มีนาคม 2567

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
สุยหยางตี้ฮ่องเต้
สุยหยางตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 1148 - 1160
12 ปีที่สุยหยางตี้ฮ่องเต้ได้ครองราชย์ เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 2 และองค์สุดท้ายในราชวงศ์สุย
มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ
ด้วยรู้ว่าพระบิดาเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ จึงสร้างภาพเป็นคนประหยัดเฉพาะต่อหน้าพ่อ
นี่แม่คงสอนมานั่นแหละ เพื่อหวังให้พ่อเปลี่ยนใจมาสนับสนุนตน แทนที่จะให้โอกาสแก่พี่ชายคนโตตามจารีต
ยอมอดทนแสดง นิสัยประหยัดให้พ่อรัก
เพื่อมุ่งหวังในสิ่งที่จะได้ มันคุ้มค่ามาก ๆ กับการสร้างภาพ
ด้วยนิสัยที่แท้จริงเป็นคนฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อชอบรักสนุก รักความโก้หรูหรา

เมื่อได้อำนาจ นิสัยแท้จริงจึงปรากฏออกมา
บ้านเมืองเคยชินกับการประหยัดมัธยัสถ์ในสมัยของฮ่องเต้ผู้เป็นพ่อ
สุยเหวินตี้ฮ่องเต้มองเห็นว่า ประชาชนยากแค้นอับจนเสียเป็นส่วนมาก จึงไม่ขูดรีดเก็บภาษีอย่างรีดนาทาเร้น
คำนี้แปลว่าอะไร เก็บบ้างนิดหน่อยมั้ง
สุยหยางตี้ฮ่องเต้มีนิสัยที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง มองเห็นความต้องการของตนเป็นใหญ่ ต้องการเสพสุขเสียให้สิ้น สมกับที่ต้องแกล้งแสดงตนให้พ่อชื่นชมมาเสียนมนาน
ผู้พ่อเห็นใจชาวบ้าน ไม่รีดนาทาเร้น
ผู้ลูกขูดรีดตามที่ต้องการ เพื่อหวังเสพสุข
เมื่อมีอำนาจสั่งการได้ทุกอย่าง ขาดคนคอยขัดขวางแล้ว จึงสร้างเรือขนาดใหญ่ให้ชื่อว่า เรือมังกรจะได้สมฐานะและอำนาจที่มีอยู่

นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดง
เรือขนาดใหญ่โตมโหฬาร
กับลำคลองที่กว้างพอ
ให้เรือใหญ่แล่นผ่านไปได้
และยาวมากตามต้องการ
เพื่อแล่นเรือเที่ยวชมทั่วเมือง

เมื่อมีเรือมังกรจำต้องมีคลองขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถล่องเรือมังกรเที่ยวชมบ้านเมือง ไปในท้องถิ่นที่ไม่เคยมีลำคลองมาก่อน
ด้วยความคิดที่ทำใหญ่เกินตัว จึงได้เกณฑ์ไพร่พลมากมาย เพื่อขุดคลองขนาดใหญ่ สิ้นงบประมาณจำนวนมหาศาล แทบจะเรียกได้ว่าเกือบหมดท้องพระคลังเลยทีเดียว หรืออาจจะหมดไปแล้วก็ได้
เงินที่พ่อเก็บหอมรอมริบ ประหยัด โดนลูกผลาญจนหมดสิ้น แล้วขูดรีดภาษีจากชาวนาผู้ยากไร้
เมื่อต้องการเงินจำนวนมากมายมหาศาล วิธีการที่ทางการจะหาเงินได้ มาจากไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่จากการรีดนาทาเร้นอย่างโหดร้ายทารุณ
ประชาชน ชาวบ้านที่เคยตาดำ ๆ คงเหลืองอ๋อย ด้วยไม่มีอาหารพอยาไส้ หรือแดงก่ำด้วยแรงแค้นสุมอก ที่ไม่รู้จะทำฉันใดได้ นอกจากอดทนรอวันของตน
เงินทองแทบไม่มีสำรองเลี้ยงชีพ แต่ปูยังโดนรีดเลือด จนปูคิดว่าตายกับอยู่ คงมีค่าเท่ากัน สู้ลองเสี่ยงลุกฮือขับไล่ผู้บ้าอำนาจคนนี้ เพื่อแลกกับชีวิตใหม่ที่อาจดีกว่าเดิม

อย่าหลงคิดว่า ชาวบ้านตาดำ ๆ
ที่ดูไร้พิษสง ยอมทำตามทุกสิ่งอัน
จะลุกมาต้านอย่างทระนงในสักวัน
เมื่อเหลืออดเหลือทน คงจำต้องสู้

มีหรือที่ประชาชนจะรู้สึกชื่นชมกับเรือมังกรและคลองขนาดใหญ่ที่สนองกิเลสของคนเพียงคนเดียว ความรู้สึกเกลียดชังของผู้คนทั่วทั้งแผ่นดิน เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว และคงส่งต่อยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง
จากปากต่อปาก แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยแรงแค้นที่สุมอก ต้องจำทนทำ อย่างไม่มีทางเลี่ยง
ถ้าเป็นสมัยนี้ กลุ่มไลน์ สายคงแทบมอดไหม้ ส่งต่อมือเป็นระวิง
แค่สร้างเรือมังกรกับขุดคลองขนาดใหญ่ทั่วแดนแผ่นดิน ยังไม่หนำใจ
เมื่อสุยหยางตี้ฮ่องเต้คิดปรับปรุงบูรณะกำแพงเมืองจีนอีก พร้อมทั้งเกณฑ์ไพร่พลจำนวนมากไปรบกับเกาหลี
งานใหญ่หลายงานประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน ทั้งแรงงานไพร่พล ทั้งเงินทองที่จำต้องใช้ มันมากเกิน มันเหลืออดเหลือทนแล้วนะ
ความอดทนของไพร่ฟ้าซึ่งหน้าไม่ใสเสียแล้วในตอนนี้ จึงเหลือน้อยเต็มที แม้แต่ข้ารองพระบาททั้งหลาย ต่างคิดเห็นตรงกันว่า สมควรเปลี่ยนผู้ครองอำนาจเสียที

ไม่รู้เวลา จังหวะอันเหมาะควร
อยากได้ใคร่ดี จำต้องได้ในทันที
ผลเป็นไงล่ะ เมื่อทุกผู้คนเซ็งระเบิด

สุยหยางตี้ฮ่องเต้เป็นคนโหดร้ายทารุณและชอบการสงคราม จะลงโทษทารุณประชาราษฎร์ที่ขัดขืนไม่ยอมทำตามคำสั่ง ในการสร้างคลองขนาดใหญ่ จากเหนือจรดใต้ รวมทั้งการบูรณะกำแพงเมืองจีนและรบกับเกาหลี
พวกชาวบ้านไม่เข้าใจว่า ทำไปทำไม
คำสั่งของสุยหยางตี้ฮ่องเต้ จึงมีแต่เรื่องที่ไร้สาระมาก ๆ
ชาวบ้านขนานนามคลองนี้ว่า ลำน้ำเลือดหรือต้ายุ่นเหอ ซึ่งมีความยาวของลำคลองร่วมสองพันกิโลเมตร
ทำไมต้องขุดคลองที่ทั้งใหญ่และยาวเช่นนี้ เพราะสุยหยางตี้ฮ่องเต้ต้องการเยี่ยมชมอาณาจักรของพระองค์ให้ทั่วถึง
แค่กิเลสตัณหา ความอยากที่เกินตัว
เหตุผลนี้ อาจดูดี ก็ทำได้
ถ้าบอกว่า ต้องการรู้จักชาวบ้านอย่างแท้จริงแทนการฟังจากขุนนางท้องถิ่น จะดูดีกว่านี้มั้ย
ทว่ามันดูมากเกินไป เหมือนลงทุนขี่หลังช้างจับตั๊กแตนตัวเดียว
เหตุผลที่จะดูเข้าท่า คือพัฒนาทางสัญจรให้ชาวบ้านเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น ในความเป็นจริง ไม่รู้ว่า ผู้มีสิทธิ์ใช้อาจแค่ฮ่องเต้เท่านั้น
เมื่อสุยหยางตี้ฮ่องเต้เป็นคนมีพระยศพระเกียรติมากมายชอบทำตัวให้สมพระเกียรติ เวลาเที่ยวชมทางเรือจึงต้องมีขบวนเรือที่ใหญ่โตตามไปด้วย เฉพาะขบวนเรือเสด็จยาวเป็นกิโลแล้ว
การสู้รบเพื่อหวังจะขยายอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร แต่ผลจากการรบ จีนพ่ายแพ้ต่อเกาหลีในสมัยโกรกูรยอถึง 3 ครั้ง
แผ่นดินจีนที่เคยเรืองอำนาจกลับต้องพ่ายแพ้ต่อประเทศเล็ก ๆ
ฮ่องเต้ย่อมไม่สบอารมณ์และต้องการเอาชนะมากขึ้น ยิ่งทุ่มทุนสร้างยิ่งล่มจม สุยหยางตี้ฮ่องเต้ถึงกับหมดอนาคตเพราะเรื่องพวกนี้

