Group Blog All Blog
|
หมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้ พ.ศ. 2030 - 2048 เป็นเด็กที่มีบุญมากหลาย รอดพ้นจากเงื้อมมือว่านกุ้ยเฟยได้ จึงเลือกที่จะมีเมียเดียว จะได้ยุ่งยาก ช่วงนี้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ด้วยผู้มีอำนาจเข้าใจชีวิตชาวบ้าน พร้อมจะส่งเสริมให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่เอาแต่กดขี่ข่มเหง เก็บแต่ภาษี หมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้หรือหมิงหงจื้อฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 9 ในราชวงศ์หมิง รัชศกหงจื้อ หมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้พระนามเดิมจูโย้วถังหรือจูยู่เฉิง คำว่าเฉิงหมายถึงผู้ก่อตั้ง ประสูติวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2013 เป็นพระโอรสของหมิงเซี่ยนจงฮ่องเต้และนางจี้ซื่อ ความหมายพระนามฮ่องเต้หมายถึงผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ ได้เป็นรัชทายาท เมื่อพระชนม์ 17 พรรษาได้ขึ้นครองราชย์และครองราชย์นาน 18 ปี สวรรคต วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2048 ขณะพระชนม์ 35 พรรษา คงจำกันได้ว่ารัชกาลก่อน พระบิดานั้นตกอยู่ใต้อำนาจสั่งการของว่านกุ้ยเฟยสนมเอก ที่เคยเป็นพี่เลี้ยงตั้งแต่หมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้ถูกปลดจากการเป็นรัชทายาท ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เพราะพระโอรสที่เกิดจากว่านกุ้ยเฟยเสียชีวิตเมื่ออายุ 10 เดือน ทำให้ฆ่าทารกในครรภ์ที่เกิดจากสนมทุกคน แต่ด้วยบุญบารมีของหมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้ ทำให้รอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชได้ นางจี้ซื่อแม่ของหมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้ เป็นแค่นางในที่มีโอกาสได้ถวายตัวต่อฮ่องเต้เพียงครั้งเดียว ใครจะไปคิดว่า นางตั้งท้อง บุญหล่นทับ นางมีโอกาสให้ทายาท ซึ่งว่านกุ้ยเฟย ผู้คุมวังหลังได้รับรู้ นางจัดการเหมือนเดิม คิดกำจัดเด็กในท้อง จึงมอบหมายให้ขันทีจางหมิ่นหาทางกำจัดเด็กด้วยการถ่วงน้ำ แต่ขันทีจางหมิ่นเกิดคิดอะไรไม่รู้ ขัดขืนต่อคำสั่งนี้ หาทางรักษาหน่อเนื้อเชื้อไขมังกร ด้วยวิธีการใดจึงรอดพ้นจากสายตาของว่านกุ้ยเฟย จูยู่เฉิงเด็กน้อยจึงรอดชีวิตมาได้นานถึง 5 ปี จนได้เป็นหมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้ในกาลต่อมา ตลอดรัชกาลนี้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น เป็นยุคเงินยุคทองของราชวงศ์หมิง พระองค์ทรงใจดีมีเมตตาและปกครองบ้านเมืองด้วยความรักและสันติสุข ถ้าบ้านเมืองมีผู้ปกครองเช่นนี้นับเป็นวาสนาของชาวบ้านตาดำ ๆ ทรงมีฉางฮองเฮาคนเดียวและไม่มีพระสนมทำให้ลดความวุ่นวายในราชสำนักไปได้เยอะทีเดียว ถึงแม้จะขัดต่อหลักการของเจ้านายที่ต้องการมีลูกหลานสืบวงศ์ตระกูลมาก ๆ ก็ตามที อาจจะทรงคิดว่าการมีผัวเดียวเมียเดียวแสดงถึงความมีอารยะหรือไม่ฮองเฮาดุเข้มงวดจนฮ่องเต้ไม่กล้าหรือฮ่องเต้อาจทรงรักหลงฮองเฮามากจนไม่อยากให้เสียใจ เพราะเหตุนี้หรือไม่ ทำให้รัชกาลนี้เจริญรุ่งเรือง และเพราะเหตุนี้หรือไม่ที่บั่นทอนทำลายราชวงศ์ ด้วยเหตุที่ขัดต่อแบบแผนจารีตประเพณี ฉางฮองเฮามีพระโอรสองค์โตซึ่งได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อมา แต่โชคร้ายที่ไม่มีพระโอรสสืบต่อมา ฉางฮองเฮาตั้งครรภ์ครั้งที่สองและแท้ง นี่อาจเป็นผลเสียในการมีฮองเฮาเพียงหนึ่งและไม่ยอมมีสนม ซ้ำร้ายมีพระโอรสเพียงองค์เดียวอีก ทำให้หมดสิ้นตระกูลได้ แต่ถ้ามีลูกหลานมากเกินจะแย่งชิงบัลลังก์กันจนวุ่นวายหาความสงบสุขไม่ได้ ไม่รู้ว่า มีเพียงหนึ่งที่ได้ขึ้นสู่อำนาจแน่ ๆ ไม่มีใครแย่ง กับมีคู่แข่งมากหน้าหลายตา ล้วนแล้วแต่เก่งกาจ จนปัดแข้งปัดขากันเอง ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์การขึ้นสู่อำนาจ อย่างไหนจะดีกว่ากัน หมิงเสี้ยวจงฮ่องเต้คงจะจดจำหรือไม่รับรู้มาว่า อันหญิงที่ขี้อิจฉาริษยานั้นร้ายกาจมากเพียงใด จนตนอาจไม่มีโอกาสเสวยสุขเช่นในวันนี้ ในรัชสมัยพระบิดานั้น ว่านกุ้ยเฟยมีอำนาจเหนือขันทีและไม่ประสงค์ให้มีพระโอรสจากพระสนมอื่น จึงหาทางกำจัดเด็กแรกเกิดทุกคน เหลือรอดมาแต่พระองค์เท่านั้นจนอายุ 5 ปี พระบิดาจึงได้รู้ความจริงและแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท ความจริงนี้คงฝังใจว่าพวกผู้หญิงร้ายกาจและเป็นต้นเหตุแห่งหายนะได้ แล้วนับว่าเป็นบุญของราชวงศ์หมิงที่เด็กคนนี้แสนจะฉลาดเฉลียว เมื่อได้รับการศึกษาที่ดีจึงยิ่งปราดเปรื่องมากขึ้น โดยได้เรียนรู้ในสำนักของนักวิชาการกลุ่มขงจื้อ ประสบการณ์วัยเด็กจะหล่อหลอมให้คนนั้นเติบใหญ่ คิดและอ่านตามที่เคยเรียนรู้มา การบริหารบ้านเมืองจึงยึดตามหลักการของขงจื้อ พระองค์ทรงงานหนักและดูแลบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด ลดทอนการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ลดอัตราการจ่ายภาษีของประชาชน พระองค์ทรงมีทีมงานที่ไว้ใจได้ เช่น หลิวเจียน เซียเควียนและหวังชู โดยเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถเสนอข้อคิดเห็นโดยตรงต่อพระองค์ได้ ผลที่ได้ทำให้ลดอำนาจของขันทีลงได้ พระองค์ทรงยกย่องว่าหมิงไท่จู่ฮ่องเต้หรือหมิงหงอู่ฮ่องเต้ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง กับหมิงเฉิงจู่ฮ่องเต้หรือหย่งเล่อเป็นฮ่องเต้ที่ชาญฉลาด |
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |