ต้นทุนชีวิตคือการสะสมความเคยชินที่ดี
ปีบ: จากป่าสู่บ้านในเมือง



เดินเข้าบ้านเห็นต้นไม้ชื่อว่าปีบ
ยืนต้นลีบสูงเก้งก้างอยู่ข้างหน้า
เจ้าไม้ใหญ่ถูกขุดทึ้งดึงออกมา
ทิ้งบ้านป่า ทิ้งรากแก้ว ไว้แนวไพร

เปลี่ยนที่อยู่เดินทางมาไกลมาก
ใช้เวลาเดินรากในบ้านใหม่
แม้รากแก้วขาดแล้วใช่ขาดใจ
ยังเหลือใยชีวิตให้ติดตาม

เจ้าคงผ่านการเดินทางที่ลำบาก
เจ้าคงอยากบอกเล่าหากเฝ้าถาม
ว่ากว่าฟื้นยืนต้นใหม่ให้งดงาม
ต้องก้าวข้ามอะไรบ้างในบางครา

มีคนช่วยประคองเจ้าด้วยเสาไม้
ปักยึดไว้รอบด้านให้แน่นหนา
สู้ลมแรงไม่ล้มโค่นโอนไปมา
ให้เวลาเจ้ายึดรากฝากชีวิต

กิ่งก้านบางของเจ้าดูเหงาหงอย
ใบเล็ก ๆ ปลิวลอย..ไม่อยู่ติด
สีเหลืองแห้งแจ้งใจเตือนให้คิด
หว่างชีวิตปีบดิ้นรนให้พ้นตาย

สลัดใบให้คายน้ำเพียงเล็กน้อย
ยืนต้นคอยสู้อยู่รู้จุดหมาย
ถึงบอบบาง ใช่สำอาง ใช่กรีดกราย
เจ้าเป็นไม้ยืนต้น ต้องทนทาน

ไม่ใจอ่อนยอมแพ้เอาง่าย ๆ
ชีพเจ้ามีความหมายถึงลูกหลาน
อายุเจ้ายั่งยืนอยู่ยาวนาน
เพียงพ้นผ่านช่วงนี้จะดีเอง

เรารักเจ้าปลูกเจ้าในวันนี้
จะดูแลอย่างดีแม้ไม่เก่ง
เพราะเจ้ามีชีวิตของเจ้าเอง
เราไม่เร่งให้เจ้าฟื้นหรือคืนตัว

ใช้เวลาอย่างที่เจ้าต้องการใช้
ใช้พลัง ราก ต้น ใบ ให้ถ้วนทั่ว
ใช้ดิน แดด ลม น้ำ ซ่อมสร้างตัว
ใช้ชีวิตเต็มตัว เต็มหัวใจ

คงอีกนานกว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง
ความแข็งแรงหาใช่มีทันทีได้
ใช้เวลาผ่อนพักรักษากาย
แล้วแตกใบกิ่งก้านดอก ออกเมื่อพร้อม

ปลูกต้นไม้ต้องรอได้ใช่ไหมเล่า
ปลูกชีวิตปรับใจเราเฝ้าถนอม
ชีวิตจริง ต้นไม้จริง ใช่สิ่งปลอม
แมกไม้ล้อมใจร้อนสอนให้เย็น....







Create Date : 09 กรกฎาคม 2551
Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 8:27:53 น. 21 comments
Counter : 2212 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาวสวน
เปลี่ยนบรรยากาศมาอ่านกลอนกันบ้างนะคะ


โดย: kangsadal วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:29:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เขียนได้ไพเราะ และภาษาสวยงามมากค่ะ
(ปีปชอบมาก ๆ เลยค่ะ..แต่ที่บ้านพื้นที่น้อยเลย
ปลูกได้แค่พุดน้ำบุษย์ ซึ่งก้านดอกลักษณะเดียวกัน
และมีกลิ่นหอมเหมือนกันทดแทนค่ะ)


โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:44:55 น.  

 
ปีบต้นโค่งโย่งเย่งก้างเก้งก่าย
เขาปลูกขายตีราคาค่าความสูง
ว่าเป็นเมตรคูณเป็นค่ามาจ่ายจูง
เยี่ยงยางยูงหลายพันธุ์ไม้ในเวลา

ใช้สารเร่งราดหลั่งทั้งฉีดพ่น
เพื่อให้ต้นสูงเสริมเพิ่มมูลค่า
ให้ทันขายทันใช้ได้ราคา
สร้างเงินตราตามค่ายุคทุนนิยม

ปีบจึงโค่งโย่งเย่งก้างเก้งกิ่ง
ไม่สมจริงผิดสัดส่วนชวนขื่นขม
พึงระวังยามฝนฟ้าพายุลม
อาจพัดล้มโค่นครืนสุดฝืนทน

ควรตัดแต่งเรือนยอดให้ปลอดโปร่ง
ไม่โต้ลมยืนโย่งโล่งกลางหน
รอให้แตกกิ่งใหม่ได้เติบตน
เป็นปีบต้นสมส่วนจึงควรเอย.


โดย: ลุงแว่น วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:15:54 น.  

 
ชอบดอกปีปค่ะ เพราะมันเป็นสัญลักษณ์สภาการพยาบาลที่เราเป็นสมาชิกอยู่ แต่ที่ยะลานี่ดอกปีปไม่มีกลิ่นนะ แปลกดี






ปล.ของลุงแว่นเรียกว่ากลอนค่ะ แต่ของจขบ.เรียกว่า...อะไรดีร่าย? ลำนำ?


โดย: บูดูหวาน IP: 118.173.191.58 วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:24:22 น.  

 
อ่านแล้ว..ปีปบ้านนี้โชคดีที่ได้คนดูแลที่เข้าใจ และหลงไหลในการปลูก ถึงจะโตผิดส่วนไปบ้าง เมื่อปุ๋ยดี น้ำดี ไม้ค้ำแข็งแรง ปีปเก้งก้างจะเติบใหญ่ กิ่ง ก้าน ราก ใบ..จะแข็งแรงสวยงาม ให้ร่มเงา และดอกสีขาวนวล กลิ่นหอมจรุง..ในไม่ช้า

เข้ามาสวนแก้วฯ ทีไรก็ได้ความอิ่มใจกลับไปทุกครั้ง
อ่านแล้วชอบกลอนปีป บทนี้มากค่ะ ให้อะไรมากกว่าการปลูกต้นไม้นะคะ ทำให้ย้อนกลับมาดูตนได้..

ชอบทั้งต้นปีป และกลอนปีป ค่ะ


โดย: กลีบดอกโมก วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:30:27 น.  

 
กลอนเพราะมากค่ะ ..

ชอบปีบเหมือนกันค่ะ ..
เค้าน่ารักดีเนอะ ..
แม้บางทีจะผลัดใบให้เรากวาดเล่นซะเยอะ


โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:23:56 น.  

 
ขอบคุณภาพพุดน้ำบุศย์จากคุณชีวิตมีลีลามากค่ะ สวยจัง เคยได้ยินมานานแล้วแต่ไม่รู้จัก

และอยากบอกคุณลุงแว่นด้วยว่า....

เคยตัดยอดปีบในภาพออกแล้วค่ะ
เห็นจะจะ ว่าตายแน่จึงแก้ไข
ใบเคยเหลือง หล่นร่วง ห่วงเหลือใจ
ตัดยอดทิ้งเหมือนตัดใจ เพราะโกร๋นเลย

ตอนได้มามีคนบอก ว่า "ปีบป่า"
พอลุงแว่นเล่ามาเหมือนเฉลย
ว่าถูกหลอกอีกแล้วเรา เศร้าจังเลย
กว่าจะรู้ คนคงเย้ย เยาะอีกนานนนนนน

ส่วนกลิ่นหอมของดอกปีบนั้น ยังไม่เคยได้รู้เลยว่าเป็นอย่างไร เพราะแค่ใบยังหายาก ดอกก็ยังไม่มี แต่มีใจฝากมาให้คุณบูดูหวานที่ยะลานะคะ ชื่นชมในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกท่านทางใต้ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ด้วย

มีกำลังใจแบ่งไปให้คนอื่นได้มากมาย เพราะได้รับบ่อย ๆ จากคุณกลีบดอกโมก ขอบคุณมากนะคะ และขอบคุณบ้านอุ่นรักด้วยค่ะ ที่มาช่วยให้สวนนี้อบอุ่นขึ้น


โดย: kangsadal วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:50:15 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะ

แวะมาบอกเรื่อง font กับ โปรแกรมค่ะ

font ไปโหลดได้ที่นี่เลยค่ะ

//www.f0nt.com/download/

ส่วนโปรแกรมแวะไปบ้านคุณพิตต้าเลยค่ะ ..
คุณครูน่ารักใจดีด้วยค่ะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=khunpitta&group=4


โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:42:43 น.  

 
อะหา... เจอนักเลงกลอนเข้าอีกคนแล้ว ดีใจจังครับ
เดี๋ยวนี้หาคนต่อกลอนด้วยค่อนข้างยาก

เห็นแว้บ ๆ ว่าคุณกังสดาดทำหนังสือทำมือ เผอิญผมก็กำลังสนใจทำหน้งสือทำมืออยู่เหมิอนกัน คงจะได้มาขอคำแนะนำและแลกเปลี่ยนกันบ้างนะครับ

เรื่องต้นปีบที่เขาล้อมมาขาย ตอนนี้ปีบในป่าในธรรมชาติแทบไม่มีเหลือให้ล้อมแล้วละครับ เขาก็เลยปลูกขาย

การปลูกขายนี่เขาจะปลูกในที่แคบๆ เบียด ๆ กัน แล้วเร่งด้วยสารเร่งโต ทำให้ต้นยืดยาว ต้นไม้ที่ปลูกในทึ่แคบ ๆ จะต้องแข่งกันสูงเพื่อรับแดด ต้นไม้พวกนี้จึงไม่ค่อยสมส่วน ถ้านักเลงต้นไม้พอเห็นปุ๊บจะรุ้ได้เลยว่าเป็นไม้ปลูกแบบเร่ง

เมื่อไม่นานมานี้ บ้านญาติคนหนึ่งที่ลงปีบต้นสูงท่วมหลังคา ปลูกมา 3-4 ปี กิ่งก้านด้านบนแน่นหนาดี มีดอกหอมเชียวละ แต่ชื่นชมดอกอยู่ได้ไม่นาน พายุพัดทีเดียว โค้นทั้งต้นเลยครับ ดีที่เฉียดบ้านไปหน่อย กระเบื้องหลังคาแตกไปสองสามแผ่น ก็เลยเขียนกลอนเตือนไว้ ถ้าจะให้ดีตัดยอดให้สั้นลงสักหน่อย ให้เขาแตกกิ่งสร้างทรงพุ่มใหม่เอาให้เตี้ย ๆ หน่อย ทำให้ไม่ต้านลมมากนัก จะได้ชื่นชมเขาได้นาน ๆ ไงละครับ


โดย: ลุงแว่น วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:17:30 น.  

 
ปีป....กลิ่นหอมมากค่ะ

ที่ไร่ (เพชรบูรณ์) ขึ้นเองตามธรรมชาติ เยอะมาก
ทั้งต้นใหญ่ ต้นเล็ก...


โดย: นางฟ้าอรชร วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:42:25 น.  

 
ที่บ้านปลูกไว้หลายต้นเหมือนกัน


โดย: ทัยสงขลา IP: 203.113.107.141 วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:53:40 น.  

 
แต่งกลอนเองเลยเหรอคะ เก่งจัง ลุงแว่นก็ด้วย สูดดยอดด
บ้านสวยค่ะ


โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:50:40 น.  

 
โอ้โฮ...เจ้าบทเจ้ากลอนด้วยหรือนี่ ?

บ้านผมก็มีต้นปีบ แต่ปลุกตั้งแต่ต้นเล็กๆ

ผมชอบเวลามันออกดอกในฤดูหนาว

หอมหวนถึงความหลังถึงป่าบางแห่ง


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.21.254 วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:24:46 น.  

 
รอรากนานเลยนะครับเนี่ย ยังไงก็ค้ำยันให้มั่นคงนะครับ


โดย: ST.Exsodus วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:40:36 น.  

 
อ่านแล้วสบายใจมาก ขอชืนชม เป็นไม้ประจำจังหวัดพิษณุโลก และที่บ้านก็ปลูกไว้หลายต้น
ว่านนกคุ้ม กับนกคุ้มคนละอย่างกัน แต่น่าจะมีความหมายตามความเชื่อเดียวกัน (เข้าใจเอาเอง)ถ้าได้ข้อมูลใหม่จะเรียนให้ทราบอีกครั้ง
ฝนตกบ่อย ดูแลสุขภาพด้วย


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:49:07 น.  

 
สวัสดีค่ะ

เพราะบ้านใคร ๆ ก็มีต้นปีบ ปีบป่าเลยกลายเป็นของหายาก แต่ที่หายากกว่าคือคนที่รู้เรื่องต้นไม้จริง ๆ แล้วมาแบ่งปันกัน ขอบคุณเพื่อนชาวสวนทุกท่านเลยนะคะ

ส่วนเรื่องกลอน เพิ่งหัดเขียนเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อเดือนพฤษภาคมนี้เอง คิดว่าเป็นอะไรที่ เอ้อ, คงต้องเรียนรู้อีกนาน คงเหมือนกับเรื่องสวนเรื่องต้นไม้นี่แหละค่ะ
ได้เรียนรู้อะไรแปลก ๆ (ในเรื่องธรรมดา ๆ ของคนอื่น) เอาตอนแก่ ก็สนุกดีเนอะ ฝากเนื้อฝากตัวกับบรรดากูรูทั้งหลายด้วยค่ะ กูรูจริง ๆ นา ไม่ใช่กู-รู้...

ในบางอารมณ์ มีคนต่อกร เอ๊ย ต่อกลอนด้วยก็ท่าจะดีนะคะ เหมือนคนโบราณ สนุกดีออก เขียนกลอนนี่มันมีจังหวะ มีเสียง มีสัมผัส บีบคนเขียนให้อึดอัดได้ดีนักแล เหมือนแบบฝึกหัดการเขียนขั้นต้นในการเลือกใช้คำใช้ความเลยนะคะ ไม่แน่นา อาจมีเพื่อน ๆ ชาวสวนเพิ่มกิจกรรมจากการนั่งลับเฉพาะคมมีดตัดหญ้ามาลับคมปากกาแทนกันอีกหลายคนเลยก็ได้

ส่วนเรื่องหนังสือทำมือ วันก่อนมีน้องที่ขอนแก่นเขียนมาถามและคุยกันนอกรอบไปแล้วค่ะ โดยส่วนตัวไม่อยากเรียกว่าหนังสือทำมือเลยนะคะ อยากเรียกว่าหนังสือทำเองมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้หนังสือทำมือคนส่งเข้าโรงพิมพ์ประเภท print on demand กันเยอะแล้ว

ชอบทำหนังสือทำเองค่ะ เพราะยังไม่มีโรงพิมพ์ไหนมาช่วยทำให้ ส่วนมากจะทำเก็บไว้อ่านเล่นเป็นเล่ม เมื่อก่อนเขียนอะไรแล้วพิมพ์ออกมาเป็นหน้ากระดาษเอสี่ ส่วนมากงานมักหายเข้าไปในกองแฟ้มงานอื่น ๆ เสียหมด ไม่ให้อารมณ์นักเขียน(ในฝันของตัวเอง) เอาเล้ยยย

อย่างที่เขียนตอบไว้ในบล็อกก่อนว่า ถ้าสนใจทำหนังสือเองก็ตามลิงค์ของคุณสีน้ำฟ้า หนึ่งในชาวบล็อกแกงค์นี้ไปได้เลยค่ะ แต่สำหรับคนที่คุ้นกับการใช้โปรแกรมวินโดว์อยู่แล้ว ไม่ต้องการขั้นตอนละเอียดนัก ก็นี่เลยค่ะ

ใช้โปรแกรมเวิร์ดธรรมดานี่แหละค่ะ ตั้งค่าหน้ากระดาษเป็นแบบ A5 แล้วตั้งขอบกระดาษซ้ายขวาหน้าหลังเอาตามชอบใจของหนังสือที่ตั้งใจ ตั้งหน้าพิมพ์ไว้ด้วยว่า สองหน้าต่อหนึ่งแผ่น แล้วก็ลองพิมพ์ดู แค่นี้แหละค่ะ เอ้อ ลืมไป ลองพิมพ์ให้มีเรื่องมีราวใส่เข้าไปก่อนนะคะ แล้วค่อยสั่งพิมพ์ เอ้อ print ออกมาอีกทีน่ะค่ะ อย่าเพิ่ง-งงงงงงง

เวลาใส่เลขหน้า ก็ตั้งเงื่อนไขไว้หน่อยว่า หน้าคู่หน้าคี่สลับกัน เท่านี้เลขหน้าก็เรียงไปตามต้องการ หน้าไหนไม่อยากมีเลขหน้า เช่นปกรอง สารบัญ คำนำ ฯลฯ ก็ลบออกด้วยการใช้เครื่องหมายวาดรูป แล้วสั่งไม่ให้แสดงเส้นขอบของภาพที่เลือกมา paste ทับตัวเลขนั้น ๆ ค่ะ

เวลา print out นะคะ ที่ทำอยู่จนชินคือสั่งพิมพ์อย่างนี้ค่ะ
เลือกคำสั่งพิมพ์เฉพาะหน้าที่เลือกคือ
ถ้าตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะคะ สั่งพิมพ์หน้า 4,1 พอเครื่อง print ออกมา ก็จับแผ่นนั้นแหละค่ะใส่เข้าไปใหม่โดยไม่ต้องคว่ำหน้ากระดาษ แล้วสั่งพิมพ์หน้า 2,3
ได้กระดาษพิมพ์หน้าหลังแล้วพับครึ่งก็จะได้เลขหน้าเรียง 1,2,3,4

แรก ๆ จะ print out ได้ช้าหน่อยเพราะยังไม่คล่องนะคะ
พอหน้าต่อไปก็สั่งพิมพ์ เป็นหน้า 8,5 พิมพ์ออกมาแล้วก็เอาแผ่นเดิมใส่เข้าไป สั่งพิมพ์หน้า 6,7

ถ้าสังเกตุตัวเลขจะเห็นว่าง่ายค่ะ คือพิมพ์ช่วงละสี่หน้า ขึ้นต้นด้วยหน้าสุดท้ายของช่วงพร้อมกับหน้าที่ต่อจากหน้าที่พิมพ์แล้ว กลับด้าน แล้วก็พิมพ์เลขต่อจากหน้านั้นเลย

ช่วงที่สามก็สั่งพิมพ์อย่างนี้เลย หน้า 12, 9 print ออกมาแล้ว ใส่กลับเข้าไปใหม่ ไม่ต้องกลับด้าน พิมพ์หน้า 10,11

ที่เลือกใช้การพิมพ์แบบนี้ เพราะเขียนบันทึกประจำวันด้วยวิธีนี้ ไม่สามารถกำหนดหน้าสุดท้ายของหนังสือได้ค่ะ


เอ้อเฮอ, เขียนแบบนี้จะงงหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ไม่ค่อยได้เขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ ชอบแบบเป็นเรื่องรำพึงรำพัน.. แหะ แหะ

ใครลองทำแล้วเป็นยังไงก็แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ



โดย: kangsadal วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:13:14 น.  

 
จะรอดูผลนะคะ .. สู้ สู้ค่ะ ..
ไม่ยากค่ะ ..


โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:22:37 น.  

 
ขอบคุณมากครับ คุณกังสดาล เพิ่งอ่านทวนที่ถามไว้ ปรากฏว่าพิมพ์ชื่อผิดเสียนี่ ขอโทษอย่างแรงครับ

เรื่องหนังสือทำมือ (หรือทำเอง) ผมก็ได้ความรู้จากคุณสีน้ำฟ้ามาเหมือนกัน ลองทำดูก็ออกมาเป็นรูปเล่มพอดูได้ครับ แต่ก็ยังมีปัญหาในการพิมพ์หลายอย่าง เอาไว้จะทำเล่มใหม่เมื่อไรติดขัดแล้วจะเข้ามาถามคุณกังสดาลอีกทีนะครับ

การทำหนังสือทำมือหรือทำเองนี่ เป็นความภาคภูมิใจของนักเขียนสมัครเล่นอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ประการหนึ่งทีเดียว จากอากาศธาตุกลายมาเป็นรูปเล่ม โอ... ช่างน่าอัศจรรย์อะไรปานนั้น ถ้าใครที่มีหน้งสือทำมือจะแลกเปลี่ยนกันอ่านก็น่าจะดีไม่น้อย เผอิญเพิ่งเข้าวงการ เลยไม่รู้ว่าชมรมประมาณนี้ มีหรือไม่ และมีขนบประเพณีในการผลัดกันเขียนเวียนกันอ่านหรือเปล่า? ถ้าใครทราบช่วยเฉลยด้วยครับ

การเขียนกลอนนี่ก็เป็นอีกงานอดิเรกที่ชอบมาก สัมผัสของกลอนทำให้ภาษาไทยมีเสน่ห์ บังคับเสียงสูงกลางต่ำในกลอนก็ทำให้กลอนไพเราะ

คุณกังสดาลมีจุดเด่นอยู่ที่เขียนกลอนสะท้อนความในใจออกมาได้ค่อนข้างชัดเจน เรียกว่า "คมในความ" แม้อาจจะยังมีจุดอ่อนในเรื่องการ "สรรคำ" บ้าง แต่คิดว่าเขียนไปเรื่อย ๆ ก็จะพัฒนาขึ้นเอง

ผมเองเขียนกลอนมาหลายสิบปี แต่ก็ยังเอาดีไม่ค่อยได้ ที่พอจะเอาตัวรอดไปได้ ก็ใช้เพียงประสบการณ์ล้วน ๆ อ่านแล้วบางทีก็รู้สึกเซ็งตัวเองเหมือนกัน กลอนทั้งบทหาที่ประทับใจไม่ได้ มีแต่สัมผัสนอก-ในให้อ่านคล่อง ๆ เท่านั้น เรียกว่า มีแต่ "สัมผัสเสียง" แต่ยังไม่ "สัมผัสใจ"

นักกลอนที่ดีต้องทำให้สัมผัสทั้งสองส่วนนี้ หลอมรวมให้เป็นหนึ่งให้ได้ พูดง่ายแต่ทำยากจริง ๆ ใช่ไหมครับ?


โดย: ลุงแว่น วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:58:25 น.  

 
ขอแก้ไขอย่างด่วนเลยค่ะ

เมื่อคืนคงง่วงนอนไปหน่อย พิมพ์เรื่องค่าหน้ากระดาษผิดค่ะ จริง ๆ แล้วค่าหน้ากระดาษเป็นแบบ A4 นะคะ แต่หน้ากระดาษกำหนดเป็นแบบ 2 หน้าต่อหน้ากระดาษ และสั่งให้หัวกระดาษกับท้ายกระดาษมีหน้าคู่-คี่ต่างกันเหมือนเดิม

ขอโทษจริง ๆ สำหรับใครที่อ่านผ่านไปแล้วเกิดไปลองทำ....ขอโทษนะคะ


โดย: kangsadal วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:36:54 น.  

 
เริ่มต้นวันใหม่ ด้วยการเจอความผิดพลาดของตัวเอง
นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีเนอะ (คิดบวกเข้าไว้ คิดบวกเข้าไว้)

ตอบคุณลุงแว่นนะคะ
เรื่องชมรมแลกอ่านหนังสือทำเองนี่ไม่รู้ค่ะ แต่หนังสือที่มีสำนักพิมพ์ทำขายนี่รู้สึกว่าจะมีอยู่ในบล็อกแกงค์นะคะ แวะไปที่บล็อกคุณ คนขับช้า ได้ค่ะ

เพิ่งเข้ามาเขียนบล็อกไม่นานมานี้เอง ยังไม่ค่อยมีโอกาสท่องเที่ยวรู้จักใครหรืออะไรมากเท่าไหร่ แค่นี้ก็แอบหนีงานมาจนแทบจะถูกไล่ออกอยู่แล้ว ก็ เอ้อ, ที่ทำงานนี้ มีกฎเหล็กให้ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการส่วนตัวได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง... เหตุผลเพราะมีผู้ใหญ่และเด็กตาดำ ๆ คนอื่น คอยช่วงชิงทำศึกเพื่อใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันนี้ค่ะ

ส่วนความเห็นที่ถือเป็นข้อแนะนำในการแต่งกลอนก็ขอน้อมรับไว้ด้วยความขอบคุณอย่างยิ่งนะคะ โดยส่วนตัวมองการเขียนกลอนเหมือนเป็นบทเรียนภาคพิเศษ ประเภทโตแล้วเรียนลัด... แต่บางครั้งลัดมากเกินไปก็เลยหลงทาง...อิ อิ

ถ้าคุณลุงแว่นอยากให้มีการแลกหนังสืออ่านกันเองก็น่ายินดีนะคะ เรื่องความรู้ในสวนของคุณลุงน่ะ สุดยอด แต่เรื่องที่เคยทำเป็นหนังสือนี่มันไม่ใช่ความรู้น่ะค่ะ เคยแลกกันอ่านกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่เพิ่งเจอะเจอ คนอ่านแล้วอึ้ง หลบลี้หนีหน้าหายกันไปโม๊ดดดด


โดย: kangsadal วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:08:01 น.  

 
สวัสดีค่ะ ..

แวะมาทักทายกันในวันศุกร์ดีดีอย่างนี้นะคะ



โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:52:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kangsadal
Location :
เวียงจัน Laos

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]






พระจันทร์เต็มดวงคนมองเห็นได้บางวัน
เช่นกันกับวันที่เห็นพระจันทร์เสี้ยว
แต่ทุกวัน....
พระจันทร์เต็มดวง
online
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kangsadal's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.