ปวดหลัง...ทำอย่างไรดี
อาการ ปวดหลัง เป็นความผิดปกติหนึ่งที่พบได้ในทุกคนมีผู้ทำการศึกษาแล้วว่า มนุษย์ทุกคนที่เกิดมา ต้องมีอาการปวดหลังเกิดขึ้น อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตของเราทุกคน สาเหตุเกิดจากอะไร? เป็นเพราะมนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีกระดูกสันหลังที่ตั้งฉากกับพื้นของโลกในขณะยืนหรือเดิน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของคนกล้ามเนื้อที่ประคองกระดูกสันหลังจะต้องทำงานเพื่อประคองกระดูกสันหลังทั้งวันทำให้มีอาการเครียดตึงและปวดตามมา คนเราต้องมีอาการ ปวดหลังบ้างเป็นบางครั้ง เราควรทำอย่างไรเมื่อมีอาการปวดหลัง? ถ้ามีอาการปวดหลังเกิดขึ้นในวันแรก ส่ิงแรกที่ควรทำคือ ต้องไม่วิตกกังวลมากเกินไป เพราะเราทราบว่าโรคนี้ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่รู้สึกอยู่ ถ้าเราวิตกกังวลมากเกินไปแล้วจะยิ่งทำให้การรักษาอาจจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นและอาการจะเรื้อรังรุนแรงมากขึ้นควรทำจิตใจให้ผ่องใส ปลอดโปร่งอยู่เสมอ เราควรรักษาขั้นแรกด้วยตัวเองอย่างไร เมื่อมีอาการปวดหลัง? การรักษาตัวเองเมื่อมีอาการปวดหลัง ควรเริ่มต้นด้วยการ นอนพักประมาณหนึ่งถึงสองวันเพื่อให้กล้ามเนื้อหลังที่ปวดเกร็งอยู่ได้พักผ่อนและหายจากอาการปวดได้อย่างรวดเร็ว ท่านอนที่เหมาะสมในขณะปวดหลังใหม่ๆ นั้นมีสองท่า คือ 1. นอนหงายหนุนหมอนใต้เข่าสองข้างให้สะโพก และเข่างอ ประมาณ 30 องศา (ห้ามสอดหมอนใต้แผ่นหลัง) 2. นอนตะแคง เอาด้านข้างลงขาค่อนข้างเหยียด และสอดหมอนข้างระหว่างขา (ไม่ควรงอห่อตัวมากเกินไป) 3. ห้ามนอนคว่ำ เพราะหลังจะแอ่นและตื่นขึ้นมาปวดหลัง ยาที่ใช้รักษาโรคปวดหลังควรเลือกใช้อย่างถูกต้องด้วยยาแบบใดเป็นขั้นแรก? เนื่องจากในเมืองไทย ผู้ป่วยสามารถหาซื้อยาที่ใช้รักษาโรคปวดหลัง ได้จากร้านขายยาทั่วไปโดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ ดังนั้นท่านจึงสามารถซื้อยาได้เองเมื่อมีอาการปวดหลัง อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ท่านใช้ยาดังต่อไปนี้ 1. เริ่มต้นเมื่อมีอาการปวดมากด้วยการทานยา Acetamenophen (พาราเซต) ให้หายปวดก่อน 2. ถ้ายังมีอาการปวดอีกให้รับประทานยากลุ่มที่มีชื่อเป็นทางการว่าเอ็นเซต NSAID (Non-Steroidal anti-inflamatory Drugs) ซึ่งอาจทานร่วมกับยาที่มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ (Muscle relaxant) ซี่งมีอยู่หลายยี่ห้อในท้องตลาด ประการที่สำคัญสำหรับคนที่ซื้อยารับประทานเอง คือ ไม่ควรรับประทานยาในกลุ่มสเตียรอยด์ซึ่งนิยมถูกจ่ายจากผู้ขายยาที่ไม่ได้มาตราฐาน หรือถูกผสมในยาแผนโบราณ ซึ่งยากลุ่มนี้ก่อให้เกิดปัญหากระดูกพรุน ไตวาย หลอดเลือดแตกเปราะและอื่นๆ ได้การรับประทานยาทั้งหมดนี้ควรทานประมาณห้าถึงเจ็ดวัน หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นเพิ่มเช่นปวดร้าวตามขา ควรไปพบแพทย์ครับ ข้อมูลโดย นาวาอากาศเอก นพ.ทายาท บูรณกาล //www.bangkokhospital.com //www.bangkokhealth.com
Create Date : 11 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 11 มิถุนายน 2552 16:27:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 681 Pageviews. |
|
|