ป่าหินนน...งาม
ทริปนี้เป็นทริปต่อเนื่องมาจาก อช.ไทรงาม เพราะตั้งใจว่าจะไปตั้งหลักปักฐานกันที่ชัยภูมิสัก 2 วัน นี่ก็เพิ่งผ่านไปแค่ครึ่งวันที่ อช.ไทรงาม เองเท่านั้น!!
หลังจากเสร็จจากการสำรวจธรรมชาติที่ อช.ไทรทอง ก็จะออกเดินทางต่อไปเล่นน้ำตกกันต่อ แต่ก็แหม๋ๆๆๆ...กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด พวกเราก็ต้องการอาหารเพื่อการเดินทางฉันนั้น มื้อแรกของพวกเราก็แวะเอาร้านแรกที่เจอระหว่างทางไปน้ำตกไทรทองนั่นแหล่ะ เป็นอาหารง่าย ๆ ตามสไตส์คนสวย

เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ออกเดินทางต่อไป น้ำตกไทรทอง กันต่อ มาถึงด้วยความอ่อนเพลียยกแก๊งค์ ก็เลยหามุมปูเสื่อ งีบหลับกันก่อนเลย หลับไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมง...นอนต่อไม่ไหว แดดเผาคร่า...

ในเมื่อนอนต่อไม่ได้แร๊ะ...ก็เลยเริ่มต้นสำรวจธรรมชาติกันเลยล่ะกัน!! ที่แรกที่จะนำเสนอระหว่างทางก่อนไปถึงตัวน้ำตกไทรทอง ก็นี่เลย...ต้นไม้พันปี (ต้นกระบาก) อลังการงานสร้างมาก ๆ แถมด้วยความขลัง มีทั้งศาล พวงมาลัยดอกไม้ ผ้าสามสี โอ้ๆๆๆ...สิ่งศักดิ์อยู่คู่กับคนไทยจิ๊ง ๆ

เดินต่อไปไม่เท่าไหร่ก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว ความตั้งใจแรกว่าจะมาโดดน้ำเล่นน้ำให้ฉ่ำใจ ต้องดับไปเมื่อเห็นตัวน้ำตกเป็น ๆ น้ำน้อยมาก แถมยังขุ่นอีกต่างหาก และแถมด้วยมีคนเยอะอีกด้วย...พวกเราถึงกับถอดใจ เดินกลับมาเพื่อไปหาที่เที่ยวต่อกันดีกว่า

ดูเวลาแล้วก็บ่ายสามก่า ๆ แล้ว งั้นก็ออกเดินทางไปหาที่นอนที่ป่าหินงานกันเลยดีกว่า เจออะไรเด็ด ๆ ก็แวะเอาระหว่างทางล๊ะกัน ระหว่างทางก็เจอเจ้านี่ก่อนเลย เรือคายัค เลี้ยวรถปื๊ดดดดด...เข้าไปดูทันที ตอนแรกกะใช้บริการซะหน่อย แต่ดั๊นมีแต่เด็ก ๆ เล่นทั้งนั้นนน...ถ้าจะไปร่วมขบวนการกับเด็ก ๆ ก็ดูจะกะไรอยู่ เลยนั่งดูน้ำลายหยดติ๋ง ๆ ด้วยความอยากไปก่อน

ก่อนเข้าเขต อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม แวะซื้อข้าวปลาอาหารไปทำกินกันก่อน แต่ว่าหนักไปทางผลไม้ซะมากกว่า เพราะระหว่างทางมีผลไม้จากไร่ จากสวน มาตั้งขายมากมายทีเดียว แต่ราคาไหง๋...แพงกว่ากรุงเทพฯ ก็ไม่รู้!!
 ถึงป่าหินงาม สิ่งแรกที่ทำก็คือ ช่วยกันกางเต็นท์ก่อนเลย โชคดีได้บริเวณใกล้ ๆ จุดบริการนักท่องเที่ยว และใกล้ห้องน้ำด้วย

กว่าจะกางเต็นท์เสร็จความหิวก็มาเยือนอีกแล้ว จัดแจงทำอาหารกินกันก่อนเลย อาหารมื้อนี้ประกอบไปด้วย - ข้าวสวยดิบ - ข้าวต้มไหม้ - เครื่องกระป๋องแสนอร่อย - มาม่า มีทั้งประเภทต้ม และ ผัด - สุดท้ายก็นี่เลย หม่ำทอด มาอิสานทั้งที ก็ต้องมาลิ้มลองชิม อาหารอิสานแท้ ๆ ซะหน่อย

ต่อด้วยเดินดูของ และก็นิทรรศการทุ่งดอกกระเจียว บริเวณใกล้ ๆ สุดท้ายก็นอนหลับพักผ่อน เพื่อเก็บแรงไว้เดินทางขึ้นไปด้านบนเขาดูดอกกระเจียวกัน

ระหว่างนอนประมาณตี1 ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ด้วยนิสัยคนไทยอย่างเรา ก็ต้องกระเสือกกระสนไปหาข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ซะหน่อย ได้ความว่า มีผู้หญิงไปฉี่แถว ๆ หน้าวัด แล้วโดนผีเข้า กรีดร้องโวยวายดิ้นทุรนทุรายใหญ่เลยอ่ะ เจ้าหน้าที่พาขึ้นรถกะบะ ถือธูปไปกำใหญ่เชียว สักพักได้ยินแต่เสียงรถกะบะแร๊ะ...สงสัยผีจะออกไปสู่โลกของเค้าแล้วมั้ง อิอิ...ของอย่างงี้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ นะจะบอกให้!!
เช้าวันจันทร์ที่ 30 ก.ค. ก็ตื่นมาด้วยความสดชื่น ท่ามกลางสายหมอกและผู้คนเลยทีเดียว จัดแจงล้างหน้าแปรงฟัน กินอาหาร แล้วก็ออกไปขึ้นรถสองแถวใหญ่ที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้ เพื่อขึ้นไปดูดอกกระเจียวกันเลย

ระหว่างอยู่บนรถสองแถว เจอหมอก เจอธรรมชาติ สวยมาก ๆ ประหนึ่งว่า รถกำลังวิ่งผ่าสายหมอกแถว ๆ ดอยที่ภาคเหนือเลยทีเดียว สดชื่นมาก ๆ ประทับใจตรงหมอกเนี่ยแหล่ะ เพราะดอกกระเจียวน้อยกว่าที่คิด และก็โรยลาไปซะเยอะ แถมด้วยคนไทยจอมเลี้ยวอีก เห็นก็เห็นว่าป้ายเค้าาบอกว่าห้ามเข้าไปในบริเวณทุ่งดอกกระเจียว อุตส่าห์ทำทางให้เดินดู กันสบาย ๆ ยั้งยัง!! จะปีน ป่าย ลงไปเหยียบย่ำดอกกระเจียวแสนสวยซะอีก... เห็นแล้ว ละเหี่ยใจ จริง ๆ คนพวกนี้

เดินชมทุ่งดอกกระเจียวกันไป ถ่ายรูปกันไปเรื่อยเปื่อย จุดไฮไลน์ของที่นี่นอกจากทุ่งดอกกระเจียวแล้ว ก็ตรง สุดแผ่นดินเป็นรอยเชื่อมระหว่างภาคอิสานคือ ชัยภูมิ กับภาคกลางคือ ลพบุรี (อันนี้เอาความรู้มาฝากอ่ะ...อิอิ)

ต่อจากนั้นก็มาดักรถสองแถวเพื่อไปชมสวนหินงาม หินเหล่านี้ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้พวกเรา เพื่อมาจินตนาการกันเองว่าจะให้มันเหมือนอะไรกันมั่ง มีทั้งหินแม่ไก่, หินเรดาร์, หินตะปู, หินปราสาท และอีกมากมาย

เดินชมสวนหินงามจนเหนื่อยก็ลงมาด้านล่าง กินอะไรเล่น ๆ กันอีก 1 มื้อ แล้วเก็บข้าวเก็บของเดินกลับ กทม. ระหว่างนั้นก็แวะ น้ำตกวังก้านเหลือง ลพบุรี เพื่อหาข้าวเหนียวส้มตำ ไก่ย่าง อาหารสุดโปรด กินกันซะหน่อย เนื่องจากว่ามาอิสานก็แล้ว ยังไม่โดนของพวกนี้กันเลย!!

