ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
11 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
รหัสรักในดวงใจ ตอน ๒๐

เอิ่ม…สวัสดีวันศุกร์ค่ะ


ต้องขออภัยมิตรรักนักอ่านทุกท่านค่ะ เมื่อวานมีเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค(ของฬีฬา)นิดหน่อยค่ะ เลยไม่ได้มาตามสัญญา คาดว่าวันจันทร์น่าจะไม่มีผิดคิวอีกค่ะ


ว่าแล้วก็...ไปงานเต้นรำกันดีกว่านะคะ^^


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




รหัสรักในดวงใจ ตอน ๒๐





ของขวัญขับรถมาจอดที่ลานจอดรถด้านหลังโรงพยาบาลซึ่งอยู่ถัดจากตึกภาควิชาไปเล็กน้อย หล่อนไม่เคยมาถึงโรงพยาบาลเช้าขนาดนี้มาก่อน บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบจนแทบไม่น่าเชื่อว่าอีกเพียงไม่ถึงชั่วโมงที่นี่จะพลุกพล่านไปด้วยผู้คน ของขวัญเดินอย่างไม่รีบเร่งไปที่ตึก ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงด้านหลังตึกภาควิชา

ขนาดหล่อนมาเช้าแล้ว ยังมีคนมาเช้ากว่าอีกแฮะ

ของขวัญมองรถสองคันที่จอดอยู่ลานจอดรถเล็กๆ หลังตึกภาควิชา อาจารย์บางท่านมักมาถึงแต่เช้า นอกจากจะเลี่ยงรถติดแล้วก็เพราะจะได้มีที่จอดรถแบบไม่ต้องลุ้น

ตึกภาควิชาในยามเช้ายังคงเงียบไม่แพ้บรรยากาศข้างนอก ประตูเหล็กที่กั้นทางเดินของทั้งสองปีกถูกเปิดออกแล้ว แสงแดดอ่อนๆ ช่วยขับไล่บรรยากาศทึบทึมไปได้บ้าง ของขวัญเหลือบมองไปยังปีกขวามืออย่างไม่ตั้งใจ แล้วจึงโคลงศีรษะ

“เป็นเอามากนะยายขวัญ” ของขวัญพึมพำกับตัวเอง ไม่มีแสงไฟลอดออกมาจากในห้องที่หล่อนมองไป เช่นเดียวกับที่ไม่มีรถสีดำคันสวยจอดอยู่ที่ลานด้านนอก แต่หล่อนก็ยังเผลอมองจนได้

ของขวัญเดินต่อไปยังห้องพักของสาขา แม้จะมีแสงสว่างลอดผ่านกระจกฝ้าเหนือหน้าต่างเข้ามา แต่หล่อนอดรู้สึกไม่ได้ว่าบรรยากาศไม่ค่อยน่าคบหานัก

หล่อนน่าจะไปโรงอาหารก่อน...แต่ท้องหล่อนยังเต็มแน่นด้วยอาหารเช้าที่คุณป้าขอร้องแกมบังคับให้หล่อนกินก่อนออกจากบ้าน แล้วยังกำชับให้หล่อนกลับบ้านเร็วๆ

‘เช้าแล้ว...ผีคงกลับไปพักผ่อนแล้วน่า’ ของขวัญปลอบตัวเองในใจ ขณะเดินไปยังห้องพักสาขาหรือที่รุ่นพี่ชอบเรียกกันว่า ‘ถ้ำ’ หล่อนเห็นด้วยกับคำเรียกนี้มากทีเดียว

ของขวัญผลักประตูเข้าไปในส่วนของห้องพักของสาขา หล่อนรีบกดสวิตซ์เปิดไฟ แม้ว่าจะมีแสงจากภายนอกลอดเข้ามาบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้มาตรฐานความสว่างของหล่อน

ขณะก้าวไปเพื่อจะหยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศที่ทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ด้านในของห้อง ของขวัญก็ชะงัก หันขวับไปยังต้นเสียงกุกกัก หล่อนจ้องประตูห้องล็อกเกอร์เขม็ง

‘เช้าแล้วยายขวัญ’ ของขวัญตะโกนเรียกสติตัวเองในใจ นัยน์ตาสีนิลจ้องตรง มือค่อยๆ ลากเก้าอี้หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ใกล้มือมากที่สุด

ถ้าไม่ใช่ผี หล่อนก็ไม่มีเหตุผลต้องกลัว

ของขวัญเกร็งมือเต็มที่พร้อมจะทำให้เก้าอี้กลายเป็นอาวุธ เมื่อประตูห้องล็อกเกอร์ถูกเปิดออก ผู้หญิงร่างสูง ผมยาวสยายปรกลงเต็มหน้าก้าวออกมา ของขวัญแทบลืมเก้าอี้ไปเลย หล่อนอ้าปากค้าง

“อ้าว...ขวัญ” คนที่เพิ่งก้าวออกจากห้องล็อกเกอร์อุทานอย่างแปลกใจ “มาแต่เช้าเชียว”

ของขวัญกะพริบตาถี่ๆ มองเพื่อให้แน่ใจว่าร่างตรงหน้าเป็น ‘คน’ จริงๆ เมื่ออีกฝ่ายเสยผมยาวที่ปรกใบหน้าออก หล่อนแทบคราง “เจ๊ปิ่น” หล่อนเรียกปิ่นนภาแบบเดียวกับเพื่อนๆ

“อืม...นึกว่าใครเหรอ” ปิ่นนภาหัวเราะเบาๆ

ไม่ได้นึกว่าใคร แต่เป็น ‘อะไร’ ต่างหาก

ของขวัญเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้บอกสิ่งที่คิด

“เปล่า... แค่ตกใจน่ะ ไม่นึกว่าเจ๊ปิ่นจะอยู่ในห้องนั้น” หล่อนมองสภาพของรุ่นพี่ นอกจากผมเผ้ายุ่งเหยิงแล้วชุดที่อีกฝ่ายสวมอยู่ยังเป็นเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงวอร์ม ดูแล้วไม่น่าจะใช่ชุดที่ใส่มาเรียนได้

“อย่างนั้นเหรอ...เพิ่งตื่นน่ะเลยสวยน้อยไปหน่อย” ปิ่นนภาตอบอย่างอารมณ์ดี

ของขวัญเลิกคิ้ว “อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนนอนที่นี่” แม้รุ่นพี่จะเคยบอกว่าค้างกันที่ห้องพักได้ แต่หล่อนก็ไม่นึกว่าจะมีคนทำจริง คิดว่าเป็นมุกอำเล่นของรุ่นพี่ซึ่งมีเรื่องอำรุ่นน้องได้ตลอด

หล่อนเหลียวมองรอบๆ ตัว แม้แสงไฟจะสว่างจ้าทั่วห้อง แต่กลิ่นอับที่หล่อนเริ่มคุ้นเคย สีน้ำตาลเข้มของบานหน้าต่างไม้และเฟอร์นิเจอร์ ผนังปูนที่มองไม่เห็นสีขาวดั้งเดิม รวมถึงที่ว่าเปิดหน้าต่างออกไปก็คือตึกกายวิภาคศาสตร์ทำให้หล่อนกลืนน้ำลาย

หล่อนคงไม่ความจำเป็นต้องค้างที่นี่หรอกนะ

“งั้นก็ไม่บอกดีกว่านะ” ปิ่นนภาหัวเราะ ก้าวไปยังเคาน์เตอร์สูงที่อยู่ติดกับประตูห้องล็อกเกอร์ ชะโงกหน้าข้ามไป “ไอ้ลี...ตื่นได้แล้ว”

ของขวัญต้องยืดตัวเพื่อที่จะเห็นว่าด้านหลังเคาน์เตอร์ซึ่งวางโซฟาไว้สำหรับหลบมานอนพักบ้างมีรุ่นพี่สาวอีกคนนอนอยู่ สภาพไม่ได้ต่างไปจากปิ่นนภาเท่าไรนัก

“ไอ้ลี...เกือบเจ็ดโมงแล้วนะ” ปิ่นนภาย้ำ

ของขวัญเกือบหลุดหัวเราะ เมื่อเห็นรุ่นพี่สาวเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟา ลืมตาโพลง หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

“เฮ้ย... ทำไมนาฬิกาไม่ปลุกวะ”

ปิ่นนภาหัวเราะอาการของเพื่อนสาว ซึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องล็อกเกอร์ก่อนจะออกมาพร้อมกับตะกร้าใส่ของใช้สำหรับอาบน้ำ รวมทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วตรงไปยังห้องน้ำ

“เจ๊ลีเขาจะรีบไปไหน” ของขวัญอดหัวเราะไม่ได้

“ไปหาพ่อน่ะสิ เห็นว่าพ่อนัดไว้เจ็ดโมงครึ่ง” ปิ่นนภาตอบกลั้วหัวเราะ

“เจ็ดโมงครึ่ง” ของขวัญทวนอย่างแปลกใจ ไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาแต่ไก่โห่ขนาดนั้น

“อืม...เห็นว่าช่วงนี้พ่อไม่ค่อยว่างน่ะ มีเวลาให้ได้แค่ตอนเช้าเท่านั้นเลยต้องตาลีตาเหลือกแบบนี้ไง” ปิ่นนภาตอบยิ้มๆ “จำไว้นะ พ่อแม่นัดวันไหน เช้าสายบ่ายเย็น ถ้าไม่ถึงกับป่วยต้องแอทมิดอยู่ละก็ห้ามปฏิเสธ โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีคำนำหน้ายาวๆ น่ะ”

“ทำไมล่ะ” ของขวัญถามอย่างแปลกใจ

“ก็อาจารย์แต่ละท่านหาเวลาว่างยากไง ดีไม่ดี...วันนี้อยู่ที่นี่ แต่พรุ่งนี้อาจจะอยู่อีกทวีปก็ได้ มีคนเกือบไม่จบเพราะแบบนี้มาแล้ว”

“โห...อันตรายเหมือนกันนะ” ของขวัญพึมพำ เรื่องอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นเรื่องใหญ่ของการเรียนปริญญาโทเสียด้วย

ดูเหมือนชีวิตด้านนี้ของหล่อนก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้อีกด้าน

“อื้ม... เพราะฉะนั้นก็เฝ้าแม่ไว้ดีๆ นา ได้ข่าวมาว่าอาจารย์รวินันท์ก็ได้รับเชิญไปต่างประเทศบ่อยเหมือนกัน”

“ขวัญก็เฝ้าไว้อยู่” ของขวัญตอบ หากมีความหมายที่หล่อนรู้อยู่คนเดียว แล็บพิเศษที่หล่อนทำอยู่ตอนนี้

พี่เม่นนะพี่เม่น...ชอบหาเรื่องให้น้องจริงๆ

หล่อนลอบถอนหายใจ หล่อนอุตส่าห์หวังว่าทุกอย่างจะเป็นเรื่องบังเอิญบนโลกนี้ หากยิ่งมองหาก็ยิ่งเห็นว่าทฤษฎีโลกนี้ไม่มีความบังเอิญของนพนันท์นั้นถูกต้องขึ้นเรื่อยๆ

ของขวัญเลิกคิดเรื่องหนักใจชั่วคราว หันไปหยิบรีโมต เปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดโทรทัศน์เครื่องเก่าที่ยังสามารถดูได้ แม้จะไม่กี่ช่องก็ตาม แต่ก็พอทำให้หล่อนได้ดูข่าวยามเช้า แบบภาพเลือนๆ เล็กน้อย

ตึกนี้เป็นการผสมผสานที่ไม่น่าลงตัวได้ระหว่างความล้ำหน้าสุดขั้วด้านวิทยาศาสตร์กับความโบราณสุดชีวิตของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ใช่เครื่องมือวิจัยมักมีอายุอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของอายุหล่อนเลยทีเดียว

เป็นเสน่ห์แบบแปลกๆ ที่หล่อนยังแปลกใจตนเองว่าชอบที่นี่ค่อนข้างมาก แม้จะยังหวาดๆ ถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่มากก็ตาม

ขอเรียนแบบสงบๆ สักวันก็แล้วกันนะ







“อ้าว...วันนี้ไม่ไปหาแม่เหรอพี่ขวัญ” พิชญาร้องถามเมื่อรุ่นพี่สาวบอกว่าจะกลับบ้านเลย หลังจากเรียนภาคบ่ายแล้ว ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็ทยอยกลับไปแล้ว ปกติของขวัญจะขึ้นไปช่วยดร.รวินันท์ทำแล็บ

“วันนี้ลูกคนอื่นของแม่เขามารันแล็บน่ะ ก็เลยไม่ต้องขึ้นไป” ของขวัญตอบยิ้มๆ ชีวิตนิสิตปริญญาโทในวันนี้ของหล่อนเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงโวยวายด้วยความฮาเฮ ไม่มีอะไรต้องสะดุดจนกระทั่งเลิกเรียน ของขวัญมีความสุขอย่างเต็มที่ “แล้วนี่ญายังไม่กลับอีกเรอะ”

“วันนี้เวรเฝ้าฟิตเนส เลยนั่งกินขนมเจ๊ปิ๋นรอเวลา” พิชญาตอบพร้อมกับหยิบขนมที่รุ่นพี่สาวซื้อมาทิ้งไว้มากิน นอกจากต้องเรียนแล้วพวกหล่อนยังมีหน้าที่ต้องดูแลห้องฟิตเนสของคณะในช่วงเย็นเป็นการฝึกงานไปในตัว

“เดี๋ยวสิ้นเดือนพี่จะเก็บค่าขนม” ปิ่นนภาเงยหน้าจากโน้ตบุ๊กของตัวเองมาแซวรุ่นน้อง เนื่องจากใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักเกือบทั้งวันจึงมักซื้อเสบียงมาทิ้งไว้เสมอ

“งั้นพี่ไปก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้จะรีบมาฟังญาพรีเซนต์งานแต่เช้า” ของขวัญหัวเราะเบาๆ กับท่าทางเป็นลมล้มพับแบบโอเวอร์แอกติ้งของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าจบกายภาพบัดบัดการละครมาหรือยังไง

ของขวัญเดินออกจากห้องพัก ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ

เฮ้อ...ไม่อยากให้มีมิสเตอร์เอ๊กซ์อยู่จริงๆ เลย

นัยน์ตาสีนิลกะพริบ มองร่างสูงที่ยืนอยู่โถงกลางตึก แม้ไม่ได้มาด้วยชุดขาวเต็มยศ แต่ของขวัญก็รู้ว่าเป็นใครอื่นไม่ได้

“สวัสดีครับคุณของขวัญ” ชัชชนนท์หันไป ยิ้มให้กับนัยน์ตาใสกระจ่างของอีกฝ่าย

ของขวัญสบสายตาคมกล้า แม้ใบหน้าคมเข้มนั้นจะมีรอยยิ้ม แต่หล่อนรู้สึกได้ว่ามีรัศมีของการคุกคามอยู่ด้วย

“สวัสดีค่ะ น้องแองจี้ไม่ได้มาด้วยเหรอคะ” หล่อนถามหาหลานสาวของเขาแทน เด็กหญิงน่ารักที่ทำให้หล่อนหลงรักได้ไม่ยาก

“วันนี้คุณแม่เขาไปรับแล้วครับ ผมมาคนเดียว”

“มาหาอาจารย์ธีร์เหรอคะ” หล่อนชะเง้อไปมองห้องของธีร์ หากต้องหันกลับมาอย่างรวดเร็วเพราะน้ำเสียงทุ้มๆ

“เปล่า...ผมมาหาคุณ”









“เอ่อ... เอาจริงเหรอคะคุณป้า” ของขวัญทอดเสียงอ่อย หล่อนกลับมาถึงบ้านธนกิจจา แล้วพบว่าถูกผู้เป็นป้าต้อนให้ลองชุดราตรีหลายชุด ก่อนจะถูกช่างแต่งหน้าทำผมรุมล้อมตัวหล่อนโดยไม่ทันตั้งตัว มีคุณนันทนายืนกำกับอย่างพอใจ

“จ้ะ... ขวัญไปเป็นเพื่อนป้าหน่อยนะ คุณลุงเขาอยากพักผ่อนน่ะ” คุณนันทนาตอบอย่างอ่อนโยน แต่ไม่ผ่อนปรน

กับหลานสาวต้องใช้ไม้หน้าสามหุ้มนวมแบบนี้แหละถึงจะได้ผล

“เอ่อ...” ของขวัญอ้าปากแล้วก็หุบ ไม่เอ่ยค้านอีกเพราะยังไงก็คงไม่ได้ผล ยกเว้นหล่อนจะดื้อแพ่งไม่ยอมออกจากบ้านซึ่งหล่อนไม่มีทางทำอย่างนั้นกับผู้เป็นป้าแน่

คุณนันทนายิ้มกริ่ม บอกให้ช่างแต่งหน้าที่เธอจ้างมาแสดงให้สุดฝีมือ






ของขวัญติดตามผู้เป็นป้าเข้ามาในงานเลี้ยงซึ่งจัดขึ้นในโรงแรมหรู คุณนันทนาบอกว่าเป็นงานวันเกิดของเพื่อนสนิทซึ่งเป็นสาวสังคมเปรี้ยวจี๊ดแบบไม่ยอมสละตำแหน่งให้รุ่นลูกรุ่นหลาน หล่อนไม่ค่อยรู้จักเพื่อนๆ ของคุณป้านัก แต่เนตรภาชอบพูดว่ากลุ่มของผู้เป็นแม่นั่นส่วนใหญ่เป็นสาวสังคมสุดเปรี้ยวกันทั้งนั้น

หากแทนที่จะเป็นงานที่มีแต่ผู้ใหญ่ กลับมีบุรุษสตรีแทบทุกเพศทุกวัย

ของขวัญมองคนในห้องบอลรูมที่ราวกับหลุดย้อนไปในอดีตเมื่อหลายสิบปีอย่างทึ่งหน่อยๆ หญิงสาวและไม่สาวแต่งตัวด้วยกระโปรงสุ่มบานๆ หลากสีแบบที่เป็นแบบนิยมในยุคหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง นัยว่าเป็นคอนเซ็ปต์ของงานที่เจ้าภาพกำหนดมา

ส่วนชุดของหล่อนที่คุณป้าเลือกให้เป็นสีขาวครีม ของขวัญไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็สวยขึ้นกว่าเดิมได้ไม่มากหรอก หล่อนเข้าใจแล้วว่าทำไมเนตรนภาถึงบ่นมากมายเมื่อต้อง ‘ออกงาน’ ขนาดหล่อนเป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ได้เป็นศิลปินจ๋าอย่างญาติสาวยังเบื่องานเลี้ยงที่ดูๆ ไปก็ไม่มีอะไรมากนัก

ของขวัญค่อยๆ ถอยห่างจากผู้เป็นป้าซึ่งกำลังสนทนาติดพันกับกลุ่มเพื่อนจนไม่ได้หันมามองหล่อน แต่การได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้เป็นป้าก็ทำให้หล่อนพอจะทนความน่าเบื่อได้

‘หาอะไรกินแก้เซ็งดีกว่า’

ของขวัญหล่อนเดินเลาะผู้คนมากมายซึ่งไม่มีใครสักคนที่หล่อนรู้จัก และก็ไม่มีใครที่จะสนใจเข้ามาทักทายหล่อน หากหล่อนก็พอใจกับการเป็นคนล่องหนในสายตาของกลุ่มคนในสังคมกลุ่มนี้

ก็หล่อนไม่รู้จักพวกเขา พวกเขาก็ไม่รู้จักหล่อน จะคุยกันได้ยังไงล่ะนะ





“ของขวัญ”

ของขวัญชะงัก หยุดเดิน หันขวับไปยังต้นเสียง นัยน์ตาสีนิลเบิกโต หล่อนคิดว่าตัวเองหูฝาดได้ยินเสียงผิดไปอย่างนั้นเสียอีก แต่รอยยิ้มในอำพันคู่งามนั้นบอกว่าหล่อนไม่ได้หูฝาด

“อาจารย์...” ของขวัญพบว่าหัวใจเต้นไม่เป็นปกติอีกแล้ว

“อืม...ผมเอง” ธีร์พยักหน้า เขารู้แล้วว่าทำไมมารดาเคี่ยวเข็ญให้เขากลับบ้านเร็วๆ และมางานนี้กับท่านโดยดักคอเขาไว้ว่านี้เขาไม่มีนัดผ่าตัด จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่โรงพยาบาลตลอด

เขานึกว่ามารดาจะเลิกหาคู่ให้เขาเสียทีหลังจากเข้าใจว่าของขวัญเป็นแฟนของเขา แต่ก็ถูกมารดาลากตัวมางานนี้จนได้ ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือเมื่อมาถึงงานแล้ว เขาเหมือนกับ ‘ถูกทิ้ง’ มารดาเขาให้ความสนใจกับเพื่อนมากกว่า

ขณะใคร่ครวญว่ามารดาต้องการอะไรในครั้งนี้ สายตาเขาก็มองไปเห็นร่างเล็กๆ ในชุดสีขาวนวลเรียบๆ ที่แตกต่างจากสีสันและแบบชุดที่สะดุดตาของหญิงสาวคนอื่น

หล่อนเหมือนนกกระจิบตัวเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางนกสีสันสดใสทั้งหลาย

แล้วก็ดูเหมือนจะ ‘ถูกทิ้ง’ คล้ายๆ กับเขา

อืม...ถ้านี่เป็นแผนของแม่ เขาก็ควรจะเป็นลูกที่ดีเดินตามแผนของแม่ไม่ใช่หรือ

ธีร์จึงไม่ลังเลเลยที่จะก้าวเข้ามาหาหล่อน แม้จะแปลกใจนิดๆ ที่ไม่เห็นเมืองขวัญอยู่ใกล้ๆ ตัวหล่อน หมอนั่นหายไปไหนนะ

“จะไปไหนหรือของขวัญ” ธีร์ลอบพิจารณาหล่อนเท่าที่จะทำได้โดยไม่ให้หล่อนรู้ตัวว่าเขากำลังให้ความสนใจหล่อนเป็นพิเศษ

ชุดสีขาวนวลเข้ากันดีกับร่างเล็ก ๆของหล่อน ใบหน้านั้นก็ถูกเติมแต่งอย่างประณีต หล่อนดูสวยมากกว่าปกติเล็กน้อย

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ธีร์สนใจเลยสักนิด

หากเป็น ‘อะไร’ ที่อยู่ในตัวของหล่อนต่างหาก

“ไป...ตรงโน้นค่ะ” ของขวัญตอบ หลังจากเรียกสติที่กระเจิงไปเพราะนัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นกลับมาได้ หากเสียงหัวเราะทุ้มๆ ที่ตอบสนองต่อคำตอบของหล่อนเกือบทำให้สติหล่อนกระเจิงไปอีกครั้ง

ธีร์มองตามการบุ้ยใบ้ของหล่อนไปที่ซุ้มอาหารซึ่งจัดไว้แบบบุฟเฟต์

“ผมไปด้วยคนสิ” ธีร์ยิ้ม เริ่มก้าวทำให้ของขวัญต้องก้าวตาม เขาชำเลืองมองใบหน้านวลเนียน อดนึกถึงวันแรกที่เจอกันไม่ได้

จริงสิ...งานแต่งงานของศีตกาลคราวนั้นก็จัดที่โรงแรมนี้

“มาคนเดียวหรือของขวัญ”

“เปล่าค่ะ ขวัญมากับคุณป้า ท่านคุยกับเพื่อนอยู่ตรงโน้นค่ะ”

ธีร์ชำเลืองไปยังที่เจ้าหล่อนบุ้ยใบ้ เขาเห็นมารดารวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เขาเคยเห็นป้าของหล่อนครั้งเดียวที่ศูนย์การค้า หากแน่ใจว่าจำได้ไม่ผิด คงเป็นคนที่ยืนคุยอยู่กับมารดาของเขา ธีร์ถอนสายตากลับมายังหญิงสาวข้างกายเขา

รอยยิ้มในนัยน์ตาสีอำพันขยายขึ้น

แม่เขา...กับป้าของหล่อน






คุณนาเดียกับคุณนันทนายิ้มให้แก่กันอย่างพอใจเมื่อหมากทั้งสองเดินไปตามที่วางแผนไว้ แผนการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนใดๆ เลย เพียงแค่จับคนสองคนที่มีแรงดึงดูดกันมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน เมื่อทั้งสอง ‘ถูกทิ้ง’ ทั้งคู่ เพียงไม่นานเลยก็พบว่ามีอีกฝ่ายอยู่ในงานเลี้ยงนี้

“เห็นกันอยู่แต่ในโรงพยาบาล ต้องให้เปลี่ยนบรรยากาศแบบนี้แหละค่ะถึงจะคืบหน้า” คุณนาเดียเอ่ยยิ้มๆ

คุณนันทนาพยักหน้า ยิ้มกว้างเช่นกัน หวังว่าหมอหนุ่ม ลูกชายสุดหล่อของคุณนาเดียจะมองของขวัญจริงจังเช่นเดียวกับที่ผู้เป็นแม่เข้าใจ

การเดินตรงเข้าไปหาหลานสาวของเธอโดยไม่เหลือบแลหญิงสาวคนอื่นนั้นทำให้เธอโล่งใจไปเยอะเลยทีเดียว

หวังว่าเธอคงตัดสินใจไม่ผิด






ของขวัญรู้สึกได้ว่าสายตาของหญิงสาวหลายคู่มองมายังหล่อนอย่างไม่เป็นมิตรนัก แต่หล่อนแสร้งเป็นไม่เห็นไม่รู้สึก จริงๆ แล้วแค่มีร่างสูงใหญ่อยู่ข้างกายก็ทำให้หล่อนคิดอะไรอย่างอื่นแทบไม่ออกอยู่แล้ว แม้กระทั่งช็อกโกแลตเค้กแสนอร่อยตรงหน้ายังไม่สามารถดึงดูดความสนใจของหล่อนได้เลย

“ไม่อร่อยเหรอของขวัญ” ธีร์ถามมองช็อกโกแล็กเค้กในจานของหล่อนอย่างแปลกใจ ปกติหล่อนแพ้ช็อกโกแลตจะตาย “เป็นอะไร ท่าทางคุณเหม่อๆ นะ”

“เอ้อ...เปล่าค่ะ”

“จริงเหรอ...ท่าทางคุณแปลกๆ นะ” ธีร์ขมวดคิ้ว

“เอ่อ...ขวัญแค่ ไม่ชินกับงานแบบนี้น่ะค่ะ” ของขวัญแก้ตัวอุบอิบ

“แล้วชินกับงานแบบไหนล่ะ” ธีร์ระบายยิ้ม งานประเภทเสี่ยงอันตรายอย่างนั้นหรือเปล่า เขาเก็บประโยคนั้นไว้ในใจ

“งานแบบในห้องแล็บสิคะ” ของขวัญตอบ รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในนัยน์ตาคมที่หล่อนแปลความหมายไม่ออก และหล่อนก็สบตาคมนั้นได้ไม่นานพอที่จะอ่านได้เสียด้วย

“นั่นสินะ ผมก็ชินกับงานในห้องผ่าตัดมากกว่า” แต่เขาไม่รังเกียจเลยที่จะนั่งอยู่กับหล่อนในงานเลี้ยงแบบที่ถ้าเป็นปกติเขาคงหนีออกจากห้องจัดเลี้ยงไปนานแล้ว เขามองช็อกโกแลตของหล่อน แล้วหยิบมากินเสียเอง “ถ้าอิ่มแล้วเราไปย่อยอาหารกันดีกว่า”

“คะ...” ของขวัญมองเขางงๆ

“เต้นรำไง ไม่งั้นคงได้นั่งหลับกันตรงนี้” เขาพยักหน้าไปยังกลางห้องบอลรูมซึ่งจัดเป็นฟลอร์เต้นรำ วงดนตรีบรรเลงเพลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีดาราเท้าไฟหลายคู่สลับกันลงไปวาดลวดลายโดยไม่ให้ฟลอร์ว่าง

แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นคู่สูงวัย คู่หนุ่มสาวนั้นค่อนข้างบางตา

“ลีลาศนะคะ” ของขวัญสบนัยน์ตาคม

“ก็ใช่สิ อย่าบอกนะว่าคุณเต้นรำไม่เป็น” ธีร์หัวเราะเบาๆ “ไม่ยากหรอกน่า”

ของขวัญอยากทำอะไรหลายอย่างกับประกายวิบวับในนัยน์ตาคู่นั้นเหลือเกิน

“เป็นค่ะ” ของขวัญตอบสั้นๆ หากเป็นคำตอบที่ธีร์แปลกใจ

“อืม...ไม่ค่อยเห็นสาวๆ รุ่นคุณเต้นรำกันเป็นนะ”

“ขวัญไปลงเรียนลีลาศกับเพื่อนกายภาพค่ะก็เลยเต้นเป็น” ของขวัญตอบ ปรายตาค้อนนิดๆ ควรเป็นหล่อนมากกว่าที่จะถาม เขาเต้นรำเป็นด้วยหรือ

ธีร์ยื่นมือไปตรงหน้า

“ให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ”






ธีร์เต้นรำเป็น...และเก่งมาก ของขวัญเพียงแค่ขยับตามการนำของเขาไปแค่นั้น หล่อนรู้สึกเหมือนกำลังล่อยลอยอยู่เหนือปุยเมฆ ได้ยินเพียงเสียงเพลงที่แทรกเข้ามาในเสียงทุ้มนุ่ม หล่อนต้องเพ้อเจ้ออะไรอยู่แน่ๆ

“ผมไม่ได้ลงทะเบียนเรียนวิชาลีลาศหรอก” ธีร์กระซิบบอกขณะนำร่างเล็กบางเคลื่อนไปทั่วเวที หล่อนเต้นรำได้ดีพอๆ กับฝีมือยูโดของหล่อน

ของขวัญเหลือบตาขึ้น อยากจะค้อนที่เขาใช้คำพูดของหล่อน

“ไม่นึกว่าอาจารย์จะสนใจเรื่องเต้นรำ” หมอศัลยกรรมหัวใจนี่เอาเวลาไหนไปเต้นรำจนเก่งขนาดนี้

“ก็ไม่เชิงสนใจหรอก แต่มันจำเป็นน่ะ” เขาชำเลืองไปรอบๆ ตัว เห็นสายตาหลายคู่มองมา แต่ที่ทำให้รอยยิ้มของเขาขยายออกก็คือ ประกายวาววับจากนัยน์ตาสีน้ำตาลทองของมารดา

แม่จะมีแผนอะไรต่ออีกนะ

“คะ...”

