LOVE ACTUALLY
Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

พญามังกรหนีคำสาปโอลิมปิก เตรียมอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

บลูมเบิร์ก – จีนกำลังเตรียมใช้มาตรการลดหย่อนภาษีและกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านอภิมหาโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค เพื่อรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ให้มอดไหม้ไปพร้อมกับคบเพลิงโอลิมปิก
จากการศึกษาของ สตีเฟ่น เจน นักเศรษฐศาสตร์แห่งมอร์แกน สแตนลีย์พบว่า ในบรรดาชาติเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 11 ชาติ มี 10 ชาติที่การเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนตกต่ำลงในปีถัดมา หลังจากการแข่งขันผ่านพ้นไป
เจนเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า “คำสาปโอลิมปิก” ยกเว้นอยู่ชาติเดียว ที่พ้นคำสาปได้แก่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าภาพในปี 1996 โดยการศึกษาของเจนย้อนหลังไปจนถึงปี 1956
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังมุ่งมั่นทำทุกหนทาง เพื่อหลีกหนีคำสาปนั้น
ที่ผ่านมา จีนได้ผ่อนคลายข้อกำหนดในการปล่อยกู้ และยับยั้งการแข็งค่าของเงินหยวน ที่เริ่ม“หยิก”การส่งออกให้เจ็บ ๆ คัน ๆ แล้ว มาตอนนี้ หลังจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของจีนชะลอลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 จีนจึงเตรียมพิจารณาอนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 400,000 ล้านหยวน (58,000 ล้านดอลลาร์)
ลดหย่อนภาษีและกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ
หนังสือพิมพ์ อีโคโนมิก อ็อบเซอร์เว่อร์ ในกรุงปักกิ่งรายงานว่า ตามแผนการที่รัฐบาลรอการอนุมัติจากคณะมุขมนตรีแห่งรัฐ และสภาผู้แทนประชาชนจีนนั้น รวมถึงการใช้จ่ายเงินจำนวน 220,000 ล้านหยวน และการลดหย่อนภาษีจำนวน 150,000 ล้านหยวน
ในปีนี้ จีนได้เพิ่มค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 3 เท่า เป็น 300,000 ล้านหยวน นอกจากนั้น ภายใต้แผนปัจจุบันระยะ 5 ปีของรัฐบาล ซึ่งสิ้นสุดในปี 2010 ได้ขออนุมัติเงินลงทุนเกือบ 4.8 ล้านล้านหยวนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า,เส้นทางน้ำ,ถนน และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ซึ่งเป็นเงินลงทุนโครงการก่อสร้างของรัฐที่มากกว่าของไต้หวัน, ไทย และเวียดนามรวมกัน
นอกจากนั้น โครงการฟื้นฟูบูรณะภายหลังแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนเมื่อเดือนพฤษภาคม ยังอาจใช้เงินสูงถึง 1 ล้านล้านหยวนอีกต่างหาก
“เลิกเหยียบเบรก”
นักวิเคราะห์ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของจีน “กำลังลดลงมา ดังนั้น จีนจึงมีแนวโน้มเลิกเหยียบเบรก และผ่อนคลายนโยบายการเงิน” โดยอัตราเงินเฟ้อจีนพุ่งสูงสุดที่ร้อยละ8.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ และร้อยละ 6.3 ในเดือนกรกฎาคม
เศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโตลงมาอยู่ที่อัตราร้อยละ 10.1 ต่อปีในช่วงไตรมาสสอง หลังจากเพิ่งขยายตัวถึงร้อยละ12.6 ในช่วงไตรมาสสองของปี 2007 นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งมองว่า เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตรวดเร็วที่สุดในบรรดา 20 ชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก และไม่จำเป็นต้องกระตุ้นการใช้จ่าย หรือผ่อนคลายนโยบายการเงินแต่อย่างใด
“แต่สถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน ดังนั้น ในอีกหนึ่งหรือสองเดือนจากนี้ แผนการเหล่านั้นอาจดูฉลาดมากก็ได้” เดวิด ดอลลาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายจีนของธนาคารโลกระบุ
ทางการ‘เป็นประสาทเลยทีเดียว’
นายเถา ตง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านเอเชียของเครดิต สวิส เอจี ในฮ่องกง ระบุว่า ในประเทศหนึ่งประเทศใดก็ตาม ที่จำนวนผู้หางานทำในแต่ละปีสูงกว่าตำแหน่งงานที่จัดหาไว้ให้ 20 ล้านตำแหน่ง การชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจมาอยู่ที่ร้อยละ8 จะเทียบเท่ากับเป็นภาวะถดถอย
