LOVE ACTUALLY
Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
"อังค์ถัด"ชี้ตปท.มั่นใจเชื่อศก.ไทยยังแกร่ง

ปธ.สอท. ซัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เบรกนักท่องเที่ยว "อังค์ถัด" ยัน ต่างชาติเชื่อ ศก. ไทยยังแกร่ง หอการค้าฯ ชี้การลงทุนติดลบ โพลล์เผย แนะรบ. เจรจาแก้ปัญหา ททท. เดินหน้าชี้แจงการเมือง ดึงสภาพเดิมคืน สนท. โวยวิกฤตยืด พาล่มจม เที่ยวทางน้ำซบเซา วอนถอยคนละก้าว
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( สอท. ) กล่าวว่า จากสถานการณ์การเมืองและการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของ นายกรัฐมนตรี ส่งผลโดยตรงต่อการท่องเที่ยว ที่ยอดการสั่งจองห้องพักในโรงแรมทั่วประเทศไทย ต่างถูกยกเลิกเกือบ 20% แล้ว ซึ่งในอนาคตอาจกระทบกับภาคอุตสาหกรรม อย่างเช่น จากที่ สหภาพแรงงานการท่าเรือฯ หยุดให้บริการ ทำให้สินค้าค้างส่งออกไม่ได้ และการนำเข้าชะลอตัวลง เพราะต่างประเทศมีความกังวลกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย โดยหากยังคงยืดเยื้ออาจเป็นผลให้บริษัทต่างชาติ สั่งออเดอร์จากที่อื่นแทน แต่อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ระดับ 34-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นผลดีต่อการส่งออก โดยเฉพาะภาคการเกษตร แต่ตนห่วงการนำเข้าสินค้าจะสูงขึ้น โดยเฉพาะ น้ำมัน ที่ปริมาณความต้องการใช้ของประชาชนไม่มีแนวโน้มลดลง
ด้าน นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด กล่าวว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ย่อมมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ และปฏิเสธไม่ได้ที่นักลงทุนจะรอติดตามสถานการณ์และชั่งน้ำหนักการลงทุนให้มากขึ้น แต่มองว่าน่าจะเป็นปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น ประกอบกับทั่วโลก ก็ประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหลายประเทศต้องเร่งปรับตัว แต่ในระยะยาวเชื่อว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการจัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนนั้น ประเทศไทยยังได้รับอันดับที่ดีอยู่ เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และยังมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นได้ และยอมรับว่า การประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉิน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ซึ่งสถานทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ก็ได้มีการเร่งชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จึงน่าจะเป็นผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น
อีกด้าน นายทองอยู่ คงขันธ์ เลขาธิการสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้มีการประชุมร่วมกัน ของผู้ประกอบการรถบรรทุกทั้ง 9 สมาคม ถึงผลกระทบจากการหยุดงานของพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยเบื้องต้นจากการหยุดงาน 3 วัน ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าทั้งระบบขนส่งและการนำเข้าส่งออก เสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกันอีกว่า จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายหรือไม่ เพื่อให้เป็นกรณีศึกษา เพราะเกรงว่าจะเกิดลัทธิเอาอย่าง ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับมติของสหพันธ์ฯ ซึ่งขณะนี้การขนส่งได้กลับมาเป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ จึงได้มีการทำหนังสือ สอบถามพนักงานการท่าเรือฯ ด้วยว่า หยุดงานเพื่ออะไร และหากหยุดเพื่อร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่ควรทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะการกดดันนั้นมีอีกหลายวิธี00...หอการค้าฯชี้ลงทุนติดลบ
ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเดือนสิงหาคมและต่อเนื่องมาถึงต้นเดือนกันยายน ในเบื้องต้นน่าจะติดลบ ซึ่งจะมีการแถลงผลสำรวจรายละเอียดในสัปดาห์นี้ รวมทั้งจะสะท้อนถึงภาพรวมและผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ให้ทุกฝ่ายได้รับทราบอีกด้วย โดยเชื่อว่าหากสถานการณ์การเมืองจบลงโดยเร็วและไม่ยืดเยื้อ ก็อาจจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมากจนเกินไป และคิดว่ารัฐบาลไม่ควรที่จะยืดเยื้อหรือให้มีการทำประชามติที่จะต้องใช้เวลานานเกินไป และอาจทำให้เศรษฐกิจโดยเฉพาะความเชื่อมั่นของการลงทุนทั้งนักลงทุนใหม่และนักลงทุนเก่าจะไม่กลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งอยู่บนพื้นฐานปัจจัยทางการเมืองที่จะต้องคลี่คลายและจบลงโดยเร็ว
นายธนวรรธน์ ยังได้เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน 820 ตัวอย่าง เรื่อง “ทรรศนะต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในปัจจุบัน” พบว่าปัญหาที่เอกชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขให้เร็วที่สุด คือ สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองถึงร้อยละ 17.3 รองลงมาคือ เศรษฐกิจชะลอตัว ร้อยละ 15.9 อันดับ 3 คือ ราคาน้ำมันร้อยละ 15.8 โดยเอกชนเห็นว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้น กระทบทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งหากการชุมนุมยืดเยื้อนาน 1-3 เดือน อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ อาจจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.5-4 จากที่เคยประมาณการไว้ที่ร้อยละ 5-6 นอกจากนี้ผลสำรวจความคิดเห็นของเอกชนร้อยละ 38.7 ต้องการให้รัฐบาลเจรจาคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็วที่สุด ร้อยละ 30.4 ต้องการให้รัฐบาลยุบสภา ร้อยละ 24 ให้รัฐบาลลาออก และร้อยละ 6.9 ไม่มีความเห็น
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ติดตามผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในปัจจุบันนั้น นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านการสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า จากการสอบถามความเห็นนักท่องเที่ยวจากการสุ่มตัวอย่างผ่านผู้ที่โทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากศูนย์บริการข่าวสารการท่องเที่ยว พบว่ากว่า 50% ของนักท่องเที่ยวคนไทย ให้ความเห็นว่าการเมืองไม่กระทบต่อการตัดสินใจท่องเที่ยว เนื่องจากได้วางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าแล้ว บางส่วนเป็นนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือจะเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวไม่มีเหตุการณ์ชุมนุมเกิดขึ้น
ทั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวจะปรับเปลี่ยนวิธีการท่องเที่ยวด้วยการขับรถเอง ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว มีผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อการตัดสินใจท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย กลัวเหตุการณ์ยืดเยื้อ การเดินทางไม่สะดวก และด้านตลาดต่างประเทศจากการสอบถามตัวแทนบริษัทนำเที่ยวในบางตลาด ทราบว่ามีการยกเลิกการเดินทาง ซึ่งเกิดจากการปิดสนามบินและบางสายการบินยกเลิกเที่ยวบินมาไทย ซึ่งเชื่อว่าการแจ้งข้อมูลข่าวสารผ่านสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศจะช่วยให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจขึ้นบ้าง00...สนท.ยันวิกฤติยืดเยื้อพังแน่
นายทักษิณ ปิลวาสน์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยขณะนี้คล้ายๆ กับรัสเซียและจอร์เจียที่มีเหตุปะทะ ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางทั้งหมด ซึ่งจากการสำรวจสนามบินสุวรรณภูมิ พบว่าค่อนข้างเงียบเหงาลงอย่างมาก ขณะนี้แทบทุกบริษัทต่างรอดูสถานการณ์ในเดือนตุลาคม หากนักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามาเหมือนในเดือนกันยายน จะมีหลายบริษัทเดือดร้อนแน่ เพราะต้องนำเงินสำรองออกมาใช้กันแล้ว อันเป็นผลให้วิกฤติของธุรกิจท่องเที่ยวไทยในรอบนี้ถือว่าหนักมาก เอเย่นต์ในต่างประเทศที่จะส่งลูกค้าเข้าไทยต่างชะลอดูสถานการณ์ เรียกได้ว่าชะลอกันไปเกือบทั้งหมด
นายเชวงลักษณะวิลาศ กรรมการผู้จัดการรุ่งเรืองทัวร์ กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดต่อการท่องเที่ยวในขณะนี้ ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ เช่น เจ้าของโรงแรมที่พะงันระบุว่านักท่องเที่ยวลดลงไปแล้ว 90% ส่วนที่ภูเก็ตนักท่องเที่ยวลดลงไปมากเช่นกัน ดังนั้น ตนมองว่าหนทางในเวลานี้รัฐบาลน่าจะยอมถอย เพื่อแก้ไขวิกฤติที่เกิดขึ้น เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ ทางออกขณะนี้ตนเห็นน่าจะเป็นการยุบสภา
ด้าน นายเดชาตุลานันท์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวในขณะนี้ค่อนข้างซบเซามากขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวลดลง ซึ่งในขณะนี้ลูกค้าผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวเริ่มยอมรับว่าอัตราการจองห้องพักเริ่มต่ำลง แม้ในแง่ของการให้สินเชื่อในขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบอย่างใด แต่ในเบื้องต้นที่เห็นเหตุการณ์ยังไม่ค่อยดี ทำให้ทุกฝ่ายไม่สบายใจและต้องเพิ่มความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้าน ดร.วิวัฒน์กิตติพงศ์โกศล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สินเชื่อธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ธนาคารให้ความสำคัญ แต่ปัญหาของธุรกิจท่องเที่ยวในขณะนี้ยังไม่ถึงระดับที่ธนาคารต้องเฝ้าระวัง เพียงแต่ต้องติดตามความเคลื่อนไหว เนื่องจากธนาคารมองว่าเป็นผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น จึงยังเป็นธุรกิจที่มีอนาคตดี และยังมีความต้องการสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้ม ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในกรุงเทพฯ และขยายวงกว้างไปตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญในภาคใต้ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงประมาณกว่า 10-20% จากที่คาดการณ์ไว้เดิมที่จำนวน 8 ล้านคน ทำให้สูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก00...ท่องเที่ยวทางน้ำกระทบหนัก
กรณีการออกมาชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยืดเยื้อและสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง จนนำมาสู่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพฯ ยิ่งส่งผลกระทบบานปลายในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีหลายประเทศได้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังการเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบการท่องเที่ยวประเมินว่า หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อจนไปถึงช่วงฤดูการท่องเที่ยว หรือช่วงไฮซีซั่น จะทำให้ประเทศไทยต้องสูญรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้การท่องเที่ยวทางน้ำ นับเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาใช้บริการ จนถึงขณะนี้เริ่มได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนมากขึ้น
นาย ภูวไนย คุนผลิน ผู้บริหารฝ่ายการตลาด ธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำเรือเจ้าพระยาครุยส์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ธุรกิจท่องเที่ยวทางน้ำยังไปได้ดี แม้จะมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่หลังเหตุการณ์วันที่ 2 กันยายน ที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงจนนำไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉิน ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากมี 5 ประเทศที่ยกเลิกการมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และอีก 10 ประเทศที่มีประกันภัยไม่คุ้มครองกรณีบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นระเบียบในสัญญาประกันที่จะไม่ครอบคลุมถึงเหตุการณ์ความรุนแรง หรือจลาจล ซึ่งการท่องเที่ยวทางน้ำถือเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ต่างชาติให้ความสนใจ จึงทำให้ได้รับผลกระทบอย่างมาก และการท่องเที่ยวในส่วนอื่นก็ย่อมได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีการลดเที่ยวเดินเรือจากวันละ 3 ลำ เหลือเพียงวันละ 1 ลำ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยมีวันละ 300 คน ตอนนี้ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์เหลือเพียง 100 คน หรือน้อยกว่า เพราะแม้แต่คนไทยก็มาใช้บริการลดลง อาจเป็นผลจากบรรยากาศการเมืองที่วุ่นวายทำให้คนไม่มีความต้องการที่จะท่องเที่ยวมากนัก ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีเข้ามาใช้บริการน้อยมาก ทั้งที่การล่องเรือห่างไกลจากจุดชุมนุม แต่สื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านมีการนำเหตุการณ์นี้ไปตีข่าวทางลบให้เกิดภาพน่ากลัวกว่าความเป็นจริง และเหมารวมว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองอันตรายไปแล้ว ทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสไปมาก และทำให้เพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และฮ่องกงล้วนได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวแทน
นาย ภูวไนย กล่าวอีกว่า อยากให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็ว และขอให้ทุกฝ่ายคำนึงผลกระทบต่อประเทศชาติ โดยรัฐบาลและผู้ชุมนุมควรถอยกันคนละก้าว ตนไม่เห็นด้วยกับการบุกยึดทำเนียบ เพราะภาพที่ออกไปทำให้นักท่องเที่ยวค่อนข้างตกใจ และมองว่าเป็นเรื่องแปลกมากจนต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้ โดยที่ผ่านมาเห็นว่ารัฐบาลประนีประนอมมายาวนานแล้ว จนไม่มีคำว่าเส้นตาย ทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อมาเรื่อยๆ ทั้งที่การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ภายใน 48 ชั่วโมง แล้วเหตุการณ์ก็น่าจะจบลงได้ และเห็นว่าการเสนอภาพออกไปนั้นก็ไม่ควรเป็นข่าวด้านลบจนมองดูน่ากลัว อย่างกรณีของจีนกับทิเบต เขามีความขัดแย้งประท้วงกันรุนแรง แต่รัฐบาลจัดการควบคุมการเผยแพร่ภาพและข่าวได้ ทำให้นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางไปจีนหรือทิเบตด้วยซ้ำ หรืออย่างกรณีของประเทศอังกฤษถูกวางระเบิดในรถไฟใต้ดินเขาก็จัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาของเราค่อนข้างยืดเยื้อยาวนาน และหากถามว่าจะจบยังไงคงไม่สามารถบอกได้เช่นกัน แต่อยากให้เหตุการณ์สงบโดยเร็วที่สุดและประเทศไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เชื่อว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้เร็วขึ้น--จบ--


Create Date : 09 กันยายน 2551
Last Update : 9 กันยายน 2551 12:06:04 น. 0 comments
Counter : 539 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

illuminant
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




1.Cut loss
2.Looking forward
3.Market move by sentiment
4.The crowd usually wrong
5.Stick to the plan
6.Patience
Friends' blogs
[Add illuminant's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.