ปักษ์ใต้บ้านเรา ภาค3
ภาคนี้เป็นภาคที่ 3 แล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววจะถึงภาคอวสานซะที...แบบว่า จขบ. บ้าพลังมาก ๆ คร่า!! ภาคนี้ให้ชื่อภาคว่า ตามรอยเท้า...พ่อ

เริ่มต้นเช้าวันที่ 15 เม.ย. 2550 เช้าวันนี้ทุกคนรู้สึกจะกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ เพราะเมื่อคืนนอนหลับกันเต็มอิ่มมาก ๆ แผนเที่ยวของพวกเราวันนี้คือ จะไปตามรอยเท้าพ่อกัน ก็แค่จะไปศึกษาชีวิตแบบชาวประมง บ้าน ๆ หาปูหาปลา อยู่กินกันอย่างพอเพียง แต่ก่อนที่จะไป ตามรอยเท้าพ่อ ขอไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนม (แต่ไม่อมน้ำเยี่ยว) กันก่อนดีกว่า!!

บ่อน้ำร้อนที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ของจ.ระนอง คือบ่อน้ำร้อนทักษวาริน (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือเปล่า) อยู่ในตัวเมืองระนอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือถือว่าเป็นจุดขายของเมืองเล็ก ๆ เมืองระนองนี้เลยทีเดียว แต่...ที่พาเพื่อน ๆ ไป คือ บ่อน้ำร้อนพรรั้ง เป็นบ่อน้ำร้อนเปิดใหม่ ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เสียค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวคนละ 10 บาท เพราะอิฮั้นคนพื้นที่คร่า!! ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่ตกคนละ 20 บาทเท่านั้น ภายในบริเวณก็จะมีบ่อน้ำร้อนให้ลงแช่ได้ทั้งครอบครัว ประมาณ 3 บ่อ ทุกอย่างสะอาดมาก ๆ น่าเที่ยวมาก ๆ ขอบอก!! ก่อนลงในบ่อจะมีน้ำฝักบัวให้ชำระล้างสิ่งสกปรกก่อน ประหนึ่งว่าต้องล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำอย่างไงอย่างนั้น

กว่าจะลงไปแช่ในบ่อน้ำร้อนกันได้ ก็เล่นทำใจอยู่นานเหมือนกัน ก็น้ำมันร้อนซะ...ขนแทบล่วง แต่พอร่างกายปรับสภาพได้เท่านั้น ทั้งกระโดดกระโจน วี๊ดว้าย! กระตู้หู้! กันอย่างสนุกสนาน คุณอาถึงกับสบถออกมาว่า ครอบครัวนี้อยู่ไหน หัวหน้าตายหมด ฮ่าๆๆๆ...มิน่าไม่มีใครมาต่อคิวลงบ่อเลยสักกะคน!!

อาบน้ำแร่แช่น้ำนม กันเรียบร้อยแล้ว ก็จะไปอาบน้ำเค็มแช่น้ำโคลน กันต่อเลย แผนตามรอยเท้าพ่อ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว จะช้าอยู่ใย รีบอ้าวไปที่ หัวท่า ในบัดดล... แผนนี้พวกเราจะไปหาหอยขาว ถ้ากรุงเทพฯจะเรียกว่า หอยตลับ ที่ระนอง กก.ละไม่ถึง 5 บาทแต่พอไปถึง กทม. กก.ละเกือบ 30 บาท การหาหอยขาวนั้น จะต้องหาตอนช่วงน้ำทะเลลงแล้วเท่านั้น เพราะหอยพวกนี้มันจะฝังอยู่ในทราย ต้องขุดเอามันขึ้นมา

ไปถึงหัวท่า เห็นเรือใครก็ไม่รู้จอดอยู่ลำหนึ่ง ก็พยายามไปเอามันมา กะว่าจะช่วยทุ่นแรงในการเดินจากร่องน้ำป่าชายเลน เพื่อไปหาดหาหอยขาวซะหน่อย ที่ไหนได้หลับกลายเป็นว่า ไอ้เรือลำนี้แหล่ะ มันเป็นภาระจิ๋งจิง!!

งุ่นง่าน ตั้งสติกันอยู่นานกว่า จะเริ่มเดินไปที่หาดหาหอยขาว แต่ก็เดิน เดิน เดิน และก็เดิน ไปด้วยความทุลักทุเล กระทั่งถึงหาด ร้อนก็ร้อน โคลนป่าชายเลนก็ดูดเท้าเหลือเกิน ทำให้เพิ่มความเหนื่อยในการเดินมากขึ้น แต่ใจสู้จริง ๆ เพื่อน ๆ ฉันเนี่ย!!

ถึงหาดแล้วก็ไม่ได้หาหอยขาวกันสักเท่าไหร่หรอก ออกไปในทางบ้ากล้อง ถ่ายรูป กันซะมากกว่า โดยเฉพาะ ท่ากระโดดถ่าย เนี่ย!! กระโดดจนเหนื่อยเป็นหมาหอบแดดแล้ว ก็ยังไม่ได้ภาพที่ถูกใจกันซะที!!

เดินไป ชื่นชมธรรมชาติไป ก็ดีเหมือนกัน นาน ๆ ได้มาเจอบรรยากาศอย่างนี้ บรรยากาศอย่างนี้หาไม่ได้ที่ กทม. แน่นอน เดินไปเดินมาก็ไปเจอ กองทัพปูก้ามดาบ เยอะมาก ๆ คิดว่าคงเป็นหลักแสนหรือหลักล้านตัวเลยก็ว่าได้ ที่พื้นทรายมองเห็นเป็นจุดดำ ๆ เล็ก ๆ มองเผิน ๆ คิดว่าไม่มีอะไร ที่ไหนได้ ปูก้ามดาบ ทั้งนั้น น่าเสียดายที่ไม่ได้ถือกล้องไปด้วย

และแล้วฝนก็เริ่มลงเม็ดอีกแล้ว ต้องรีบจ้ำ ๆ เพื่อจะกลับขึ้นฝั่ง หัวท่า กันก่อนที่จะกระหน่ำลงมา ระหว่างนั้น ก็เกิดมี รุ้งกินน้ำ ใหญ่มาก ๆ ประมาณโค้งข้ามไป 2 ลูกเขาได้ เห็นมาเยอะแล้วที่นี่ เจ๋งสุด ๆ

พอเกือบค่ำ ก้อเดินมาถึง หัวท่า ตอนนี้ไม่มีคำพูดใด ๆ เลย นอกจากคำว่า หิว
กลับถึงบ้านอาหารพร้อมเสริพอยู่แล้ว อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็กินข้าว ต่อด้วยแอลกอฮอล์อีกนิดหน่อย ส่วนเพื่อนพ้อง น้องพี่ ก็มาเล่น เกมส์อัจริยะข้ามคืน กันต่อ!! ไม่รู้ว่าคืนนี้ไอ้คุณเพื่อน, ไอ้คุณน้อง, คุณ ๆ อา และคุณ ๆ พี่ จะเลิกเล่นกันกี่โมง แต่ตัวอิฮั้นขอตัวไปนอนก่อนล่ะ...

สุดท้ายของวันนี้ อิฮั้นนอนก่อนใคร ได้เสียกันยังไงไม่รู้ เห็นแต่ว่า เจ้าประทับทรง นังเอิ๊ก อยู่ และแล้วในคืนนั้น นังเอิ๊ก ก็เอาเงินจากกรุงเทพฯ มาแจกเด็ก ๆ และญาติ ๆ เราไปตั้งเกือบ 5 พัน ฉะนั้นก่อนจบภาค 3 นี้ ต้องขอฝากคติเตือนใจเพื่อน ๆ หน่อยว่า เงินทองเรากินกัน ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม สาธุ!!
Create Date : 07 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 7 มิถุนายน 2550 10:18:44 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1160 Pageviews. |
 |
|
อยากได้ link ไปหา Thakky กับ ลุงแมว จังเลย!!
ไม่รู้ว่าอยู่ bloggang หรือเปล่าเนี่ย!!
จะได้รู้จักตัวตนคุณ Thakky กับ ลุงแมว ซะที!!