ไปเที่ยวแก้เครียดกันดีกว่า...
หลังจากเก็บตก สำรวจพื้นที่บนดอยอ่างขางกันเรียบร้อยแล้ว ก็เก็บสัมภาระ
ลงๆๆๆๆ ไปบ่อน้ำพุร้อนฝาง ที่ทำการอุทยาน เพื่อติดต่อขึ้นยอดดอยผ้าห่มปก กันเลย

ลงทางนี้เป็นทางลาดชัน เค้าว่ากันว่าปราบเซียนมานักต่อนักแล้วววว
ในความคิดของนักเดินทางอย่างเรา...ธรรมด๊าธรรมดามาก สำหรับเส้นทางอย่างนี้

ติดต่อรถเรียบร้อย มีคนขอแจมอีก 3 คน ทั้งหมดก็เลยเท่ากับ 9 ชีวิตที่จะฝากไว้กับรถเบอร์ 23
เนื่องจากว่ามีคนมาขอแจม 3 คนทีหลัง คนขับเลยขอบวกเพิ่มอีก 200 รวมเป็นค่าเหมารถ 2000 พอดิบพอดี
นัดรถมารับตอน 4 โมงเย็น เพราะว่า ยังไม่ได้อาบน้ำกันเลย 2 วันแล้วววว
ขอสะอาดนิ๊ดหนึ่งแร๊ะกัน...งานนี้ขอแบบ Private หน่อย! เลยใช้บริการห้องอาบน้ำแร่ส่วนตัว
ตกคนละ 50 บาท 2 คน ต่อ 1 หลัง (หลังละ 100 บาท)
ปล. อันนี้ไม่มีรูปถ่ายอ่ะ เพราะต้องทำเวลาในการอาบน้ำอาบท่ากันหน่อย ชักช้าจะไม่ทันการ

รวมเป็นค่าเหมารถ 2000 พอดิบพอดี

ได้เวลาแล้วก็ลุยกันเลย หนทางสักน่าหนุกหนานยิ่งนัก
มีเสียว ๆ ให้ลุ้นอยู่ตลอดทาง แต่สุดท้ายก็พาเราถึงจุดหมายปลายทาง คือ ยอดดอยผ้าห่มปก
โดยสวัสดิภาพ กว่าจะขึ้นมาถึงก็ปาเข้าไป 5 โมงกว่าแล้ววววว...คืนนี้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน ที่เต็นท์
นอนดูพระจันทร์กลมโต ไปก่อน พรุ่งนี้ต้องเดินเท้าไปพิชิตยอดดอยกันจริง ๆ แล้ว

ว๊าวววว...เพิ่งจะตี 4 ของวันที่ 9 ก.พ. 52 เอง แต่เจ้าหน้าที่ก็เดินมาปลุกให้ไปเดินขึ้นยอดดอยจุดสูงสุดแล้ว
สูงจากระดับน้ำทะเล 2285 เมตร และสูงเป็นอันดับสองของประเทศเชียวน๊า

ระหว่างทางมองไม่เห็นอะไรเลย มืดตึ๊บ นอกจากพระจันทร์กำลังจะลาลับขอบฟ้า
กับแสงนวลของพระอาทิตย์ที่จะโผล่ขึ้นมา
เหนื่อยใจแทบขาด แต่สุดท้ายก็ขึ้นไปถึงยอดสูงสุด กันครบหมดทุกคน

ระหว่างนั้นก็เก็บภาพพระจันทร์ตก พระอาทิตย์ขึ้น วิวทิวทัศน์กันไปเรื่อยเปื่อย
แต่จะขาดไม่ได้ก็ต้องป้ายยยยบนยอดนี่แหล่ะ...ให้ตายเหอะซาร่า สิ่งนี้นี่แหล่ะที่เราต้องการ เยี่ยมจริงเลยจ๊อดดด..
อุณหภูมิข้างบนวัดได้ 7 องศา ยืนเฉย ๆ แทบไม่ได้ มันหนาวเหน็บจริง ๆ

ฟ้าสว่าง ท้องฟ้าสดใส ก็ได้เวลาลงกันแล้วซิ พวกเรา!
ระหว่างเดินลงก็แวะถ่ายรูปเก็บป้าย เรี่ยร่ายรายทางไปเรื่อย ๆ จริง ๆ ก็หาเรื่องพักเหนื่อยต่างหาก

พอฟ้าสาง เห็นทางลงเท่านั้นแหล่ะ พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “เมื่อคืนกรูขึ้นมาได้ไงเนี่ยยยยยยย”

สาย ๆ ก็เดินมาถึงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติฟ้าห่มปก (ไม่ได้เขียนผิดนะ)
แต่ในใบโบชัวร์ที่ได้แจกมาเค้าเขียนงี้จริง ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า เปลี่ยนหัวหน้า ก็เลยเปลี่ยนชื่ออุทยาน ไปด้วย

แล้วก็มาวิ่งถ่ายรูปเก็บป้ายกันอีกนิด ก่อนทุบหม้อข้าวหม้อแกงกินให้หมดทุกอย่าง
แล้วเก็บของเพื่อเตรียมลงไปยังบ่อน้ำพุร้อนฝางกันเลย

ถึงบ่อน้ำพุร้อนฝาง ก็ปากเข้าไปเกือบบ่ายสองแล้วววววว
อาบน้ำอาบท่ากันเสร็จ ก็ไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ กันอีกนิ๊ด

ต้องบอกว่าน่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ น้ำพุร้อนนนนนน เป็นน้ำพุที่พุ่งขึ้นสูงมากกกก
โอ้ๆๆๆๆ อะเมซิ่งไทยแลนด์แดนเหนือ จริง ๆ