ดูเวลาแล้วยังเหลืออีกเยอะ งั้นมาแวะเขาพระพุทธฉายกันซะหน่อย ไอ้เรากับสามีเคยมากันแล้ว แต่คนอื่นยังไม่เคยมาก็เลยพามาซะหน่อย ที่นี่ต้องเดินขึ้นบันไดไปเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท ด้านขวา ด้านบนถึง 400 ขั้น เดินไปพักไป มีน้องลิงมาดักรอให้กำลังใจเพี้ยบ!!

เดินถึงด้านบนวิวทิวทัศน์ สวยงามมาก ลมเย็นสบายมาก ๆ ก็ไปจุดธูปเทียนนมัสการรอยพระพุทธบาทกันก่อนเลย...โอ้โฮ เหมือนรอยเท้ามาก แถมด้วยตรงกลางมีรูปคล้าย ๆ ธรรมจักรด้วยนะ

แล้วก็เดินลง ต่อด้วยเดินขึ้น เพื่อไปชมภาพพระพุทธฉาย กันต่อเลย... เหนื่อยอยู่เหมือนกัน แต่ความตั้งใจสูงเกินความเหนื่อยจริง ๆ ภาพพระพุทธฉาย เป็นหน้าผา แล้วเหมือนมีภาพสีออกน้ำตาลแดง ๆ คล้าย ๆ รูปของพระพุทธเจ้า เวลาฝนตกทุกที่จะเปียกหมด ยกเว้นรอยพระพุทธฉาย และยังมีผึ้งหลวงมาเกาะสร้างรังขนาดใหญ่ใกล้ ๆ รอยพระพุทธฉายอีกด้วย เจ้าหน้าที่บอกว่า พอรังนี้ไป ไม่นานรังใหม่ก็จะมาสร้าง เหมือนมาเฝ้า หรือมาสักการะบูชาพระพุทธเจ้า ยังไงยังงั้น!!
 และแล้วก็พลบค่ำอีกแล้ว เป็นเวลาที่พวกเรากลับกรุงเทพฯ ถูกกันพอดี...อิอิ ก่อนถึงบ้านก็แวะกินปลาซ่อนเผาเกลือ ที่ร้านอี๊ต๊อบอี๊ต๋อย กันอีกซะหน่อย เพราะรู้สึกว่า ท้องจะร้องประสานเสียงกันใหญ่แร๊ะ ทริปนี้หมดกันไปแบบหารเท่า ค่ากิน ค่าที่อยู่ ค่าน้ำมันรถ ทั้งหมด 5 ชีวิต ตกคนละ 600 บาทเท่านั้นเอง
สถานที่ที่ไปมาประกอบไปด้วย: 1. อุทยานแห่งชาติไทรทอง ชัยภูมิ 2. น้ำตกไทรทอง ชัยภูมิ 3. น้ำตกเทพสถิต อันนี้แค่แวะไปดู เพราะเป็นทางผ่าน ชัยภูมิ 4. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม สวนหินงาม ชัยภูมิ 5. น้ำตกวังก้านเหลือง ลพบุรี 6. วัดเขาพระพุทธฉาย ลพบุรี 7. อื่น ๆ เรี่ยร่ายลายทาง
แหม๋ๆๆ...หาทางจบของ blog ดีกว่า... ขอให้อ่านกันให้สนุก ลุกนั่งกันให้สบาย ถ้าหิวก็เดินไปต้มมาม่ามานั่งกิน นั่งอ่านหน้าเครื่อง กันก่อนล่ะกัน ถ้าปวดฉี่-ปวดอึ ก็พักสักเดี๋ยว แล้วก็กลับมาอ่านต่อ ฮ่าๆๆๆๆ...บาย ๆๆๆ โชคดีไม่มีหนี้นะทุก ๆ คน
Create Date : 16 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 16 สิงหาคม 2550 13:28:47 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1635 Pageviews. |
 |
|