หอมกลิ่นดอกแก้ว
ใครจะเชื่อว่าแก้วต้นนี้อายุแปดปีแล้ว ถ้าเป็นคนอายุแปดปีก็คงเป็นเด็กน้อยชั้นประถม ยังเด็กเล็กนัก แต่เมื่อเป็นต้นไม้ อายุแปดปีก็น่าจะโตเติบใหญ่ให้ดอกใบและร่มเงา
แต่ต้นแก้วหน้าบ้านตอนนี้สูงเพียงเมตรเศษเอง พุ่มใบก็บางมีดอกครั้งหนึ่งก็แค่ไม่กี่ดอก และไม่กี่วันก็ร่วงหายไปหมด หลายคนอาจจะคิดว่านี่คงเป็นไม้ต้นแกร็นแน่ ๆ ไม้อะไรกัน อายุตั้งแปดปี ยังต้นเตี้ย ผอมบางและใบน้อยนิดเดียว เจ้าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่หนอ จึงจะยืนต้นสูงใหญ่เท่ากับเพื่อน ๆ ต้นแก้วที่มีอายุเท่าเทียมกัน
.
ตอนที่เราถามเจ้าอยู่ในใจขณะเอามือไล้ใบเล็ก ๆ เขียว ๆ แข็ง ๆ ของเจ้านั้น เหมือนเจ้าจะรู้ว่าเราคิดอย่างไร จึงทำตัวเป็นต้นไม้พูดได้อย่างในนิยายของไทยสมัยโบราณ เอ้อ, ของหลาย ๆ ชาติในโลกนี้ด้วยมั้ง ไม่งั้นในปัจจุบันเราจะเห็นต้นไม้พูดได้ แถมยังกรีฑาทัพมาต่อสู้ผู้รุกรานได้เหมือนอย่างในหนังเรื่อง เดอะลอร์ด ออฟ เดอะ ริง และในเรื่อง นาร์เนีย หรือ
เราได้ยินเสียงต้นแก้วชวนเรากลับไปอดีตเมื่อแปดปีก่อนโน้น วันที่เราพาไม้อ่อนต้นเล็ก ๆ ใส่กระถางมาปลูกที่บ้านหลังเล็ก ๆ ของเรา และเพราะความที่เล็กทั้งบ้านและพื้นที่ เจ้าแก้วน้อยจึงต้องอยู่แต่ในกระถาง
ณ ตอนนั้นเราได้ยินเสียงเด็กน้อยร้องไห้ อ้อ, ลูกชายของเราเอง เราพาต้นแก้วมาอยู่เป็นเพื่อนทางใจแม้จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเด็กน้อยที่เป็นลูกเราเสียมากกว่า ลูกชายเริ่มเติบโต และต้นแก้วก็เริ่มเติบใหญ่
เราเปลี่ยนกระถางใบใหม่ให้ใหญ่ขึ้นสมกับต้นกับกิ่งก้านใบ ที่ยืดขยายตามอายุ ยกที่ลานปูนหลังบ้านบนพื้นที่กว้างยาวสี่ตารางเมตรให้เป็นที่อยู่ร่วมกับเจ้าโมกและพืชพันธุ์เล็ก ๆ ที่ไปเสาะหาตามมาให้อยู่เป็นเพื่อนด้วยในตอนหลัง พวกเจ้าอยู่ด้วยกันตรงนั้นนานหลายปีทีเดียว เรายังจำได้ว่าเจ้าแตกกิ่งก้านใหญ่ขึ้น แถมยังให้ดอกหอมอวลในยามเย็นที่เราอาศัยหลบลมร้อนอ้าวของบ้านและงานที่สุมตัวไปขออาศัยพักและซึมซับรับเอาพลังเย็น ๆ มาเป็นของตอบแทน
ในช่วงปีหลัง ๆ เสียงลูกชายร้องไห้เบาบางลงตามเวลาที่เติบโตขึ้น แล้วบ้านก็เงียบลง ช่วงนั้น เราวุ่นอยู่กับเสียงสั่งงานในสมอง จนไม่ได้ยินเสียงทักทายของต้นแก้วอีกเลย
.
แล้วก็ถึงวันนั้น วันที่เราเห็นภาพตัวเองเหนื่อยเหมือนหมดแรงหมดใจจนต้องนั่งระโหยนิ่ง ๆ บนเก้าอี้ข้าง ๆ ต้นแก้ว ในความอ่อนล้าและรู้สึกห่อเหี่ยวไร้พลัง เราเพิ่งได้สังเกตว่า ต้นแก้วก็ไม่แตกต่างกัน ความเจริญเติบโตของเพื่อนเราหยุดอยู่เท่าขนาดของกระถางที่ไม่เคยเปลี่ยนให้อีกเลย ต้นแก้วหยุดสูงแล้ว ใบแก้วเริ่มอ่อนโรย และขณะนั้นใบไม้เริ่มเหี่ยวเฉา บอกเตือนว่า เราช่างไม่เอาไหน ห่วงแต่ตนเองและงานจนลืมทิ้งเพื่อนให้ยืนแห้งซีดเซียวอย่างไม่ใส่ใจ ณ ตอนนั้น ลูกชายน้อยส่งเสียงสวัสดีดังแจ้ว ๆ หลังกลับจากโรงเรียน แกโตเกือบเท่าต้นแก้วแล้ว เราหันไปหอมแก้มลูกชาย ซึ่งวิ่งมาทักทายที่หลังบ้านข้างต้นแก้วที่เรานั่งอยู่ แต่ตอนนั้น ไม่มีกลิ่นหอมของดอกแก้วอีกแล้ว ในความเงียบของบางวัน เราและเจ้าเคยหยุดนิ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน แม้ไม่มีเสียงตัดพ้อต่อว่า แต่เราก็อดบอกเจ้าที่ยืนต้นอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้ว่า เราอยากหาบ้านใหม่ให้เจ้าเหลือเกิน เราอยากพาเจ้าลงดิน อยากเห็นเจ้ายืนต้นเติบโตเหมือนต้นแก้วที่ฝังอยู่ในใจเรา ต้นแก้วที่เป็นไม้ใหญ่สูงนับสิบเมตร ต้นที่เหยียดตัวผงาดอยู่ระหว่างอาคาร ให้ร่มเงา ดอกสวย และกลิ่นหอมอบอวล รอเราสักนิดนะ
. เออแน่ะ, ในอารมณ์อย่างนี้ ต้นไม้ชวนคนคุย หรือคนชวนต้นไม้คุยกันแน่ก็ไม่รู้เหมือนกัน
แล้วก็ถึงวันที่เราสัญญากันไว้ เราพาเจ้ามาอยู่ด้วย ณ บ้านใหม่ แอบสัญญากันไว้เงียบ ๆ ว่าจะให้เจ้าเป็นไม้ประธาน จะขนานนามสวนใหม่แห่งนี้ว่าสวนแก้วกังสดาล
.ชื่อสวนที่พ่อของลูกชายได้ยินแล้วยิ้มขันส่ายหน้า เหมือนจะบอกว่าชื่อมันอ่อนหวานเกินไป ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงไม่ว่ากับผู้ชายแข็งกระด้างอย่างเขาหรือผู้หญิงกร้าวเจ้าอารมณ์อย่างเรา
ก่อนการย้ายบ้าน เราตั้งใจพาเจ้ามาอยู่ก่อน เราลงมือขุดดินเป็นหลุมกว้างตรงสนามหญ้าหลังบ้านด้วยตนเอง พื้นดินขุดไม่ยากนักเพราะโครงการที่เราซื้อบ้านอยู่ใช้ดินเหนียวเทพื้นทำสนามหญ้ารอบ ๆ บ้านให้ เราปลูกเจ้าไว้ที่หลังบ้าน เพราะกะเก็งแล้วว่าน่าจะเป็นมุมที่ร่มรื่นที่สุด และเป็นมุมที่เราจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากที่สุด
แม้เจ้าจะดูเตี้ยลงเมื่อเราทุบกระถางทิ้งแล้วหย่อนเจ้าลงดินก่อนขุดกลบ แต่เราก็มองว่าเจ้าเป็นไม้ใหญ่ได้ เจ้าคงเติบโตสวยงามอย่างภาพในใจของเราได้ วันนั้นเราได้ยินเสียงเจ้าหัวเราะสดใส และหัวใจของเราก็แสนชื่นบาน
ถ้าการเดินทางของเจ้าหยุดแค่ตรงนั้น ป่านนี้เจ้าคงเติบใหญ่ขึ้นมากแล้ว
ช่างน่าเสียดายเหลือเกินที่เกิดการพลิกผันบางอย่างขึ้นภายในครอบครัวของเรา และถึงจุดที่ทำให้เราต้องขุดย้ายเจ้าออกจากดินใหม่ที่เจ้าเพิ่งลงไปอยู่ได้ไม่ถึงเดือน
เราเก้ ๆ กัง ๆ พาเจ้ามาอยู่ที่มุมหน้าบ้าน แสนสงสารเจ้าหนักหนาที่ยังคงงงงันไม่หาย ปรับตัวไม่ได้กับการถูกเปลี่ยนย้ายอย่างกะทันหันในช่วงเวลาที่ยังไม่ทันลงรากเดินดินเช่นนี้ ดูเจ้าอ่อนโรยและเหนื่อยล้าเหลือเกิน และเราเองก็ไม่แตกต่างกัน
หลายเดือนแล้วที่เจ้ายืนต้นนิ่ง ๆ อยู่ตรงนั้น กิ่งใบของเจ้าถูกเราริดออกในช่วงช่วยเจ้าปรับสภาพ ตอนแรกดูเจ้าไม่อยากฟื้นคืนตัวจนเราออกจะท้อใจ บางครั้งก็ถวิลหาแก้วต้นใหญ่ที่ยังแจ่มกระจ่างในความคำนึง เมื่อมีโอกาสเราจึงไปหาซื้อ พาเพื่อนแก้วต้นใหม่ ต้นสูงใหญ่กว่าเจ้ามากมาย มาปลูกลงไว้ ณ ตำแหน่งใกล้เคียงกับที่เคยเป็นที่อยู่เดิมของเจ้าในบ้านใหม่
เราไม่รู้อายุของแก้วต้นนั้น แต่ดูจากโคนต้น ก็อาจจะใกล้เคียงกับเจ้าแก้วแกร็นของเรา ตอนนั้นเราหลงไปปลาบปลื้มกับภาพต้นแก้วในใจที่เกือบจะกลายเป็นจริง แม้ว่าเจ้าแก้วต้นใหม่จะสูงเพียงสองเมตรกว่า แต่เราก็คิดว่า อีกไม่นาน ลำต้นคงสูงตระหง่านดังที่เคยวาดภาพไว้ในใจ
เวลาผ่านไปพอสมควรกว่าเราจะตระหนักรู้ได้ว่า เจ้าแก้วในใจของเราไม่ใช่ไม้ใหม่ที่เราซื้อต้นสูงใหญ่มาปลูก แต่เป็นความหวังที่จะเห็นต้นแก้วเล็ก ๆ ของเราเติบโตได้อย่างที่ควรจะเป็นต่างหาก ต้นแก้วในฝันของเราคือเจ้าต้นเล็กต้นเดิมที่ตอนนี้ดูเหมือนจะแคระแกร็นไปแล้ว
ย่างเข้าหน้าฝนอีกครั้ง เรามาอยู่ด้วยกันที่บ้านใหม่เกือบครบปีแล้ว ดอกแก้วบนต้นเล็ก ๆ ที่ไม่เคยมีดอกมานานก็เริ่มผลิออก แม้จำนวนจะไม่มากเท่าต้นแก้วต้นใหม่หลังบ้าน แต่ก็เป็นความชื่นใจอย่างที่สุด เพราะ ณ ขณะนั้น เป็นช่วงเวลาที่เรากำลังต้องการรูปดอกแก้วประกอบหนังสือที่ตั้งใจทำเป็นงานร้อยกรองเรื่อง สวนแก้วกังสดาล อยู่พอดี ดอกแก้วเล็ก ๆ ที่หลบมุมอยู่ใต้ใบของเจ้าแก้วหน้าบ้านกลายเป็นภาพประกอบปกในที่เป็นส่วนของคำอุทิศของหนังสือ
แล้วเราก็ได้หอมกลิ่นดอกแก้วในหัวใจอีกครั้ง นับจากนี้อีกนานแค่ไหน เราก็จะรอและเฝ้าดูแลช่วยเหลือให้เจ้าแก้วต้นเล็ก ฟื้นตัวและเติบโต...
Create Date : 01 กรกฎาคม 2551 |
|
15 comments |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2551 11:08:10 น. |
Counter : 1713 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ลุงแว่น 1 กรกฎาคม 2551 16:20:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลาอ้วน 1 กรกฎาคม 2551 19:16:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: เรื่องของแม่บ้านญี่ปุ่น IP: 220.7.112.34 2 กรกฎาคม 2551 8:57:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 2 กรกฎาคม 2551 10:54:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: รัตตะ (ratta ) 2 กรกฎาคม 2551 13:39:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: อนันตลัย 4 กรกฎาคม 2551 21:59:57 น. |
|
|
|
|
|
|
|