1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน
ขออนุญาตลัดคิวหน่อยน้า มาคั่นแรงบันดาลใจสำหรับเรื่องหวานๆ ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังสือเล่มล่าสุดของไอซ์ ที่เพิ่งจะวางแผงไปสดๆ ร้อนๆ กันบ้างนะคะ ^^
คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน วันนี้ได้รับสายด่วนจากสายสืบว่า หนังสือออกวางแผงแล้ว ปกทะมึนแบบในรูปข้างบนนั่นแล ไม่รู้ว่าพอเห็นชื่อเรื่องและปกแล้ว คิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวไหนกันบ้างเอ่ย หนังสือเล่มนี้เป็นแนวสะท้อนสังคม ที่ถูกเขียนโดยใช้สไตล์ Drama Thriller นะคะ ... ซึ่งจะต่างจาก Murder&Mystery พอสมควร Murder&Mystery จะเน้นว่า ใครฆ่า ฆ่าไปทำไม ฆ่าได้อย่างไร อะไรทำนองนี้ แต่ Drama Thriller จะเน้นบทบาท ความรู้สึก สภาพแวดล้อมของตัวละครมากกว่า โดยผสมผสานความตื่นเต้นลงไปด้วย ตัวดำเนินเรื่องนี้คือ "แองจี้" เด็กผู้หญิงที่ถูกฆ่าไปเมื่อปีที่แล้ว และศพของเธอถูกฝังอยู่ในห้องใต้ดิน เธอจะเป็นคนเล่าเรื่องถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ "นาโอมิ" เด็กผู้หญิงอีกคน ที่ดูเหมือนว่า กำลังจะประสบชะตาเดียวกันกับเธอ ลองอ่านบทนำกันดูนะคะ ^^บทนำ ...ฉันตายไปเกือบหนึ่งปีแล้ว แต่วิญญาณของฉันยังไม่ได้ไปไหน วนเวียนอยู่ใกล้กับร่างกาย ที่ถูกเหล่าฆาตกรช่วยกันฝังเอาไว้ในห้องใต้ดิน โดยไม่มีใครอื่นรู้... แองเจล่า หรือ แองจี้ คือชื่อของฉัน พ่อเป็นคนตั้งให้ เพราะพ่อบอกว่าฉันเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ ของพ่อ ฉันไม่เคยแน่ใจว่าตัวเองเป็นนางฟ้าได้หรือเปล่า เพราะตามหนังสือภาพที่เคยผ่านตา ฉันเคยเห็นแต่นางฟ้าผิวขาว ผมสีทอง ตาสีฟ้าสวย ไม่เคยเห็นนางฟ้าที่มีผิวสีกาแฟ ดวงตาสีอัลมอนด์ ผมสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำหยิกเป็นลอนอย่างฉันเลยสักองค์ ฉันคิดว่า...แม่ของฉันต่างหากที่เหมือนกับนางฟ้า เพราะนอกจากจะใจดียิ่งกว่าใครในโลกนี้แล้ว แม่ยังเป็นคนสวยอีกด้วย แม่มีผมสีทองอ่อน ยาวเหยียดถึงกลางหลัง รับกับดวงตาสีเขียวเข้มราวกับมรกต เวลาเห็นแม่สวมชุดสีขาว ฉันมักอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าแม่มีปีกสักคู่ ก็คงจะดูเหมือนนางฟ้าในหนังสือเลยทีเดียว แม่อพยพมาจากยุโรปตะวันออกกับพี่สาวตั้งแต่ก่อนฉันเกิด แม่มาพบกับพ่อที่นี่...ลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ กับพ่อซึ่งเป็นคนอังกฤษ...พ่อเรียกตัวเองอย่างนั้น หรือจะพูดให้ถูก พ่อใช้คำว่า บริทิช (British) ไม่ใช่ อิงลิช (English) บรรพบุรุษของพ่อมาจากประเทศในทวีปอัฟริกาเมื่อนานมาแล้ว ใช่แล้วล่ะ พ่อของฉันเป็นชนชาติที่ถูกคนบางกลุ่มเรียกอย่างเหยียดหยามว่า นิโกร พ่อเป็นชายร่างสูงใหญ่ มีผิวสีเข้มเหมือนเปลือกไม้ ดวงตาสีเข้มประดับอยู่บนโครงหน้าบึกบึน ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว พ่ออาจจะดูเป็นคนดุดัน แต่ความจริงแล้ว พ่อเป็นผู้ชายที่อบอุ่น นุ่มนวลที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จัก พ่อทำให้ฉันนึกถึงเวลากลางคืนของฤดูใบไม้ผลิอันแสนอ่อนโยน ฉันเป็นลูกสาวคนเดียว แม้ครอบครัวของเราจะไม่ร่ำรวยนัก ทั้งพ่อและแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ แต่ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น บ้านเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดของฉัน จนกระทั่งวันนั้น...วันที่เป็นวันเริ่มต้นของฝันร้ายอันยาวนานของฉันก่อนตาย อุบัติเหตุรถประจำทางชนกันพรากท่านทั้งสองไปจากชีวิตของฉันตลอดกาล ฉันจำไม่ได้ว่าตอนนั้นร้องไห้ไปมากเท่าไหร่ คร่ำครวญอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้ามากแค่ไหน ยอมแลกได้ทุกอย่าง ขอเพียงได้พ่อกับแม่กลับคืนมาเท่านั้น ...หากเสียงร้องไห้ของเด็กผู้หญิงวัยสิบสาม ไม่ดังเพียงพอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น... ...โลกทั้งใบของฉันเปลี่ยนจากความอบอุ่นเป็นหนาวเย็นยะเยือก ราวกับดวงตะวันดับสูญไปทั้งดวง... เนื่องจากทั้งพ่อและแม่ไม่มีญาติคนอื่น ฉันจึงต้องย้ายไปอยู่กับ...ป้าซาวิน่า...พี่สาวของแม่ ซึ่งมีบ้านอยู่อีกฝั่งหนึ่งของนครลอนดอน หากจะพูดว่า วันที่พ่อกับแม่ของฉันจากไปเป็นบทเริ่มต้นของนิยายโศกนาฏกรรมที่มีฉันเป็นนางเอก วันที่ฉันมาถึงบ้านป้าซาวิน่า ก็คงจะเรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นบทที่หนึ่ง ฝั่งตะวันออกของลอนดอนต่างจากฝั่งตะวันตกที่ฉันเคยอยู่กับพ่อแม่มากเหลือเกิน แต่ป้าซาวิน่าแตกต่างจากแม่ของฉันมากกว่านั้น มากกว่าหน้ามือกับหลังมือ มากกว่ากลางวันกับกลางคืน ...มากกว่าสวรรค์กับนรก... ถ้าเปรียบแม่ของฉันเป็นนางฟ้า ป้าซาวิน่าคงจะต้องเป็นแม่มดอย่างแน่แท้ คืนวันที่ฉันอยู่กับครอบครัวของป้าซาวิน่ามันเลวร้าย จนความตายกลายเป็นสิ่งที่ฉันโหยหา กลายเป็นความกรุณาที่ฉันรอคอย จากวันที่ลมหายใจสุดท้ายของฉันขาดห้วง เวลาก็เลยผ่านไปเรื่อยๆ จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน จากเดือนจนจะเกือบครบปี ทุกชีวิตในบ้านหลังที่มีร่างไร้วิญญาณของฉันฝังอยู่ใต้ผืนดินในห้องใต้ดิน ดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างสงบสุข และราบเรียบอย่างประหลาด ราวกับว่า เรื่องราวของฉันในความทรงจำของพวกเขา ระเหยหายไปไม่ต่างอะไรกับน้ำค้างยามต้องแสงแดด ราวกับว่า ฉันไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกเบี้ยวๆ ไม่สมประกอบในห้วงจักรวาลนี้ ฉันเฝ้ามองเรื่องราวต่างๆ ของคนรอบข้าง ไปพร้อมๆ กับห้วงเวลาที่ค่อยๆ ไหลไปอย่างเชื่องช้า อ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ขอให้พรุ่งนี้มีคนรู้เรื่องฉัน ขอให้มีคนพบศพของฉันเสียที ขอให้คนกระทำผิดได้รับการลงโทษ แต่คำอ้อนวอนของฉันก็ไร้ผล ไม่ต่างอะไรกับครั้งที่ฉันเคยขอให้พ่อกับแม่กลับคืนมา ...ฉันไม่สามารถทำใจให้เชื่อในปาฏิหาริย์ได้อีกต่อไปแล้ว... ทุกวันที่ผ่านไป ความหวังที่เคยเปล่งประกายอยู่เลือนลาง ค่อยๆ จางหาย และดับวูบลง เหมือนกับตะเกียงที่หมดน้ำมัน ในที่สุด...ฉันก็ตัดใจ เลิกหวัง และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะลืมเรื่องราวก่อนหน้านี้ให้หมดสิ้น บอกกับตัวเองว่า ฉันตายไปแล้ว ฉันไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป และร่างที่ค่อยๆ เปื่อยเน่าอยู่ใต้ดินนั่น ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่สามารถกลับเข้าไปสิงร่างของตัวเองได้อย่างในนิยาย หรือการ์ตูนยอดมนุษย์ กลายเป็นซอมบี้ที่ชิ้นส่วนของร่างกายค่อยๆ หลุดออกจากกันเป็นทางยาวพร้อมกับทุกย่างก้าวที่เท้าขยับเดิน ฉันเกือบจะทำได้สำเร็จแล้วล่ะ...หรืออย่างน้อย ฉันเองก็คิดเข้าข้างตัวเองเอาไว้อย่างนั้น หากโชคชะตากลับเล่นตลก มันเป็นกลของพระเจ้าหรือปีศาจ ฉันไม่อาจรู้ได้ แต่ประสบการณ์ที่ฉันพยายามหนักหนาที่จะลืม ดูเหมือนว่าจะถูกนำกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง ราวกับการกดปุ่มกรอกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเครื่องฉายหนัง เพื่อย้อนดูภาพยนต์เรื่องเศร้าเรื่องเดิมตั้งแต่ต้น ด้วยการมาถึงของเด็กผู้หญิงที่มีชื่อว่า นาโอมิ ในคืนที่ฝนหิมะโปรย... .................... ท้ายหนังสือเล่มนี้ ไอซ์เขียนแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิด "คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน" ลงไปด้วย คิดว่าอาจจะ Spoil นิดๆ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านนะคะ ^^ ................แรงบันดาลใจ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านเรื่อง คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน มาจนถึงหน้าสุดท้ายนี้นะคะ นิยายเรื่องนี้เกิดจากแรงบันดาลใจมากมายหลายอย่าง ที่เก็บสะสมมานาน ซึ่งคิดเสมอว่า สักวันจะถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้คนอื่นได้รับรู้ นานมาแล้ว ขณะที่ฉันยังเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เคยได้มีโอกาสดูสารคดีที่เกี่ยวกับการเหยียดสีผิว ซึ่งตอนนี้จำรายละเอียดอะไรมากมายไม่ได้ รู้สึกว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ผู้ที่เคยมีประสบการณ์การถูกเหยียดผิวมาก่อน แต่มีสองเรื่องที่ฉันจำได้ไม่เคยลืม นั่นก็คือ สามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ถูกยิงที่ปั๊มน้ำมัน ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า ฝ่ายชายเป็นคนผิวดำ และฝ่ายหญิงเป็นคนผิวขาว คนร้ายไม่มีเรื่องบาดหมางอะไรกับผู้เคราะห์ร้าย ไม่รู้จักสามี-ภรรยาคู่นี้มาก่อนเสียด้วยซ้ำ ส่วนอีกเรื่องก็คือ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นลูกครึ่ง ผสมผสานระหว่างผิวขาวและผิวดำ พ่อหนูน้อยคนนี้ถูกเด็กคนอื่นๆ แกล้ง เพียงเพราะว่า เขาแตกต่างออกไป เคยได้ยินไหมคะ ที่คนบอกว่า คนลอนดอนกว่า 90% เป็นพวกเหยียดผิว ฉันโชคดีที่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่อยู่ที่นั่น ไม่เคยพบเรื่องร้ายแรงอะไร และคนรอบข้างก็ไม่มีใครเป็นอย่างนั้น...แต่การเหยียดผิวมีจริง... ฉันคิดเสมอว่า ไม่มีใครควรจะตัดสินใครด้วยลักษณะทางภายนอก เพียงเพราะว่าเขาหรือเธอต่างออกไป เมื่อเลาะผิวที่ห่อหุ้มอยู่แล้ว มนุษย์ทุกคนไม่มีอะไรต่างกัน มีเลือดสีแดงเหมือนกัน กระดูกสีขาวเหมือนกัน เน่าเปื่อยได้เหมือนกัน เมื่อเกิดความคิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับการทารุณกรรมเด็ก หรือ Child Abuse ตัวละครเอก แองจี้ และ นาโอมิ จึงเป็นเด็กลูกครึ่งระหว่างคนผิวขาวและคนผิวสี สำหรับแรงบันดาลใจหลักที่ทำให้เกิดเรื่อง คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน นั้น มาจากการที่ฉันได้อ่านคดีของ Sylvia Marie Likens ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นในประเทศอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 ซึ่งอ่านแล้วอดน้ำตาไหลเพราะสงสารผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งเป็นเพียงเด็กผู้หญิงวัยรุ่นตัวเล็กๆ ไม่ได้ ถ้าใครสนใจเกี่ยวกับคดีนี้ สามารถ search หาข้อมูลใน //www.google.com/ ได้ เมื่อใส่ชื่อ Sylvia Marie Likens ลงไป ก็จะมี link มาให้มากมาย ฉันได้อ่านข้อมูลจากหลายๆ เว็บ สำหรับหนังสือเล่มนี้ ฉันแปลสรุปเรื่องราวอย่างย่อๆ มาให้อ่านกันนะคะ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1965 ตำรวจเมืองอินเดียน่าโพลิส (Indianapolis) ได้รับโทรศัพท์จากจากเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่ไม่เอ่ยนามว่า พวกเขาจะพบศพของเด็กผู้หญิงในบ้าน ซึ่งอยู่ที่ 3850 อีส นิวยอร์ก สตรีท (East New York Street) ตำรวจไปที่นั่นและได้พบศพของเด็กสาววัยรุ่นอายุ 16 ปี ชื่อ ซิลเวีย มารี ไลเคนส์ (Sylvia Marie Likens) ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งในบ้าน มีผู้ใหญ่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเพียงคนเดียว นั่นก็คือ เกอร์ทรูด แบนนิเซฟสกี้ (Gertrude Baniszewski) เกอร์ทรูดบอกตำรวจว่า เธอเป็นคนดูแลซิลเวีย เพราะว่าพ่อแม่ของของเธอออกเดินทางไปนอกเมือง และซิลเวียถูกแก็งค์ผู้ชายทำร้าย แต่แพทย์ชันสูตรศพพบกลับพบว่า ซิลเวียถูกทุบตีและขาดอาหารมานานหลายสัปดาห์แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะถูกทำร้ายในเวลาไม่กี่วันนี้ ร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยช้ำ บาดแผลเล็กๆ รอยเผาของบุหรี่มากกว่าร้อยแห่ง บางส่วนของผิวถลอกหลุดลอกออกไป มีเลข 3 ขนาดใหญ่ถูกตีตราอยู่บนอกของเธอ และที่โหดร้ายที่สุดก็คือ มีประโยคที่ถูกเขียนด้วยเข็มร้อนๆ เป็นรอยอยู่บนหน้าท้องว่า "I'M A PROSTITUTE AND PROUD OF IT!" ถึงแม้ว่าบาดแผลของซิลเวียจะน่ากลัว แต่ความจริงที่น่าตื่นตะลึงที่สุดก็คือ เธอถูกทารุณกรรมมานาน โดยคนในบ้านและเด็กๆ แถบนั้น ซึ่งได้รับเชิญมาร่วมวง ลงโทษ ซิลเวีย เพื่อนบ้านของเกอร์ทรูดเคยได้ยินเสียงแปลกๆ และคนที่เคยมาบ้านหลังนี้ ก็เคยเห็นซิลเวียที่ได้รับบาดเจ็บเพราะถูกทำร้ายมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีใครยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างจริงจัง ...จนในที่สุด เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็ถูกทรมานจนตาย...ห้องที่พบศพของซิลเวีย เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1965 เมื่อ เลสเตอร์ (Lester) กับ เบ็ตตี้ (Betty) ไลเคนส์ ได้ขอให้เกอร์ทรูดดูแลลูกสาววัยรุ่นสองคนของพวกเขา ขณะที่ทั้งสองจะออกเดินทางไปกับคณะคานิวัล โดยจะให้เงินค่าเลี้ยงดู 20 ดอลล่าร์ต่อสัปดาห์ เกอร์ทรูดตกลงรับ ซิลเวีย อายุ 16 ปี และเจนนี่ อายุ 15 ปี เข้ามาดูแลในบ้าน ซึ่งอยู่ที่ 3850 อีส นิวยอร์ก สตรีท ในบ้านนั้นมีเกอร์ทรูดและเด็กๆ อีกเจ็ดคน คนที่อายุมากที่สุดคือ พอลล่า ซึ่งอายุ 17 ปี ยังไม่ได้แต่งงานและกำลังท้องอยู่ ส่วนคนที่อายุน้อยที่สุดยังเป็นทารกอยู่ นอกจากนั้น บ้านหลังนี้ยังเป็นที่ซ่องสุมของเด็กๆ ในย่านนั้นด้วย ไม่มีข้อมูลว่าทำไมเกอร์ทรูดถึงได้เกลียดซิลเวียหนักหนา อาจเป็นเพราะ ซิลเวียเป็นเด็กที่กล้าพูด กล้าเถียง ส่วนเจนนี่นั้นตัวเล็ก อ่อนแอ เพราะเคยเป็นโปลิโอมาก่อน และไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมซิลเวียถึงได้กลายเป็นเป้าหมายของการถูกกลั่นแกล้ง รังแก ระหว่างฤดูร้อนนั้น การ ลงโทษ เริ่มต้นด้วยการที่ซิลเวียถูกเฆี่ยนขณะเปลือยร่างเหยียดตัวบนที่นอน ซิลเวียถูกทุบตีด้วยเหตุผลที่ว่า เธอกินอาหารที่โบสถ์มากเกินไป และถูกเตะซ้ำๆ ที่อวัยวะเพศ หลังจากที่ยอมรับว่า