Advanced and Caring
Group Blog
BangkokHospital
<<
กันยายน 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
9 กันยายน 2552
ระวัง!! ทำร้ายกระดูกสันหลังโดยไม่รู้ตัว
All Blogs
คิดสิ่งดีๆ ในวันปีใหม่
ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพขอเชิญทุกท่าน ร่วมตอบแบบสำรวจสุขภาพช่วงน้ำท่วม
อีเอ็มบอล คืออะไร มีความสามารถพิเศษอย่างไร โดย ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ
หน่วยแพทย์ลอยฟ้า รับปรึกษาปัญหาสุขภาพและโรคที่เกิดจากภาวะน้ำท่วม 3-6 พ.ย. 54 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
หนึ่งภารกิจของทีมแพทย์ พยาบาลเวชศาสตร์การบินกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ
สิ่งที่ควรรู้เมื่อน้ำท่วม โดยศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ
เครือรพ.กรุงเทพ กับภารกิจพิชิตอุทกภัย ในวันที่ 13-14 ต.ค.
เสริม 'แนวรบสุขภาพ' ''สงครามน้ำ'' ไทยทุกฝ่ายต้องร่วมสู้!!
ประมวลภาพกิจกรรมเครือ รพ. กรุงเทพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วันที่ 9 -13 ต.ค. ที่ผ่านมา
เครือรพ.กรุงเทพ ส่งทีมแพทย์พยาบาลช่วยเหลือผู้ประสบภัย จ.สิงห์บุรี
เครือ รพ. กรุงเทพระดมส่งแพทย์ พยาบาลและ SKY ICU ช่วยผู้ประสบอุทกภัย
ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพขอเชิญร่วมตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการรับรู้ข้อมูลสุขภาพ
การผ่าตัดแก้ไข ข้อเข่าโก่ง ในผู้ใหญ่อายุน้อย ตอนที่ 1
สงกรานต์นี้ก่อนไปทำบุญที่วัด แนะนำให้ดูเรื่องนี้ค่ะ...การเลือกอาหารถวายพระ
ทันท่วงที ทุกอุบัติเหตุ ทุกที่ทั่วไทย
ปวดหัวไมเกรน
อุบัติเหตุทางรังสีที่เกิดกับโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น
ยาเบาหวาน
โรคหลอดเลือดสมองโป่ง
ทุกคนอาจผิวแห้งได้บางขณะเช่น ดื่มน้ำไม่พอ แต่ผู้เข้าข่ายผิวแห้ง สังเกตได้ชัด ทั้งที่เพิ่งอาบน้ำมา
บิ๊กอาย (Big Eyes)
ขอเชิญร่วมงาน Knock Out Cancer "ชี้ทางถูกต้อง น็อคมะเร็ง" 16-20 ก.พ. นี้
อาการไอ
อาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด
ระวังตัวตืดขึ้นสมอง
ชาเขียว เครื่องดื่มที่ชาวจีนนิยมมากว่า 4 พันปี
โสม...ราชาแห่งสมุนไพร
รวมพลคนกรุงสุขภาพดี
ขอเชิญร่วมงานหยุดมะเร็งปอดให้อยู่หมัด
เสาร์นี้ชวนร่วมงาน “เปิดโลกกระดูกสันหลัง” เนื่องในวันกระดูกสันหลังโลก
โรคเท้าปุก
เสาร์มีกิจกรรมดีๆ หญิงไทย ใส่ใจเต้านม
แจกฟรี หนังสือด้วยรักษ์จากหัวใจ
การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ กับ โรคหัวใจเกี่ยวข้องกันอย่างไร
เรียนรู้การตรวจเต้านมที่ถูกต้อง
กระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาทจะเป็นอัมพาตหรือไม่
ขอเชิญส่งภาพถ่ายความประทับใจแม่ลูก กับ facebook รพ.กรุงเทพ
ดูแลสุขภาพช่วงบอลโลก
ขอเชิญร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ ศิลปาศรี "ครั้งที่ 2" (ศิลปะแห่งชีวิต)
ดูแลสุขภาพเล็บกันเถอะ
ชวนคุณเจาะลึกเรื่องสมองกับงานสัมมนา "อย่าประมาท...โรคหลอดเลือดสมอง ตีบ ตัน แตก"
“มะเร็ง” ตับ ชายมากกว่าหญิง
สะอึก
เมื่อสายตามีปัญหา
มูลนิธิเวชดุสิตฯ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเติมพลังใจช่วยเหลือน้องๆ เด็กพิการ
เชิญร่วมกิจกรรมดนตรีบำบัด (Music therapy) ลงทะเบียนฟรี
ลมพิษ
ร้อนใน
บ้านหมุน... จะใช่น้ำในหูไม่เท่ากันหรือไม่?
ระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี วิวัฒนาการใหม่ผ่าตัดผู้ป่วยข้อเสื่อม
กระดูกคอเสื่อม ในผู้สูงอายุ
งาน Healthy Family Expo 2010
ครบรอบ 15 ปี โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา
ทำสุขภาพจิตให้ดี ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์
ร่วมช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ ด้วยการซื้อตุ๊กตาน้องหมี
ขอเชิญร่วมสัมมนา "หัวใจยิ้มได้"
ร่วมบริจาคสมทบทุน เฮติ
หยุดมะเร็ง! ให้อยู่หมัด ร่วมต่อต้าน 5 โรคมะเร็งร้ายที่พบมากที่สุดในคนไทย
ปวดท้องที่ไม่ธรรมดา
วัคซีน HPV ลดความเสี่ยง จากมะเร็งปากมดลูก
คุณรู้หรือไม่? ยิ่งแก่ตัว คอยิ่งเสื่อม
โรคถูกสาป
อยู่...เพื่อฝันของคุณ คุณดูแลฝัน เราดูแลคุณ"
รู้ทันโรคต้อกระจก
ใครทำใครได้
สวัสดีปี 2010
แนะนำหนังสือด้วยรักษ์จากหัวใจ
9 ขวบ เป็นสาวเร็ว ฉีดวัคซีน ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้
การฉีดยาคุมกำเนิด
โรคที่เป็นมากคือน้ำหนักมาก เข่าเสื่อม ปวดหลัง
สมองฝ่อในผู้สูงอายุ
ระวัง "หลัง" ให้ดี
7 วัน อันตราย ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ เตรียมพร้อมแพทย์ฉุกเฉิน 1669 และ 1719
เมื่อน้องสาวตัวเล็กบริจาคไขกระดูกให้กับพี่ชาย เรื่องราวดีๆ ของครอบครัวน้องโชกุน
วันนี้คงต้องรู้จักกับมะเร็งตับให้มากขึ้น
8 โรคที่มักถามหาผู้บริหาร ตอนที่ 2
8 โรคที่มักถามหาผู้บริหาร ตอนที่ 1
ขอเชิญคุณพ่อคุณแม่มือโปร ร่วมงาน เจาะกลยุทธ์สร้างลูกสมองดี
เป็นภูมิแพ้ หายใจไม่สะดวก กลัวการผ่าตัด
หน้ามืดเป็นลม
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต กับสัมพันธภาพไทย-สวีเดน
ขอเชิญประชุมวิชาการในหัวข้อ "Bangkok Trauma Day 2009"
ผีอำ
เก็บกระเป๋า ไปแคมป์ กับศูนย์สมองกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพเปิดตัว Tele-Interpreter
มาตรวจเต้านมกัน
บี น้ำทิพย์ ร่วมต้านมะเร็งเต้านม
ลูกดี....ด้วยใบดาว
สะพายกระเป๋าใบโต ภัยเงียบของสาวยุคใหม่
บรรยากาศงาน 12 ปี รวมพลคนกรุงสุขภาพดี
เสาร์นี้เรียนเชิญทุกท่าน ร่วมกิจกรรม "ครบรอบ 12 ปี รวมพลคนกรุง สุขภาพดี" ฟรีตลอดงาน
อาหารเจ
ขอเชิญร่วมรณรงค์ป้องกันมะเร็งเต้านม ในงาน Beat Breast Cancer
หัวใจเต้นผิดจังหวะ รักษาได้...หากรู้เร็ว
ระวัง!! กินแล้วนอน... โรคกรดไหลย้อน อาจถามหา
กำจัดเส้นเลือดขอด อุปสรรคขาสวย
เตือนใจคนวัยทำงาน ใส่ใจรับมือโรคออฟฟิศซินโดรม
MV สู้หวัด 2009 กับปังปอนด์
อุดรูรั่วหัวใจห้องบนด้วยร่มใยสังเคราะห์โดยไม่ต้องผ่าตัด
โครงการดีๆ สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และญาติ/ผู้ดูแล
ผมร่วง
5 สัญญาณเตือน ตกเป็นเหยื่อภัยใกล้ตัว
ระวัง!! ทำร้ายกระดูกสันหลังโดยไม่รู้ตัว
หยุดเรื่องซึมเศร้า
สังเกตอาการลมชักก่อนจะสาย
แนะพ่อแม่ตรวจก่อนมีลูกลดเสี่ยงลูกป่วย "โรคธาลัสซีเมีย"
ปิ๊ด ปี้ ปิ๊ด รวมพลังสู้หวัด
หมอเด็กหนุนกิจกรรมอนุบาล ฝึกความจำ เรียนรู้เข้าสังคม
ตะคริว
ทำไมถึงเป็นมะเร็งตับ......
