรถกระบะนำไปส่งไว้ที่บ้านไคแลน หญิงสาวลงจากรถมาเปิดประตูรั้วเตี้ยๆ ซึ่งเป็นแค่การบอกอาณาเขตเท่านั้น มิได้ใช้กันผู้บุกรุกหรือโจรเพราะหมู่บ้านนี้ไม่เคยมีคนร้ายมาก่อน รั้วกุหลาบของเธอเป็นพันธุ์เดียวกับบ้านของไคแลน

หญิงสาวจูงจักรยานเข้าไปเก็บในโรงรถเล็กๆ ข้างบ้านซึ่งมีรถกระบะคันเล็กจอดอยู่ รถคันโปรดของบิดาซึ่งก็ตกทอดมายังเธอเช่นเดียวกับบ้านหลังนี้ เธอเดินกลับมาปิดประตูรั้ว ยามค่ำคืนของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เงียบสงัด มีแสงไฟลอดจากหน้าต่างของบ้านแต่ละหลังเลือนราง ไลล่าส์แหงนหน้ามองบนท้องฟ้า

ค่ำคืนนี้ท้องฟ้าดารดาษด้วยดวงดาว ไม่มีดวงจันทร์กลมโตทอประกายงดงามอย่างที่ชาวเลนีเธียชื่นชอบ หากไลล่าส์คิดว่าแสงพราวพร่างของดวงดาวนั้นก็งดงามไม่แพ้แสงจันทร์

ไลล่าส์ตัดสินใจยังไม่กลับเข้าบ้านแม้ว่าอากาศจะเย็นขึ้นเรื่อยๆ เลนีเธียมีอากาศเย็นเกือบทั้งปี ซึ่งทำให้เลนีเธียสะพรั่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ หญิงสาวเดินไปยังชิงช้าเล็กๆ ใต้ต้นไลแลค แม้ยามกลางคืนจะไม่เห็นช่อดอกสีม่วงอ่อนหวานชัดเจน แต่ก็ยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆ

“ไลล่าส์... ต้นไม้ที่แม่รักมากที่สุด” พ่อเคยด้วยแววตาอ่อนหวาน แม่เองก็มองตอบพ่อด้วยแววตาเปี่ยมรักเช่นกัน เด็กหญิงไลล่าส์ได้แต่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

แต่นั่นเป็นความทรงจำที่ยาวนานเหลือเกิน...

อาหารค่ำแสนอร่อยของนีน่า เสียงหัวเราะห้าวทุ้มของไคแลน เธอสัมผัสได้ถึงความรักและความเมตตาที่ทั้งสองท่านมอบให้ แต่บางครั้ง... ความสุขนี้ก็ทำให้ไลล่าส์อดนึกถึงบ้านแสนอบอุ่นตอนเธอเป็นเด็กไม่ได้

ไลแลคซึ่งพ่อเป็นคนปลูกให้กับแม่ต้นนี้เปรียบเสมือนความทรงจำแสนหวาน... ยามใดที่ไลล่าส์นึกถึงท่านทั้งสอง เธอจะมานั่งอยู่ที่ชิงช้าของพ่อใต้ต้นไม้ของแม่ เพียงแค่นี้ไลล่าส์ก็รู้สึกเหมือนถูกโอบกอดด้วยอ้อมแขนอันอบอุ่น

“ไลล่าส์คิดถึงพ่อกับแม่” ไลล่าส์กระซิบ แหงนหน้ามองดวงดาวอันไกลโพ้น การอยู่คนเดียวบางครั้งก็เหงาเหลือเกิน “แต่ไลล่าส์จะเข้มแข็ง...พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

ไลล่าส์รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงท่วงทำนองของดนตรีคุ้นหูลอยล่องมากับสายลมพร้อมกับกลิ่นหอมหวานของดอกไลแลค เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า มองหาในดวงดาวมากมายนั้น

ดาวดวงไหนที่พ่อกับแม่ไปพบกัน...