“มันเป็นประเพณีน่ะ ที่โรงพยาบาลมีงานเต้นรำของพวกนักเรียนแพทย์ทุกปี เพราะฉะนั้นก็ต้องเต้นรำกันเป็นบ้าง” ” ธีร์หันกลับมาใส่ใจของขวัญ “ความจริงก็ไม่บ้างหรอก บางคนก็ฝึกกันจริงๆ จังๆ ใครเก่งก็จะได้เป็นคู่โชว์เปิดงาน อย่าง...ไชยยศ”

ของขวัญกะพริบตา หล่อนกำลังนึกภาพงานเต้นรำของนักเรียนแพทย์ที่มีภาพพจน์แสนเคร่งขรึม แล้วมาเกือบสะดุดเท้าตัวเอง

“หมอนั่นเก่งทั้งกิจกรรม เก่งทั้งเรียน” ธีร์จ้องลึกลงไปในดวงตาสีนิล เขาทันได้เห็นความสนใจในแววตาคู่นั้น ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติ “แต่นั่นแหละ...เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องเศร้าๆ เลย” เขาดึงเหยื่อกลับคืนก่อนที่หล่อนจะสงสัย

ถ้าจะมีอะไรที่ผิดปกติรอบตัวเขาก็มีเพียงเรื่องนี้

“แล้วนักศึกษาแพทย์ที่มหาลัยเก่าของคุณไม่เต้นรำกันหรือ”

“ไม่รู้สิคะ เห็นแต่ท่องตำรากันทั้งวันทั้งคืน” ของขวัญตอบ ระงับคำถามเกี่ยวกับเพื่อนสนิทของเขาไว้ เพราะไม่ต้องการให้ธีร์สงสัย

ธีร์นึกถึงตอนที่เรียน เขากับเพื่อนๆ ก็ท่องตำรากันทั้งวันทั้งคืนเช่นกัน เพียงแต่ยังหาเวลาไปบ้ากิจกรรมกันได้ทั้งคณะ ปัจจุบันรุ่นน้องเขาก็ยังเป็นแบบนั้นกัน

“เอาเป็นว่า... เป็นเรื่องดีก็แล้วกันนะว่าทั้งคุณทั้งผมเต้นรำได้”

ของขวัญไม่กล้าเงยหน้าขึ้น สายตาตรึงอยู่ที่แผ่นอกกว้างซึ่งก็ไม่ได้ทำให้การเต้นหัวใจของหล่อนเป็นปกติอย่างที่หวังเลย ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ นั้นยิ่งทำให้หัวใจสั่นไหว

ธีร์แทบไม่รู้ตัวเลยเมื่อเพลงจบลงแล้ว เขาพาของขวัญออกจากฟลอร์ แต่เขาไม่ได้พาหล่อนไปส่งที่ป้าของหล่อน หรือแยกตัวออกไป เขากลับพาหล่อนออกจากห้องบอลรูมเล็กที่ใช้จัดงาน






ของขวัญตามร่างสูงใหญ่ออกไปยังสวนลอยของโรงแรม หล่อนเบิกตาโต ความทรงจำฝ่าการเต้นกระหน่ำราวกับการรัวกลองของหัวใจเข้ามา ของขวัญแปลกใจที่ยังจำได้ถึงไออุ่นของร่างหนาที่หล่อนวิ่งไปปะทะในคราวนั้น

“วันนี้ไม่มีเด็กมาร้องไห้แฮะ” น้ำเสียงเจือหัวเราะทำให้ของขวัญค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคาย ส่วนที่หล่อนชอบที่สุดก็คงจะเป็นรอยยิ้มในดวงตาสีอำพันคู่นั้น

“ก็ดีแล้วล่ะค่ะ” ของขวัญพึมพำ วันนั้นหล่อนวิ่งแบบดูไม่จืดเลย หล่อนก้าวตามร่างสูงใหญ่ลงไปสู่สวนลอย แสงสลัวจากโคมไฟควรจะทำให้หล่อนรู้สึกว่าบรรยากาศน่ากลัวกว่านี้สิ

แต่ไม่เลย...

‘อยากให้มีผู้ใหญ่มาร้องไห้แถวนี้ไหมล่ะ’ เสียงคุ้นเคยดังขึ้น

ธีร์อยากจะถอนหายใจดังๆ ตัวกวนโผล่มาทำอะไรตอนนี้ เขายังมองไม่เห็นเมืองขวัญ แต่รู้สึกว่าลมพัดแรงขึ้นเล็กน้อย มุมปากโค้งขึ้น

“ลมชักแรง...หนาวไหมของขวัญ”

เมืองขวัญมองธีร์ถอดเสื้อสูทออกแล้วคลุมไหล่ให้ของขวัญตาถลน เขาอยากทำอะไรๆ ที่ลบยิ้มออกจากปากของธีร์ แต่ไม่ว่าจะทำอะไร ‘ไอ้หมอบ้า’ ก็มักจะเปลี่ยนเป็นโอกาสให้ใกล้ชิดของขวัญของเขาเสมอ

“ขอบคุณค่ะ” ของขวัญพึมพำ แหงนหน้าขึ้นแล้วแทบหยุดหายใจ นัยน์ตาพราวพรายที่มองสบตาหล่อนนั้นวาววับยิ่งกว่าดวงดาวในฤดูหนาวนั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้...ใกล้จนหล่อนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอบอุ่น

“โอ๊ย...”

ของขวัญกะพริบตา มองร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่กับพื้นอย่างงงงัน

“อาจารย์...เป็นอะไรคะ” หล่อนอุทานอย่างตกใจ

ธีร์อยากบีบคอร่างโปร่งแสงที่ยืนซ้อนอยู่เบื้องหลังของหล่อนนัก นอกจากจะไม่ยอมร่วมมือกับเขาแล้วยังจะทำตัวเป็นปฏิปักษ์มากขึ้นเสียอีก

เขาเองก็ลืมตัวว่ามีเมืองขวัญอยู่ใกล้ๆ

“ไม่เป็นอะไรหรอก...สงสัยผีผลัก” เขาขบฟันกรอด

‘ฝันไปเถอะไอ้หมอบ้า...อย่าคิดมาแตะของขวัญ’

“คะ...” ของขวัญเสียงสูง ลืมตาโพลง มองรอบตัวอย่างระแวง ไม่รู้ว่าหล่อนรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าลมแรงขึ้นจริงๆ

“เอ้อ...ผมแค่เปรียบเทียบ” ธีร์ลุกขึ้น รีบแก้คำพูดก่อนที่อาการกลัวผีของหล่อนจะกำเริบ “กลับเข้าไปข้างในดีกว่า”

‘อย่าคิดแตะของขวัญอีก’

ธีร์ได้ยินเสียงคำรามตามหลังก็ยกมุมปากขึ้น เมืองขวัญไม่ได้เรียนรู้เลยว่าอย่าท้าเขา








ชัชชนนท์ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสอง มองรถของธีร์แล่นเข้ามา นัยน์ตาคมฉายแววครุ่นคิด เขากำลังนึกถึงบทสนทนาเมื่อตอนเย็น แน่นอนว่าหล่อนปฏิเสธคำชวนไปรับประทานอาหาร เขาจึงเดินตามหล่อนไปยังลานจอดรถ

“คุณต้องการอะไรจากธีร์” เขาเอ่ยก่อนที่หล่อนจะก้าวขึ้นรถ หล่อนชะงักไปเลยทีเดียวก่อนจะหันมามองเขาเต็มตาเป็นครั้งแรก

“คุณหมายความว่ายังไงคะ”

“คุณก็รู้ว่าผมหมายความว่ายังไง” เขาสบตาใสกระจ่างของหล่อน เขานับถือเรื่องการตีหน้าตายของหล่อน ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าหล่อนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาเกือบนึกว่าหล่อนจะปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง แต่คำพูดของหล่อนทำให้เขาชะงักไปเลย

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรจะรู้ว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อนสินะคะ...Dark Shark” แล้วหล่อนก็ยิ้มบางๆ “บางที...อะไรๆ มันก็เป็นเรื่องบังเอิญได้ทั้งนั้นค่ะ”

เขาก็หวังว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญอย่างที่หล่อนว่า บังเอิญที่หล่อนรู้ชื่อรหัสของเขา บังเอิญที่หล่อนจะต้องมาเกี่ยวข้องกับธีร์

แต่...สัญชาตญาณบอกเขาว่าน่าจะมีมากกว่าความบังเอิญ

“ไอ้หมอธีร์...ผู้หญิงธรรมดาตั้งเยอะตั้งแยะไม่เคยสนใจ มาสนใจเอาคนไม่ธรรมดา”




+++++++++++++++++ พบกันวันจันทร์ค่ะ +++++++++++++++++++++




Create Date : 11 กันยายน 2552
Last Update : 11 กันยายน 2552 13:15:15 น. 43 comments
Counter : 1283 Pageviews.

 
นึกว่าจะไม่ได้อ่านซะแล้ววววววววววววววววววววววว
เด๋วมาเมนต์นะจ้ะ


โดย: หนุ่ย IP: 61.47.16.162 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:13:18:49 น.  

 
เขาพัฒนามากขึ้นเนอะ ได้เต้นรำกันด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
55555

แหม โรแมนติกจังเลยยยยยยยยยย ถอดเสื้อสูทคลุมให้ 5555

โอ้ยยยยยยยยยยอิจฉาจังเลยยยยยย
อยากมีแฟนเป็นหมอผ่าตัดบ้างงงง
แต่ถ้าได้แบบหมอธีร์ละก็....จะไม่กลัวโดนฆ่าหั่นศพเลยค่ะ 55555


โดย: so6jp IP: 61.47.16.162 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:13:37:52 น.  

 
มาแย้ว ๆ ดีใจจริง อ่านกอนนะคะ ขอบคุณค่า


โดย: กระต่าย IP: 192.168.1.31, 115.31.144.221, 117.121.208.2 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:13:39:30 น.  

 
ทำไมตอนนี้สั้นจัง - -"


โดย: natchan IP: 202.12.118.61 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:13:40:38 น.  

 
หมอธีร์อยากเป็นลูกกตัญญูซะงั้น อิอิ


โดย: หมีสีชมพู IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:13:41:25 น.  

 
มาช้าดีกว่าไม่มาเลย นะค่ะ


โดย: blackcrab IP: 58.8.177.156 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:13:50:58 น.  

 
และแล้วน้องธีร์ก้อมาอิอิอิอิ...........รอวันจันทร์ต่อไป


โดย: panon IP: 203.158.141.194 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:14:04:00 น.  

 
ก็คนไม่ธรรมดา เค้าน่าสนกว่านะ


โดย: MadamMim IP: 203.149.31.118 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:14:08:49 น.  

 
มาแย้ว มาแย้ว มาแย้ว

รอเสมอค่ะ

และจะรอต่อไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ

ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ คุณฬี คนสวย


โดย: ปุ๊ IP: 111.84.84.77 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:14:18:36 น.  

 
มาช้าก็ไม่เป็นไรค่ะ
ดีใจที่ยังมา^^

แต่ตอนนี้เริ่มติดใจพ่อปลาฉลามซะแล้วสิ อิอิ...


โดย: greenery IP: 58.9.147.40 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:14:23:13 น.  

 
วันจันทร์เอามากกว่าเต้นรำเลยนะ


โดย: Napat IP: 124.120.172.110 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:15:03:46 น.  

 
รออยู่นานแล้วค่ะ ชอบมากๆเลย


โดย: mmi IP: 192.168.0.143, 210.1.43.69 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:15:13:17 น.  

 
อยากให้มีมากกว่านี้อีกจังค่ะ ชอบมากๆเลย


โดย: mmi IP: 192.168.0.143, 210.1.43.69 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:15:18:03 น.  

 
โอ้ว...หมอธีร์เราเป็นลูกกตัญญูจริง ๆ น้าเนี่ย 55555++++


โดย: hayee IP: 124.120.121.96 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:15:21:47 น.  

 
เย้ๆๆๆ นึกว่าคุณฬีไม่ซะบายซะแหล่ว..
ขอบคุณค๊าบ


โดย: ตากุ๊ก IP: 58.9.38.151 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:15:44:09 น.  

 
รู้สึกสองเรื่องหลังของหนุ่มๆวรรณวิจักษ์หนุ่มชัชจะมีบทบาทเยอะพอสมควร แหมอยากให้หนุ่มคนต่อไปที่จะต้องสละโสดเป็นพ่อหนุ่มทหารเรือจริงๆ ^___^


โดย: unna_jung IP: 124.121.39.100 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:15:59:18 น.  

 
ขอเยอะๆๆๆๆกว่านี้ไม่ได้เหรอคะ
รีบมาลงเร็วๆนะคะ


โดย: ฟ้าเคียงเดือน IP: 58.9.101.234 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:16:03:47 น.  

 
โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆ หมอธีร์ทำไปได้

พี่ฬี นายกันต์หายไปเลย

อยากเจอก๊วนแสบประจำวรรณวิจักษ์

จังเลย เจอกานวันจันทร์ค่ะ



โดย: กุ๊กกิ๊ก IP: 110.164.31.106 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:16:23:11 น.  

 
นึกว่าไม่ได้อ่านซะแล้วซิ อิอิ ขอบคุณค่ะ เจอกันวันจันทร์นะ


โดย: วีริน IP: 202.176.81.127 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:16:33:47 น.  

 
เมืองขวัญไม่ช่วยเลย กำลังโรแมนติค อิอิอิ

ฝนตกทุกวันเลยค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยน่ะค่ะพี่ฬีฬา


โดย: นู๋เต่า IP: 61.90.24.3 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:17:06:01 น.  

 
กำลังโรแมนติกจังคะ


โดย: ฟ้า IP: 124.121.218.22 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:17:24:33 น.  

 
สั่ง กรกฎ กับ กันต์ธีร์ ออกมา ป่วน คุณหมอ ปากแข็งเจ้าแผนการ เดี๋ยวนี้เลยค่ะ

อยากรู้จัง โดนแซวคืนมั่ง พี่น้องธีร์จะทำอะไร กรกฎได้ ^_^


โดย: โบ IP: 111.84.23.97 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:17:32:04 น.  

 
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะพี่ฬี อยากได้แบบครบเล่ม(ต้น-จบ) ไม่ให้อารมณ์ค้างด้วยความอยากรู้ตอนต่อไป


โดย: ~Mint~ IP: 118.174.21.227 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:18:41:55 น.  

 

เจอกันวันจันทร์ ค่ะ


โดย: เอื้อ IP: 10.6.151.82, 202.28.183.10 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:18:53:31 น.  

 
เจอกันวันจันทร์จ้า อย่าผิดสัญญาอีกน๊า เขารออยู่ วันนี้หวานซ้า


โดย: นู๋หยง IP: 115.67.116.114 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:19:28:54 น.  

 
ค้างมากมายค่ะ รีบมาลงน่ะค่ะ


โดย: belle le weekend IP: 61.90.123.41 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:19:41:05 น.  

 
เกร๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด

อยากต่อๆๆๆๆๆ

ว่าแต่งานเต้นรำคอนเซปเดียวกะของใบไผ่ป่ะคระ อิอิ


โดย: meddy IP: 202.149.25.197 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:21:34:06 น.  

 
นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว แต่ได้อ่านนิดเดียวเองอะคะ


โดย: กระเพาะปลาน้อย IP: 115.87.76.235 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:21:44:41 น.  

 
วิดพื้นเพราะเมืองขวัญอีกแล้วธีร์


โดย: mimny วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:22:40:17 น.  

 
คุณฬีขา ขอหนุ่ม ๆ วรรณวิจักษ์รุ่นใหญ่ ๆ ทุกคนได้ไหมค๊าาาาาาา อย่าจบแค่คุณหมอเลยยยยยยย นะ นะ นะ



โดย: โอ๋ IP: 112.142.90.198 วันที่: 12 กันยายน 2552 เวลา:9:00:13 น.  

 
รอ รอ ค่ะ รวมเล่มเลยหละกันค่ะ อยากอ่านรวดเดียวเลยค่ะ อิอิ


โดย: nOOnie IP: 58.8.74.30 วันที่: 12 กันยายน 2552 เวลา:9:16:31 น.  

 
หมอธีร์พาของขวัญออกจากห้องไปแบบไหนนะ จูงมือ , แตะหลัง ? คุณฬี แต่งเรื่องนี้แบบยาวๆ 2 เล่มจบนะ อยากอ่านเรื่องราวของหมอธีร์เยอะๆนะ ค่ะ


โดย: โนโตะ IP: 203.146.251.232 วันที่: 12 กันยายน 2552 เวลา:11:43:35 น.  

 
สวัสดีวันจันทร์ค่ะ^^


โดย: greenery IP: 58.9.144.26 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:0:09:38 น.  

 
ขอบคุณคะ


โดย: คนตามอ่าน=gift IP: 118.173.96.78 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:0:12:00 น.  

 
มารอตอนต่อไปปปปปปปปปปปปปปปปปปป


โดย: หนุ่ย IP: 61.47.16.162 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:11:45:13 น.  

 
อย่ามาดึกนักนะคะ
กลัวจะรอหมอธีร์ไม่ไหวค่ะ
รอ รอ รอ รอต่อไป


โดย: napat IP: 124.120.168.234 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:14:33:51 น.  

 
คุณหมอธีร์จะออกทันงานหนังสือรอบนี้มั้ยน้า

รอตอนต่อไปคืนนี้ค่ะ


โดย: faire IP: 58.9.113.247 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:17:05:43 น.  

 
หมอธีร์ สู้ สู้ จ้า บทนี้ช่างโรแมนติคมากมาย แต่เมืองขวัญไม่น่าจะเข้ามายุ่งเลยน้า เออๆ ทำไมใคร ๆ ถึงได้เข้าใจผิดของขวัญน้าาาาาาาาาา


โดย: เจี๊ยบ IP: 118.173.14.159 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:18:29:39 น.  

 
ร๊อๆ


โดย: คอหมู IP: 110.49.45.238 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:22:21:45 น.  

 
จะมามั้ยน๊อ


โดย: meddy IP: 202.149.25.197 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:22:50:44 น.  

 
มาปูเสื่อรอค่ะ


โดย: หมีสีชมพู IP: 161.200.255.162 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:22:57:09 น.  

 
มาปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ
รอมาตั้งแต่บ่ายค่ะ


โดย: napat IP: 58.64.80.145 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:23:22:42 น.  

 
มาดึกๆอีกแล้ว แต่ก็จะตามอ่านนะคะ wait a minuit????


โดย: นู๋กบ IP: 222.123.152.225 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:23:45:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.