เธอมีแฟนอยู่ในแคลิฟอร์เนีย เด็กๆ แถบนั้นเริ่มมาที่บ้านของเกอร์ทรูดเพื่อร่วมวงทารุณซิลเวีย ใช้เธอเป็นเป้าซ้อมยูโด เตะ และต่อยเธอ บางคนเอาบุหรี่จี้บนผิวของเธอ ซิลเวียถูกบังคับให้เปลื้องผ้าในห้องนั่งเล่น สอดขวดโค้กเปล่าเข้าไปในช่องคลอด ขณะที่เกอร์ทรูดและเด็กคนอื่นๆ ล้อมวงดู หลังจากถูกทุบตี ซิลเวียมักถูกบังคับให้อาบน้ำร้อนจัด เพื่อชำระบาป ช่วงหลัง ซิลเวียไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในบ้านอีกต่อไป เธอถูกโยนลงไปในห้องเก็บของใต้ดิน และถูกขังอยู่ในนั้น โดยได้รับแคร็กเกอร์เป็นอาหาร วันหนึ่ง เกอร์ทรูดประกาศกับลูกๆ ของเธอและเด็กๆ ที่มาชุมนุมที่บ้านว่า ซิลเวียเป็นโสเภณีและภูมิใจที่เป็นอย่างนั้น ก็เลยจะสลักมันไว้บนหน้าท้องของเธอ ด้วยการใช้เข็มขนาดใหญ่มาเผาไฟ และสลักประโยค "I'M A PROSTITUTE AND PROUD OF IT!" เมื่อเกอร์ทรูดรู้ว่า ซิลเวียกำลังจะตาย เกอร์ทรูดบังคับให้ซิลเวียเขียนจดหมายว่า แก็งค์ผู้ชายทำร้ายเธอ แผนการณ์ของเกอร์ทรูดก็คือ จะผูกตาซิลเวียและเอาเธอไปทิ้งไว้ในป่าพร้อมกับจดหมายฉบับนั้น ซิลเวียพยายามหนี แต่เกอร์ทรูดกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งจับเธอเอาไว้ได้ ทุบตีเธอ และโยนเธอกลับลงไปในห้องใต้ดิน ซิลเวียเสียชีวิตในวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1965 สาเหตุของการตายก็คือ สมองบวม เลือดออกในสมอง ช็อคจากอาการบาดเจ็บและขาดอาหาร3850 อีส นิวยอร์ก สตรีท เกอร์ทรูดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีอีกหนึ่งปีต่อมาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1966 เกอร์ทรูดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าพวกเด็กๆ เป็นคนทำ เธอให้คำแก้ต่างว่า ไม่ผิดด้วยเหตุผลอาการทางจิต วันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1966 ลูกขุนตัดสินว่าเกอร์ทรูดผิดจริงด้วยข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา พอลล่า...ลูกสาวคนโตมีความผิดข้อหาฆ่าคนตายโดยวางแผนไว้ล่วงหน้า และเด็กผู้ชายอีกหลายคนที่ร่วมทุบตีซิลเวียและสลักข้อความลงบนหน้าท้องของเธอผิดด้วยข้อหา ฆ่าคนโดยไม่เจตนา เกอร์ทรูดกับพอลล่าถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต พวกเด็กผู้ชายถูกปล่อยตัวโดยภาคทัณฑ์เอาไว้ในปี ค.ศ. 1968 หลังจากถูกจำคุกสองปี ในปี ค.ศ. 1971 ศาลของอินเดียน่าโพลิสอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีของเกอร์ทรูดกับพอลล่าเสียใหม่ เกอร์ทรูดถูกตัดสินด้วยข้อหาเดิมอีกครั้ง ส่วนพอลล่าให้การยอมรับว่าผิดจริงในข้อหาที่ร้ายแรงน้อยกว่า นั่นก็คือ ฆ่าคนโดยไม่เจตนา พอลล่าชดใช้ความผิดในคุกอีกสองปี เดือนกันยายน ค.ศ. 1985 เกอร์ทรูดได้รับการปล่อยตัวโดยภาคทัณฑ์เอาไว้ เธอเปลี่ยนชื่อเป็น นาดีน แวน ฟอสแซน (Nadine Van Fossan) และย้ายไปอยู่เมืองไอโอว่า เกอร์ทรูดตายด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1990เกอร์ทรูด แบนนิเซฟสกี้ อ่านคดีนี้จบแล้ว ฉันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เหล่าฆาตกรที่ร่วมกันทำร้ายจนคนตายไปทั้งคน ได้รับโทษน้อยเหลือเกิน ซิลเวียถูกทารุณกรรมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนตายในเดือนตุลาคม เธอไม่ได้เป็นโสเภณี และยังบริสุทธิ์อยู่ คนทำผิดจำคุกเพียงไม่กี่ปี ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา ใช้ชีวิตตามปกติต่อไป คดีของซิลเวียกลายเป็นแรงบันดาลใจของฉัน ในการเขียนเรื่อง คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน โดยมี แองจี้ เด็กที่ถูก ซาวิน่า กรีน ทารุณจนตายเป็นผู้ดำเนินเรื่อง ...เธอตายไปโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ เหมือนกับซิลเวีย... วิญญาณของแองจี้เฝ้าดูชีวิตของ นาโอมิ เด็กผู้หญิงอีกคนที่กำลังประสบชะตากรรมเดียวกับเธอ แองจี้คอยเอาใจช่วยนาโอมิให้รอดพ้นจากชะตากรรมร้าย คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน เป็นเรื่องที่จินตนาการขึ้น ตัวละครทั้งหมดถูกสมมติขึ้นมา ผูกเป็นเรื่องราวของคนหลายกลุ่ม ผู้ถูกทำร้าย ผู้ทำร้าย ผู้ที่นิ่งดูดาย และผู้พยายามช่วยเหลือ โดยเขียนเป็นแนว Drama Thriller พยายามสื่อถึงความคิด ความเจ็บปวด ความคับแค้น ความหวัง ของผู้ถูกทารุณกรรมและต้องการความช่วยเหลือ ฉันตั้งใจที่จะให้ คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน จบลงด้วย ความหวัง ถึงแม้ว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง และอาจจะอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด มันเป็นเรื่องเศร้าที่ยังคงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ฉันเองก็มีความหวังเหมือนกับ นาโอมิ ...ถ้าหากพวกเราไม่นิ่งดูดาย สักวันคงจะไม่ต้องมีคนโชคร้ายอีกแม้แต่คนเดียว...ซิลเวีย มารี ไลเคนส์ ...... นี่เป็นหนังสือเล่มที่ไอซ์เขียนขึ้นมาแล้วภูมิใจมากๆ อยากให้ลองอ่านกันดูน้า ^^ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ รบกวนโพสต์ความคิดเห็นที่บล็อก Index : Behind my work ไอซ์จะเข้าไปตอบแน่นอนค่ะ ^^
Create Date : 07 กันยายน 2548
50 comments
Last Update : 12 เมษายน 2552 10:28:15 น.
Counter : 2846 Pageviews.
โดย: กีกี้ IP: 202.133.131.1 7 กันยายน 2548 22:39:57 น.
โดย: ชมทะเล 7 กันยายน 2548 23:56:28 น.
โดย: namit 8 กันยายน 2548 0:05:53 น.
โดย: namit 8 กันยายน 2548 0:09:00 น.
โดย: ติ่ม IP: 202.183.162.233 8 กันยายน 2548 11:10:59 น.
โดย: ปุ๋ย IP: 58.8.248.155 8 กันยายน 2548 17:31:03 น.
โดย: ฯคีตกาล IP: 61.90.248.110 9 กันยายน 2548 7:39:20 น.
โดย: Barfinn 10 กันยายน 2548 15:33:38 น.
โดย: I aM nOt PerFecT IP: 82.43.180.139 10 กันยายน 2548 20:50:15 น.
โดย: the dust IP: 203.146.131.180 11 กันยายน 2548 0:36:08 น.
โดย: แป๊กก 11 กันยายน 2548 7:31:40 น.
โดย: เพนนีกับพีนัท (Nontagorn ) 11 กันยายน 2548 15:17:38 น.
โดย: ธามาดา 12 กันยายน 2548 0:05:03 น.
โดย: tintin (nyx ) 13 กันยายน 2548 14:33:55 น.
โดย: ป้าหนอน 16 กันยายน 2548 15:58:28 น.
โดย: envy IP: 203.151.140.121 20 กันยายน 2548 14:43:52 น.
โดย: มะกอกช่อ IP: 203.107.193.111 1 ตุลาคม 2548 22:30:03 น.
โดย: เมเปิ้ล IP: 203.157.14.245 13 ตุลาคม 2548 14:28:01 น.
โดย: นาโอมิ IP: 203.209.97.37 29 ตุลาคม 2548 17:39:12 น.
โดย: นักอ่านเมืองเชียงใหม่ IP: 58.147.14.145 3 มีนาคม 2549 9:50:34 น.
โดย: davilleye IP: 61.19.46.187 16 มิถุนายน 2549 10:20:35 น.
โดย: ช่อม่วง IP: 124.121.148.215 20 มกราคม 2550 18:27:45 น.
โดย: น้องซันๆ IP: 124.157.179.234 25 กุมภาพันธ์ 2550 20:51:06 น.
โดย: auzayei@hotmail.com IP: 203.158.239.239 4 กันยายน 2550 11:38:55 น.
โดย: วิ่งผ่าน IP: 124.121.228.6 16 ตุลาคม 2550 19:48:58 น.
โดย: aom IP: 203.146.63.182 4 พฤศจิกายน 2550 14:12:20 น.
โดย: Retrorian IP: 61.19.166.247 4 พฤศจิกายน 2550 19:37:43 น.
โดย: น้ำหวาน (Whan-famous ) 26 พฤศจิกายน 2550 15:05:10 น.
โดย: minty IP: 125.26.34.100 2 มกราคม 2551 15:55:07 น.
โดย: Rin IP: 125.25.201.170 31 มกราคม 2551 19:25:16 น.
โดย: ชล IP: 203.209.94.7 22 มีนาคม 2551 20:46:21 น.
โดย: lok IP: 58.9.50.54 1 พฤษภาคม 2551 0:14:17 น.
โดย: ยายคนที่นอนไม่หลับ IP: 118.173.51.205 2 พฤษภาคม 2551 15:38:41 น.
โดย: ยายคนที่นอนไม่หลับ IP: 118.173.52.106 6 พฤษภาคม 2551 16:09:36 น.
โดย: ปรียานุช IP: 58.147.73.3 31 สิงหาคม 2551 10:57:24 น.
โดย: ploy IP: 125.26.211.94 28 กันยายน 2551 15:03:48 น.
โดย: แฟนใหม่คุณไอซ์ IP: 124.120.182.82 17 กุมภาพันธ์ 2552 10:50:59 น.
โดย: ice IP: 125.27.59.113 21 มิถุนายน 2552 19:23:46 น.
โดย: falook IP: 172.168.1.51, 58.9.53.225 11 กรกฎาคม 2552 14:08:09 น.
โดย: หว่าหวา IP: 124.122.155.156 20 กันยายน 2552 12:28:51 น.
โดย: แพตตี้ IP: 180.214.193.80 30 เมษายน 2553 18:53:27 น.
โดย: แพตตี้ IP: 180.214.193.80 30 เมษายน 2553 18:59:39 น.
โดย: ป๊อปอาย IP: 49.49.35.57 15 ธันวาคม 2556 4:29:37 น.
เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายยิ่งกว่าพายุ ^^
บอกกล่าวกันก่อน
Blog นี้มีอะไร อัพเดทใหม่ๆ คลิกที่ Blog map & Update ค่ะ
ตอนนี้นิยายที่เขียนค้างอยู่ถูกล็อกไว้ชั่วคราว เพราะอยากจัดระเบียบความคิดของตัวเองนิดนึงก่อนค่ะ ขออภัยสำหรับความไม่สะดวกด้วยนะคะ
ขอร้องคนที่มาอ่านงานเขียนของไอซ์ในบล็อกนะคะว่า กรุณาอย่าก็อปปี้ไปเผยแพร่ที่อื่นเลย ไม่ว่าจะให้เครดิตหรือไม่ เพราะบอกตรงนี้เลยค่ะว่า "ไม่อนุญาตทุกกรณี" ขอให้อ่านกันเพียงแต่ในนี้ หรือถ้าอยากแบ่งปันกันจริงๆ ขอให้ทำ link มาที่นี่นะคะ ^^
ตอนนี้ไอซ์เล่น Blog น้อยลงมากๆ เลย เพราะจะไปอยู่ใน Facebook มากกว่า
ยังไงแอ๊ดไปคุยกันได้ ที่นี่ นะคะ เป็น Facebook ส่วนตัวของไอซ์ รับแอ๊ดทุกคนค่ะ แต่ว่าไอซ์ใช้คุยเรื่องทั่วๆ ไปด้วย ไอซ์อัพค่อนข้างบ่อย อัพทุกเรื่องเลย อาจจะรกนิดนึง
ถ้าจะติดตามเรื่องงานเขียนหรืองานแปล ((ไม่ได้แปลนานแล้วนะคะ ฮา)) ก็สามารถเข้าไปกด like กันที่เพจได้ ที่นี่ นะคะ ^^
ผลงานล่าสุด
กล่องนี้จะเป็นกล่องที่แนะนำผลงานล่าสุดของไอซ์นะคะ ^^
ปี 55 นี้ เปิดศักราชใหม่อย่างอลังการด้วยผลงานใหม่ซึ่งออกพร้อมกัน 2 เรื่องเลยค่ะ ^^ ((ภูมิใจเล็กๆ เพราะหนาด้วยอะ 555)) เป็นหนังสือสองเล่มที่นางเอกของทั้งสองเรื่องมีหน้าตาเหมือนกัน เนื้อเรื่องมีจุดเชื่อมกันเล็กน้อย อ่านเล่มไหนก่อนก็ได้ เพราะเรื่องเกิดขนานกันไปค่ะ หรือถ้าจะอ่านแค่เล่มเดียวก็ได้เหมือนกันค่ะ รับรองว่าไม่สะดุด แต่ถ้าได้อ่านสองเล่มจะรู้ว่า อีกฝ่ายหนึ่งเกิดอะไรขึ้น ^^
ระบำรัก
เรื่องนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นในปารีส-ฝรั่งเศส และทาลลินน์-เอสโตเนียค่ะ พระเอกเป็นจิตรกรและเป็นโจรขโมยงานศิลปะ คราวนี้ภาพวาดที่เขารับงานแทนเพื่อนว่าจะขโมยออกมานั้น ถูกขโมยตัดหน้าเสียก่อน พอกลับมาก็พบว่าเพื่อนตัวดีหายตัวไปอีก แน่นอนว่าตำรวจเพ่งเล็งมาที่เขา ส่วนนางเอกเป็นผู้ครอบครองภาพวาดที่เขาคิดว่าจะสามารถทำให้เขาสืบหาตัวการที่ทำให้เขาลำบากได้ ถ้าชอบพล็อตเก๋ๆ ชิงไหวชิงพริบ รับรองว่าเรื่องนี้ถูกใจแน่ค่ะ ^^
เล่มบนอาจจะไม่หวานมาก แต่เล่มล่างนี่ หวานจนบ.ก.สั่งตัดเลยทีเดียว แอ๊ >_<
ระบำฝัน
เรื่องนี้นางเอกเป็นเด็กถูกเก็บมาเลี้ยงค่ะ เธอไม่มีความทรงจำในวัยเด็กเหลืออยู่เลย ทั้งๆ ที่ชีวิตก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ เพราะพ่อแม่และน้องเลี้ยงรักเธอ แฟนหนุ่มก็รักเธอ แต่ความฝันซึ่งเป็นเศษเสี้ยวจากอดีตตามหลอกหลอนจนเธอไม่อาจอยู่เฉยได้ เธอดิ้นรนหาความจริง โดยที่ไม่รู้เลยความจริงอาจทำให้เธอสูญเสียทุกอย่างไป ฉากเรื่องนี้อยู่ที่ปารีส-ฝรั่งเศสและประเทศไทยค่ะ
ฝากหนังสือ "ระบำรัก" และ "ระบำฝัน" ด้วยนะคะ เป็นสองเล่มที่ไอซ์มั่นใจว่า ถ้าได้อ่านจะชอบแน่นอน บอกไว้ก่อนว่า ถึงจะมีฉากตปท.แต่ก็ไม่ใช่หนังสือท่องเที่ยวนะคะ ดังนั้นจะเน้นที่พล็อตมากกว่ามากๆ ใครที่ชอบงานของไอซ์อยู่แล้ว รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง ส่วนคนที่ไม่เคยอ่าน หรือไม่เคยชอบงานของไอซ์มาก่อน อยากให้ลองหยิบมาอ่านดูค่ะ ยินดีรับคำแนะนำ ติชม เสมอนะคะ ^^
ส่วนผลงานก่อนหน้านี้ ก็มีงานแนว Romantic Suspense เล่มแรก เป็นแนวใหม่ของแจ่มใสค่ะ
Deadly Game...เกมรักมรณะ
เกิดการฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น และคนที่ตายก็ล้วนเกี่ยวข้องกับนางเอก ฆาตกรเป็นใครกันแน่ ... เป็นเล่มแรกที่เขียนแนวนี้ ฝากด้วยนะคะ อยากได้ feedback มากๆ ค่ะ ^^
ส่วนผลงานเล่มก่อนหน้าที่ออกวางแผงเดือน ส.ค. 54 ฉลองที่แจ่มใสครบ 10 ปี เป็นหนึ่งในโปรเจ็ค Sweet 10 ค่ะ
คนที่สิบ...รักที่สุด
ในโปรเจ็คนี้จะมีทั้งหมด 4 เล่มด้วยกัน เป็นเรื่องของเพื่อนสาว 4 คนที่เกี่ยวพันกับเลข 10 แต่ละเล่มอ่านแยกกันได้ค่ะ เล่มของไอซ์...นางเอกมีแฟนมาแล้วเก้าคน ก็ไม่ใช่ตัวจริงซักที คนที่สิบนี่...จะใช่ไหมนะ ^^
ฝากผลงานด้วยนะคะ ^^
29/1/2012
ฝากผลงานทั้งหมดด้วยนะคะ ^^
ผลงานเขียนเดี่ยวๆ
ผลงานแปล
ผลงานร่วมกับนักเขียนท่านอื่น
เอิ๊กก ถ้ามีเวลาจะตามหามาอ่านนะค่ะ