กาฬโรคปอด
เพศสัมพันธ์ในผู้สูงอายุ
นายจ๋า...ผมลาก่อน
เต้านมปกติ
ฟ้าทะลายโจรกับไข้หวัด
รพ.หัวใจกรุงเทพ ไปทำอะไรที่เมืองทองธานี
ไส้เลื่อน
เมื่อคนที่ฉันรักเป็นมะเร็ง: บริบทแรกอันว่าด้วยความรัก
โรคเหงื่อเลือด
แพ้อาหาร
เทคโลยี 256-slice multi-detector CT scan
ป้องกัน 'ไฟดูด' หน้าฝน ก่อนเป็นเหยื่อรายต่อไป
หูเสื่อม
คนปวดหลังล้น รพ.กรุงเทพ
ปวดหลังเรื้อรัง
ปวดหลัง...ทำอย่างไรดี
การดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์
ภาวะล่มปากอ่าว
ควันบุหรี่มือสอง
โรคหนังแข็ง (scleroderma)
โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya)
มะเร็งปอด
วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยตัวคุณเอง
ไข้หวัดหมู หรือ ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก
เท้าบวม
หูอักเสบ
ยาฆ่าแมลง/ยาฆ่ายุง
การตรวจกล่องเสียงด้วยเครื่อง Stroboscope
เทคโนโลยีการตรวจลำไส้ใหญ่..ที่รพ.กรุงเทพ
เทคโนโลยีการตรวจหัวใจ..ที่รพ.กรุงเทพ
เด็กเล็กสำลัก..ทำอย่างไรดี
สำลัก..หายใจไม่ออก..ทำยังไงดี
ก้างปลาติดคอ
ริดสีดวงจมูก
ฮุกก้า..ยาเส้นอันตราย
รู้จักกับ เอฟิดรีน Ephedrine
การบอกระยะของมะเร็งด้วย PET/CT
รู้จักกับ PET/CT
ระวัง!! ทำร้ายกระดูกสันหลังโดยไม่รู้ตัว
ระวัง!! ทำร้ายกระดูกสันหลังโดยไม่รู้ตัว
กระดูกสันหลังนอกจากจะมีความสำคัญต่อบุคลิกภาพแล้ว บริเวณกระดูกสันหลังก็ยังเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทต่างๆ ที่มาจากสมองอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเส
้
นประสาทที่ใช้ในการขยับเคลื่อนไหว รวมทั้งระบบประสาทอัตโนมัติ ฉะนั้นกระดู
ก
สันหลังจึงต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่กระดู
ก
สันหลังไม่แข็งแรงก็จะกระทบกระเทือนไปถึงระบบประสาทต่างๆ ได้
นพ.ทายาท บูรณกาล
ผู้อำนวยการศูนย์รักษากระดูกสันหลังกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ความรู้ว่าในปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ยังดูแลกระดู
ก
สันหลังได้ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากคนไทยมีพฤติกรรมบางอย่างที่เสี่ยงต่อการทำร้ายกระดูก ไม่ว่าจะเป็นการนั่งกับพื้น การนั่งสมาธิ นั่งพับเพียบ ฯลฯ ที่เป็นการทำร้ายกระดู
ก
สันหลัง รวมไปจนถึงการออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอ และสุดท้ายก็คือโรคอ้วนที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังได้เช่นกัน
การที่มีน้ำหนักตัวเกินกำหนด น้ำหนักตัวจะไปโหลดต่อกระดูกสันหลัง และทำให้กระดู
ก
สันหลังเกิดการเสื่อม แตก เคลื่อนได้เร็วขึ้น และอาจจะส่งผลต่อการกดของไขสันหลังได้
โดยปัญหาของกระดูกสันหลังที่พบมากที่สุดก็คือ การเสื่อมของกระดูกสันหลัง ซึ่งสามารถแสดงออกมาได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ หมอนรองกระดูกแตก หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเคลื่อน ฯลฯ
การเสื่อมของกระดูกสันหลังก็จะเป็นการเสื่อมไปตามอายุขัยที่เพิ่มมากขึ้น โดยกระดูกสันหลังของคนเราจะเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุ 25 ปีโดยประมาณ แต่บางคนอายุมากขึ้นแต่กระดูกสันหลังก็ยังแข็งแรงอยู่นะ ส่วนหนึ่งก็มาจากการออกกำลังกาย ซึ่งผมมองว่าเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำให้กระดูกสันหลังแข็งแรงมากที่สุด อีกเรื่องก็คือการใช้งานกระดูกให้ถูกวิธี หลีกเลี่ยงท่าทาง การปฏิบัติตัวที่ทำร้ายกระดูกสันหลัง กระดูกสันหลังก็จะแข็งแรงและเสื่อมช้าลง
10 พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
หลายคนเคยทำร้ายกระดูกสันหลังแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ลองดูว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตให้ถูกวิธี เพื่อชะลอการเสื่อมของกระดูกสันหลัง
การนั่งไขว่ห้าง
ซึ่งจะทำให้น้ำหนักตัวกดลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กระดูกคด
การนั่งกอดอก
จะทำให้หลังช่วงบนสะบัก และหัวไหล่ถูกยืดยาวออก รวมทั้งทำให้หลังช่วงบนค่อมและงุ้มไปด้านหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปข้างหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรงหรือชาได้
การนั่งหลังงอ หลังค่อม
เช่น การอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานๆ เป็นชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้างเกิดการคั่งของกรดเล็กติก มีอาการเมื่อยล้า ปวด และมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา
การนั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มกัน
จะทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนัก
การยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว
ซึ่งการยืนที่ถูกต้องควรจะต้องลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กัน โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพก จึงจะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย
การยืนแอ่นพุง หลังค่อม
ควรยืนให้หลังตรง แขม่วหน้าท้องเล็กน้อย เพื่อเป็นการรักษา แนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่น และทำให้ไม่ปวดหลัง
การใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง
จะทำให้แนวกระดูกสันหลัง ช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง
การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียวต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
โดยควรเปลี่ยนเป็นการถือกระป๋าโดยใช้ร่างกายทั้ง 2 ข้างให้เท่าๆ กัน อย่าใช้แค่ข้างใดข้างหนึ่งตลอด เพราะจะทำให้เกิดการทำงานหนักอยู่ข้างเดียว ส่งผลให้กระดูกสันหลังค
ด
ได้
การหิ้วของหนักด้วยนิ้วบ่อยๆ
จะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ
การขดตัว หรือนอนตัวเอีย
ง
โดยท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ถูกต้องที่สุด ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในแนวระนาบ หมอนหนุนต้องไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ควรมีหมอนรองใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นต้องนอนตะแคงให้หาหมอนข้างกาย โดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้าง เพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง
ดูแลหลังให้ดี ป้องกันการปวดหลัง
หลังของคนเราต้องทำงานตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็นเวลานั่ง นอน หรือเดิน ดังนั้นเราจึงควรปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันอาการปวดหลังด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
การทำงานที่ต้องก้มๆ เงยๆ
ให้ใช้วิธีย่อเข่าแทนการก้มหลังเพื่อการทำงาน
การยกของ
ยกให้ถูกวิธีด้วยการย่อเข่าลงให้ใกล้ของที่จะยกมากที่สุด จับสิ่งที่จะยกให้มั่นคง เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องขณะยกของขึ้น ห้ามก้มและบิดเอี้ยวตัวขณะยกของ ทางที่ดีควรวางของไว้บนโต๊ะเก้าอี้ หรือที่ที่มีระดับความสูงเหมาะสมเพื่อช่วยทุ่นแรง
การเคลื่อนย้ายสิ่งของ
ใช้รถเข็นช่วยในการเคลื่อนย้าย และหลีกเลี่ยงการลากจูงรถ เนื่องจากจะทำให้ต้องก้มตัว หรือดันรถเข็นโดยใช้แรงจากกล้ามเนื้องแขนพร้อมรักษาแนวของหลักให้ตรงขณะดันรถไปข้างหน้า
การหยิบของในที่สูง
หลีกเลี่ยงการเอื้อมหยิบของสุดปลายมือ ใช้เก้าอี้ช่วยเสริมความสูง และเข้าไปใกล้กับของที่จะหยิบมากที่สุด เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องขณะยก
การทำงานที่เกี่ยวกับการหมุน
หลีกเลี่ยงการทำงานโดยบิดเอื้ยวลำตัวให้ใช้แรงจากกล้ามเนื้อแขน และขาในการทำงาน ย่อเข่าหรือนั่งลงใกล้ๆ สิ่งที่จะหมุนและรักษาแนวหลังให้ตรง
การขับรถ
เบาะรถควรรองรับแผ่นหลังทั้งหมด ใช้หมอนเล็กๆ หนุนหลังบริเวณเอว เพื่อรักษาส่วนโค้งของแนวกระดูกสันหลังส่วนเอง เวลานั่ง เข่าควรสูงกว่าระดับข้อสะโพกเพียงเล็กน้อย
การนอน
ที่นอนควรจะแข็งพอสมควรไม่เป็นแอ่ง หลีกเลี่ยงการนอนบนโซฟา หรือเตียงผ้าใบเป็นเวลานาน หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
การนั่ง
ควรเลือกนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับแผ่นหลังทั้งหมด และมีความโค้งรองรับแนงของกระดูกสันหลังช่วงเอว หรือหาหมอนเล็กๆ มาหนุนหลัง ขณะทำงานควรเลื่อนเก้าอี้เข้าใกล้โต๊ะทำงานมากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการก้มตัว เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
การยืน
ยืนให้หลังอยู่แนวตรง ถ้าทำงานในท่ายืนควรหาที่พักเท้า เช่น ม้านั่งเตี้ยๆ กล่องไม้เล็กๆ และเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
นอกจากดูแลพฤติกรรมให้ถูกต้องแล้วหลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่า
การรับประทานแคลเซียมเสริม
เข้าไปจะเป็นการช่วยเพิ่มความแข็งแรง และยืดอายุไม่ให้กระดูกสันหลังเสื่อมเร็วกว่ากำหนด หรือไม่เรื่องนี้ นพ.ทายาท ไขข้อสงสัยว่า
การกินแคล
เซี
ยมเพิ่มเข้าไปจะมีส่วนในแง่ของการเลี้ยงกระดูกไม่ให้กระดูกบางลง เหมือนกับการรักษาปูนที่กร่อนไปของบ้าน พอปูนกร่อนไปทุกวันๆ แคลเซียมก็เหมือนปูนที่เราเอาไปโปะ ไปพอก แต่ถามว่าจะทำให้บ้านแข็งแรงมากขึ้นหรือเปล่าก็ไม่ใช่ เป
็
นแค
่
เข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้กระดูกสันหลังแข็งแร
ง
เพราะถึงอย่างไรผมก็จะบอกว่าการออกกำลังกายนี่แหละดีที่สุด
ออกกำลังกาย ยืดอายุกระดูกสันหลัง
อย่างที่ นพ.ทายาท
บอกเอาไว้ว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้กระดูกยังคงความแข็งเอาไว้ได้นานที่สุดนั่นก็คือการออกกำลังกายซึ่งการออกกำลังกายที่ถูกวิธีเพื่อป้องกันอาการปวดหลังนั้นมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
เคลื่อนไหวในแต่ละท่าอย่างช้าๆ ห้ามกระชาก หายใจเข้าออกตามปกติ ระวังอย่ากลั้นหายใจจ
อย่าฝืนหรือหักโหมเกินไป
ไม่ควรให้มีอาการปวดหรือเจ็บใดๆ ในขณะที่ออกกำลังกาย
เพื่อให้ได้ผลที่ดีควรออกกำลังกายให้เป็นประจำ และสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละไม่ต่ำกว่า 30 นาที
ท่ายืดกล้ามเนื้อหลัง
นั่งบนเก้าอี้ เท้าวางราบกับพื้น ผ่อนคลายคอ หลัง พร้อมก้มตัวลงช้าๆ ให้มือแตะพื้นค้างในท่านี้ 5-10 วินาที ค่อ
ย
ๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ สู่ท่าเริ่มต้น
นั่งให้ฝ่าเท้าชนกัน ผ่อนคลายคอและหลัง พร้อมกับก้มตัวเหยียดมือไปข้างหน้าช้าๆ ค้างไว้ 5-10 วินาที ถ้าตึงบริเวณต้นขาด้านในมากไปให้เหยียดขาออกไปด้านหน้าได้อีก
นั่งเหยียดขาไปกับพื้น ยกเท้าขวาไขว้ไปวางด้านนอก ค่อยๆ หมุนตัวไปด้านขวา มือขวาเท้าไปด้านหลัง ให้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อลำตัวด้านซ้ายตึง ค้างไว้ 5-10 วินาที
นอนหงาย ค่อยๆ ดึงเข่าทั้ง 2 ข้างมาชิดอกช้าๆ ค้างไว้ 10 วินาที จะรู้สึกตึงบริเวณส่วนล่าง หากมีอาการปวดเข่าให้สอดมือทั้ง 2 ข้างตรงบริเวณข้อพับเข่า
ท่าออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อหลัง
นอนหงาย ชันเข่า 2 ข้าง เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง กดหลังให้ติดกับพื้นมากที่สุดค่อยๆ ยกศีรษะ
และ
ไ
หล่ขึ้นค้างไว้ 5 วินาที
นอนคว่ำมือข้างลำตัว ยกศีรษะและไหล่ขึ้นค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นค่อยๆ วางลง
นอนคว่ำ แขนยื่นออกไปด้านหน้าเล็กน้อย ดันแขนยกตัวขึ้นให้สะโพกติดพื้นค้างไว้ 5-10 วินาที
นอนหงาย ตั้งเข่า 2 ข้างขึ้น มือ 2 ข้าววางข้างลำตัว เท้า 2 ข้างยันพื้น ยกก้นขึ้นค้างไว้ 5 วินาที
นั่งเก้าอี้ไม่มีพนักพิง หลังติดกำแพงยกมือ 2 ข้างขึ้นเหนือศีรษะ ยืดตัวดันหลังด้านกำแพงค้างไว้ 5-10 วินาที
ยืนตรงแขนทั้ง 2 ข้างทิ้งข้างลำตัว ยกแขนซ้ายขึ้นเหนือศีรษะ เอนตัวไปด้านขวาค้างไว้ 3 วินาที แล้วกลับมายืนในท่าเริ่มต้นสลับทำอีกข้าง
ยืนตรงมือทั้ง 2 ข้างยันค้ำไว้ด้านหลังบริเวณเอ
ว
เอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย ค้างไว้ 3 วินาที
นั่งประสานมือ แขน 2 ข้างกางออกไประดับไหล่ หลังเหยียดตรง ค่อยๆ หมุนลำตัว
และศีรษะจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งเท่าที่สามารถจะทำได้
โ
ดยทำทั้ง 2 ข้าง
การออกกำลังกายนอกจากจะเกิดประโยชน์ทางด้านกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยทำให้มีอาหารไปเลี้ยงหมอ
น
รองกระดูกสันหลัง
และกระดูกสันหลังได้ดีขึ้น การไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้นดีขึ้นทำให้สุขภาพของกระดูกสันหลังดีขึ้น เพราะมีผลการพิสูจน์มาแล้วว่า คนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอหมอนรองกระดูกจะได้รับสารอาหารที่ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพช้าลง นอกจากนั้นอาหารที่มาจา
ก
ธรรมชาติ เช่น ผักสด ผลไม้ ธัญพืช จะส่งผลดีต่อกระดูกสันหลังมากกว่าอาหารปรุงแต่ อีกอย่างก็คือ บุหรี่ ที่มีรายงานชัดเจนว่า คนที่สูบบุหรี่จะมีการเสื่อมของกระดูกสันหลังมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่อย่างเห็นได้ชัด
เพียงแค่ปฏิบัติตามคำแนะนำดีๆ เหล่านี้ กระดูกสันหลังที่แข็งแรงก็จะอยู่กับเราไปได้อีกนานเท่านาน
Create Date : 09 กันยายน 2552
Last Update : 11 กันยายน 2552 14:15:28 น.
2 comments
Counter : 599 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณมากค่ะ
โดย:
Tukta21
วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:0:03:25 น.
ขอบคุณมากค่ะ
โดย:
Tukta21
วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:0:03:56 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
bangkokhospital
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add bangkokhospital's blog to your web]
Links
BangkokHospital
BangkokHealth
BangkokBreast
BangkokLasik
นอนกรน
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.