ฝาหรั่งพาเที่ยว
สืบเนื่องมาจากคุณอา แท้ ๆ ได้ดิบได้ดี Go inter แต่งงานมีสามีเป็นฝรั่งตาน้ำข้าว เมืองผู้ดี อันนี้ไม่รู้ว่าเสียดุลหรือได้ดุลกันแน่!! ปีหนึ่งจะต้องกลับมาเที่ยวเมืองไทย สัก 3-4 อาทิตย์ทุกปี และปีนี้ก้อเช่นเดียวกัน เลยถือโอกาสพาอาฝรั่งทัวร์บุญ ทัวร์วัดซะเลย ไหน ๆ เมืองไทย ก็เป็นเมืองพุทธ แล้วนี่หน่า!! เริ่มต้นวันที่ 12 พ.ค. ออกเดินทางสาย ๆ จากสมุทรปราการ มุ่งหน้าสู่สุพรรณบุรี ระหว่างทางแวะดูรถโฟล์คเก่า ๆ กันก่อน เพราะเป็นความชอบส่วนตั๊ว ส่วนตัว ของอาฝรั่ง(ร๊อบ) เค้า เดินทางยังไม่ทันถึงไหนก้อหิวกันแล้ว มื้อแรกของวันนี้ก้อเลยจบด้วยร้านอาหารแห่งหนึ่ง แถว ๆ ทางที่จะไปสุพรรณ มีทั้งอาหารตามสั่ง, ก๋วยเตี๋ยว, ข้าวขาหมู, ข้าวหมกไก่, ก๋วยเตี๋ยว และ... (อีกบานเตเลยอ่ะ) คุณอาร๊อบ เห็นข้าวหมกไก่ แล้วส่ายหน้าบอกว่า ร๊อบม่ายอาววว...ข้าวน่ากลัวเนี่ยยยยย...นะ แต่แหม๋ๆๆๆ... พอได้ลองลิ้มรสเท่านั้นแหล่ะ ถึงกับต้องสั่งมาเพิ่มอีกจาน มื้อนี้จบด้วยความอิ่มอร่อยกันทั่วหน้า และแล้วก้อเดินทางถึงวัดแรกตามแผนการเที่ยวของเรา คือ วัดไผ่โรงวัว วัดดูโทรมลงไปมากกว่าเมื่อสมัยเกือบ 10 ปีที่เราเคยไป รูปปั้นต่าง ๆ เป็นซากปรักหักพังมากมาย ภายในวัด ไม่ได้รับการทำความสะอาดดูแลเลย สถานที่ต่าง ๆ มีฝุ่นหนาเตอะ คนมาเที่ยวน้อยมากทั้ง ๆ ที่เป็นวันหยุด อันนี้อาจจะมาจากการที่วัดทำเป็นพุทธกิจมากเกินไปหรือเปล่า??? การที่คนเราอยากจะทำบุญเนี่ย!! ควรเหรอที่จะกำหนดเป็นราคาค่างวดว่าต้องหยอดเท่าไหร่ ๆ แม้แต่เข้าห้องน้ำ วัดยังเก็บค่าเข้า 3 บาท โอ้ๆๆๆ...นี่เหรอเมืองพุทธ
รอบ ๆ บริเวณวัดจะประกอบไปด้วยรูปปั้นสุภาษิต, คำพังเพย, รูปปั้นภิกษุ ภิกษุณี และรูปปั้นพระมากมาย
แบ่งเป็นสองฟาก ฟากที่พวกเราเริ่มเดินศึกษากันคือ ฟากสวรรค์ ก็จะเป็นสิ่งก่อสร้างสวย ๆ งาม ๆ ประกอบด้วยนางฟ้า เทวดา มากมาย
แล้วก้อเดินไปดู เต่าที่น่าสงสาร ที่ทางวัดจำเป็นต้องเลี้ยงไว้ เพราะคนที่มาทำบุญ นำมาปล่อย คงจะคิดว่าเป็นการทำบุญ ช่วยชีวิตสัตว์โลก แต่... จะรู้มั้ยว่า เป็นการทำบาปชัด ๆ เพราะวัดไม่มีกำลังคน, ไม่มีกำลังทรัพย์ และไม่มีสถานที่มากพอ ที่จะเลี้ยงพวกมัน เป็นจำนวนมากแล้ว มีโอกาสได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเต่า เจ้าหน้าที่บอกว่า เต่าเหล่านี้มาจากคนที่มาทำบุญที่วัดแล้วเอามาปล่อยตามสระตามบ่อที่มีอยู่รอบวัด ตัวไหนโต ตัวไหนใหญ่ เค้าก้อต้องแยกมันออกมาอยู่อีกที่ เหมือนกันคอกไว้ให้พวกมัน เพราะสระ และ บ่อ มันคับแคบเกินไป แล้วต้องเลี้ยงมันแบบตามมีตามเกิด ตามยถากรรมไป เต่าที่นี่มีมากมายเป็นหลักหลาย ๆ พันเชียว ถือว่าเป็นภาระหลักของวัดเลยทีเดียว!!
และแล้วก้อเดินไป ฟากนรก กันต่อเลย มาอยู่ทางฟากนรกเนี่ย!! รู้สึกสนุกกับการดูรูปปั้นเปรตมาก ๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม๊ทำไม ถึงไม่รู้สึกสลดหดหู่กับรูปปั้นผีเปรตเอาซะเลย... ขนาดเจอเปรตที่ตกกะทะทองแดง คุณอาร๊อบยังบอกว่า ร๊อบว่า นี่คงเป็นเปรตที่ทำอาหารไม่อร่อยเน๊อะ ฮ่าๆๆๆ... ฝรั่งก้อเล่นมุขเป็นกับเค้าเหมือนกันนะเนี่ย!! ต้องออกเดินทางกันแล้ว แต่คุณอาร๊อบ ขับรถไปต่อไม่ไหว คงด้วยอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ฝรั่งตาน้ำข้าวถึงกับหมดแรง ตกลงว่าต้องจอดรถไว้ที่วัดไผ่โรงวัว 1 คัน แล้วนั่งน้อง Jazz เราไปกันต่อทั้งหมด 5 ชีวิต และน้องตัวเล็กในท้องอาอีก 1 ชีวิต วัดต่อไปที่จะพาฝรั่งทัวร์คือ วัดป่าเลย์ไล วัดนี้สวยจริง ๆ โดยเฉพาะ หลวงพ่อโต ให้ความรู้สึกสงบในใจจริง ๆ ร้อน ๆ เข้ามาในโบสก์ก้อรู้สบายขึ้นทันที ภายในบริเวณวัด ยังมีเรือนขุนช้างขุนแผน ให้ได้สำรวจด้วย รวมทั้งยังมีตำนานเพลงลูกไทย สุรพล สมบัติเจริญ เดินชื่นชมความงามกันสักพัก ก็ออกเดินทางต่อกันเลย
ที่ต่อไปก้อไปต่อที่ หอบรรหาร-แจ่มใส มาถึงสุพรรณบุรีทั้งที ก็ต้องมาแวะชมวิวด้านบนหอกันซะหน่อย!! ที่นี่เสียค่าเข้าคนละ 10 บาท และค่าจอดรถอีก 10 บาท แล้วต้องไปเสียค่าขึ้นบนหออีกคนละ 30 บาท เข้าไปถือว่าคุ้มมากที่เดียว สวนสาธารณบริเวณรอบ ๆ สวยงามร่มรื่นมาก ๆ มีทั้งน้ำพุ น้ำตกจำลอง หลายจุดด้วยกัน
หอบรรหาร-แจ่มใส แบ่งเป็น 3 ชั้นด้วยคือ ชั้นที่1 ก็เป็นชั้นล่างสุด ขายของที่ระลึกต่าง ๆ ชั้นที่2 เป็นส่วนของร้านอาหาร ที่นี่พวกเราก็แวะกินอาหารว่างกันด้วย
ส่วนชั้น 3 ใช้ในการชมวิวรอบเมืองสุพรรณ และมีภาพเขียนพร้อมประวัติสมเด็จพระนเรศวรใช้ชมอีกด้วย
ทริปของวันนี้ก้อจบด้วยการวิ่งรถกลับมา เอารถที่จอดไว้ที่วัดไผ่โรงวัวอีกคัน แล้ววิ่งยาวเพื่อจะมุ่งหน้าไปพัทยากันต่อ พร้อมทั้งแวะรับสมาชิกของทริปนี้อีก 1 ชีวิตที่ Central บางนา กว่าจะถึงพัทยาก็ค่ำมากทีเดียว ตกลงไปพักที่ประจำกันเลย จะอยู่ซอยสุขุมวิท 79 ตรงข้าม BigC พัทยาเลย ค่ำนี้สาว ๆ ก้อนอนพักผ่อนกันไปตามระเบียบ ส่วน 3 หนุ่มก็ออกตระเวนราตรี แห่งพัทยากันจนเกือบสว่าง
เช้าที่ 13 พ.ค. ที่พัทยาก้อไม่มีไรมาก เนื่องจากคุณอาฝรั่ง He อยากมาตระเวนราตรีพัทยา เพราะฉะนั้นทริปช่วงเช้าก็เลยได้ไปแค่พัทยาปาร์ค ไปกินข้าวแนว Inter กันซะหน่อย มีทั้งสเต็ก, ฟิชซ่า, แฮมเบอร์เก้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย อาหารค่อนข้างแพงทีเดียว แต่อาฝรั่งบอกว่าอร่อยมาก ๆ เราคนไทยก็รู้สึกงั้น ๆ แหล่ะหว่า... มื้อนี้หมดไปเกือบพัน
เดินเล่นสักพักใหญ่ ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรหร๊อก... ได้แต่เดินชมบรรยากาส รอบ ๆ พัทยาปาร์คแค่นั้นเอง แล้วก้อมาแวะเล่นน้ำทะเล น้ำไม่ค่อยใสน่าเล่นเหมือนทะเลฝั่งอันดามัน ก็เลยมีแต่อาฝรั่งลงเล่นคนเดียว เล่นน้ำจนฉ่ำใจ ก็แวะ BigC ก่อนเข้าที่พัก คืนนี้ก้อเหมือนเดิม 3 สาวนอนอยู่ที่ห้อง ส่วน 3 หนุ่มออกตระเวนราตรี เป็นคืนที่ 2 แต่คืนนี้ให้ limit การเที่ยวของคุณสามี และพี่เขย แค่ตี 1 เท่านั้น เพราะพรุ่งนี้ต้องทำงานกันรวมทั้งตัวเราด้วย แต่ก็ยังติดลมกันซะงั้น เข้ามาที่พักเพื่อปลุกเรากลับบ้านก้อปาเข้าไปตี 2 ได้แล้ว และแล้วก้อต้องบึ่งรถกลับบ้านก่อน 4 ชีวิต ส่วนอีก 4 ชีวิตรวมถึงเจ้าตัวเล็กในท้องต้องค้างที่พัทยาคืนนี้อีกคืน กว่าจะกลับถึงบ้านตีสี่นิ๊ด ๆ เห็นจะได้ ฮ่าๆๆๆ ... ตื่นมาทำงานด้วยความง่วงงาวหาวนอน แต่ก็ต้องตื่น เพราะเรามัน มนุษย์เงินเดือน
ปีหน้าต้องวางแผนให้ดีก่อนพาคุณอาฝรั่งเที่ยวเมืองไทย ปีนี้ไปแบบเหนื่อย ๆ แต่ก้อจบด้วยความสุขเหมือนเคย
Create Date : 23 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2550 14:54:35 น. |
|
18 comments
|
Counter : 2489 Pageviews. |
|
|
บางรูปก้อเอามาจากกล้องเพียว ๆ เลยคร๊า......
ความอดทนในการตกแต่งรูปมีน้อย แต่อยากเอารูปมาใส่ใน blog เยอะ ๆ อ่ะคร๊า...
ปล. เข้ามาเม้นต์ blog ตัวเองคนแรกเลยคร๊า...