กุมภาพันธ์ 2565

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
All Blog
กำเนิดยุคสามก๊ก
การพ่ายแพ้ของขุนนางกับเหล่านักปราชญ์ยั่วยุให้ชาวบ้านเกลียดชังบรรดาขันทีมากขึ้น ศึกภายในประเทศระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ที่หวังช่วงชิงอำนาจคงก่อน้ำให้ขุ่นเล็กน้อย ไม่ถึงกับกระฉอกแต่ไม่สงบราบเรียบมีความสุขเท่าที่ควร
ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้องค์ที่ 12 เป็นโอรสบุญธรรมของฮั่นฮวนตี้ฮ่องเต้ เป็นโอรสของเล่าจั้งเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เป็นเชื้อสายของเจ้าเมืองตูตัง ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 12 ชันษา
ยุคนี้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่คอหนังจีนรู้จักดี คือ
กำเนิดยุคสามก๊ก  
ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้ไม่ได้เป็นฮ่องเต้ที่ดี เพราะมัวแต่หลงใหลในนารีและอยู่ใต้อำนาจของบรรดาขันที ไม่ได้ออกว่าราชการแผ่นดิน ปล่อยให้ขันทีทำงานแทน บางเรื่องราว ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เบื้องหลังที่แท้จริง ทำไมขันทีมีอำนาจล้นฟ้า แล้วฮ่องเต้ที่เอาตัวให้รอด คงจำต้องทำตัวเสเพล หรือเป็นนิสัยเช่นนั้นจริง ๆ ที่ไม่ได้ใส่ใจในอำนาจและหน้าที่ของตน
ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้ครองราชย์ได้ 10 ปี เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเนื่องจากบรรดาขันทีรีดนาทาเร้นชาวบ้าน มันคงจะละโมบโลภมากจนเกินเหตุ สุดที่ชาวบ้านจะทานทนแล้ว
พ.ศ. 726 ชาวนาก่อกบฏเรียกกบฏชุดนี้ว่า กบฏโพกผ้าเหลืองเป็นกบฏที่สามารถรวบรวมพลพรรค และแผ่ขยายอำนาจไปหลายแว่นแคว้น
คนที่อ่านประวัติศาสตร์จีน คงรู้ว่า ชาวนาเมืองจีนไม่ธรรมดา ชาวนาบางคนสามารถสถาปนาราชวงศ์ใหม่ได้จริง ๆ แต่บ้านเราคงยากมากนะ
กบฏโพกผ้าเหลือง
เป็นการลุกฮือของพวกชาวนาเพื่อต่อต้านราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ในรัชสมัยฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้หรือพระเจ้าเลนเต้ แม้ว่ากลุ่มกบฏหลักจะถูกปราบปรามอย่างราบคาบ แต่กลุ่มเล็ก ๆ ยังคงอยู่และใช้เวลา 21 ปี ที่จะปราบปรามจนหมดสิ้น
เมื่อเกิดกบฏโพกผ้าเหลือง ทางการได้ระดมชายหนุ่มมาช่วยกันปราบกบฏ ใช่ว่า ทางการจะอยู่นิ่งเฉย ใคร ๆ อยากสงวนอำนาจไว้กับตนกันทั้งนั้นแหละ เพราะเหตุนี้ทำให้เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยได้มาพบกัน เป็นทหารในสังกัดของตั๋งโต๊ะ
แค่ฮ่องเต้ที่ไม่เอาไหน ดื่มสุราเคล้านารี ยังก่อปัญหาไม่มากพอ จังหวะที่ผู้มีโอกาสครองอำนาจต่อถึง 2 คนจากฮองเฮาและสนม จึงกลายเป็นชนวนระเบิด
วังหลวงเกิดการแตกแยกเพราะฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้มีโอรส 2 องค์ คือ หองจูเปียนโอรสที่เกิดแต่โฮฮองเฮา และหองจูเหียบโอรสที่เกิดแต่สนมอองบีหยิน
บ้านเมืองในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกเริ่มระส่ำระสายตั้งแต่รัชกาลที่ 5 แล้วเป็นเพราะความมั่นคงภายในราชสำนัก
การสืบสันตติวงศ์ตามกฎมณเฑียรบาล การสืบทอดอำนาจของพระโอรสที่ยังทรงพระเยาว์ไม่สามารถสืบทอดอำนาจด้วยพระองค์ต้องอาศัยขุนนาง ขันทีประคับประคอง
เมื่อต้องมาเผชิญกับฮ่องเต้ที่ขาดคุณสมบัติเช่นฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้ ยิ่งเร่งความล่มจมให้เกิดแก่บ้านเมืองด้วยอัตราที่เร็วขึ้นกว่าเดิม
ฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้องค์ที่ 13 เป็นพระโอรสของฮ่องเต้องค์ที่ 12 ฮั่นหลิงตี้ฮ่องเต้และโฮฮองเฮา ได้ครองราชย์ขณะที่มีพระชนม์14 ชันษา โฮจิ๋นพี่ชายของโฮฮองเฮาเป็นแม่ทัพใหญ่ที่มีอำนาจล้นฟ้า
ความวุ่นวายภายในราชสำนักรวมกับความไม่สงบของบ้านเมือง กลุ่มอำนาจต่างกลุ่มที่ช่วงชิงความเป็นใหญ่ไม่เว้นแม้แต่ชาวบ้านได้รวมตัวกันก่อกบฏหลายกลุ่ม กลุ่มใหญ่คือกลุ่มกบฏโพกผ้าเหลือง
ภายในราชสำนัก โฮจิ๋นลดทอนอำนาจขันที ทำให้ขันทีรวมตัวกันสั่งฆ่าโฮจิ๋น ขันทีฆ่าแม่ทัพใหญ่ได้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาซะแล้ว
ต่างฝ่ายต่างแย่งความเป็นใหญ่ ระหว่างพี่ชายฮองเฮากับขันที ใครจะชนะกันแน่ เมื่อต่างเดินหมากคนละเกม
โฮจิ๋น จุดชนวนระเบิด
โฮจิ๋น เดิมทีเป็นเพียงพ่อค้าขายเนื้อ เมื่อน้องสาวเป็นฮองเฮา จึงได้อำนาจและตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ มีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเป็นลูกน้อง
เมื่อโฮจิ๋นคิดปราบขันทีที่เรืองอำนาจมาก จึงสั่งการให้ตั๋งโต๊ะ แม่ทัพชายแดนยกทัพเข้ามาปราบ นับเป็นการสั่งการที่ผิดพลาดมาก
ระหว่างการแย่งชิงอำนาจของสองขั้วใหญ่ พี่ชายฮองเฮาที่ไม่เจนจัดในการศึก เป็นเพียงอดีตพ่อค้า กับขันทีที่กุมอำนาจในราชสำนักมานาน ใครจะแน่กว่ากัน ถ้าเพียงแต่โฮจิ๋นคิดรอมชอมกับขันที กินตามน้ำไปในช่วงแรก แล้วค่อยหาทางจัดการอย่างละมุนละม่อม อาจประคับประคองอำนาจของตนได้บ้าง แต่เชื่อว่า มันไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากันและไม่ยอมกัน
ระหว่างอำนาจของขันทีกับแม่ทัพชายแดน โฮจิ๋นเลือกอำนาจใหม่ โดยไม่รู้ว่าเลวร้ายกว่าอำนาจเก่า
ทำไมบางคนยอมทนกับอำนาจเก่าที่คิดว่าเลวร้าย เพราะไม่แน่ใจว่าอำนาจใหม่จะเลวร้ายกว่าเดิมหรือไม่ ดังเช่นนิทานกบเลือกนาย
เมื่อขันทีรู้คำสั่งนี้ จึงรีบสังหารโฮจิ๋นทันที ด้วยกลอุบายหลอกล่อกับโฮฮองเฮาว่า ต้องการขอโทษและปรับความเข้าใจ ให้โฮจิ๋นเข้ามาพบนาง อย่างไม่ระวังตัว และไม่มีทหารคุ้มกัน
พวกสิบขันทีฆ่าโฮจิ๋นตาย แล้วตัดศีรษะโยนออกมานอกวัง ฝ่ายองครักษ์ของโฮจิ๋นอันมีโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเห็นดังนั้น จึงสั่งให้ทหารของตนบุกเข้าไปข้างใน ไล่ฆ่าฟันทุกคนที่เป็นขันที
แผนหลอกล่อให้วางใจ เป็นอุบายที่แยบคายมาก ใช้ได้มาจนถึงปัจจุบัน อย่าไว้เนื้อเชื่อใจใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่เคยมีทีท่าร้ายกาจมาก่อน
หลังจากฆ่าโฮจิ๋นได้ ใช่ว่าขันทีจะกุมอำนาจต่อได้ เพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี เตียวเหยียงหัวหน้าสิบขันทีจับตัวฮ่องเต้และหองจูเหียบองค์น้องไว้เป็นตัวประกัน แล้วหลบหนีออกนอกวัง แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว บรรดาขันทีถูกฆ่าตาย ไม่รู้หมดวังหรือเปล่า ตั๋งโต๊ะจึงช่วยเหลือฮ่องเต้และหองจูเหียบได้ ทำให้ตั๋งโต๊ะกลายเป็นผู้กุมอำนาจในราชสำนัก
ทำไม จึงกล่าวว่า โฮจิ๋นเป็นผู้จุดชนวนระเบิด เพราะเป็นคนสั่งการให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมือง และทำให้บ้านเมืองยุ่งยากลำบากมากยิ่งขึ้น เร่งให้เกิดสามก๊ก เพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองต่อไป