ยิ่งดึกท้องฟ้าเลนีเธียยิ่งงดงามด้วยดวงดาวสุกสว่าง ร่างสูงใหญ่สองร่างกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เสียงโลหะกระทบกันเป็นระยะๆ แสงจากโคมไฟรายรอบลานกว้างสาดต้องมัดกล้ามเนื้องดงามของร่างกายท่อนบนซึ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เหรียญโลหะบนอกกว้างสะท้อนแสงไฟวาววับ หนึ่งเหรียญทองคำสีจางจนเกือบขาว อีกหนึ่งคือเหรียญเงิน แกว่งไปมาตามจังหวะการเคลื่อนไหวของผู้เป็นเจ้าของ

“อะไรกันเรย์... แค่นี้เหนื่อยแล้วเรอะ”

เรย์เพียงแค่แย้มริมฝีปากนิดๆ สีหน้าไม่เปลี่ยน แม้จะรู้สึกเหนื่อยอย่างรับสั่ง เพราะซ้อมฟันดาบมากว่าชั่วโมงแล้ว การซ้อมดาบกับเจ้าฟ้าชายเซเนเธียไม่ใช่เพียงแค่กำลังกายเท่านั้น ยังต้องใช้ทั้งสติปัญญาในการรับมือการรุกและรับของพระองค์

ดาบเลนีเธียเป็นดาบด้ามยาวสามารถจับสองมือได้ ใบดาบยาวราวสามฟุต คมดาบทั้งสองด้านคมกริบ ผู้ใช้ดาบต้องมีความระมัดระวังสูง แม้ดาบจะไม่ใช่อาวุธในการสงครามปัจจุบัน แต่ก็ยังเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เหล่าทหารเลนีเธียยังต้องฝึกฝน

ในสมัยก่อนนั้นมีการจัดการประลองดาบเพื่อคัดเลือกนายทหารที่มีฝีมือเข้าในกองทัพ แม้ปัจจุบันการคัดเลือกกำลังพลจะเปลี่ยนไป แต่ประเพณีการประลองดาบแบบโบราณก็ยังถูกจัดขึ้นทุกปี โดยผู้ชนะจะได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระราชาธิบดีซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุด ทำให้เหล่านายทหารของเลนีเธียยังต้องฝึกดาบอยู่เป็นประจำ

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระราชาธิบดี ซึ่งไม่ใช่มาจากการที่ทรงเป็นเจ้าฟ้าชายแห่งเลนีเธีย หากฝีพระหัตถ์ของพระองค์นั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวเลนีเธีย

ฝีมือดาบของเรย์เองก็ไม่เป็นรองใคร... คนที่เขาเคยแพ้มีไม่มากนัก

เคร้ง!

เรย์กะพริบตา มองดาบที่กระเด็นออกจากมือตัวเองไป

“คิดถึงเจ้าของเหรียญอยู่หรือไงเรย์” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียลดปลายดาบลง พระเนตรสีม่วงเข้มสะท้อนแสงไฟพราวพร่างไม่ต่างจากดวงดาวนัก

เรย์เหลือบมองเหรียญที่ห้อยอยู่กลางอกตัวเอง...

“เอาน่า... เรื่องมันนานมาแล้ว เดี๋ยวนี้เลดี้ลีโอเนียปลดดาบจากมือนายไม่ได้แล้วล่ะน่า” เจ้าฟ้าชายตรัสด้วยสุรเสียงหยอกเย้า

เรย์ไม่เอ่ยตอบ เขารู้ดีว่าเลดี้ลีโอเนียที่ทรงหมายถึงมิใช่ภรรยาของท่านเอิร์ลแห่งลีโอเนีย แต่หมายถึงผู้เป็นบุตรสาว

เอน่า... เคยทำให้ดาบหลุดออกจากมือเขาได้

ตอนนั้นเขาอายุสิบขวบและเอน่าอายุเก้าขวบ และนั่นก็เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้ประมือกัน เพราะถูกผู้ใหญ่สั่งห้ามทำอีกเด็ดขาด

เปล่า... เขาไม่ได้หนีห่างเอน่าเพราะการประมือในครั้งนั้น

ฝีมือดาบของเอน่าไม่ได้น่ากลัวเท่ากับ...

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงยักพระอังสาเมื่อราชองครักษ์ไม่ตอบโต้ ทรงเก็บดาบคู่พระทัยเข้าฝัก ดาบนี้ทรงได้รับพระราชทานจากพระบิดา เป็นดาบที่ตีจากเหล็กกล้าด้วยช่างตีดาบฝีมือเยี่ยม หากมิได้มีการประดับอัญมณีใดๆ

‘ความงามของดาบอยู่ที่ฝีมือของผู้ใช้’ คำตรัสของพระบิดายังคงก้องอยู่ในพระทัย และก็ทรงเรียนและฝึกอย่างหนักเพื่อให้ดาบเล่มนี้งดงามที่สุด

“เดี๋ยวเข้าไปหาอะไรอุ่นๆ กินกันเรย์” ทรงรับฉลองพระองค์จากองครักษ์หนุ่มมาพาดที่พระองสา เช่นเดียวกับเรย์ แม้อากาศจะเย็นจัดแต่เหงื่อก็ยังท่วมพระองค์ ขณะกำลังจะก้าวพระบาทเพื่อกลับเข้าพระตำหนัก สร้อยพระศอก็ร่วงลงกระทบพื้น “อ้าว...”

เรย์ทรุดตัวลงเก็บสร้อยซึ่งร้อยเหรียญจารึกประจำพระองค์ขึ้นมา เหรียญจารึกทำจากโลหะต่างๆ ตามแต่ฐานะของเจ้าของ มีเพียงโลหะชนิดเดียวที่ห้ามประชาชนทั่วไปนำมาใช้ คือ ทองคำสีขาว เป็นทองคำสีเหลืองจางจนเกือบขาว ซึ่งเป็นทองสีพิเศษของเลนีเธีย มีเพียงเหล่าสมาชิกราชวงค์เลนีเธียเท่านั้นที่ใช้ทองคำชนิดนี้

“ตะขอหลวมพระเจ้าค่ะ... กระหม่อมจะให้ช่างเปลี่ยนให้ใหม่นะพระเจ้าค่ะ”

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงรับสร้อยพระศอมาทอดพระเนตรตำแหน่งตะขอซึ่งง้างออก “ไม่เป็นไรหรอก บีบๆ ซะหน่อยก็แน่นแล้ว” ทรงสวมสร้อยแล้วกดตะขอเข้าที่ ทรงหยิบเหรียญขึ้นมาพิจารณา พลิกด้านที่เป็นพระจันทร์เหนือมงกุฎอันเป็นตราประจำราชวงค์เลนีเธียไปด้านหลัง ทอดพระเนตรตราประจำพระองค์รูปกลุ่มดาวพิณ แล้วแหงนพระพักตร์มองหากลุ่มดาวบนท้องฟ้า

แม้ยามไร้แสงจันทร์... กลุ่มดาวพิณก็ยังมองเห็นได้ยากสำหรับผู้ไม่คุ้นเคยการดูดาว

“เอาอย่างนั้นนะพระเจ้าค่ะ ถ้าหลุดอีก แล้วสาวๆ เก็บได้ กระหม่อมไม่รู้ด้วยนะ” น้ำเสียงติดยั่วเย้าของเรย์ทำให้ทรงกะพริบพระเนตร ทรงก้มมองเหรียญจารึกซึ่งทรงกุมไว้

“ไม่ต้องมาหาเรื่องให้เราหรอกน่า” เจ้าฟ้าชายทรงปล่อยเหรียญให้ห้อยกลางพระอุระตามเดิม ทรงปัดไล่สิ่งที่รบกวนพระทัยบางอย่างออกไป “นายเหอะ... หนีออกไปอยู่โรซานน์คู่หมั้นว่าไงล่ะ”

“กระหม่อมตามเสด็จเจ้าฟ้าชายบางพระองค์พระเจ้าค่ะ ไม่ได้หนี”

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงแย้มพระสรวลกว้างต่อคำตอบของราชองครักษ์คู่พระทัย ทรงสาวพระบาทตรงไปยังพระตำหนัก โดยมีเรย์ตามเสด็จไม่ห่าง เมื่อเข้ามาในห้องกระจกแล้วพระองค์กลับพบว่ามีผู้กำลังนั่งจบชาอยู่ก่อน

เรย์ชะงัก เขาค้อมตัวลงแสดงความเคารพก่อนจะก้าวถอยและปิดประตูห้อง

“พี่เลธ์... มาตอนไหนกันครับ ไม่ให้มหาดเล็กไปเรียกผม”

เจ้าฟ้าชายเลเธียทรงแย้มพระสรวลให้กับพระอนุชาซึ่งทรุดลงประทับที่เก้าอี้ยาวด้านตรงข้าม ทรงวางถ้วยกระเบื้องเคลือบลงบนโต๊ะ

“เพิ่งมา... ยังดื่มชาไม่ทันครึ่งถ้วยเลย” ทรงตอบคำถามแรกก่อน “เห็นนายกับเรย์ซ้อมดาบกันเพลินเลยไม่อยากกวน”

“พี่มาแบบนี้ พวกราชองครักษ์รู้เข้าคงกลุ้มจนหัวหงอกกันหมด” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียโคลงพระเศียร ทรงรินพระสุธารสชาให้พระองค์เอง

การที่ไม่ทรงได้ยินเสียงเครื่องยนต์ก็แสดงว่าพระเชษฐาเสด็จจากพระตำหนักกุหลาบแก้วด้วยม้าทรง และคงเสด็จเพียงลำพังเพราะไม่มีราชองครักษ์ของพระเชษฐาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ นี้ การขี่ม้าผ่านสวนป่าลงมาจากเนินแสงตะวัน แม้จะเป็นสวนป่าแต่ก็ยังเป็นป่ากว้างทึบ โดยเฉพาะในยามค่ำคืน

“นี่เป็นคำพูดของคนที่หนีเรย์บ่อยๆ นะ” องค์มกุฎราชกุมารทรงแย้มพระสรวลน้อยๆ ย้อนพระอนุชา จริงๆ แล้วไม่เพียงพระองค์หรือพระอนุชาหรอก แม้กระทั่งพระขนิษฐาก็โปรดที่จะหนีราชองครักษ์บ่อยๆ

“ไม่เหมือนกันสักหน่อย” เจ้าฟ้าชายเซเนเธียตรัสแย้ง

“ไม่เหมือนตรงไหน”

“องค์มกุฎราชกุมารแห่งเลนีเธีย ไม่ควรจะอยู่ในอันตรายแม้แต่น้อยนิด”

เจ้าฟ้าชายเลเธียชะงักพระหัตถ์ที่กำลังจะยกถ้วยกระเบื้องเคลือบไปชั่วครู่ ก่อนจะทรงยกถ้วยขึ้นเสวย “ถ้าพี่เป็นอะไรไป นายก็คือมกุฎราชกุมารแห่งเลนีเธีย” ยกเว้นสมเด็จพระราชาธิบดีซึ่งทรงพระราชอำนาจในการแต่งตั้งรัชทายจะทรงมีพระดำริเป็นอื่น

“ถ้าพี่พูดแบบนี้อีก ผมสาบานต่อดาวทุกดวงในจักรวาลว่าจะจับพี่มัดแล้วเฝ้าไว้ตลอดแบบไม่กะพริบตาเลย”

องค์มกุฎราชกุมารสรวลเบาๆ

“พี่ก็ห่วงนายไม่น้อยไปกว่ากันนั่นแหละ... อย่าลืมสิว่านายเป็นน้องชายของพี่ แล้วนายก็เป็นทายาทของพี่ด้วย”

พระเนตรสีม่วงเข้มของเจ้าฟ้าชายเซเนเธียวาวระยับ

“พี่ก็รีบๆ มีลูกสักคนสิ ผมจะได้หลุดจากตำแหน่งเร็วๆ”

“เซน...” องค์มกุฎราชกุมารลากพระสุรเสียง “ไม่ต้องมาออกนอกเรื่องเลย”

“ผมว่า...ผมอยู่ในเรื่องนา ชาวเลนีเธียคนไหนๆ ก็อยากเห็นเจ้าหญิงพระชายาในองค์มกุฎราชกุมารทั้งนั้นแหละ ยิ่งมีพระโอรสหรือพระธิดาก็ยิ่งดี”

องค์มกุฎราชกุมารโคลงพระเศียร

“เอาล่ะ... เลิกพูดเรื่องนี้เลย ไม่อย่างนั้นเหรียญจารึกของนายจะเปลี่ยนอันโดยไม่รู้ตัว”

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงตัดสินพระทัยเลิกตรัสตามรับสั่งของพระเชษฐา เพราะทรงรู้ว่าไม่ควรจะเย้า ‘พี่เลธ์’ ให้มากนัก ตอนนี้ทรงยังไม่อยากหมั้นกับใครโดยไม่รู้พระองค์

“ครับผม... แล้วตกลงพี่เลธ์มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าคิดถึงน้องเฉยๆ เลยมาหา”

องค์มกุฎราชกุมารทรงแย้มพระสรวลน้อยๆ

“คิดถึง... แล้วก็มีธุระด้วย”

“จะให้ผมทำอะไรเหรอครับ”

“ที่นายไปโรซานน์คราวนี้...อยากให้นายช่วยอะไรพี่หน่อย”

เจ้าฟ้าชายเซเนเธียทรงเลิกพระขนง สบพระเนตรคมของพระเชษฐานิ่ง

“มันดูเหมือนเรื่องเล็กๆ แต่มีบางอย่างสะกิดใจพี่ว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก เลยอยากให้นายหาข่าวให้หน่อย”



+++++++++++++++ จบตอน ๓ ค่ะ ++++++++++++++++












Create Date : 02 ธันวาคม 2551
Last Update : 2 ธันวาคม 2551 13:15:19 น. 14 comments
Counter : 1018 Pageviews.

 
ตอนนี้สั้นจังเลยค่ะ อ่านแป๊ปเดียวก็จบแล้ว ^^

ลุ้นค่ะลุ้นว่าเรื่องนี้จะมีเจ้าหญิง(ใหม่)กี่องค์ เจ้าชายหล่อทั้งสององค์เลย


โดย: หมีสีชมพู IP: 118.174.140.206 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:14:16:25 น.  

 
กำลังลุ้นเลย


โดย: kikkok IP: 61.7.165.15 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:15:56:41 น.  

 
อยากให้ถึงวันจันทร์เร็วๆๆจังเลยค่ะ จะได้รู้ว่ามกุราชกุมารมีเรื่องอะไรให้น้องช่วย


โดย: นู๋เต่า IP: 58.8.249.34 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:17:55:35 น.  

 
อยากลองชิมอาหารของโรซานน์จังฟังดูน่ากินทุกอย่างเลย



โดย: Rumbles IP: 124.120.29.10 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:20:11:04 น.  

 
อร๊า รอไม่ไหวแล้วค่า
อยากอ่าน อยากอ่าน
ขอซักนิดก่อนได้มั๊ยค่ะ ก่อนไปปาย อิอิ

ลุ้นๆ เมื่อไหร่เจ้าชายจะได้เจอเจ้าหญิงน๊า


โดย: Aye IP: 202.28.68.202 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:22:01:16 น.  

 
นางเอกจะมีกี่คนคะ เพราะพระเอกน่ารักทั้งคู่ 555
ใครคู่ใคร พี่ฬ๊ลงเร้วๆนะคะ ตามอ่านอย่างใจจดจ่อ


โดย: pat. IP: 124.122.156.162 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:23:38:35 น.  

 
เฮ้ย พระเอกคนไหนจะเด่นนะ


โดย: ngek IP: 203.144.220.241 วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:10:12:48 น.  

 
อยากอ่านๆ มาอัพตอนต่อไปเร็วๆนะค่ะ


โดย: ปูน IP: 125.27.250.23 วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:15:49:46 น.  

 
เพิ่งสอบเสร็จ
เปิดมาเจอเรื่องใหม่ให้อ่าสามตอนรวดดีใจจัง
จะติดตามต่อไปนะคะ
เป็นกำลังใจให้


โดย: คนตามอ่าน IP: 82.45.240.171 วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:7:23:06 น.  

 
อยากอ่านตอนต่อไปเเล้วนะ
รีบมาลงนะค่ะ
อ่านเเล้วเคลิ้มอ่ะ อยากได้เหรียญบ้างจังเลย


โดย: fordear IP: 203.188.42.147 วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:11:50:58 น.  

 
โอยหลงรักเจ้าชายทั้งสององค์เลยเรา


โดย: mimny วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:0:27:19 น.  

 
เอาเหรียญจารึกมาแลกกับคนแถวนี้ก็ได้นะคะ


โดย: MadamMim IP: 203.149.31.118 วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:11:09:28 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกซาบซึ้งใจยังไงพิกล


โดย: Ki IP: 110.49.85.106 วันที่: 24 มิถุนายน 2552 เวลา:2:31:45 น.  

 
น่ารักทั้งองค์พี่ องค์น้องเลยค่า เลือกไม่ถูก
ขอบคุณมากค่าคุณฬี


โดย: arso IP: 14.207.245.203 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:13:11:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.