การเมืองเรื่องต้นไม้ : มะม่วง โมก พิกุล แก้ว และบานเช้า
ตอนย้ายบ้านมาใหม่ ๆ โครงการได้จัดสวนเล็ก ๆ ไว้บริเวณหน้าบ้านพร้อมปูหญ้านวลน้อยให้โดยรอบ เป็นหมู่บ้านและโครงการที่เน้นพื้นที่สีเขียวอย่างยิ่ง แต่อยู่ไป อยู่มา แต่ละบ้านก็ทยอยเปลี่ยนต้นไม้ทั้งตัดทิ้ง ทั้งเพิ่มเติม ตามความชอบไม่ชอบของแต่ละบ้าน
แรก ๆ คนสวนที่บ้านซึ่งมีเพียงหนึ่งคนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเลือกปลูกเลือกเปลี่ยนอะไร สมาชิกทั้งหลายในบ้านก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะคิดว่างานใช้แรงกลางแดดกลางลมช่างไม่เหมาะสมกับสมาชิกคนที่เหลือเป็นอย่างยิ่ง จนเมื่อคนสวนตัดสินใจว่าน่าจะปลูกไม้ใหญ่เช่นพิกุลและไม้ผลเช่นมะม่วง กล้วย ขนุน มะละกอบ้าง การอภิปรายเรื่องการเลือกต้นไม้จึงกลายเป็นวาระสำคัญประจำบ้านไป
คนสวนได้เสียงสนับสนุนหนึ่งเสียงเป็นเสียงของแม่ครัวประจำบ้าน ด้วยเหตุผลพ้องกันในเรื่องของปากท้องของจำเป็น แต่ได้เสียงคัดค้านสองเสียง แถมเป็นเสียงแข็ง ๆ ของฝ่ายชายที่ยืนยันว่าไม้ใหญ่เป็นภาระอย่างยิ่งเมื่อมันโตขึ้น รากมันจะชอนไชไปทั่ว พื้นที่เราเล็กนิดเดียวเดี๋ยวมันทำบ้านพัง ฝ่ายหญิงสองเสียงยื่นคำค้านด้วยเหตุผลที่พยายามให้เป็นเรื่องเดียวกัน คือ บ้านอื่นยังปลูกเลย
พ่อบ้านและคุณพ่อของพ่อบ้านหัวเราะหึ ๆ บอกว่า คุณ ๆ เหล่านั้นยังไม่เคยต้องจ้างคนตัดกิ่งมะม่วงทิ้งน่ะสิ จ้างตัดยังไม่พอต้องจ้างคนขนไปหาที่ทิ้งอีก คนสวนเลยต้องหันไปหากรรมการหนึ่งเดียวในบ้าน เจ้าตัวเล็กตอบฉาดฉานเป็นเรื่องเดียวกันว่า ปลูกต้นเข็ม ดอกมะเขือและหญ้าแพรก คำตอบมาเป็นชุด เพราะเจ้าหนูห่วงเหลือเกินว่าถึงเวลาไหว้ครูทีไร แม่ที่ตั้งตนเป็นคนสวนประจำบ้านไม่เคยหาดอกไม้ดอกหญ้าที่ว่านั่นให้ได้สักที เพื่อหาข้อยุติแบบละมุนละม่อม พ่อบ้านเลยอาสาเป็นคนขับรถพาแม่บ้านคนสวย เอ๊ย คนสวน! ไปหาซื้อต้นไม้มาปลูก ตามข้อสรุปที่ว่า ปลูกไม้ใหญ่ประเภทไม้ดอกได้บ้าง แต่อย่าเอาลงดินเลย ใส่กระถางไว้ดีกว่า ส่วนไม้ผลน่ะ ขอไว้ก่อน ขอเวลาให้คนสวนรู้จักธรรมชาติของต้นไม้จริง ๆ เสียก่อน เจ้าตัวออดเสียงอ่อยว่าชอบต้นหูกระจงมากยังไม่ปลูกเลย ต้นมันใหญ่มาก รากมันก็เยอะ ไว้บ้านเรามีที่ซักไร่สองไร่ค่อยปลูกก็แล้วกันนะ
ในการเจรจาต่อรอง เมื่อได้คืบคนก็มักอยากได้ศอก ข้อแลกเปลี่ยนในการไม่ปลูกไม้ใหญ่จึงกลายเป็นเงื่อนไขว่า คนทำงานนั่งโต๊ะควรใช้เวลาว่างนั่งกับดินกับหญ้าบ้าง และนั่งเฉย ๆ ไม่ค่อยสนุก ควรจะได้ตัดหญ้าไปด้วย หญ้านวลน้อยที่สนามนั้นมันช่างโตเร็วเหลือใจ
วาระเร่งด่วนในช่วงย้ายมาอยู่บ้านใหม่จึงจบลงด้วยข้อยุติว่าคนสวนในบ้านมีผู้ช่วยใหม่เป็นคนตัดหญ้าประจำบ้านเพิ่มอีกหนึ่งคน แล้วทั้งคนสวนและผู้ช่วยก็ช่วยกันเสาะหาต้นไม้ประดามีที่ดูดี ๆ เลี้ยงง่าย ๆ จ่ายไม่แพงมาปลูกไว้เต็มบ้าน
เมื่อหน้าฝนเริ่มมาเยือน สมาชิกในบ้านก็เริ่มออกมาประท้วง
ทำลานปูพื้นกระเบื้องตรงนี้เถอะ หญ้าไม่ค่อยได้ตัด รกจริง ๆ
ต้นก้ามกุ้งน่ะมันทำให้หน้าบ้านรกนะ หน้าบ้านน่าจะน่ามองตามนโยบายกทม.มากกว่านี้ เปลี่ยนใหม่เถอะ
ต้นบานเช้านี่ กิ่งใบมันเก้งก้างไม่สวยเลย เอาออกเถอะ ฯลฯ
ตอนแรกคนสวนปฏิเสธ เพราะยึดคติว่าต้นไม้ลงดินแล้ว เดินรากแล้ว มีชีวิตแล้ว จงปล่อยให้เขาเติบโตไปตามชีวิตของเขาเถิด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้เมื่อถูกประท้วงและขู่ว่าจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเนื่องจากแอบเอาต้นพิกุลออกจากกระถางไปหย่อนลงดินหลังบ้านถือเป็นการผิดพันธะข้อสัญญาในตอนต้น
แล้วปัญหาก็วนกลับมาที่เดิม เมื่อข้อเสนอของแม่ครัวถูกยื่นเป็นญัตติเข้ามาใหม่ว่า ควรปลูกมะม่วงเป็นอย่างยิ่ง
ต้นพิกุลน่ะเอาออกไป ต้นก็ใหญ่ กินก็ไม่ได้ ปลูกมะม่วงดีกว่า อยากกินมะม่วงแรด ตอนสุกมันอร่อยดี
เปรี้ยว!!
เสียงสมาชิกสภาในบ้านตอบแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน
ไม่ให้ปลูกนะ ขืนปลูกจะตัดทิ้งตั้งแต่มันยังไม่โต
เสียงผู้อาวุโสสูงสุดในบ้านบัญชาลงมาเสียงดังฟังชัด ต่อท้ายด้วยว่า
ปลูกอะไรไม่ปลูก ปลูกมะม่วงแรด!
ไม่รู้ล่ะ ปลูกพิกุลยังปลูกได้ ทำไมจะปลูกมะม่วงไม่ได้
คำตอบนี้ทำให้คนสวนหน้าจ๋อย และยิ่งจ๋อยหนักเมื่อสมาชิกทุกคนในบ้านถือหลักประชาธิปไตยไม่มีใครยอมใคร เจ้าตัวเล็กเสียงดังประจำบ้านจึงฉวยโอกาสยื่นญัตติเข้ามาบ้างว่า
ปลูกต้นมะลิกับพุทธรักษา เวลาวันพ่อวันแม่จะได้มีไปโรงเรียน ไม่งั้นต้องซื้อของคุณครูด้วย
ระหว่างที่รอต้นมะม่วงแรดที่สั่งคนรู้จักกันซื้อมาให้นั้น อุณหภูมิในบ้านเริ่มขึ้นสูง คนสั่งห้ามก็ฮึ่ม ๆ อยู่ประมาณว่า มาเมื่อไหร่จะตัดทิ้ง จนคนสวนซึ่งแอบเห็นด้วยกับแม่ครัวว่าน่าจะปลูกมะม่วงเอาผลเอาร่มเงาจึงต้องเข้าไปเป็นคนกลางตามประสาคนมีผลประโยชน์ร่วม
คุณปู่ขา อย่าห่วงไปเลยค่ะ ปลูกแล้วจะไม่ปล่อยให้มันโตจนมีปัญหาเหมือนที่บ้านเก่าหรอกนะคะ เดี๋ยวจะคอยตัดยอดมันทิ้งเองค่ะ คุมไม่ให้มันโต จะไม่ให้สูงเกินสามสี่เมตรหรอกค่ะ
ฝ่ายล็อบบี้ทำงานไม่ยากนักเพราะประธานที่ปรึกษาฝ่ายค้านเริ่มใจอ่อน
ก็ไม้มันใหญ่
มีปัญหาจริง ๆ แต่ถ้าจะคอยช่วยตัดช่วยเล็ม มันก็พอได้ มะม่วงน่ะร่มเงามันดีอยู่หรอก มีลูกให้เก็บกินได้ด้วย
นั่นสิคะ ถ้าคุณปู่ไม่ชอบมะม่วงแรดเปลี่ยนเป็นเขียวเสวยดีไหมคะ
คนล็อบบี้ได้ทีหยิบวาระแอบแฝงของตัวเองแทรกเข้าไปทันที ท่านประธานฝ่ายค้านหยุดคิดไปครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า
มะม่วงหนองแซงน่ะ อร่อยนะ หายากด้วย
คนสวนรีบปิดประเด็น ด้วยการรีบออกไปหาซื้อต้นมะม่วงมาด้วยตนเอง เอาน่า
. แม้ไม่ได้เขียวเสวย แต่ได้หนองแซงก็ยังดีกว่ามะม่วงแรดก็แล้วกัน
แล้วกำแพงต้นไม้ก็ถูกทลายจนกลายเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง เมื่อต้นก้ามกุ้งถูกขุดทิ้งไปจนหมด ต้นไม้เล็ก ๆ ประเภทบานเช้าก็ถูกสั่งให้ขุดทิ้งออกไปด้วยกัน ขณะเตรียมดินเพื่อปลูกรั้วต้นแก้วและต้นโมกตลอดแนวหน้าบ้านนั้น คนตัดหญ้าผู้รู้อนาคตดีว่าอีกไม่นานคงต้องกลายเป็นคนตัดกิ่งมะม่วงทั้งที่ยื่นประท้วงแล้วแต่แพ้คะแนนความดันทุรังของฝ่ายหญิงเสียงดังสองคนในบ้าน ยื่นเก้าอี้นั่งเล็ก ๆ ให้คนสวน พร้อมบอกเสียงนิ่ง ๆ ว่า
อายุก็เยอะ น้ำหนักก็มาก อย่านั่งยอง ๆ เลยเดี๋ยวมีปัญหาเรื่องเข่า
ถ้าเป็นยามปกติ คนฟังต้องตะแง้ว ๆ กลับเป็นทำนองว่านี่คือความห่วงใยหรือคำต่อว่า ทั้งแก่ทั้งอ้วน กันแน่ แต่เนื่องจากกำลังมีความสุขใจจากการได้ปลูกมะม่วงจึงไม่คิดจะหาเรื่องต่อล้อต่อเถียงตามความเคยชิน ก้มหน้าก้มตาอยู่กับกองดินตรงหน้า แล้วอยู่ ๆ เสียงนิ่ง ๆ เฉย ๆ ก็กลายเป็นเสียงอ่อย ๆ ตามมาว่า
ถ้าวันไหนว่าง พอมีเวลา ช่วยหาซื้อบานเช้าต้นเล็ก ๆ มาปลูกให้หน่อยนะ เดี๋ยวจะคอยตัดเอง จะพยายามคุมไม่ให้มันโตเก้งก้างเกะกะอีก
คนสวนซึ่งเป็นคนขุดต้นบานเช้าทิ้งกับมือถึงกับหยุดกึก ไม่ยักรู้มาก่อนว่าเพื่อนที่ทำงานกลางแจ้งด้วยกันมานานหลงรักต้นบานเช้า มองหน้าคนใกล้ตัวที่นั่งสับหญ้าให้ต้นมะม่วงหนองแซงแล้วรู้สึกหัวใจตัวเองอ่อนยวบ เป็นครั้งแรกที่เริ่มรู้สึกว่า คนที่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ใช่ผู้ชนะที่แท้จริงเสมอไป
Create Date : 04 กรกฎาคม 2551 |
|
7 comments |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 9:35:18 น. |
Counter : 1122 Pageviews. |
|
|
|
เออหนอ การเมืองเรื่องบ้านเมือง ลามปามมาถึงการเมืองในบ้าน ฟาดหัวฟาดหางลามปามมาถึงในสวน
คนเขาเคยพูดไว้ว่า การเมืองคือเรื่องการต่อรองผลประโยชน์ บ้างก็ว่า การเมืองคือสงครามที่ไม่หลั่งเลือด แต่สงครามเป็นการเมืองที่หลั่งเลือด
ต่อไปน่าจะมีนักปราชญ์มาเขียนตำราพิชัยสงครามว่าด้วยการเมืองในสวนบ้างท่าจะดี บทแรกน่าจะว่าด้วยอธิปไตยเหนือพื้นที่สวน อาจจะต้องปักปันเขตแดน ต้องมีการลงนามในสนธิสัญญา และอนุสัญญา หรือแถลงการณ์ร่วมฯลฯ
ยิ่งคิดก็ยิ่งสนุกนะ
คนคิดน่ะสนุก แต่คู่ขัดแย้งต่างขั้วคงไม่ค่อยสนุกแฮะ...