อะไรก็ตาม “ที่ต่ำกว่าร้อยละ 9 จะทำให้ทางการเป็นประสาทเลยทีเดียว”
ตัวเลขดังกล่าวก็มีความสำคัญสำหรับชาติเพื่อนบ้านของจีนเช่นกัน เพราะอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนทุก ๆ ร้อยละ 1 จะกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติในเอเชียอื่น ๆ ถึงครึ่งหนึ่งของอัตราการเติบโตนั้น
ในบรรดาประเทศที่อยู่ในข่ายนี้มากที่สุดได้แก่ไต้หวัน ซึ่งส่งออกสินค้าเกือบร้อยละ36 ของการส่งออกทั้งหมดแก่จีนในปีที่แล้ว , เกาหลีใต้ส่งออกร้อยละ 25 และญี่ปุ่นส่งออกร้อยละ 19 จากข้อมูลของ
ยูบีเอส เอจี.
แทนที่สหรัฐฯ
ญี่ปุ่น ซึ่งเศรษฐกิจหดตัวที่อัตราร้อยละ2.4 ต่อปีเมื่อไตรมาสที่แล้ว ได้รับผลดีจากความต้องการที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นแทนสหรัฐฯ
บริษัทโคมัตสึ ผู้ผลิตรถตักดินรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นรายงานในเดือนกรกฎาคมว่า ยอดขายในจีนพุ่งขึ้นร้อยละ 37 เมื่อไตรมาสที่แล้ว ในขณะที่รายได้จากอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ลดลง
การใช้จ่ายของจีนยังช่วยกระตุ้นความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ นับตั้งแต่สินแร่เหล็กจากเหมืองในออสเตรเลีย ไปจนถึงแร่ทองแดงที่ผลิตในชิลี โดยจีนเป็นชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับถ่านหิน, เหล็กกล้า,อะลูมิเนียม, สินแร่เหล็ก,สินแร่นิกเกิล, ทองแดง และยางพารา
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความต้องการวัตถุดิบของจีนจะมีอย่างมากในอีกหลายสิบปีข้างหน้า โดยความต้องการใช้เหล็กกล้าของจีนจะเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในปี 2015
‘ราคาพุ่งทะยาน’
ราคาทองแดงจะพุ่งสูงไปจนตลอดถึงปี 2010 เนื่องจากปริมาณการผลิตที่จำกัดและมีความต้องการจากจีน ซิติกรุ๊ประบุในรายงานเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม
ในฐานะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ตัวสุดท้าย จีนอาจช่วยฉุดเศรษฐกิจโลกหลุดจากการเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี2001-2002
“การเติบโตที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ชะลอลงของจีนและชาติตลาดเกิดใหม่ที่เหลือในโลกนับเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในความเห็นของเรา ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกโตอย่างแข็งขันร้อยละ3.6 ในปีหน้า หลังจากร้อยละ3.9 ในปี2008” บินิต พาเทล นักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของโกลด์แมน ซ้าชส์ในกรุงลอนดอน ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม
จีนมีเงินทุนมหาศาลสำหรับนโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีหนี้ค้างชำระเพียงร้อยละ15.7 ของจีดีพี เทียบกับอินเดีย ซึ่งมีถึงร้อยละ 75 นอกจากนั้น จีนยังมีงบประมาณเกินดุล และมีเงินทุนสำรองมากที่สุดในโลกถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์
“นี่คือประเทศหนึ่ง ซึ่งมีการประหยัดในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู” ดอลลาร์แห่งธนาคารโลกชี้
“ถ้าการส่งออกลดลงฮวบฮาบและผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย จีนก็มีนโยบายการใช้จ่ายและการลดภาษีของรัฐบาลไว้รองรับอย่างรวดเร็ว”--จบ--




 

Create Date : 09 กันยายน 2551
0 comments
Last Update : 23 กันยายน 2551 10:53:03 น.
Counter : 308 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


illuminant
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




1.Cut loss
2.Looking forward
3.Market move by sentiment
4.The crowd usually wrong
5.Stick to the plan
6.Patience
Friends' blogs
[Add illuminant's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.