|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รักนี้(แค้น)...ต้องชำระ Chapter 9.2 คนเห็นผี2
Chapter 9.2 คนเห็นผี 2
ให้งบกี่ชุด?
ผีสาวยืนยิ้มอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่หลี่เซี่ยเฟยกำลังคอนเนกอินเทอเน็ตเข้าสู่เวบกงเต็กดอทคอมที่หยางเล่ยให้มา ชายหนุ่มเหลือบมองหล่อนแล้วก็ต้องกระตุกยิ้มมุมปาก เมื่อพบว่าสไบนางกำลังยิ้มแย้มเกาะเก้าอี้ของเขาด้วยท่าทางประจบเต็มที่
ขึ้นอยู่กับว่า....เธออ้อนเก่งแค่ไหน?
ผีสาวฟังจบก็แอบบเข่นเขี้ยวฟัน อยากเคาะกะโหลกพ่อรูปหล่อนี่สักโป้ก มีโอกาสเป็นไม่ได้เชียวนะได้ทีขี่แพะไล่กวดทันทีเลยคนบ้าอะไร
แหม...ตัวเองก็....กะจะเก็บเงินให้จุกอกตายเลยเหรอ? วันๆ ทำแต่งานได้ใช้เงินบ้างหรือเปล่า? ซื้อให้ฉันเนี่ยก็เท่ากับทำการกุศลเหมือนกันน้า...า.. สไบนางลากเสียงยานคางแถมหวานเจี๊ยบจนชวนเลี่ยน
นี่อ้อนแล้วเหรอ? ไม่ได้ดูเหมือนชมเลยนะ เธอว่าฉันงก มากกว่ามั้งนั่น? ชายหนุ่มเหลือบตามองหล่อนอย่างรู้ทัน
อื๋อ...อ เปล่าสักหน่อย อย่าคิดมากสิ อ๊ะ! มาแล้วๆ คลิ๊กไปหน้าเสื้อผ้าก่อนเลยนะ
สั่งจริง เอ้า! คลิ๊กแล้ว ไม่นานนักแบบเสื้อผ้านับร้อยก็ปรากฏบนจอมอร์นิเตอร์ให้มีเลือกจนตาลาย แถมยังมีไซค์ให้เลือกได้อีกด้วย
ให้ตายสิ!! ฮ่า ฮ่า อย่างกับซื้อของคนเป็นเลยนะ หลี่เวี่ยเฟยหัวเราะออกมาด้วยความทึ่ง
ฉันว่าใช่แค่ร้านเล็กๆ อย่างที่ตานั่นบอกแล้วนะ อีแบบนี้มันโรงงานผลิตเครื่องกงเต็กแล้ว
นั่นสิ...มีหมวดอื่นให้เลือกด้วยนะ ว่าแล้วไอดอลหนุ่มกับผีสาวก็มัวแต่สนุกสนานกับการเยี่ยมชมเวบอยู่เกือบชั่วโมงกว่าจะได้ลงมือเลือกสิ่งของที่ต้องการกันจริงๆ
เสื้อผ้า...รองเท้า ตู้เสื้อผ้า แก้วกาแฟ ก็มีแล้ว เอาอะไรอีกดีน้า? หล่อนนับนิ้วขึ้นมาว่ารายการชักจะยาวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
เตียงนอนเป็นไง?
เอามาทำไมเกะกะ บ้านก็มีอยู่แค่นี้ ฉันนอนที่โซฟาทุกวันนี้ OK อยู่แล้ว เอาแค่ผ้าห่มแล้วกัน นัยน์ตาคมคู่นั้นอ่อนแสงลงทันที่หล่อนปฏิเสธ
อย่าเกรงใจได้มั้ย? ชายหนุ่มพูดขึ้นมาด้วยเสียงห้วนๆ จนผีสาวต้องโน้มตัวลงมาจ้องหน้าพ่อบุญถึงที่อยู่ๆ ก็หน้าบึ้งขึ้นมาอีก
งอนอะไรขึ้นมาอีกล่ะ? เออน่า ไม่ซื้อก็ไม่หาว่างกหรอก แค่นี้ก็ขอบใจมากแล้ว แต๊งค์กิ้วหลายนะ
สไบนางไม่พูดเปล่าหล่อนบรรจงหอมแก้มชายหนุ่มเบาๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา แต่เมื่อเห็นหลี่เซี่ยเฟยนั่งนิ่งเป็นหินเลยชักเขินขึ้นมาบ้าง ว่าแล้วก็ตบไหล่ชายหนุ่มดังป้าบ แต่นิ้วเรียวโปร่งใสนั่นผ่านทะลุร่างของเขาไปเฉยๆ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเย็นวาบเหมือนถูกนาบด้วยน้ำแข็ง
แค่นี้เขินด้วย ก็บอกให้อ้อนเองไม่ใช่หรือไง? อะไรกันฉันเห็นในทีวีไต้หวันน่ะ หอมกันเป็นว่าเล่น บางรายงานชอบดาราชายจูบปากกันได้ด้วยซ้ำ ไอดอลหนุ่มไม่ตอบในทันทีทำให้คำแก้ตัวของเก้อของหล่อนเป็นหมันในทันที
จริงๆ น้าฉันเห็น รายการตงฟงอะไรนั่นน่ะ ให้ดาราชายป้อนเค้กกันด้วยปาก นายล่ะเคยโดนให้ทำไรแบบนี้บ้างหรือเปล่า?
ยิ่งเขินหล่อนยิ่งพูดลนลานนอกเรื่องไปใหญ่โต สักพักจึงเริ่มรู้สึกตัวว่าจะมาพูดเรื่องผู้ชายจูบกันออกทีวีแก้เขินทำไมเนี่ย บ้าจริงๆ เลย ผีสาวนึกด่าตัวเองในใจ
.....พิเรนทร์ ไอ้รายการบ้าบอพวกนั้นน่ะ ฉันไม่เคยโดนหรอก ถึงให้ทำก็ไม่ทำหรอก!!
สไบนางย่นจมูกใช่สิพอเขาจะให้ทำพ่อก็เล่นทำตาขวางเสียขนาดนั้น แถมยังสูงใหญ่เป็นกำแพงขนาดนี้ใครจะกล้าสั่งคุณชายเธอกันล่ะนั่น
หลังจากเงียบกันไปครู่ใหญ่เพราะไม่รู้จะพูดอะไรกัน สไบนางไม่คิดว่าหลี่เซี่ยเฟยจะเขิน เพราะคนไต้หวันเองก็รับเอาวัฒนธรรมกอดจูบของตะวันตกเข้ามาเต็มๆ แล้ว หล่อนเพียงแค่หอมแก้มขอบคุณเขาในฐานะเพื่อนเท่านั้น แต่หลี่เซี่ยเฟยนั่งนิ่งเงียบไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น จนผีสาวเดาอารมณ์ไม่ถูก
ชอบมือถือรุ่นไหน? แต่แล้วจู่ๆ ไอดอลหนุ่มก็ทำลายความเงียบขึ้นมาเอง โดยไม่หันมาสบตาหล่อนด้วยซ้ำ
หา? เล่นเอาผีสาวตั้งตัวไม่ทัน เพราะมัวแต่คิดมากอยู่
ฉันบอกว่าเธอควรจะมีมือถือ ชอบรุ่นไหนเลือกเอา
เฮ้ๆๆๆ เดี๋ยวๆๆ มือถือกงเต็กเนี่ยนะ? อย่าบอกนะว่าเผาแล้วมันจะโทรได้จริงๆ มันไม่เหมือนเสื้อผ้ากระดาษเผามาเป็นชุดสำเร็จได้หรอกนะ
ถ้าไม่ได้แล้วมันจะมาลงเวบให้ซื้อทำไม?
แต่ว่าๆๆ....เอ่อ...เอาก็ได้
เมื่อแรกหล่อนตั้งใจจะปฏิเสธ ด้วยเหตุผลสองข้อคือ อย่างแรกหล่อนไม่เชื่อว่ามันจะใช้โทรได้จริงๆ อาจจะได้แต่เครื่องเปล่ามาแต่ใช้เครือข่ายบริการผีที่ไหนกันล่ะ? ส่วนอีกข้อหล่อนไม่รู้จะโทรหาใครนี่หว่า? ในเมื่อก็อยู่กับหลี่เซี่ยเฟย 24 ชม.อยู่แล้วคงไม่ต้องโทรหา อีกอย่างที่ไต้หวันนี่นอกจากชายหนุ่มกับหยางเล่ยแล้วหล่อนก็ไม่รู้จักใครอีกเลย เลยไม่รู้จะเอามาทำไม? แต่เมื่อพ่อคุณจะซื้อแจกหล่อนก็ตามใจ
sony elicson w550i แล้วกัน
ไหนว่าไม่อยากได้ ดันเลือกซะรุ่นล่าสุดเลยนะ ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก
เอ๊ะ? พอบอกไม่เอาก็จะให้ซื้อ พอเลือกก็บ่นอีก จะเอาไงกันแน่
เปล่า...า.... หลี่เซี่ยเฟยลอยหน้าลอยตาตอบ ก่อนจะคลิ๊กเลือกโทรศัพท์สีส้มแปร๋นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ผีสาวต้องการให้
รุ่นนี้ก็ดีนะ....ความจุเยอะดี ฟังเพลงก็ได้ ตอนรอฉันทำงานเธอจะได้ไม่เหงาไง พอฟังชายหนุ่มเฉลยแล้ว ผีสาวรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจุกที่คอจนทำให้เธอพูดไม่ออก สิ่งนั้นคือความตื้นตันนั่นเอง
ขอบใจนะ....ขอบใจจริงๆ สไบนางลุกขึ้นยืนแล้วโอบรอบคอชายหนุ่มชายด้านหนัง ปากก็พร่ำขอบคุณไปด้วยนัยน์ตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ
นี่...เธอเป็นคนขี้แงไปตั้งแต่เมื่อไร? ไม่เอาน่า
ก็....ก็ มันดีใจนี่นา ผีสาวปาดน้ำตาป้อยๆ
ไม่เคยมีใครซื้อของให้หรือไงแม่คุณ หรือว่าฉันเป็นรายแรก หลี่เซี่ยเฟยพูดติดตลกก่อนจะคลี่ยิ้มให้ แต่ไม่ได้ทำให้หล่อนขำไปด้วย
เคย...แต่ไม่ดีใจนี่
บ้า ดีใจก็ไม่ต้องร้องไห้นี่
ก็มันหยุดไม่ได้อ่ะ... เสียงของหล่อนยังคงอู้อี้ในขณะที่ตอบ
อย่าร้องสิ ถ้าเวสรู้เข้าจะหาว่าฉันรังแกเธอนะ
ชายหนุ่มปลอบโยนไปพลาง ยกมือขึ้นเชยคางหล่อนขึ้นมาด้วยหวังจะช่วยซับน้ำตาให้ แต่กลายเป็นสัมผัสเพียงลมเย็นแผ่วๆ ไม่อาจแตะต้องต้องกันและกันได้มากกว่านั้น สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่เฝ้ามองหล่อนสะอึกสะอื้นไปเงียบๆ หลี่เซี่ยเฟยหงุดหงิดตนเองที่ไม่อาจประคับประคองโอบกอดปลอบประโลมหล่อนได้ พร้อมกันนั้นกลับมีคำถามร้อนรุ่มผุดขึ้นมาในใจเงียบๆ
ทำไมเธอต้องเป็นผีด้วยนะว่าน.....?
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สองวันต่อจากนั้นสไบนางเอาแต่ร้องวี๊ดว้ายกระโดดไปมาอยู่ในห้อง เพราะข้าวของที่สั่งซื้อถูกเผาส่งมาให้เธอเรียบร้อยแล้ว ด้วยบริการ ของกงเต็กดอทคอมซึ่งหยางเล่ยแนะนำว่าให้เพื่อนรักสั่งทางเวบเผาส่งให้ ด้วยจะดีกว่าหลี่เซี่ยเฟยมานั่งเผาเอางกๆ คงจะสุดตาใครต่อใครเป็นแน่แท้ แถมเผาโดยไม่มีงานศพใครอยู่ๆ ก็ทำกงเต็กคงดูน่าประหลาดแน่ๆ ดังนั้นเมื่อตื่นนอนมาเช้าวันนี้อยู่ๆ ก็มีข้าวของจำนวนหนึ่งเข้ามาอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่วัตถุทุกชิ้นนั้นมันโปร่งใสเช่นเดียวกับร่างของผีสาว และเมื่อสไบนางเห็นเข้าหล่อนก็หยิบฉวยชิ้นนี้ชิ้นนี้เล่นด้วยความดีอกดีใจ เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ ชายหนุ่มเห็นเข้าต้องส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูรอยซ้ำยังยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นมา
แพท...นายว่ามือถือนี่มันจะโทรได้จริงๆ หรือเปล่า?
ก็ลองใส่ซิมเข้าไปดูสิ ชายหนุ่มนึกสนุกขึ้นมาด้วยอีกคน ผีสาวรีบทำตามอย่างว่าง่าย หลังจากใส่ซิมเรียบร้อยหล่อนก็ดูตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม
จะลองโทรล่ะนะ เจ้าหล่อนให้พยักหน้าแววตามุ่งมั่นราวกับจะไปรบก็ไม่ปาน หลี่เซี่ยเฟยเห็นเห็นเข้าก็นึกขำ แต่ก็หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมานั่งรอ แต่หลายนาทีผ่านไปก็ยังไม่มีสัญญาณใดจะดังขึ้นมาเลย
ว่าแล้วเชียว....มันจะโทรได้ยังไง?
ลองอีกทีน่า.... ผีสาวขมวดคิ้วยังไม่ละเลิกความพยายาม
กี่ทีก็เหมือนเดิมแหละน่า....เอ๊ะ...
ยังบ่นไม่ขาดคำดีอยู่ๆ มือถือในมือชายหนุ่มก็เริ่มสั่น และส่งเสียงเพลงออกมาว่ามีสัญญาณเรียกเข้า หลี่เซี่ยเฟยถึงกับต้องตะลึงค้าง ทำตาโตมองมือถือเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน
เย้ๆ ดูสิโทรเข้าได้แล้ว!! หล่อนรีบวิ่งมานั่งข้างๆ เขา แล้วยื่นมือถือให้ดู
นั่นสิ....แต่ไม่โชว์เบอร์ มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย?
อย่ามัวแต่อ้าปากหวอได้มั้ย? รับสายก่อน เมื่อโดนผีสาวกระทุ้งใส่ชายหนุ่มถึงได้รู้สึกตัวและกดรับสายขึ้นมา ผีสาวยิ้มกริ่มและรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนเพื่อทดลองสัญญาณดู
ได้ยินชัดมั้ยแพท?
.......ชัดแจ๋วเลย ฮะ ฮะ
แล้วบิลเก็บเงินเขาจะส่งมาจากไหนกันล่ะนี่? มีแต่ความพิศวงและคำถามลอยอยู่เต็มหัวไอดอลหนุ่มไปหมด โลกหลังความตายนี่ช่างซับซ้อนกว่าที่คิด
โอเช...งั้นคราวนี้นายโทรกลับมาหาฉันบ้างนะ
แล้วของเธอมันเบอร์อะไรล่ะ?
เอ๊ะ?? นั่นสิ...ไม่รู้เหมือนกัน ผีสาวค่อยนึกขึ้นมา จึงเดินออกมาค้นเบอร์ในซองใส่ซิมการ์ดเป็นการใหญ่
มันไม่มีเบอร์ให้มาอ่ะ? หลี่เซี่ยเฟยจึงมาช่วยเธอดูอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบอะไรชายหนุ่มจึงสรุปว่า
ฉันเข้าใจแล้ว....ที่แท้ก็คลื่นผีนี่เอง?
คลื่นผี?
ใช่...ก็คลื่นแทรกนั่นแหละ ในบางจังหวะก็จูนกันติด เหมือนบังเอิญเห็นผีนั่นแหละ ทางฉันไม่มีทางโทรไปหาเธอได้ แต่ทางเธอโทรได้ข้างเดียว....เรื่องแบบนี้เหมือนเคยได้ยินมาเหมือนกันนะ ว่ามีเสียงของคนตายโทรมา
น่ากลัวจัง....แล้วผีอื่นจะโทรมาฉันมั้ยเนี่ย? หล่อนทำท่าหวาดๆ จนชายหนุ่มต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความขบขันหล่อนเป็นผีแล้วยังต้องกลัวผีอื่นอีกด้วยหรือ?
คงไม่มั้ง....ไม่มีใครรู้นี่ว่าเธอมีมือถือแล้ว คำปลอบโยนของหลี่เซี่ยเฟยอาจดูขบขันไปบ้าง แต่สไบนางกลับเชื่อสนิทใจ
ค่อยโล่งอกหน่อย...เฮ้อ งั้นฉันลองโทรหาเวสดูบ้างนะ ไม่นานนักหล่อนก็โทรติด
เวสเหรอ? นี่ฉันเองนะ ว่านน้ำจ้ะ ใช่แล้ว...ได้รับของแล้วขอบคุณมากนะ ชายหนุ่มฟังแล้วเบ้หน้าเธอไม่เห็นต้องขอบคุณหมอนั่นเลย ในเมื่อเขาเป็นคนจ่ายเงิน
ทำไมวันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติล่ะ....ทุกทีเห็นต้องหิ้วปีกเอาน้ำหน้าฉีดหน้ายังไม่อยากตื่นเลยนี่ .....ว่าไงนะตั้งใจจะโทรมาเซอร์ไพร์ฉันเหรอ?..แต่ฉันโทรตัดหน้าหาโทรก่อน ฮะ ฮะ เซอร์ไพร์มากๆ เลย แต๊งกิ้วหลายถ้าเธออยู่ตรงนี้ฉันหอมสักฟอดสองฟอดเป็นการขอบคุณให้เลยเอ้า! จริงๆ หลี่เซี่ยเฟยฟังแล้วคิ้วกระตุก....นี่หล่อนหอมใครต่อใครไปทั่วเลยหรือไง?
แต่มันไม่มีเบอร์นี่...แล้วโทรจะโทรหาฉันได้ยังไง? ฟังถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็หูผึ่งขี้นมาบ้าง
ว่าไงนะ? โทรเข้าเครื่องแพทเหรอ? อย่าเลยเดี๋ยวหมอนั่นบ่นเอา ไว้ว่างๆ ฉันโทรไปคุยกับเธอเองดีกว่านะ มีโทรศัพท์แล้วนี่แถมไม่เสียค่าโทรด้วย ฮิ ฮิ
นั่งฟังอยู่พักใหญ่หลี่เซี่ยเฟยก็เกิดอาการเซ็ง สองคนนี่เห็นเขาเป็นทางผ่านหรือยังไง หยางเล่ยก็เหมือนกันจะโทรหาสไบนางแต่จะโทรเข้าเครื่องเขา
เลิกคุยกันได้แล้ว!!
ทำไมล่ะ? เพิ่ง 9 โมงเองนะ ยังไม่ถึงเวลาไปทำงานสักหน่อย เขาจะมารับตอน 10.30 น.ไม่ใช่เหรอ?
จะกินข้าวก่อนไปมั้ย?
ถามแปลกกินสิ! แต่นายยังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วจะให้กินอะไรล่ะ ก็ไปทำสินั่งอยู่ทำไม? พอทำเสร็จแล้วค่อยเรียกฉัน...เดี๋ยวฉันคุยกับเวสไปก่อน หล่อนก็พาซื่อตอบไปโดยไม่รู้ว่าหลี่เซี่ยเฟยไม่พอใจเรื่องอะไร
จะไม่ปล่อยให้เวสกินข้าวหรือไง? ปกติหมอนี่ไม่เคยได้ตื่นมากินข้าวเช้าด้วยซ้ำ
อ๋า...จริงด้วย! เวส...งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่นะ เธอไปกินข้าวเช้าก่อนปกติไม่ค่อยได้ยินระวังจะเป็นโรคกระเพาะนะ แพทน่ะ...เวลากินอิ่มชอบปวดท้องอยู่เรื่อย อาหารไม่ค่อยย่อยเพราะหิวจนไส้กิ่วกว่าจะได้กิน พอกินแล้วมันก็ไม่ย่อยท้องอืด..ปวดท้องทุกทีเลย
นี่จะล่ำลากันอีกนานมั้ย? ผีสาวปรายตามามองด้วยความไม่พอใจที่ถูกเร่ง
OK เวส...ไปกินข้าวเถอะ..จ้า...แค่นี้นะ บ๊ายบาย เดี๋ยวเจอกัน
ร่ำไรจริงๆ เลย คุยกันซะอย่างกับว่าไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปี อีก 2 ชั่วโมงก็เจอหน้ากันแล้ว คุยอะไรกันนักหนา พูดจบชายหนุ่มก็เดินหนีเข้าครัวไป โดยมีสไบนางลอยตามไปติดๆ
ก็...แหม...ฉันกำลังเห่อมือถืออยู่นี่ บ่นอยู่ได้
ก็โทรคุยกับฉันก็ได้ ไม่เห็นต้องไปรบกวนเวส
จะบ้าเหรอ? อยู่กันแค่นี้จะโทรมาทำไม? เปลืองเงิน! ไอดอลหนุ่มฟังแล้วชะงักหันกลับมาหัวเราะใส่
เธอเสียค่าโทรด้วยเหรอ? แทรกคลื่นชัดๆ หึ หึ หึ ผีสาวถึงนึกได้...ที่แท้เธอยังตัดไม่ขาดกับความเคยชินแบบมนุษย์
จริงด้วย! ลืมไปเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า สไบนางหัวเราะเสียงใสออกมา ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ชายหนุ่มแล้วเกาะแขนเขาไว้ เช้านี้จะได้กินอะไรเอ่ย?
อยากกินอะไรล่ะ? ชายหนุ่มคลี่ยิ้มตอบพลางก้มหน้าลงมาใกล้ใบหน้าของผีสาว
บะหมี่ไก่ก็แล้วกัน ทำง่ายๆ หน่อยจะได้ไม่ต้องหุงข้าวด้วย
OK ใส่ไข่ต้มด้วยมั้ย?
เอาด้วย
ได้เลย....งั้นเธอไปแต่งตัวเอาให้สวยๆ เลยนะ เวสมันจะได้ตะลึง ผีสาวยิ้มหวานให้เขาก่อนจะหมุนตัวลอยออกไปจากห้องครัว โดยมีสายตาของชายหนุ่มมองตามจนหล่อนหายลับไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เป็นไงเวส? สวยมั้ยๆ
ผีสาวกระโดดโลดเต้นหมุนตัวไปรอบๆ เพื่อให้หยางเล่ยดูชุดที่หล่อนสวมในวันนี้ หลังจากพบกันในกองถ่ายละครที่บ้านหลังเดิมย่านชานเมือง ผีสาวอยู่ในชุดเป็นกระโปรงยีนส์มินิสเกิร์ตกับสายเดี่ยวสีขาวสวมทับด้วยเสื้อฮู้ทแขนยาวซีทรูสีชมพูอ่อนที่มีขนฟูฟ่องสีเดียวกันตรงหมวกกับปลายแขนเสื้อ และบู้ทสีน้ำตาลอ่อนยาวถึงเข่าทำให้ดูสดใสแปลกตาไปเป็นอันมาก ยิ่งวันนี้ใบหน้าของเธอดูผ่องใสเป็นพิเศษ นัยน์ตาเป็นประกายของคนมีความสุขพวงแก้มยุ้ยนั้นเป็นสีชมพูเอิบอิ่ม ผมยาวสีน้ำตาลทองนั่นก็ถูกรวบมาครึ่งศีรษะไม่ปล่อยกระเซิงเหมือนที่เคยเป็นยามปกติ เรียกได้ว่าไม่เหลือเค้าคนที่ประสบอุบัติเหตุมาจนเสียชีวิตเลย
สีชมพูเหมาะกับเธอมากเลย น่ารักจังว่าน...ชุดนี้ใครเลือกให้หรือว่า?... หยางเล่ยยิ้มพลางเหลือบไปมองคนข้างตัวผีสาว
ใช่แล้ว ตานั่นแหละ
โอ้โห....ตาแหลมนะแพท... ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดแค่นั้นก็แอบกระซิบข้างหูเพื่อนรัก นึกว่าเล่นตุ๊กตาอยู่หรือไง?
จะบ้าเหรอ?!! สีหน้าเอียงอายปรากฏขึ้นมา
แล้วเลือกซะพิถีพิถันขนาดนั้น...มีกระทั่ง...ผ้าผูกผมสีเดียวกับชุดด้วยนะนั่น
ก็ช่วยๆ กันเลือกแหละ.... พูดได้แค่นั้นหลี่เซี่ยเฟยก็เงียบไป เหมือนปรุงแต่งสีหน้าไม่ถูกว่าควรวางหน้าอย่างไรให้ดูปกติที่สุด
หึ หึ หึ....หวานกันดีนะ ฮะ ฮะ ฮะ
เวส!!
คราวนี้หลี่เซี่ยเฟยเก็บอาการไม่อยู่ถึงหน้าแดงขึ้นมาเลยทีเดียว ยิ่งทำให้หยางเล่ยขำเข้าไปใหญ่ โดยที่ผีสาวนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าหล่อนเป็นต้นเหตุให้พ่อบุญถึงถูกเพื่อนล้อเลียน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การทำงานทั้งวันดำเนินไปเช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติมาทุกวัน ทุกอย่างยังคงรีบเร่งวุ่นวายและยุ่งเหยิงแต่ไอดอลหนุ่มก็ยังคอยเหลียวมองหาสไบนางตลอดเวลา เหมือนกลัวว่าเธอจะพลัดจากเขาหลงหายไปไหน หยางเล่ยที่เฝ้ามองอยู่ถึงกับส่ายหน้าว่า
.เป็นเอามาก...
ก็เธอไม่มีใคร...นอกจากฉันนี่ก็ต้องเป็นห่วงกันเป็นธรรมดา แล้วยัยผีนั่นน่ะเอ๋อจะตายนายก็รู้....ยิ่งมือถือโทรเข้าไม่ได้แบบนี้เกิดหายไปจะไปตามหาที่ไหนได้ล่ะ?
ว่านน่ะอยู่ห่างจากนายเกิน 20 เมตรไม่ได้ นายลืมไปแล้วเหรอแพท? แล้วเธอจะหายไปได้ยังไง....ยกเว้นแต่.....
แต่อะไร? จากที่กำลังเก๊กหน้านิ่งเพื่อแก้ตัวอยู่นั้น ฉับพลันชายหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นตกใจไปทันที
ถึงเวลาที่เธอต้องไป....เราก็จะไม่ได้พบเธออีก
เธอจะไปไหน? ก็เธอไม่มีที่ไปนี่? หลี่เซี่ยเฟยตะเบงเสียงดังขึ้นจนคนในกองถ่ายหันมามอง หยางเล่ยรีบยิ้มกลบเกลื่อนก่อนจะบอกว่าซ้อมบทกันอยู่ สายตาที่จับจ้องมองอยู่จึงได้สลายไป
คุยอะไรกันน่ะ? ผีสาวซึ่งไม่รู้เรื่องราวใดก็ถามโพล่งขึ้นมา
เปล่านี่!!
ก็เห็นหัวเราะกันอยู่ดีๆ ก็หน้าดำเคร่งเครียด? ประหลาด? แล้วยังบอกว่าไม่มีอะไรอีก...ไม่บอกฉันถามเวสก็ได้
เราซ้อมบทกันน่ะว่าน....กำลังอินได้ที่ หยางเล่ยไม่ตอบเลี่ยงๆ
เหรอจ๊ะ...นี่ฉันรบกวนหรือเปล่า?
ก็ไม่เชิงหรอกแต่ว่า....
หยางเล่ยไม่รู้จะตอบอย่างไรดีแต่ก็คิดว่าไม่ควรจะให้เจ้าหล่อนได้ยินเช่นกัน ระหว่างที่กำลังคิดหาคำพูดดีๆ อยู่นั่นเองหลี่เซี่ยเฟยก็ตัดบทขึ้นมา
ไม่มีอะไรหรอกน่า...เธอไปอวดชุดใหม่กับเจ้าลูกหมานั่นสิ ชายหนุ่มชี้นิ้วไปที่ลูกหมาน้อยตัวเดิมซึ่งยังคงต้องร่วมแสดงกับพวกเขาไปอีกหลายฉาก
จะบ้าเหรอ? ใครจะไปอวดกับหมา....นายนี่ติงต๊องจริงๆ หล่อนบ่นออกมาด้วยอาการงุนงง แต่ก็ปลีกตัวเดินไปเล่นกับเจ้าตัวเปี๊ยกนั่นเพราะเข้าใจว่าชายหนุ่มทั้งคู่ต้องการสมาธิในการซ้อมจึงไม่รบกวนพวกเขาอีก เมื่อเห็นว่าสไบนางเดินไปไกลแล้วจึงค่อยหันมาพูดกับหยางเล่ยต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
เธอจะอยู่กับฉันอีกนานใช่มั้ย? เสียงนั่นคาดคั้นพอสมควรรู้สึกตัวอีกทีหยางเล่ยก็โดนเพื่อนลากไปคุยในที่ลับตาคนเสียแล้ว โดยปล่อยให้ผีสาวเพลิดเพลินไปกับการหยอกล้อเจ้าตัวน้อยต่อไป
เฮ้ยๆๆ อย่าซีเรียสนักสิ ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ...อย่าคิดมากสิ
มีอะไรบอกฉันมาให้หมด....อย่างน้อยฉันจะได้ตั้งตัวทัน....
แพ...ท หยางเล่ยสบสายตาเพื่อนก็พบว่านัยน์ตาคู่สวยนั้นมีความในใจมากมายเก็บซ่อนซ้อนทับกันไว้
เฮ้อ...ฉันแค่อยากเตือนนาย ท่องเอาไว้อย่าลืมว่าว่านเป็นผี! เรื่องของพวกนายเป็นได้แค่ความทรงจำดีๆ เหมือนความฝันชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง วันหนึ่ง...ว่านต้องไปในที่ๆ เธอควรจะไปแต่ไม่รู้ว่าเวลานานนั้นจะมาถึงเมื่อไรเท่านั้นเอง
กำหนดไม่ได้เหรอ? อย่างน้อยๆ ฉันจะได้เตรียมใจไว้ ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีเพื่อนท่าทางเหม่อลอยไปมาก
เฮ้ย...อย่าบอกนะว่า...รักเธอไปแล้ว? เธอไม่ใช่สเปคนายสักหน่อย....ให้พูดตรงๆ ก็....ไม่ได้สวยอะไรนักหนาออกจะธรรมดาทั่วๆ ไปด้วยซ้ำ
มันไม่เกี่ยวกัน!! หลี่เซี่ยเฟยตวาดออกมาจากนั้นก็นิ่งไปครู่ใหญ่จึงค่อยพูดออกมาได้
คนมันเห็นกันอยู่ทุกวัน....ไม่ได้เกี่ยวกับรักหรือไม่รัก เธอเป็นเพื่อนของฉัน แล้วถ้าอยู่วันหนึ่งเธอหายไปเฉยๆ จะให้คิดยังไงล่ะ? ฉันไม่ได้เป็นใจแข็งเป็นหินนี่จะได้ทำเฉยได้ ก็เหมือนเลี้ยงแมวนั่นแหละเล่นกับมันจนคุ้นเคยแล้ว เคยให้ข้าวให้น้ำอยู่ทุกวัน เกิดวันหนึ่งมันหายไปจะไม่คิดถึงเหรอ?
ทั้งที่ๆ เรื่องราวมันน่าจะดูเศร้ากว่านี้ แต่พอฟังเพื่อนรักของเขาพูดแล้วหยางเล่ยรู้สึกขำขึ้นมาทันที....ก็คนอะไรเปรียบเทียบผู้หญิงกับแมว ช่างแก้ตัวไปได้น้ำขุ่นๆ
อุ๊บ...หึ หึ หึ
ไม่เห็นน่าขำเลย....นายลองเลี้ยงตัวอะไรสักตัวสิเดี๋ยวก็รู้เองแหละ
ฉันเข้าใจ..แต่นายเปรียบเทียบซะ ฮ่า ฮ่า รับรองว่าถ้าว่านได้ยินเข้าต้องโกรธแหงๆ
แล้วจะไปบอกยัยนั่นทำไมล่ะ? ....ว่าแต่เธอจะอยู่กับฉันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้หรือ? ไม่ไปก็น่าจะได้นี่ผีบนโลกนี้มีออกเยอะแยะไป บางเจ้าอยู่เป็นร้อยปีเลยนะอย่างพวกในโบราณสถานที่ลือกันว่าเฮี้ยนๆ น่ะ
นั่นมันคนละอย่างกัน...นั่นมันผีเฝ้าสมบัติที่ถูกสาปไว้ให้อยู่กับที่ไปไหนไม่ได้ แต่ว่านไม่ใช่....อีกอย่างถ้าไม่ใช่เธอไปเอง วันหนึ่งก็ต้องถูกตามกลับไป
ใครมาตาม? คนที่เมืองไทยหรือไงเป็นไปไม่ได้หรอก ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าวิญญาณเธอยู่ที่นี่
ยมทูต! หยางเล่ยตอบเรียบๆ แต่คำพูดนั้นราวกับฟ้าผ่าลงมากลางใจหลี่เซี่ยเฟยเลยทีเดียว
เวส!!
ไม่ต้องพูดแล้ว หยางเล่ยส่ายหน้าช้าๆ พร้อมยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อน ในเมื่อไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร...เวลาที่เหลือก็ดีกับเธอเอาไว้ให้มากๆ แล้วกัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อ่านต่อตอนหน้าค่ะ
Create Date : 13 มกราคม 2549 |
|
1 comments |
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 0:29:09 น. |
Counter : 587 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|