ตอนนั้นโจโฉยังเป็นทหารชั้นผู้น้อย ไม่มีอำนาจ เมื่อรู้ว่าโฮจิ๋นสั่งให้ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองเพื่อปราบขันที ได้เอ่ยปากว่า โฮจิ๋นไม่เห็นการณ์ไกล ภัยจะมาถึงตัว ไม่รู้จักตัดไฟ ภัยก็จะน่ากลัว
หยวนเส้าหรืออ้วนเสี้ยวได้กวาดล้างขุนนางที่เป็นปฏิปักษ์ ต่อตั๋งโต๊ะ หรืออำนาจใหม่ ช่วงนี้อ้วนเสี้ยวมีอำนาจมากพอตัว อาจจะใหญ่กว่าโจโฉเสียด้วยซ้ำ
ความวุ่นวายระส่ำระสายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ยิ่งใหญ่และลุกลาม กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตั๋งโต๊ะที่เป็นขุนนางเมืองปิงโจว เข้ามาปราบจลาจลภายในเมืองลั่วหยาง โดยอ้างคำสั่งของโฮจิ๋น ผู้ซึ่งตอนนี้ดับชีพไปแล้วเพราะขันที
ตั๋งโต๊ะนำกองกำลังทหารบุกนครลั่วหยางกำจัดบรรดาขันทีกว่า 2,000 คน และจัดการฆ่าขันทีตัวบงการที่สั่งฆ่าโฮจิ๋น 10 คน ให้สิ้นซากแล้วจับฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้และโฮฮองเฮาขังไว้ในตำหนัก
งงไหมล่ะ ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองตามคำสั่งของโฮจิ๋นพี่ชายฮองเฮา แต่เมื่อเข้าเมืองมาได้และปราบขันทีได้แล้ว ทำไมไม่ยกย่องฮองเฮาและลูกของฮองเฮา กลับไปเลือกลูกของสนมแทน
ตรงนี้ ไม่แน่ว่า ใครปราบแกนนำขันทีกันแน่ ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นฝีมือของพวกตน เพราะเหตุจราจลวุ่นวายไปทั่วเมืองและภายในพระราชวัง แต่ละแหล่งต่างอ้างว่าเป็นผลงานของพวกตน
เมื่อโจโฉกับอ้วนเสี้ยวเป็นทหารชั้นผู้น้อยในสังกัดของโฮจิ๋น รู้ว่า ขันทีฆ่าเจ้านายตัวเอง ภัยจะมาถึงตัวเองเช่นกัน คงได้จังหวะ เลยฆ่าขันทีแกนนำได้ส่วนหนึ่ง เป็นจังหวะที่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองมาพอดี
ทหารเล็ก ๆ 2 นาย กับแม่ทัพจากชายแดนที่เข้าเมืองมาโดยคำสั่งของโฮจิ๋น ใครจะใหญ่กว่ากันล่ะ
ตั๋งโต๊ะเลยได้หน้าไปเต็ม ๆ และได้อำนาจมาแบบง่าย ๆ เสียอีก สองทหารหนุ่มคงได้แต่อ้าปากหวอและทำตาปริบ ๆ ดูเขาแย่งชิงผลงานไปต่อหน้าต่อตา ธรรมดานะที่ผู้น้อยไม่มีปากเสียงมากพอจะกล่าวอ้างว่า ตนต่างหากที่ฆ่าขันที
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร กับราตรีนี้อีกยาวนานนัก ใครจะไปรู้ว่า โจโฉในวันนั้น กลับกลายเป็นผู้นำก๊กใหญ่และใช้แผนเดียวกับตั๋งโต๊ะคือให้ฮ่องเต้เป็นเพียงหุ่นเชิด แต่อ้วนเสี้ยวที่เป็นทหารร่วมรุ่นกับโจโฉล่ะ ได้เป็นหัวหน้าก๊กด้วยหรือไม่
พ.ศ. 733 ตั๋งโต๊ะคิดแผนการฆ่าฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ด้วยการให้ดื่มยาพิษที่ผสมในสุรา มอบให้ลิยู กุนซือนำสุราผสมยาพิษไปถวายฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้ ส่วนโฮฮองเฮานั้นให้ลิยูฆ่าเสียให้ตายตกไปตามกัน
หลังจากที่ตั๋งโต๊ะสังหารฮั่นเซ่าตี้ฮ่องเต้แล้วแต่งตั้งให้ฮั่นเสี้ยนตี้หรือฮั่นเหี้ยนเต้ฮ่องเต้ เป็นฮ่องเต้แทน สิ่งที่เกิดตามมากลับยิ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายมากยิ่งขึ้นถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง
คนไทยจะคุ้นเคยกับคำว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ ซึ่งพอเป็นคำไทยดูแปลก ๆ พิกล เหมือนจะแปลว่า หมดไปเลย เกลี้ยงหมด อะไรทำนองนี้ เลยสิ้นราชวงศ์ฮั่นจริง ๆ เสียด้วย
 



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2565 11:56:10 น.
Counter : 470 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments