เช้านี้ตื่นมาด้วยความตกใจแหล่ะ! ตัวเป็นตุ่มใต้ผิวหนังหมดทั่วตัวเลย (ไม่ใช่ผื่นนะ)
เป็นเหมือนจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง บวกกับอาการไข้ก็ยังไม่ทุเลา แถมเพิ่มอาการปวดกระดูกเข้ามาอีก
โอ้ยยยย! นี่ฉันเป็นอะไร แต่ขอบอกใจสู้สุด ๆ ตื่นมาเริ่มต้นด้วยข้าวต้ม(วิญญาณ)หมูสับ วิญญาณจริง ๆ นะ
แอบบ่น ๆๆ แฮ่ๆๆๆ เพราะราคาต่อหัว อาหาร 3 มื้อพร้อมที่พัก คนละ 600 แอบแพงกว่าแพนางไพร 40 บาท

แล้วก็ไปลุยกันต่อที่ถ้ำปะการัง เหมากรุ๊ป 300 บาท กะว่าจะไป Join กับกรุ๊ปอื่นซะหน่อย แต่ไม่มีให้ Join เลยง่ะ
เลยไปลุยกัน 4 คนตั้งแต่ 8 โมงเช้า เปิดประเดิมเป็นกรุ๊ปแรกเลยสำหรับวันที่ 7 ก.ค. 52
เข้าไปในถ้ำก้อไม่ผิดหวังเรื่องความสวยงาม เรื่องการให้ความรู้ของเจ้าหน้าที่ แต่แอบผิดหวังที่ถ้ำมันเล็กไปนิดหนึ่ง
ใช้เวลาชมภายในถ้ำไม่น่าจะเกิน 20 นาที คิดแค่กรุ๊ปละ 100 ก็น่าจะพอแล้วง่ะ แอบบ่น ๆๆๆ อีกแล้ว

พี่ธรรมคนเรือ อยู่ดูแลเราตลอด ประมาณไปไหนพี่ไปด้วย ฮ่าๆๆๆ
แล้วก็มาถึงทางที่ต้องเดิน ๆๆๆๆ เพื่อไปต่อเรือพี่ธรรมกันอีกแล้ว แต่งานนี้สบายหน่อยเพราะไม่ต้องแบกสัมภาระ
มีมอไซด์ของทางแพขนไปให้ แล้วก็มาถ่ายรูปเก็บตกป้ายกันสักนิ๊ด ตอนขามาไม่ได้ถ่ายรูปไว้ (ป้ายบังคับซะด้วย)

พออยู่ในเรือก็พยายามจะเก็บบรรยากาศ เก็บสิ่งสวยงาม ณ ที่แห่งนี้กลับไปให้มากที่สุด
แต่ก็...เพลียมาก เนื่องจากไข้ยังไม่ทุเลา ลงเลย แถมเป็นมากขึ้นด้วยซ้ำ
ถึงฝั่งแล้วก็ขอบคุณขอบใจพี่ธรรม ขอนามบัตรไว้แล้ววว ค่าเรือตลอดทริป 2400 บาท ใจดีตบรางวัลให้เป็น 2500 บาท

หลังจากเก็บภาพบรรยากาศบริเวณท่าเรือ เรียบร้อย ก็มุ่งไปที่พระบรมธาตุไชยากันต่อเลย
ไปสักการะร่ำลาก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯ สวยแห๊ะ! แต่ร้อนมาก คนสวยเดินได้นิดหน่อยเอง เดินไม่ไหว!

ทีนี้ก็ตีกันยาว ๆ แวะกินข้าว ซื้อของฝาก เรี่ยร่ายลายทางไปเรื่อย ๆ
ก้อแวะเที่ยวสวนลุงดำ อีกแป๊บหนึ่ง ก่อนกลับ

กว่าจะกลับถึง กทม. ไปส่งเพื่อนก็ปาเข้าไป 3 ทุ่ม แถมยังต้องแวะหาหมออีก เพราะร่างกายจะไม่ไหวแล้ว
หมอทำการตรวจเลือด ตกใจเป็นการใหญ่นึกว่าเป็นไข้เลือดออก สรุปไม่ได้เป็นไข้เลือดออกแหล่ะ
แต่...
เป็นชิกุนคุนย่า ฮ่าๆๆๆ ได้ของฝากจากสุราษฏร์มาด้วย ทันสมัยสุด ๆ คนกรุงฯ น้อยคนนะที่จะได้เป็นกันอ่ะ!