ไปปายมา 6 ธ.ค. ถึงปายซะที
ปล.Blog นี้ค่อนข้างบ้าพลัง ทั้งรูป ทั้งตัวอักษร เยอะแยะไปหมด วัตถุประสงค์ก็เพียงอยากเก็บรายละเอียดการเดินทาง ไปเยือนเมืองปายครั้งนี้ไว้ให้ละเอียดมากที่สุด เท่าที่คนสวยจะมีแรง...อิอิ!! (คนสวยมักจะอดทนอ่ะ) โหลดช้านิดช้าหน่อยต้องให้อภัยกันหน่า !! เดินไปชงกาแฟมานั่งกินหน้าเครื่องรอก่อนล่ะกัน... หุหุ!!
 คำว่า กว่าจะถึงปาย เกือบตายที่กลางทาง ใช้ไม่ได้กับพวกเราในทริปนี้เลย!! เพราะตลอดเส้นทางที่วิ่งจากเชียงใหม่เข้าเมืองปายเนี่ยยย...แวะทุกที่ที่มีป้ายบอกว่าเป็นที่ท่องเที่ยว แวะกันอย่างหนุกหนาน ไม่ได้รู้สึกเกือบตาย เหมือนคำกล่าวขวัญบนเสื้อยืดที่สกรีนขายกันเต็มเมืองปาย สักกะนิ๊ดเลยก็ว่าได้ ถ้าก่งก๊ง งง ๆ ทริป โปรดกลับไปอ่าน Blog //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jeckbeng&month=12-2007&date=17&group=2&gblog=17 ไปปายมา 5 ธ.ค. ถวายพระพร นี้ก่อน โปรดฟังอีกครั้ง กลับไปอ่านด่วน!!

เช้าวันที่ 6 ธ.ค. 50 ออกเดินทางออกจากที่พักประมาณ 7:44 น. แวะเติมน้ำมันเต็มถังที่ปั้มเชลล์กันก่อน เพราะจากข่าวสารที่ได้มา น้ำมันที่เมืองปายคงจะแพงกว่าปกติเกือบ 2 บาทแน่ ๆ บรรยากาศดีสุดฤทธิ์ ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเย็นสบายสุด ๆ รถก็วิ่งกันไป คนบนรถก็ถ่ายรูปกันไปเรื่อยเปื่อยยยย....

ผ่านโค้งซ้าย โค้งขวา โค้งหน้า โค้งหลัง โค้งพร้อม ๆ กัน...ฮิ้ววววววว!! สักพักก็เจอเป้าหมายแรกของทริปวันนี้ น้ำตกหมอกฟ้า ถือเป็นส่วนของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แสดงว่าอาณาเขตของอุทยานกว้างใหญ่ไพศาลจริง ๆ เลยนะเนี่ย!!

เดินไปไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว โอ้!! แม่เจ้า!! สวยงามกว่าที่คิดไว้เยอะ ประกอบกับการไม่มีคนมาเยือนเลย ทำให้การถ่ายรูป(ที่เน้นแต่ปริมาณ) กับ การชื่นชมบรรยากาศเนี่ย!! ดีสุดยอด!! สะอาดสดใสเปล่งปลั่ง สุด ๆ ระหว่างเดินไปน้ำตกก็พบเจ้าหน้าที่กำลังกวาดพวกเศษใบไม้ออกจากทางเดินด้วย เลยถือโอกาสเจรจากันสักนิดตามประสาคนสวย
เจกเบ่ง: หวัดดีค่ะ หนาวมั้ยค่ะ? เจ้าหน้าที่: ไม่ครับ! อากาศกำลังดีเชียว เจกเบ่ง: โอ่ยยย...ดีของเค้าแต่พวกเรารู้สึกหนาว ๆ สั่น ๆ แห๊ะ!! เจกเบ่ง: แล้วกวาดทางเดินทำไมค่ะ เด๋วใบไม้มันก้อหล่นลงมาอีก เหนื่อยป่าว ๆ? เจ้าหน้าที่: ไม่เป็นไรครับ ไม่หนักหนาอะไร ถ้านักท่องเที่ยวมา มองเห็นทางเดินสะอาดสะอ้าน จะได้อยากมาเที่ยวอีกครับ เจกเบ่ง: กวาดตั้งแต่ทางเข้าจนถึงน้ำตกเลยเหรอค่ะ เจ้าหน้าที่: ครับ! เจกเบ่ง: ไปเที่ยวก่อนนะคร๊า... เจ้าหน้าที่: ครับ!! โชคดีครับ!!

อยู่ที่น้ำตกหมอกฟ้า ค่อนข้างนานทีเดียว!! เพราะแต่ละคนรู้สึกสบายใจ สดชื่น ยังไง ๆ บอกไม่ถูก ความรู้สึกดี ๆ แบบนี้ ต้องให้มาสัมผัสกันเองอ่ะ ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าเดินตามรอยเจกเบ่ง ไปเที่ยวปาย กันดีกว่า!! หุหุ!!

ต้องออกเดินทางต่อกันแล้ว ระหว่างทางธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามมาให้ถนนเส้นนี้จริง ๆ ดูวิวทิวทัศน์ พร้อม ๆ กับการโดนเหวี่ยงไป มา ตามเส้นทางของถนน แวะถ่ายรูปกันระหว่างทางเรื่อยเปื่อย ระหว่างทางมีดอกบัวตองให้ถ่ายรูปด้วย!! แหม๋ๆๆ...ยังไปไม่ถึงดอยแม่อูคอเลยนะเนี่ย!! อย่างนี้นางแบบไม่พลาด เอาซะหน่อย!!

แวะที่เที่ยวที่ 2 น้ำพุร้อนโป่งเดือด ที่นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อาณาเขตกว้างขวางอีกแล้วอุทยานนี้ มาถึงที่นี่ ความหิว แตกกระจายทั่วร่างกาย!! สิ่งแรกที่พยายามวิ่งไปหาอย่างโหยหาคือ ร้านอาหาร หิว...หิว...หิว!! เจออยู่ร้านหนึ่งของเอกชนเข้าไปสัมทานทำร้านอาหาร ชื่อ ร้านอาหารสายน้ำพุ ไม่มีให้เลือก...จำใจรับประทาน ผิด Concept ที่ตั้งใจว่า จะกินร้านอาหารของชาวบ้านเท่านั้น... ของพวกเรานิดหน่อย แต่ก็หยวน ๆ วะ! กระเพราะไก่ราดข้าว 4 + ไข่เจียว 1 มาให้ไว เพราะตอนนี้ความหิวมันเดือดพล่านยิ่งกว่า น้ำพุร้อนโป่งเดือด แล้ววว!!

อิ่มหน่ำสำราญแล้ว ก็ออกสำรวจธรรมชาติกันเลย!! ทางอุทยานทำทางเดินเป็นทางไม้ไว้ให้เดินชื่นชมธรรมชาติไว้อย่างดีเชียว เดินไปก็เจอไอ้เจ้า ขนุนดิน ก่อนเลย!! ของแปลกโว้ยยย! หนุ่มสาวกรุงอย่างพวกเราตื่นเต้นกันใหญ่ ... อิอิ

เดินไป เดินไป เดินไป ถึงแล้วววว...น้ำพุร้อนโป่งเดือด เจอน้ำพุร้อนไม่ตื่นเต้นเท่ากับ เจอเพื่อนอั้มกับเพื่อนหนุ่ม เฮ้ยยยย!! เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนด้วยยย...Surprise!! ทักทายพร้อมด้วยการถ่ายรูปอีกแล้วครับท่าน

ควันโขมงเต็มไปหมด น้ำเดือดผุด ๆ น่าแปลกจริง ๆ เลยนะเนี่ย... ทำไมถึงมีที่แบบนี้บนเมืองไทยด้วยเนี่ย? ตลอดระหว่างทางก็จะพบบ่อน้ำร้อนมากมาย แต่จะมีตรงจุดนี้จุดเดียวที่เป็นน้ำพุร้อนเดือดพล่าน... น่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ ถ่ายรูปกันจนอิ่ม สะใจแล้ว ก็ออกเดินทางต่อกันเลย!!

จุดเที่ยวที่ 3 ก็นี่เลย... ห้วยน้ำดัง ไปถึงที่นี่คนเยอะพอสมควร แต่ไม่เยอะมาก ไม่ถึงขนาดต้องแย่งกันกินแย่งกันใช้ ไฮไลน์ของที่นี่จะเป็นจุดชมวิวดอยกิ่วลม เค้าว่ากันว่าเห็นยอดดอยอ่างขางด้วยยยย... แต่ด้วยเป็นหนุ่มสาวกรุง เลยไม่รู้กันเลยว่ามันลูกไหนกันแน่เนี่ยยย...ไอ้ดอยอ้าขาอ่ะ เจ้ยยยย!! ไม่ใช่ ๆ ดอยอ่างขาง ต่างหาก... หุหุ

จริง ๆ แล้วที่นี่ต้องมานอน เพื่อดูบรรยากาศตอนเช้า ดูพระอาทิตย์ ดูหมอก แต่... เป้าหมายของเราคืนนี้จะอยู่ที่เมืองปาย ก็เลยต้องอำลา ห้วยน้ำดัง ด้วยการถ่ายภาพ กับ บรรยากาศมาฝากกันเท่านั้นเอง ดอกไม้ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ คาดว่าคงจะเยอะแยะมาก ๆ ตอนช่วงเทศกาลปีใหม่แหง๋ ๆ และแล้วก็ไปกันต่อเลยดีกว่า!!

แวะเที่ยวจุดที่ 4 นี่เลยยยย... โป่งน้ำร้อนท่าปาย แวะเพื่อต้องการจะดูว่ามันจะแตกต่างกับ น้ำพุร้อนโป่งเดือด ที่ผ่านมากันแน่!! ก็เดินกันไปไม่ถึงบ่อน้ำร้อนหร๊อก! เพราะที่นี่เป็นลักษณะลำธารร้อนตลอดทาง ก็เลยหาจุดเหมาะ ๆ แช่เท้ากันก่อนเลย ประจวบกับเริ่มรู้สึกเหนื่อย ๆ และอยากแวะนั่งชิว ๆ แช่เท้า ให้สบาย ๆ กัน พอเจอที่เหมาะ ๆ ก็แช่กันเลย...

เจ้าปล่อง สามีถอดเสื้อ เอาน้ำร้อนลาดตัวใหญ่ ถ้าน้ำลึกซะหน่อย คงกระโดดลงไปแล้วนั่นอ่ะ แต่ดูไปดูมา เหมือนหมู กำลังจะโดนลวก เหมือนกันนะ แหม๋ๆๆ... ขาดก็แต่น้ำจิ้ม รสเด็ดเท่านั้นเอง!! ฮ่าๆๆๆๆ

ออกมาจากปากทางเข้าโป่งน้ำร้อนไม่กี่ร้อยเมตร ก็ถึงจุดแวะเที่ยวที่ 5 แล้วววว....สะพานประวัติศาสตร์ (ท่าปาย) ใครมาเที่ยวปายแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับไอ้เจ้าสะพานนี้ แปลว่า ยังมาไม่ถึงปายนะเนี่ยยยย....เลยต้องไป Act.ท่ากับสะพานกันซะหน่อย หนุกหนานสุด ๆ ขนาดเค้ากำลังปิดปรับปรุงก็ยังพยายามเอาตัวเข้าไปแทรกแซงตรงสะพานเพื่อภาพที่สวยงามนะ... นายแบบ-นางแบบมืออาชีพจริง ๆ เลย!! พวกเราเนี่ย!! อิอิ

นางแบบ นางแบบถ่ายรูปกันเสร็จ ก็มุ่งตรงเข้าตัวเมืองปายกันต่อเลย... แว๊บเดียวก็ถึงแล้วตัวเมืองปาย สิ่งแรกที่ทำก็หาอะไรกินรองท้องกันก่อน มื้อนี้ได้ก๋วยเตี๋ยวกับข้าวซอย (อร่อยเหาะ!) กินกันตายกันก่อน เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพไว้แห๊ะ!! แล้วก็วิ่งรถหาที่พัก กะว่าจะ Walk-in หาที่พักซะหน่อย ไปที่ไหนก็ เต็ม ๆๆ ไปหมด!! สุดท้ายมาได้ที่กางเต็นท์ตรงบริเวณสะพานปูน ริมแม่น้ำปาย บรรยากาศดีแห๊ะ! น้ำท่า-ห้องน้ำอุดมสมบูรณ์ โอเชเลย... คืนนี้ตกลงปลงใจที่นี่แหล่ะวะ!!

เวลายังเหลืออีกมากโข ไปหาที่เที่ยวจุดที่ 6 กันต่อเลยยยย... วัดน้ำฮู เป็นวัดศักดิ์สิทธ์คู่เมืองปาย เนื่องจากว่า พระเศียรของหลวงพ่ออุ่นเมือง ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดนี้ จะมีน้ำศักดิ์อยู่ตลอดเวลา ไม่เคยเหือดแห้ง หลังจากไหว้พระเสร็จ ก็เลยถือโอกาส เอาน้ำศักดิ์สิทธ์จากเศียรหลวงพ่อมาดื่มกิน เพื่อความเป็นสิริมงคลกัน

แล้วไปต่อกันยังจุดเที่ยวจุดที่ 7 หมู่บ้านสันติชล วัฒนธรรมของจีนยูนาน อยู่เลยวัดน้ำฮู ไปไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น ลักษณะเด่น ๆ ของหมู่บ้านนี้คือ จะมีบ้านที่ทำจากดิน และมีบ้านพักที่ทำจากดินไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย มีม้าให้ขี่ รอบ ๆ ภูเขา... อิอิ!! รอบภูเขาแค่ 50 บาทเท่านั้น!! ฮ่าๆๆๆ ที่ภูเขาอาจจะลูกเล็กไปนิดนะ แต่ไงก็หยวน ๆ ล่ะกัน!! จุดเด่นอีกอย่างก็คือมีม้าหมุน อันยักษ์ใหญ่ ที่ทำจากไม้ไว้ให้ได้เล่นกันด้วยยยย.... งานนี้พวกเราทั้ง 4 ขอบายล่ะกัน... มันเสียววว!! อ่อ...เกือบลืมแห๊ะ!! ใครมาที่นี่ก็มักจะมาชิมอาหารจีนยูนาน แต่พวกเราขอบายอีกแล้ววว ด้วยไปแอบดูเค้าทำอาหารแล้วไม่ค่อยสุนทรีในการรับชมสักเท่าไหร่ ขอไปกินอาหารของเมืองปายจะดีกว่า... หุหุ

ใกล้ค่ำแล้ว แดดร่มลมตกแล้ว ไปกางเต็นท์กันดีกว่า เสียค่ากางเต็นท์คนละ 50 บาทเท่านั้น ก่อนไปที่กางเต็นท์แวะตลาดสดเมืองปาย ซื้อกับข้าวไปทำกินกันด้วยยยย... งานนี้อร่อยเหาะ!! อาหารมื้อนี้ประกอบไปด้วย ยำแหนมสด, ข้าวต้มไก่, ไข่เจียว และสุดท้ายขาดไม่ได้ก็คือ เบียร์และ Spy อิอิ...

กว่าจะทำอะไรเสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบ 2 ทุ่มแร๊ะ!! ไปเว้ยยย...พวกเราไปถนนคนเดินเมืองปายกัน (จุดเที่ยวจุดที่ 8) ไปเดินเล่นชิว ๆ กันซะหน่อย!! จากที่กางเต็นท์เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่ คนสวยพอเดินไหว... งานนี้ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาสักอย่าง ได้แต่ของติดปาก ติดท้อง ล้วน ๆ... แล้วคืนนี้ก็ต้องปิดฉากลง ด้วยการเดิน เดิน และก็เดิน กลับมานอนที่เต็นท์
 เป็นเวลา 4 ทุ่มกว่า ๆ แล้ว ขอเก็บแรงเก็บใจ เก็บความทรงจำดี ๆ ไว้ภายใต้ถุงนอน ให้ห้องนอนสุดเก๋ของพวกเราก่อนล่ะกัน แล้วค่อยติดตามกันต่อว่า วันถัดไปเจกเบ่ง จะพาไปลุยไหนต่อนะคร๊า....
Create Date : 21 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 21 ธันวาคม 2550 10:47:34 น. |
|
33 comments
|
Counter : 1528 Pageviews. |
 |
|
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมที่บล็อกนะครับ
ขอถือโอกาสนี้ Merry Christmas & Happy New Year 2008 เลยนะครับ
ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุข และสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาทุกประการเทอญ