"ไม่มีใครผู้ใด ที่จะทำให้เรา พ้นทุกข์ได้ ตัวของเราเท่านั้น ที่จะทำให้เรา พ้นทุกข์ได้"

สมาชิกหมายเลข 5067499
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ศึกษาและปฏิบัติธรรม มากกว่า 38 ปี
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2562
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 มิถุนายน 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5067499's blog to your web]
Links
 

 

22. จงเพียรหมั่นทำ “ประโยชน์ตน” และ “ประโยชน์ท่าน” ให้บริบูรณ์



เมื่อเราได้มีโอกาส เกิดมาเป็นคนแล้ว

สิ่งที่เราควรทำความเข้าใจ ให้ชัดแจ้ง คือ
๑. คนเราเกิดมา เพื่ออะไร?
๒. อะไร? คือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ที่คนเรา ควรทำให้ถึง
๓. อะไร? คือภารกิจที่สำคัญของชีวิต ที่คนเรา ควรเพียรหมั่นทำ เพื่อทำให้บรรลุ เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต

***************

ผู้เขียนได้เพียรพยายาม ค้นหาคำตอบ จนได้รับคำตอบ ที่ชัดแจ้ง คือ

๑. คนเราเกิดมา เพื่อมารับผลของกรรม ที่ตนได้เคยกระทำเอาไว้ ในชาติก่อนๆ


กรรมดี หรือ กุศลกรรม มีผลเป็น วิบากกรรมดี หรือ กุศลวิบาก ได้แก่ การได้ประสบกับความสุข การได้ลาภ การได้ยศ การได้สรรเสริญ การได้ห่างไกลจากความทุกข์ การได้ห่างไกลจากโทษ การได้ห่างไกลจากภัย การได้รับการช่วยเหลือเกื้อกูลจากผู้อื่น และ การได้รับ หรือ การได้ประสบกับ สิ่งที่ดีๆทั้งหลาย

กรรมไม่ดี หรือ อกุศลกรรม มีผลเป็น วิบากกรรมไม่ดี หรือ อกุศลวิบาก ได้แก่ การได้ประสบกับความทุกข์ การเสื่อมลาภ การเสื่อมยศ การได้รับคำนินทา การได้รับโทษ การได้รับภัย และ การได้รับ หรือ การได้ประสบกับ สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย

และเมื่อคนเรา ได้เกิดมาแล้ว
คนเราก็จะทำ ทั้ง “กรรมดี” และ “กรรมไม่ดี” คละเคล้ากันไป
ทำให้คนเรา ต้องเวียนวน กลับมาเกิดอีก เพื่อมารับผลของกรรม ที่ตนได้เคยกระทำเอาไว้ เป็นวัฏสงสาร ไม่มีที่สิ้นสุด

“การกระทำกรรมของคนเรา โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็นไปตาม อำนาจของกิเลส ตัณหา และ อุปาทาน”

กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน คือสิ่งชักนำจิตใจของคนเรา ให้กระทำ ทั้ง “กรรมดี” และ “กรรมไม่ดี” คละเคล้ากันไป
โดยมีลาภ ยศ สรรเสริญ และ โลกียสุข เป็นเหยื่อล่อ
ทำให้คนเรา ต้องเวียนวน อยู่ในวังวนของ “ความสุข (โลกียสุข)” และ “ความทุกข์” ไม่มีที่สิ้นสุด

กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน มักจะชักนำจิตใจของคนเรา ให้กระทำ “กรรมไม่ดี” มากกว่า “กรรมดี”
ทำให้คนเรา มีความทุกข์ มากกว่า มีความสุข (โลกียสุข)

ถ้าหากเราต้องการ จะหลุดพ้นออกจาก  วังวนของ “ความสุข (โลกียสุข)” และ “ความทุกข์” อันไม่มีที่สิ้นสุด
เราต้องเพียรหมั่น ชำระล้าง กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน ออกจากจิตใจ ให้หมดสิ้น

๒. เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ที่คนเรา ควรทำให้ถึง คือ การพ้นทุกข์ หรือ การดับทุกข์

บุคคลทั้งหลาย ที่ได้เกิดมาแล้ว
ล้วนต้องการ “ความสุข” ไม่ได้ต้องการ “ความทุกข์” เป็นธรรมดา
ดังนั้น เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต จึงคือ การพ้นทุกข์ หรือ การดับทุกข์

๓. ภารกิจที่สำคัญของชีวิต ที่คนเรา ควรเพียรหมั่นทำ เพื่อทำให้บรรลุ เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต คือ

๓.๑ การไม่ทำบาปอกุศลทั้งปวง ทั้งทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ หมายถึง การไม่สร้างอกุศลวิบาก หรือ วิบากกรรมที่ไม่ดี มาเติมเพิ่มให้กับชีวิต

๓.๒ การหมั่นทำกุศลให้ถึงพร้อม ทั้งทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ หมายถึง การเพียรหมั่นสร้างกุศลวิบาก หรือ วิบากกรรมดี มาเติมเพิ่มให้กับชีวิต

๓.๓ การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส หมายถึง การเพียรหมั่นชำระล้าง กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน ซึ่งเป็นอกุศลมูล หรือ มูลเหตุของอกุศล ออกจากจิตใจ ให้หมดสิ้น

***************

ก่อนที่พระพุทธองค์ จะทรงดับขันธปรินิพพาน
พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสเอาไว้ว่า
“หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันว่าสังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อมสลายไป เป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงยังกิจทั้งปวง อันเป็นประโยชน์ของตน และ ประโยชน์ของผู้อื่น ให้บริบูรณ์ ด้วยความไม่ประมาทเถิดฯ”

การทำประโยชน์ของตน หรือ การทำประโยชน์ตน หมายถึง การปฏิบัติภารกิจที่สำคัญของชีวิต ทั้ง ๓ ประการ ดังกล่าวมาแล้ว เพื่อความผาสุกของชีวิต เพื่อความพ้นทุกข์ หรือ เพื่อความดับทุกข์

การทำประโยชน์ของผู้อื่น หรือ การทำประโยชน์ท่าน  หมายถึง การกระทำ เพื่อเกื้อกูลโลก เพื่อเกื้อกูลสังคม เพื่อเกื้อกูลผู้อื่น และ เพื่อเกื้อกูลสัตว์อื่น อันมีผลเป็น  “วิบากกรรมดี” หรือ “กุศลวิบาก”

***************

เมื่อเราได้มีโอกาส เกิดมาเป็นคนแล้ว
ขอพวกเรา จงเพียรหมั่นทำ “ประโยชน์ตน” และ “ประโยชน์ท่าน” ให้บริบูรณ์
เพื่อประโยชน์สุขของชีวิต ทั้งในชาตินี้ และ ชาติต่อๆไป
และ เพื่อความพ้นทุกข์ หรือ เพื่อความดับทุกข์

ชาญ คำพิมูล

 




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2562
0 comments
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2562 7:30:32 น.
Counter : 4589 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.