อาทิตย์นี้เป็น Long Weekend แต่วันเสาร์-อาทิตย์ คุณสามีติดงานทั้ง 2 วันเลยยยย....เศร้าๆๆๆ
วันจันทร์ที่ 7 เมษายน 2552 ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่อง แต่เราไม่ได้หยุดต่อเนื่อง เลยต้องหาที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุงฯ
แบบเช้าไปเย็นกลับ ก็ตกลงใจไปกันที่ “เกาะสีชัง”

กะว่าจะออกจากบ้านแต่เช้ากะว่าจะไปขึ้นเรือข้ามฟากตอน 8 โมง แต่แล้วววว...
อีลุ่ยฉุยแฉะ ไปถึงท่าเรือเกาะลอย 10 กับอีก 5 นาที โอ้พระเจ้า...เรือแล่นออกไปต่อหน้าต่อตา
ก็เลยไปนมัสการ เจ้าแม่กวนอิม หยกขาว ที่วัดเกาะลอย ใกล้ ๆ ท่าเรือนั่นเอง

บรรกาศดี...ตรงที่ไม่ร้อน แต่เมฆฝนครึ้ม ๆ ชักหวั่น ๆ อยู่เหมือนกัน
พอได้เวลาเรือออก 11 โมงตรงเป๊ะ...ให้ตายเหอะ! ฝนกระหน่ำซำเมอร์เซลล์จริง ๆ กลัวมาก ๆ
แต่สุดท้ายก็ถึงท่าเรือฝั่งเกาะสีชัง โดยสวัสดิภาพ แต่ก็ต้องนั่งรอเจ้าฝนอีกชั่วโมงกว่า ช่างเสียเวลาเสียนี่กระไร

พอฝนซา ๆ ประมาณบ่ายโมง ก็เช่ามอไซด์เหมาวัน 250 บาท...ฮี่ๆๆ ได้ฟีโน่ คิตตี้ สีชมพู หวานแหว๋วเชียววว
แล้วทริปนี้ที่แรก ก็ต้องไปสักการะ เจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่ถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่ กันก่อนเลย

ข้างในก็จะออกแนวลักษณะจีน ๆ หน่อย บันไดก็จะมีมังกรพาดเป็นราวบันได
เข้าไปภายในถ้ำจะพบ หินลักษณะเป็นรูปหน้าคน (แต่ได้ทาสีทองไว้) ซึ่งชาวสีชัง เชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่

แล้วก็เดิน ๆๆๆ ภายใต้ฝนตกปอย ๆ เพื่อขึ้นไปสักการะ รอยพระพุทธบาท
ระหว่างเดินขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ ก็พบวิวสวย ๆ รอบ ๆ เกาะสีชังมากมาย สุดท้ายก็เดินถึง...เหนื่อยเอาการอยู่

ก่อนถึงรอยพระพุทธบาท จะมี เจดีย์หิน เป็นการเอาหินก้อน ๆ ใหญ่ ๆ มาก่อเป็นเจดีย์
ขึ้นไปถึงก็กราบนมัสการรอยพระพุทธบาท ต่อด้วยถ่ายรูปกันนิดหน่อย เพราะฝนตก กลัวว่ากล้องจะพังเอาได้

ต่อๆๆๆ ไปต่อกันที่ ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์ เป็นจุดชมวิว และชุดถ่ายภาพที่ดีมาก ๆ

ที่บริเวณนี้เค้ามีถ่ายทำหนังกันอยู่ด้วยยยย...เลยไม่ได้เดินไปจนสุดทาง กลัวว่าจะไปรบกวนเค้า

แล้วขี่มอไซด์ต่อไปที่ หลวงพ่อพระเหลือง จริง ๆ ก็มองเห็นลิบ ๆ ตั้งแต่อยู่บนถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว
แต่พอขึ้นไปช่างน่าวังเวงใจนัก ไม่พบนักท่องเที่ยวเลยง่ะ แต่ยังดีที่ยังมีคนดูแลบริเวณนี้อยู่ 2 คน

จริง ๆ จะมีถ้ำจักรพงษ์ด้วย ต้องเดินไปอีกหน่อยต่อจากหลวงพ่อพระเหลือง
แต่ตัดสินใจไม่เดินไปกัน เพราะว่ารู้สึกจะเหงา ๆ กันเกินไป ก็เลยได้แค่ทำบุญกับหลวงพ่อพระเหลือง เท่านั้น

แล้วขี่มอไซด์ต่อไปกันแบบหลง ๆ ก็ไปเจอ วัดถ้ำยายปริก เข้า
ก็เลยแวะกันสักนิ๊ดดดดดด... เส้นทาง Adventure น่าดู ถึงกับได้กลิ่นไหม้ ที่มอไซด์เลยง่ะ

ที่ด้านบนช่างเงียบสงบ จริง ๆ เลยทำให้รู้สึกว่า เราสองคน ไม่ควรจะไปรบกวน เหล่าแม่ชี ที่กำลังปฎิบัติธรรม
ก็เลยได้แค่เดินดูบริเวณใกล้ ๆ แล้วขี่มอไซด์ลงดีกว่า

ไปต่อกันที่ไฮไลน์ของเกาะสีชังกันเลย... สะพานอัษฎางค์

ดูสะอาด และน่าพักผ่อนมาก ๆ คงได้รับการบูรณะปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา
แต่จริง ๆ แล้วที่บริเวณนี้ พระจุฑาธุชราชฐาน ก็ได้รับการดูแลสะอาดสะอ้านโดยรอบนั่นแหล่ะ

แล้วก็ต้องออกแรงเดินกันอีกแล้วซิ...คิดแล้วเหนื่อย แต่ต้องคุ้มแน่นอน!
จุดแรกที่ต้องเข้าไปเยี่ยมชมคือ เรือนไม้ริมน้ำ แต่น่าเสียดายวันที่ไปเป็นวันจันทร์ ซึ่งเค้าจะปิดไม่ให้เข้าชม
แต่แค่ภายนอกก็ดูร่มรื่น น่าอยู่มาก ๆ แล้ววววว

เดิน ๆ ไปอีกก็จะเจอ หินระฆัง แปลกมาก ๆ จะมีหินก้อนบนสุดเท่านั้น ที่เอาหินก้อนเล็ก ๆ ไปทุบ ๆ
แล้วจะมีเสียงเหมือนระฆัง อย่างนี้ไม่พลาด ต้องขึ้นไปเคาะๆๆๆ กันซะหน่อย
และยังมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ และพระมหาธาตุเจดีย์ ประวัติเนี่ยยย...ไปหาอ่านกันเองแร๊ะกัน

เดินไปเหงื่อหยุดติ๊ง ๆ เจง ๆ เลยที่นี่ เพราะพอฝนหยุดแดดก็ร้อนเปรี้ยงทันที
เดินลงมาเก็บภาพกันอีกสักนิ๊ด....แล้วขับต่อไปหาทะเลกันเลยดีกว่า

ระหว่างทางพบเส้นทางอนุรักษ์ กระรอกขาว ก็เลยแวะดู แวะถ่ายรูปกันอีก
ระหว่างทางพบความงามตามธรรมชาติมากมาย...ฮี่ๆๆๆ หนุกดีเหมือนกัน ขี่มอไซด์เที่ยวเนี่ย

ที่สุดท้ายบนเกาะสีชังก็มาจบที่ อ่าวอัษฎางค์ อ่าวสวย น้ำใสจริง แต่หินค่อนข้างเยอะ
มาถึงอ่าวนี้ คุณสามีเกิดอาการเพลียแดด เลยขอนอนสักงีบ...เงียบใหญ่ทีเดียวเกือบชั่วโมงเลย

ก็เหมือนหาดทั่ว ๆ ไปที่มีเล่นบานาน่าโบ๊ท, เรือคายัค, เจ๊ตสกี กิจกรรมทางน้ำทั่ว ๆ ไป
ตกลงงานนี้เตรียมเสื้อผ้าไปเก้อ ไม่ได้แตะน้ำทะเลกันเลย เพราะว่าดูเวลาแล้วคงเล่นไม่ทัน
เรือหมด 6 โมงเย็น แต่เราสองคนไม่อยากขึ้นเที่ยวสุดท้าย เพราะคนคงจะเยอะมากกก...

แล้วเราสอง ก็กลับข้ามฝั่งมาในเรื่อเที่ยวห้าโมง ถึงฝั่งศรีราชา ก็ขับรถกลับบ้าน
ถึงบ้านเกือบ 2 ทุ่ม..หิวโซ มาก ๆ เลยไปจบที่ร้านหมูกระทะ แถว ๆ บ้านซะนี่!