ความอดทนสิ้นสุดลงได้
เมื่อความเอือมระอากับความเบื่อหน่ายของข้ารองพระบาทที่มองเห็นแต่เรื่องไร้สมรรถภาพของสุยหยางตี้ฮ่องเต้มีมากขึ้นมา จนจุกคอหอยแล้ว ผนวกกับความรู้สึกเกลียดชังของไพร่ฟ้าทั่วแผ่นดินเกิดขึ้นพร้อมกัน
ความจำเป็นที่คอยส่งส่วยบำรุงบำเรอฮ่องเต้จึงลดน้อยถอยลงจนเกือบเป็นศูนย์ มีหรือที่สุยหยางตี้ฮ่องเต้จะสามารถอยู่ในอำนาจได้อีกต่อไป
การลุกฮือขับไล่จึงเกิดขึ้นและความสำเร็จก็ตามมาในทันที
หมดสิ้นอำนาจของสุยหยางตี้ฮ่องเต้และสิ้นยุคราชวงศ์สุย ซึ่งยิ่งใหญ่ด้วยการปราบดาภิเษกของผู้เป็นพ่อและหมดสิ้นอำนาจวาสนาในยุคของลูกเฉกเช่นเดียวกับราชวงศ์ฉิน

อาณาประชาราษฎร์ ไพร่ฟ้าหน้าใส
ขุนนางข้าราชบริพาร คนใกล้ชิดรายล้อม
ช่วยค้ำจุนบัลลังก์ให้อยู่ยงคงกระพัน
วันใดคับข้องใจ บัลลังก์ย่อมสั่นคลอน

อำนาจพลิกขั้วง่าย ๆ อีกครา
มีอำนาจได้ ด้วยผู้เป็นพ่อ
หมดอำนาจด้วยผู้เป็นอ๋อง
หลี่หยวนเป็นผู้ว่ามณฑลไท่หยวนในขณะนั้น มีบรรดาศักดิ์เป็นอ๋องครองเมืองถัง ได้ยกทัพเข้ายึดเมืองฉางอานราชธานีของราชวงศ์สุย ปลดสุยหยางตี้ฮ่องเต้ลงเป็นไท่ซ่างหว่างและแต่งตั้งหยางหยูหลานชายเป็นฮ่องเต้แต่ในนาม
ในขณะเดียวกันราชวงศ์สุยเองพยายามยกให้หยางทงน้องของหยางหยูขึ้นเป็นฮ่องเต้ต่อจากสุยหยางตี้ฮ่องเต้ เพื่อป้องกันอำนาจของหลี่หยวน
คนนั้นจะเอาอย่างนั้น
คนนี้จะเอาอย่างนี้
ให้นั่นจะเอานี่
เรื่องมากกันนัก
ชวดหมดอดเลยทุกฝ่าย

สองฝักสองฝ่าย คนละขั้ว
ต่างหวังต่ออำนาจของตน
แย่งชิงกัน ใครจะแน่กว่า
อีกฝ่ายบ่น ยุ่งกันนัก
ให้โน่นจะเอานี่นั่น
เลยเป็นใหญ่ซะเอง หมดเรื่อง

ภายหลังหลี่หยวนปราบดาภิเษกตั้งตนเป็นฮ่องเต้องค์แรกของราชวงศ์ถัง
การหมดสิ้นอำนาจวาสนาของผู้มีอำนาจสูงสุดของแผ่นดินด้วยการลุกฮือขับไล่จากประชาชนตาดำ ๆ ที่แทบจะไม่มีน้ำยาใด ๆ ในสายตาของฮ่องเต้เลย
ถ้าประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข มีฮ่องเต้ที่รักใคร่ดูแลไม่ให้ลำบากยากแค้น การสูญสิ้นราชวงศ์สุยคงจะไม่อาจเกิดขึ้น
แบบนี้โทษใครได้ นอกจากทำตัวของตัวเอง
หลงในอำนาจมัวเมา คิดสิ่งใดย่อมได้ในสิ่งนั้น
สุดท้ายไม่เหลือสักสิ่งให้เชยชม แม้แต่ชีวิตก็หาไม่

อย่าหลงทระนงตนว่ายิ่งใหญ่คับฟ้า
ด้วยอำนาจที่มีนั้น ได้จากสิทธิ์ตามจารีต
หาใช่เกิดจากบารมีที่สร้างสมด้วยตนเอง
และไพร่ฟ้ากับขุนนางที่จงรักภักดีด้วยใจ
จึงสิ้นสุดอย่างน่าอนาถที่สุดในประวัติศาสตร์

ครั้งนี้สิ้นสุดด้วยการเอาชนะและแขวนคอสุยหยางตี้ฮ่องเต้ที่เมืองเจียงตูได้สมปรารถนาของผู้คนทั่วทั้งแผ่นดิน คงเป็นฮ่องเต้ที่ตายอย่างอนาถมากทีเดียว

ถ้าไม่ดีจริงไม่แน่จริง
ไม่ควรหวังในสิ่งที่เกินตัว
ผลสุดท้ายมันได้ไม่คุ้มเสีย

ในยุคสมัยนั้นการสร้างเรือมังกรและคลองขนาดใหญ่อาจไม่เป็นที่สบอารมณ์ของทุกคน แต่กลับกลายเป็นว่า นี่คือผลงานที่โดดเด่นที่สุดของสุยหยางตี้ฮ่องเต้ ต่ออนุชนคนรุ่นหลัง และกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่านับอนันต์ต่อแผ่นดินจีนในยุคต่อมา
ถ้าเพียงแต่สุยหยางตี้ฮ่องเต้จะสร้างเรือมังกรและคลองขนาดใหญ่ด้วยความคิดที่ว่าจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้คนโดยทั่วไป และสามารถแสดงวิสัยทัศน์ให้ทุกคนได้มองเห็น และรับรู้ว่านี่คือ นวตกรรมของการคมนาคมขนส่ง อาศัยความร่วมมือร่วมใจและให้ค่าตอบแทนแก่ประชาชนที่ถูกเกณฑ์ฝีมือแรงงานมาอย่างที่ทุกคนพึงพอใจแล้ว
ไม่แน่ว่าสุยหยางตี้ฮ่องเต้อาจจะกลายเป็นที่รักใคร่ของผู้คนทั่วหล้าก็เป็นได้

การกระทำเดียวกันแต่เจตนาต่างกัน
ทำให้ผลที่เกิดขึ้นและผลกระทบที่ตามมา
แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพียงเพราะขาดเจตนาที่ดี

เพราะความสามารถที่ไม่ปรากฏชัดเจน
เพราะขาดคุณลักษณะที่ดีของผู้ปกครอง
เพราะความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายเกินตัว
เพราะเอาแต่ใจตนเองเป็นที่ตั้ง ต้องได้ในทันที
หลงเหลิงในอำนาจ ลืมมองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน
ว่าคิดและรู้สึกเช่นไรต่อตนและอำนาจที่ได้ใช้ไป
ทำให้ประชาชนลุกฮือขับไล่ และได้ผลสำเร็จ
สุยหยางตี้ฮ่องเต้หลบหนีลี้ภัยไปไกลถึงเฉิงตู แต่ยังไม่วายโดนพวกกบฏตามมาล่าล้างแค้นถึงแก่ชีวิต
อันที่จริงสุยหยางตี้ฮ่องเต้คงไม่ได้เลวไปเสียทุกเรื่อง เพียงแต่ความเลวอาจมีมากกว่าและส่งผลต่อคนโดยส่วนรวม
สุยหยางตี้ฮ่องเต้ได้ตรากฎหมาย ลดการลงโทษแบบทารุณให้ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับสมัยก่อนหน้านี้
ที่สำคัญเพราะสุยหยางตี้ฮ่องเต้จึงปรากฏการสอบคัดเลือกคนเก่งเข้ามาในราชสำนัก หรือที่เรียกว่าการสอบจอหงวน และเป็นสิ่งที่ทำให้จีนในยุคต่อมาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้ จนเป็นมหาอำนาจ
จอหงวนคือการค้นหาเพชรในตม
เปิดโอกาสให้คนเก่งที่มีความสามารถ
เจริญรุดก้าวหน้าในสังคมด้วยตนเอง

#สุยหยางตี้ฮ่องเต้ #พรรณีเกษกมล



Create Date : 31 มีนาคม 2567
Last Update : 31 มีนาคม 2567 16:07:11 น.
Counter : 38 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments