หลังผ่านคืนวันวิสาขบูชา ผ่านการเวียนเทียน กันมาจากเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ค.
เช้าวันที่ 9 พ.ค. เลยหน้าสดชื่น ๆ เบิกบาน สำราญใจเป็นที่สู๊ดดดด....

หลังจากล้างหน้าล้างตากันเสร็จ ประมาณ 6 โมงเช้า ก็มุ่งไปสะพานไม้มอญ สัญลักษณ์คู่สังขละกันเลย
ไปเช้า ๆ กะว่าไปเก็บบรรยากาศอันสดชื่น ๆ กันหน่อย
ฮี่ๆๆๆ ไปถึงก็อลังการดาวล้านดวง สุดยอดสะพานไทย เล้ยยย! จริ๊ง ๆๆ

ก็ชักภาพกันไปเรื่อยเปื่อย สะพานย๊าวยาว ก็เลยเดินไปไม่ถึงทางฝั่งหมู่บ้านมอญ
เพราะว่าท้องมันชักจะหิว แรงก็เลยไม่ส่งไปที่ขาซะงั้นนนน...หุหุ

จากนั้นก็กลับที่พัก เพื่อกินอาหารเช้าแบบเติมไม่อั้นกันเลย อาหารไม่มากชนิดนัก
แต่...ถือว่าคุ้มราคาสำหรับพวกเรา อาหารแนะนำเลยยยย...คือขนมปังปิ้ง อร่อยมาก...Confirm เล่นไปสี่แผ่น ฮ่าๆๆๆ คุ้มสุดคุ้ม!
จะให้กี่ดาวดีไม่รู้สำหรับ พรไพลิน รีสอร์ต เอาเป็นว่า คุ้มราคากับความพอใจของพวกเราแร๊ะกัน

จากนั้นก็โทร.นัดแนะกับเรือลุงเณร ให้มารับที่บริเวณรีสอร์ตได้เลย สำบ๊ายสำบาย!
ก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก ระยะทางที่ต้องนั่งเรือไม่ไกลมากนัก ราคาเหมาลำ 300 บาท

ไปถึงร้อนมากมาย น้ำแห้งมากถึงมากที่สุด เห็นทุกอย่างของเมืองบาดาล โอ้ๆๆๆ เสียดายก็เสียดายอยู่
แต่ว่า...หลาย ๆ ท่านคงวิเคราะห์กันมาดีแล้วแหล่ะ! สำหรับการปล่อยให้ทำเขื่อน
และวัดของหลวงพ่ออุตตมะก็กลายเป็นเมืองบาดาล แต่อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เกิดเป็นการท่องเที่ยวขึ้นมาแหล่ะเน๊อะ

กลับถึงรีสอร์ตประมาณ 11 โมง ก็มาเก็บตกถ่ายรูปกันที่รีสอร์ตกันซะหน่อย!
แต่ว่าที่กล้องเจกเบ่งอาจจะมีรูปน้อยหน่อย เพราะเมมใกล้จะเต็มแล้ว ต้องใช้สอยอย่างประหยัด...ฮ่าๆๆๆ

และแล้วเที่ยงก็ต้องบ๊าย ๆ อำลา พรไพลิน ซะแร้ววว... ทุกวันนี้ยังจำบรรยากาศที่รีสอร์ตแห่งนี้ได้ดี
ฮี่ๆๆๆ นั่งมองสะพานไม้ สะพานปูน เจดีย์พุทธคยาน ที่ระเบียง! โอ้ยยย! มีความสุขสุด ๆ

แวะกินกาแฟที่สมชายกาแฟสด แฮ่ๆๆๆ ในเน็ตว่ารสชาดดี แต่คุณเพื่อนบอกว่า ไม่ใช่รสชาดที่ปรารถนา
ฮี่ๆๆๆ ลิ้นใครลิ้นมัน แร๊ะกันน๊า
แร้นไปต่อกันที่วัดใหม่ของหลวงพ่อุตตมะกันเลย วัดวังก์วิเวการาม ก่อนกลับก็ต้องไปกราบไหว้ขอพรกันก่อน
ฮี่ๆๆๆ ไม่พ้นขอเลขเด็ดเลขดัง

ส่วนเรากับคุณสามี เซี่ยงเซียมซี ได้คนละเบอร์แต่ทำนายคล้าย ๆ กันคือ ไม่มีโชคมีลาภ และก็ยังไม่มีลูกในตอนนี้
แอบเศร้านิ๊ดหนึ่ง! แต่ห้านาทีถัดมาก้อลั่นล้า...ไปต่อกันเลย

ไปกันที่ด่านเจดีย์ 3 องค์ ถึงตรงนี้อากาศร้อนมากกกกก ใช้เวลาในการเดินดูของเป็นชั่วโมง
ของส่วนใหญ่จะเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์ไม้ และก็กล้วยไม้

ก็ไปสอยบุหรี่ถูก ๆ และก็ได้เรือไม้ กลับบ้านมาอีกลำ ฮี่ๆๆๆ ดูดีมั้ยล่ะ! ซื้อเรือกลับบ้านตั้งลำหนึ่งแหน่ะ!
ที่ตรงนี้แยกกันเดินดูของกับเพื่อน เลยไม่มีรูปเพื่อน ๆ เลยง่ะ ฮี่ๆๆๆ ขอโชว์กันหวีต ๆ กันสองคนแร๊ะกัน

พอออกจากด่านเจดีย์ 3 องค์ ระหว่างทางฝนตกหนักบ้าง หยุดบ้าง เบาบ้าง โอ้ยยย! งง! นี่มันฤดูอะไรเนี่ย!
ที่พักสำหรับคืนนี้ยังไม่มี ต้องพยายามหา ตั้งแต่แวะไปถามที่พักที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ปรากฎว่าต้องนอนเต็นท์ เลยต้องขอบาย เพราะไม่แน่ใจว่าฝนจะตกรึป่าว?

ขับไปเรื่อยเปื่อย...จนมาแวะกินข้าวที่น้ำตกเกริงกะเวีย
กินข้าวเสร็จก็แวะถ่ายรูปกันเล็กน้อย เก็บไว้เป็นที่ระทึก...ฮ่าๆๆๆ
เพราะดูเวลาจะมืดค่ำเอาได้ เพราะยังไม่มีที่พักสำหรับคืนนี้กันเลย

ขับมาจนถึงเขื่อนวชิรลงกรณ บรรยากาศดีมาก สวยมากกกกก...ประทับใจมากที่ดี
ก็เลยติดต่อที่พักคืนละ 1200 บาทมี 2 ห้อง, ห้องละ 2 เตียง ดีๆๆๆ ประหยัด ๆ บรรยากาศก็ดี
พักผ่อนกันสักนิด ก็ไปต่อตะเวนถ่ายรูปกัน เสียดายที่กล้องเมมหมด เลยใช้แต่กล้องเพื่อน (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รูปจากเพื่อนเลย)
เลยไม่มีภาพสวย ๆ มาฝากเลย

เย็นมื้อนี้ฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารสวัสดิการของการไฟฟ้าภายในเขื่อน
เยอะมาก อร่อยมาก ประทับใจอาหารอีกแล้วววว....แนะนำ ๆ อย่าพลาดที่นี่นะ ถ้าผ่านไปผ่านมาแถว ๆ นี้