"ไม่มีใครผู้ใด ที่จะทำให้เรา พ้นทุกข์ได้ ตัวของเราเท่านั้น ที่จะทำให้เรา พ้นทุกข์ได้"

สมาชิกหมายเลข 5067499
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ศึกษาและปฏิบัติธรรม มากกว่า 38 ปี
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
4 กุมภาพันธ์ 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5067499's blog to your web]
Links
 

 

7. ภารกิจที่สำคัญของชีวิต คืออะไร?


 
"ภารกิจที่สำคัญของชีวิต คืออะไร?"
 
ความสุข หรือ การได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ เป็นสิ่งที่คนเรา มุ่งมาดปรารถนา
 
ความทุกข์ หรือ การได้รับสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่คนเรา ไม่ปรารถนา
 
ทุกๆความสุข ทุกๆความทุกข์ ทุกๆสิ่งที่ดีๆ และ ทุกๆสิ่งที่ไม่ดี ที่หมุนเวียนเข้ามาในชีวิตของคนเรา
ล้วนเป็น “ผลของกรรม” หรือ “ผลของการกระทำ” ที่คนเรา ได้เคยกระทำเอาไว้ ในอดีต ทั้งในชาตินี้ และ ชาติก่อนๆ
 
ความสุข ความห่างไกลโรค ความห่างไกลภัย การได้ลาภ การได้ยศ การได้สรรเสริญ และ การได้รับสิ่งที่ดีๆทั้งหลาย
เป็นผลของกรรมดี หรือ วิบากกรรมดี หรือ กุศลวิบาก
 
ความทุกข์โศก โรค ภัย ความเสื่อมลาภ ความเสื่อมยศ การได้รับการนินทา และ การได้รับสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย
เป็นผลของกรรมไม่ดี หรือ วิบากกรรมไม่ดี หรือ อกุศลวิบาก
 
ทุกๆการคิด ที่ไม่ดี
ทุกๆการพูด ที่ไม่ดี
และ ทุกๆการกระทำ ที่ไม่ดี
ล้วนมีผลเป็น “วิบากกรรมไม่ดี” หรือ “อกุศลวิบาก”
 
ทุกๆการคิด ที่ดี
ทุกๆการพูด ที่ดี
และ ทุกๆการกระทำ ที่ดี
ล้วนมีผลเป็น “วิบากกรรมดี” หรือ “กุศลวิบาก”
 
ถ้าเราต้องการจะทำให้ชีวิตของเรา มีความสุข มีความห่างไกลจากทุกข์ มีความห่างไกลจากโรค มีความห่างไกลจากภัย มีลาภ มียศ มีสรรเสริญ และ มีแต่สิ่งที่ดีๆหมุนเวียนเข้ามาในชีวิต
เราต้องเพียรหมั่น “ทำกรรมดี” คือ คิดดี พูดดี และ กระทำดี ให้ติดเป็นนิสัย
และ เราต้องเพียรหมั่น “ปรับเปลี่ยนกรรมที่ไม่ดี” หรือ “แก้กรรมที่ไม่ดี” คือ ปรับเปลี่ยน การคิดที่ไม่ดี การพูดที่ไม่ดี และ การกระทำที่ไม่ดี ให้เป็น การคิดที่ดี การพูดที่ดี และ การกระทำที่ดี
 
สิ่งที่คอยบงการ ผลักดัน ชักจูง และ ชักนำ ให้คนเรา ทำกรรมไม่ดี คือ กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน
 
กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน คือ ความโลภ ความโกรธ และ ความหลง เป็นมูลเหตุของอกุศลกรรม หรือ เป็น “อกุศลมูล”
 
กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน คือ ความโลภ ความโกรธ และ ความหลง เป็นมูลเหตุของความทุกข์
 
ถ้าเราต้องการจะพ้นทุกข์
เราต้องเพียรหมั่น ชำระล้าง กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน คือ ความโลภ ความโกรธ และ ความหลง ออกจากจิตใจ ให้หมดสิ้น
 
การเพียรหมั่น ชำระล้าง กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน คือ การเพียรหมั่น “อบรมจิต” และ การเพียรหมั่น “อบรมปัญญา”
 
โดยสรุปแล้ว ภารกิจที่สำคัญของชีวิต คือ
๑. การเพียรหมั่น ปรับเปลี่ยน “กรรมไม่ดี” ให้เป็น “กรรมดี”
๒. การเพียรหมั่น “ทำกรรมดี” คือ คิดดี พูดดี และ กระทำดี ให้ติดเป็นนิสัย
๓. การเพียรหมั่น “ทำความพ้นทุกข์” หรือ การเพียรหมั่น ชำระล้าง กิเลส ตัณหา และ อุปาทาน ออกจากจิตใจ
 
ถ้าเราไม่เพียรหมั่น “ทำกรรมดี” และ ไม่เพียรหมั่น “แก้กรรมไม่ดี” แล้วเราจะเอา “การได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ” มาจากไหน?
 
ถ้าเราไม่เพียรหมั่น “ทำความพ้นทุกข์” แล้วเราจะเอา “ความพ้นทุกข์” มาจากไหน?
 
การกระทำทั้ง ๓ สิ่ง ดังกล่าวมานี้
ชื่อว่า “การสร้างหลักประกันให้แก่ชีวิต ทั้งในชาตินี้ และ ชาติต่อๆไป”
การไม่ได้กระทำทั้ง ๓ สิ่ง ดังกล่าวมานี้
ชื่อว่า “เป็นผู้เสียโอกาส ที่ได้โอกาส เกิดมาเป็นคน”
 
ชีวิตนี้ น้อยนัก
ชีวิตนี้ สั้นนัก
ชีวิตนี้ ไม่แน่นอน
 
ขอพวกเรา จงอย่าประมาท ในการดำเนินชีวิต
จงอย่าปล่อยให้ชีวิต ไหลเลื่อนไปตาม อำนาจของกิเลส
จงเพียรหมั่น ปรับเปลี่ยนกรรมที่ไม่ดี ให้เป็นกรรมดี
จงเพียรหมั่น กระทำกรรมดี ให้ดียิ่งๆขึ้นไป
และ จงเพียรหมั่น ชำระล้างกิเลส ตัณหา และ อุปาทาน ออกจากจิตใจ
เพื่อประโยชน์สุขของชีวิต ทั้งในชาตินี้ และ ชาติต่อๆไป
 
ชาญ คำพิมูล




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2562
0 comments
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2562 7:25:45 น.
Counter : 778 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.