บั้งไฟพญานาค วันที่ 1
มาแล้ว มาแล้ว
คนสวย หายหัวไปตามหาพญานาคมาซะนานเชียว!! บรรดาแฟนคลับบ่นคิดถึงกันใหญ่...หุหุ
ว่าแล้วก็เริ่มทริป แกะรอยตามหาพญานาค กันซะก่อนเลย ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้ยาวเหยียด ทริปนี้ไปกันทั้งหมด 4 ชีวิต พร้อมด้วยพาหนะคันเดิม เจ้าตาหวานน้อง Jazz อีกแล้วคร๊า.... ออกเดินทางกันตั้งแต่วันพฤหัสที่ 25 ตุลา เวลาประมาณ 23:00 น. เห็นจะได้ ทุกอย่างก็เหมือนเคย!! นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ ให้คุณสามี กับคุณเพื่อน ผลัดกันขับรถ และแล้วก็ถึงเป้าหมายแรก บ้านเชียง จ.อุดร
จุดแรกที่แวะเนี่ย... ก็เพราะว่า ไปถึงเช้ามากกกก...ยังมีเวลาอีกเยอะ ก็เลยถือโอกาสแวะเที่ยวกันก่อน บ้านเชียง จ.อุดร ถือเป็นมรดกโลกเชียวนะ! ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกเลยก็ว่าได้ ระหว่างทางขับไปเนี่ย... แปลกใจมาก ถนนหนทางสะอาดสะอ้านมาก ๆ หน้าบ้านทุกบ้านจะถูกประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ ดูแล้วสบายตา สบายใจเป็นที่สู๊ดดดด...
ไปถึงเช้าจัดจริง ๆ พิพิธภัณฑ์บ้านเชียงยังไม่เปิดให้บริการ เลยไปแวะที่ดูหลุมของจริง ที่ขุดค้นพบซากโครงกระดูก และภาชนะต่าง ๆ จะอยู่ถัดไปจากพิพิธภัณฑ์ อยู่ภายในบริเวณวัด....(โอ่ยยยย!! จำชื่อวัดไม่ได้แห๊ะ) ภายในก็จะเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ที่ได้ทำการขุดไว้ แต่ทำการโบกปูนไว้อย่างดีแร๊ะ ไม่ต้องกลัวโดนทำลาย แถมยังมีป้าย ประวัติต่าง ๆ บรรยาย รอบ ๆ หลุมกันเลยทีเดียว ได้ความรู้มาเยอะทีเดียวจากสถานที่นี้
สิ่งที่ได้เห็น ได้สัมผัส จากจุดนี้เป็นของจริงที่ได้ทำการขุดค้นพบทั้งหมด ทั้งโครงกระดูก ภาชนะต่าง ๆ เครื่องประดับต่าง ๆ เท่าที่ได้อ่านมานิด ๆ หน่อย ๆ ได้ความว่า ในสมัยโบราณนั้น ถ้าใครมียศ มีทรัพย์สินมีค่าหน่อย เวลาฝังศพเนี่ย!! จะเอาข้าวของเครื่องใช้ของคนตาย และภาชนะต่าง ๆ ฝังไปกับศพด้วย... (คงเป็นความเชื่ออะไรบางอย่าง?)
ได้เวลาที่พิพิธภัณฑ์บ้านเชียงจะเปิดแล้ว ราว ๆ 8:30 น. ก็เดินทางต่อมาที่พิพิธภัณฑ์กันเลย น่าเสียดายที่ยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ เปิดให้ชมแค่ตึกเดียวเท่านั้น!! ยังไม่ค่อยมีอะไรมากมาย เจ้าหน้าที่บอกว่า รอพระเทพฯ มาเปิดอย่างเป็นทางการประมาณ เดือนมกรา อย่างนี้คนสวยก็ต้องมาซ้ำอีกอ่ะจิ...หุหุ
เสียค่าเข้าคนละ 10 บาทจะว่าคุ้มก็คุ้มอยู่ แต่จะคุ้มกว่านี้ถ้ามาตอนที่เปิดให้ชมอย่างเป็นทางการ ก็แหม๋ๆๆๆ... มีตั้งหลายตึก ได้ชมแค่ตึกเดียวเอง ของที่จัดแสดงถ้าเป็นพวกเครื่องประดับ เครื่องมือเครื่องใช้ ภาชนะสมัยโบราณ จะถูกจัดวางในตู้กระจกอย่างดี แต่ถ้าเป็นโครงกระดูก จะถูกจำลองด้วยเลซิ่นเท่าขนาดจริง ตามครั้งแรกที่ขุดเจอ...เฮ้อๆๆๆ บรรยายซะ อยากไปเลยล่ะซิ? แวะดูของที่ระลึกกันอีกนิด แล้วออกเดินทางต่อ เพื่อตามรอยพญานาคกันต่อเลย!!
ไหน ๆ ก็ตั้งใจมาเพื่อมาชมบั้งไฟพญานาคกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสถานที่ที่จะแวะเที่ยวกัน ก็อยากให้เป็นอะไรที่เกี่ยวกับพญานาคซะหน่อย แต่จริง ๆ แล้วตลอดทางก็จะเห็นแต่รูปปั้นพญานาคทั้งนั้น!! เลยมุ่งหน้าไปที่ วัดศิริสุทโธ หรือ เกาะคำชะโนด ซึ่งคนที่นั่นมีความเชื่อกันว่า บริเวณเกาะคำชะโนด เป็นดินแดนของพญานาค
ก่อนเข้าบริเวณเกาะคำชะโนด ต้องถอดรองเท้าเดินเข้าไปตามทาง ซึ่งทางวัดก็จะทำเป็นตัวพญานาคไว้ ได้บรรยากาศมาก ๆ เลย บริเวณเกาะคำชะโนดนี้ จะมีต้นไม้ที่ไม่เหมือนที่อื่นขึ้นอยู่แค่บริเวณนี้เท่านั้น เป็นต้นคำชะโนดแต่ต้นหนึ่งจะมีต้นอื่นมาเป็นกาฝากอีก 2 ชนิด แต่อันนี้ไม่แน่ใจแห๊ะว่ามันมีต้นอะไรมั่งอ่ะ ใครอยากรู้ ก็ต้องเดินทางมาพิสูจน์ด้วยตัวเองนะ...ไม่ไปไม่รู้นะ ขอบอก!!
ภายในบริเวณเกาะคำชะโนดก็จะมีสิ่งศักดิ์ให้กราบเคารพบูชากันก่อน ที่จะเดินไปบริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์ ก็เป็นความเชื่ออีกเช่นเคย ว่าเป็นน้ำบริสุทธ์ที่ท่านพญานาค ทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้คนให้พ้นโรคพ้นภัยต่าง ๆ อย่างนี้พวกเราก็ไม่พลาดแน่นอน... ก็เอาน้ำมาล้างหน้า ล้างตากันซะหน่อย... หุหุ สดชื่น ๆ มาก ๆ
ก่อนอำลาเกาะคำชะโนด แวะเอามือลูบฆ้องกันก่อน เป็นความเชื่ออีกเช่นเคยว่า ก่อนลูบให้อธิฐานสิ่งที่อยากได้ และลูบฆ้องไปเรื่อย ๆ จะเกิดเสียงดังกังวาลขึ้น... อิอิ!! แหม๋ๆๆๆ ไม่มีใครลูบฆ้องได้เสียงดังเลยง่ะ เศร้าเลย!!
ดูเวลาก็เกือบเที่ยงแล้ว ความมุ่งมั่นพวกเรามันพุ่งปรี๊ดดดด...ขึ้นมาทันที ว่าแล้วก็มุ่งตรงไปโพนพิสัย จ.หนองคายกันเลย!!
ตลอดระหว่างทางบรรยากาศดีสุด ๆ เห็นทุ่งนาเขียวขจีบ้าง เหลืองอร่ามบ้าง โอ้ยยย!! โรแมนติคสุด ๆ ใครว่าอิสานแห้งแล้ง ไม่เชื่อ ๆ เด็ดขาด!! ประมาณบ่าย ๆ ก็ถึงแล้วจุดชมบั้งไฟจุดแรก บริเวณริมโขงโพนพิสัย จ.หนองคายความตั้งใจแรกกะว่าจะไปดูกันที่บ้านน้ำเป แต่ไหง๋ ดันตัดสินใจเลี้ยวแว๊บบบ...เข้ามาที่นี่ได้ไงไม่รู้ อิอิ
ที่โพนพิสัยมีการจัดงานใหญ่โตมาก ๆ มีการออกงานร้านค้า เยอะแยะมากมาย แต่ก็เอาก็เอาวะ ไหน ๆ ก็ตั้งใจมาแล้วนี่หน่า!! ว่าแล้วก็หาที่เหมาะริมโขงกางเต็นท์กันก่อนเลยดีกว่า... ก่อนที่จะไปเดินหาข้าวกลางวันกินกัน ณ เวลานี้ก็บ่าย 2 กว่า ๆ แล้วใครใคร่เดิน Shopping ก็เดิน ใครใคร่นอนก็นอน ใครใคร่กินก็กิน หุหุ... ส่วนเราก็กิน แล้วก็เดินดูบรรยากาศ เดินดูของ พอแดดร่มลมตกซะหน่อย ก็ของีบพักเอาแรงกันก่อน ส่วนคุณเพื่อนก็เพลิดเพลินกับการเดิน Shopping มาก ๆ
พอได้เวลา 5 โมงกว่า ๆ น่าจะได้ โอ้ยยยย!! ผู้คนมาจากไหนนักหนาเนี่ยยยยย....นับแสนนนนนนน!! ทุกหย่อมหญ้าที่มีพื้นที่จะมีแต่ผู้คนมานั่งรอชมบั้งไฟทั้งนั้น ได้บรรยากาศดีแห๊ะ!! แถมด้วยมีการปล่อยกระทงสาย 4,000 กระทง และมีการไหลเรือไฟอีก หุหุ!! ได้บรรยากาศสุด ๆ แต่.....แล้ว ก็ไม่เห็นบั้งไฟซักกะลูก เห็นแต่หัวคนทั้งนั้นนนนน!! อิอิ...แต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ยังมีโอกาสอีก 1 คืน เนื่องจากว่าปีนี้มีเดือน 8 สองหน ออกพรรษาไทยกับลาว ไม่ตรงกัน เค้าว่ากันว่า บั้งไฟจะขึ้นอีกคืนถัดไปด้วย
รอดูจน 5 ทุ่มกว่าแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมี บั้งไฟ ขึ้นเลยสักลูก
แหม๋ๆๆ น่าเสียดาย!! ดันไปขึ้นที่บ้านน้ำเป ซะมากมายทีเดียว...ฮ่าๆๆๆ เซื่อในสิ่งที่เฮ๊ด เฮ๊ดในสิ่งที่เซื่อ จริง ๆ เล้ยยย... คืนนี้เลยต้องขออำลาแม่น้ำโขง ขออำลาบั้งไฟพญานาค ไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อย แถมด้วยเหมือนนอนอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบอีกต่างหาก มีวัยรุ่นมาเล่นพรุใกล้ ๆ เต็นท์อีก โอ้ยยยย... หลับไปตอนไหนไม่รู้!!
ตื่นมาอีกทีค่อยมาพบกับคนสวยใหม่หน่า!! ดูซิว่าวันถัดมาจะเจอบั้งไฟพญานาคมั้ยเอ่ย??
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2550 9:56:52 น. |
|
17 comments
|
Counter : 2194 Pageviews. |
|
|
ปล.สงสัย "คุณคนสวย" จะอยู่ดูต่ออีกคืน แล้วเห็นไหมคะเนี่ย??