LOVE ACTUALLY
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
แผนฟื้นฟู7แสนล้าน$รักษาได้-ไม่หายขาด


นักลงทุนลุ้นสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไฟเขียวแผนฟื้นฟูมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ หลังวุฒิสภาสหรัฐผ่านความเห็นชอบ สถาบันการเงินทั้งสหรัฐและยุโรปส่ออาการหนัก
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : มหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟเฟตต์กระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และจีอี ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียไม่ตอบรับมาตรการกอบกู้วิกฤติการเงินสหรัฐ ขณะที่มาตรการแก้วิกฤติของไทยยังไม่เป็นรูปธรรม
ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบ
ตลาดหลักทรัพย์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวน อันมีผลกระทบจากกฎหมายเสถียรภาพฉุกเฉินไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ตลาดเริ่มทรงตัวหลังกฎหมายดังกล่าวผ่านมติของวุฒิสภาสหรัฐ ความไม่แน่ใจว่าสภาล่างจะไฟเขียวแผนกอบกู้วิกฤติการเงินในวันศุกร์ที่ผ่านมา กดดัชนีตลาดสำคัญหลายแห่งเคลื่อนตัวในแดนลบ
นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าเม็ดเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ จะสามารถกู้วิกฤติการเงินครั้งนี้ได้จริงหรือ เนื่องจากมองว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้เป็นการแก้เพียงปลายเหตุ อย่างไรก็ดี การที่มหาเศรษฐีอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ เข้าซื้อหุ้นของโกลด์แมน แซคส์ และจีอี อาจช่วยให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มมีความมั่นใจในตลาดหุ้น
สถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรปมีการล้มละลายรายวันในช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้วิกฤติการเงินในครั้งนี้รุนแรงกว่าที่หลายฝ่ายประเมิน ช่วงกลางเดือนตุลาคมจากนี้ไปบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเริ่มทยอยประกาศผลดำเนินงาน
หากผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ที่นักวิเคราะห์ประเมิน ตลาดจะตอบรับในทางบวก แต่ผลประกอบการย่ำแย่กว่าที่ประเมิน นักลงทุนอาจเห็นตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงแรงอีกครั้ง
รัฐบาลไทยเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรับวิกฤติการเงิน แต่ต้องรอนำมาใช้ให้เป็นรูปธรรมหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แม้การเงินของไทยจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติซับไพร์มโดยตรง แต่เชื่อว่าภาคการเงินจะได้รับผลกระทบด้านสภาพคล่อง การปล่อยสินเชื่อ การลงทุนภาคเอกชนจะลดลง ความนิยมในตราสารหนี้ลดลง หรือทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น และในระยะยาวผลกระทบการส่งออกจะเพิ่มมากขึ้น สาเหตุจากประเทศคู่ค้าทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจถดถอย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดแม้กราฟแท่งเทียนจะมีสัญญาณปลายตลาดคล้ายรูป THREE STARS IN THE SOUTH แต่การเกิดจุดต่ำใหม่ ทำให้สัญญาณอ่อนลง
ดัชนีตลาดปิดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสี่เส้น สัญญาณกลับตัวปลายตลาดขาขึ้นรูป HEAD AND SHOULDERS ทำให้ดัชนีตลาดมีเป้าประสงค์ในการปรับตัวลดลง (MEASURING TARGET) อยู่ที่ 580 จุดรูปแบบของคลื่นเอเลียตแสดงถึงดัชนีตลาดขาลงกำลังปรับตัวอยู่ปลายคลื่น 5 (คลื่น 1 อยู่ที่ 737 คลื่น 3 อยู่ที่ 660 จุด) สอดคล้องกับการเกิดสัญญาณ BULLISH DIVERGENCE ของสัญญาณ MACD HISTOGRAM
สัญญาณ OSCILLATOR จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณ MODIFIED STOCHASTIC เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ โดยที่สัญญาณ RSI ปรับเข้าสู่เขตขายมากเกิน (OVERSOLD) ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ เคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสี่เส้น มูลค่าการซื้อขายไม่แน่นอน ระยะสั้นดัชนีตลาดมีเส้น 10 วันและเส้นแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ดัชนีตลาดจะมีสัญญาณทางเทคนิคเป็นบวกต้องยืนปิดเหนือเส้น 25 วันและมูลค่าการซื้อขายต้องเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ
สัญญาณ OSCILLATOR จากกราฟรายวัน สัญญาณ MODIFIED STOCHASTIC เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิคระหว่างการซื้อขายหรือระหว่างวัน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ในรอบสัปดาห์นี้ มีกรอบแนวรับอยู่ที่ 580 - 570 จุด และมีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 600 - 610 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ปัจจัยภายนอกสร้างผลกระทบทางจิตวิทยาการลงทุนทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางไม่แน่นอน ดัชนีตลาดจะผันผวนในระยะสั้น การปรับตัวขึ้นหากไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 650 จุด ควรปรับพอร์ตถือเงินสด สำหรับการลงทุนระยะยาวหากตลาดปรับตัวลงแรงควรทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต หรือรอดูแผนกอบกู้วิกฤติการเงินสหรัฐให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน

ที่มา: //www.bangkokbiznews.com


Create Date : 06 ตุลาคม 2551
Last Update : 6 ตุลาคม 2551 10:23:27 น. 0 comments
Counter : 253 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

illuminant
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




1.Cut loss
2.Looking forward
3.Market move by sentiment
4.The crowd usually wrong
5.Stick to the plan
6.Patience
Friends' blogs
[Add illuminant's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.