Survival Canada
Group Blog
 
All blogs
 

Before Landng


Landing
คือการที่เราต้องมาติดต่อหน่วยงาน Immigration ที่ Canada เพื่อแสดงความจำนงว่าเราจะมาอยู่ที่นี่เป็นการถาวร และขอรับ Permanent Resident Card เมื่อเราผ่านขั้นตอน Landing แล้วเราก็จะแปลงร่างเป็น “Landed Immigrant” มีหลายรายที่ยังไม่พร้อมจะมาตั้งรกรากที่นี่ ก็มา Landing ก่อนแล้วกลับไปเมืองไทย เมื่อพร้อมแล้วจึงกลับมา Canada ใหม่ (คนที่จะมา Landing ที่ Ontario ควรเข้าไปอ่าน Website //www.settlement.org/

"“You can meet these residency obligations if you spend 730 days (two (2) years) of physical presence in Canada in every five-year period.”

หลังจากทราบกำหนดเดินทางที่แน่นอนแล้ว ผมกับผบทบ.แทบไม่มีวันว่างเลย นอกจากจะต้องเตรียมสิ่งของต่างๆ แล้ว ก็มีเลี้ยงส่งกับเพื่อนแก๊งค์นั้นแกงค์นี้แทบทุกวันตลอด 2 เดือน เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้กลับเมืองไทยกันอีกเมื่อไหร่

ผมคาดว่าบัตรประชาชนของผมกับผบ.ทบ.จะหมดอายุก่อนที่จะได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง และเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องติดต่ออะไรที่ต้องให้เราเซ็นต์ชื่ออีกหรือเปล่า เราจึงไปทำบัตรประชาชนใหม่ แล้วเซ็นต์ชื่อในหนังสือมอบอำนาจ (blank form) เซ็นต์ชื่อไว้ในกระดาษเปล่า และให้บัตรประชาชนไว้กับที่คนไว้ใจได้ เผื่อจำเป็นต้องใช้

เอกสารทุกชิ้นที่เราส่งไปให้สถานฑูต Canada ที่ Singpore เขาไม่ส่งคืนให้ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้างที่นี่ จึงเอาเอกสารทุกชิ้นไปแปลใหม่หมด แล้วให้สถานกงสุลไทยรับรองคำแปล แต่เมื่อมาถึงที่นี่ สิ่งที่ได้ใช้คือ ทะเบียนสมรส สูติบัตรของลูก และใบขับขี่

What do I need to know to send my child to elementary school? เอกสารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการสมัครเรียนของลูก:

1) ใบแปลสูติบัตร: ที่ได้รับการรับรองจากสถานกงสุลไทย
2) vaccinations and immunizations report: ผมไปติดต่อที่โรงพยาบาลที่ลูกไปฉีดวัคซีนเพื่อขอรายงานนี้ (ขอเป็นภาษาอังกฤษ หัวกระดาษเป็นชื่อโรงพยาบาล)
3) ใบรับรองการศึกษา: ปีการศึกษาของที่นี่เริ่มราวๆ เดือน September ดังนั้นตอนที่ผมมาเขาเปิดเรียนกันไปแล้วประมาณ 1 เดือน ลูกคนโตของผมยัง

Settlement Fund: ตามกฏแล้ว ผมกับครอบครัวจะต้องเตรียมเงินที่ต้องนำติดตัวมาเป็นค่าใช้จ่าย ประมาณเกือบ 2 หมื่นเหรียญ เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทีนี่ เวลา Landing (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 – 7 แสนบาท ในเวลานั้น) หลายคนแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัยควรซื้อ bank draft ส่วนหนึ่ง และนำเงินสดมาส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ดี ด้วยความขี้เกียจของผม เลยตัดสินใจนำเงินทั้งหมดไปแลกเงินสดที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ cแบ่งกันกับผบ.ทบ. พกติดตัวมา //www.cic.gc.ca/english/skilled/qual-4.html

ก่อนเดินทาง 4-5 วัน มีคนแนะนำให้รู้จักพี่ชื่นและครอบครัว พี่ชื่นใจดีมากๆ กรุณาโทรหาผมที่เมืองไทย แนะนำอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งๆที่ไม่เคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำ บอกให้ครอบครัวเรามาพักกับครอบครัวแกก่อนชั่วคราว และให้เบอร์โทรกับแผนที่ไว้ บอกว่ามาถึงแล้วยื่นแผนที่ให้ Taxi ที่สนามบินได้เลย “Don't worry about your trip, everything gonna be fine, please let me know if you want me to help”

October 29, 2004 10:00 PM เป้าหมาย กระเป๋าที่จะ Load ใต้ท้องเครื่อง 10 ใบ ใบละ 32 kgs กับกระเป๋าติดตัว 10 ใบ ใบละ 10 kgs เพิ่งเสร็จไป 70% (ส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าแบบใส่เสื้อผ้าโหลแบบที่ขายตามประตูน้ำ ตอนนั้นคิดว่าจะได้ใส่ของได้เยอะๆ ซึ่งไม่ผิดหวัง เพราะนอกจากจะใส่ของได้เยอะแล้ว มาถึงนี่ก็ไม่เปลืองที่เก็บ)



เจ้านายมาที่บ้านเพื่อกล่าวคำอำลา ยืนคุยกันอยู่เป็นชั่วโมง จนผมต้องบอกว่าต้องไปเคลียร์งานด่วนที่บริษัท ส่งเจ้านายกลับ ผบ.ทบ.รับหน้าเสื่อจัดกระเป๋าไป เอาของชั่งกิโลไป ส่วนกองเชียร์ก็มาตั้งวงเหล้ากันที่หน้าบ้านเต็มไปหมด

October 29, 2004 ผมกลับถึงบ้านตีหนึ่ง ผบ.ทบ.ยังจัดกระเป๋าไม่เสร็จ .ก็เลยมานั่งให้กำลังใจจนถึงตี 2 กว่าๆ ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เสร็จเรียบร้อย ก็ไปแงะเอาลูกบังเกิดเกล้าทั้ง 3 ออกมาจากเตียง แต่งองค์ทรงเครื่องลูกเสร็จ ก็ไปปลุกกองเชียร์ มาขนกระเป๋าขึ้นรถ ใช้รถขนของกับขนคน 5 คัน ถึงสนามบินดอนเมือง ราวตี 5 กว่าๆ เนื่องจากครอบครัวผมไม่เคยมีใครขึ้นเครื่องบินเลย ได้น้องเขยที่เคยไปเมืองนอกมาบ้างคอยบอกขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องทำ

ตี 5 ครึ่ง พ่อกับครอบครัว และน้องสาวมาถึง พ่อเอาเงิน 5,000 บาทกว่าบาท ไปแลกเงินได้มา 125 Canadian Dollar ให้เป็นขวัญถุง ถ่ายรูปกับคนที่มาส่งบ้างพอสมควร

6 โมงครึ่ง ที่บอร์ดแจ้งให้คนที่จะไปกับ TG 600 เอากระเป๋า ใบละ 32 kgs ไป load ตอนนี้เกิดปัญหากับกระเป๋าใบหนึ่ง (ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเกิด เพราะคิดว่าชั่งมาหมดแล้วจากที่บ้าน) ทราบทีหลังว่ามีผู้หวังดี เอาจานกินข้าว-ถ้วยชาม super ware ต่างๆ ใส่เพิ่มมาให้ น้ำหนักเลยเกินไปเกือบ 10 kgs เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องเอาออก

งานใหญ่อย่างนี้ผมต้องเรียก ผบ.ทบ. มาตัดสินใจว่าจะเอาอะไรออกบ้าง ผบ.ทบ. ตัดสินใจเอารองเท้าส้นสูงออกหลายคู่ และเลือกเอาถ้วยชามไว้ ด้วยเกรงว่าผู้หวีงดีจะเสียใจ

7:40 หน้าทางเข้า ก่อนที่จะผ่าน Immigration บ่อน้ำตาผบ.ทบ.กับญาติพี่น้องที่มาส่ง เริ่มแตก ผมหันไปมองก็อดน้ำตาคลอเบ้าไม่ได้ เพราะตั้งเป้าหมายไว้ว่าอย่างน้อยต้อง 3 ปี ให้ได้ Citizen ของ Canada และมีเงินมากพอเสียก่อนจึงจะกลับมาอีก

8:00 เช็ค Boarding passes ได้ลัดคิว เพราะมีเด็กเล็กมาด้วย

มีปัญหาเกือบทำให้พลาดเครื่องบินลำที่สองที่ Hong Kong เนื่องจากความไม่รู้ ทั้งของเราและของเจ้าหน้าที่สายการบินไทย คือตอนเช็ค boarding pass ที่สนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่เห็นมีผู้ใหญ่แค่ 2 คน กับกระเป๋าใบใหญ่เต็มอัตราศึก 10 ใบ ก็เลยปรารถนาดี ให้ load ลงใต้ท้องเครื่อง เพราะเขาคิดว่าเราจะลงแค่ Hong Kong

ถึง Hong Kong เพิ่งรู้ว่าซวย ตอนที่ไปติดต่อเคาน์เตอร์ของ Air Canada ที่ Transfer Area (W1) คือแทนที่จะแค่ไป Transfer เครื่องได้เลย แต่เขาบอกว่าต้องออกไปเอากระเป๋าคืนมาจาก Baggage Arrival Area เอง

สนามบิน Hong Kong ใหญ่มาก ผมให้แฟนกับลูก 2 คน รออยู่ที่ transfer area ส่วนเราผมกับลูกคนโต (10 ขวบ) ต้องขึ้นรถไฟออกมาข้างนอก (ไกลจาก Transfer Area มากๆ คิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 1 km) ไปต่อคิวผ่าน immigration ประทับตราขาเข้า เพื่อเข้าไปเอากระเป๋าที่ Baggage Arrival Area วิ่งไล่เอากระเป๋าในรางเสร็จ ก็ไปติดต่อ Air Canada ที่ฝั่งที่จะ departure อธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกเขาจะเก็บค่าขนกระเป๋าเราอีกใบละ 900 Hong Kong dollars ใช้ภาษาอังกฤษกับภาษามืออยู่นาน ในที่สุดเขาก็เข้าใจ แล้วพาเราไปส่งที่ immigration ขาออก สำทับว่าให้เราไปรอขึ้นเครื่องที่ Terminal 43

ที่ Immigration ขาออก (departure) เจอปัญหาต้องรื้อกระเป๋า เพราะเขาบอกว่าเครื่อง X-Ray เจอกรรไกรในกระเป๋า หากันอยู่นานจึงพบว่าเป็นกรรไกรอันเล็กๆ ที่อยู่กับเข็มกับด้ายในชุดเครื่องมือสำหรับซ่อมเสื้อผ้า ตอนแรกเขาจะยึดไว้ แต่พอดีมีอยู่คนหนึ่ง คิดว่าคงเป็นระดับหัวหน้า พูดในทำนองว่าพวก immigration ก็อย่างนี้แหละ เขาเลยยอมให้ผ่านออกมา (ผ่านด่านที่เมืองไทยมาได้ไงไม่รู้)

ถึง Terminal ที่ 43 ให้ลูกคนโตรออยู่ก่อน เห็นพนักงานของ Air Canada ยังไม่มา เลยถามทางกลับไปที่ Transfer Area แต่ Immigration ตรง Transfer Area ไม่ยอมให้ผ่านไป เขาบอกให้ไปตามพนักงานสายการบินมาพาไป เลยต้องกลับมานั่งรอตรง Terminal 43 อีกกว่าครึ่งชั่วโมง วุ่นวายใจมากเพราะเสียเวลาไป 3 ชั่วโมงกว่าๆ แล้ว ผบ.ทบ.ก็คงว้าวุ่นใจพอกัน พอพนักงานสายการบินของ Air Canada มาถึง เราบอกให้เขาติดต่อพนักงานที่ Transfer Area พนักงานที่ Transfer Area ตอบกลับมาว่าไม่เห็นมีผู้หญิงกับเด็ก 2 คน ในบริเวณนั้น พนักงานของ Air Canada บอกว่ารอหน่อย เดี๋ยวเขาจะตามเพื่อนให้พาเราไปที่ Transfer Area

เดินตามพนักงานของ Air Canada ย้อนผ่าน Immigration มาถึง Transfer Area เห็นผบ.ทบ.กำลังยืนหน้ามุ่ยอยู่ ลูกอีก 2 หน่อ ก็กำลังหลับอยู่ แถวๆ มุมหนึ่งในด้านหลังของเคาน์เตอร์ของ Air Canada แต่เขาคงยุ่ง เลยมองไม่เห็น

พากันกลับมาที่ Immigration ตรง Transfer Area เจอปัญหาต้องรื้อกระเป๋าอีก เพราะเขาบอกว่าเจออาวุธในกระเป๋า เปิดดูพบว่าเป็นช้อนส้อมจำนวนหลายสิบคู่ ก็เลยไม่ว่าอะไร ยัดใส่กระเป๋าให้ตามเดิม

กลับมาถึง Terminal ที่ 43 ก่อน เวลาออกของเที่ยวบิน A16 ของ Air Canada เล็กน้อย เสียเวลาไปเกือบ 4 ชั่วโมง ตอนแรกกะว่าจะเดิน shopping Duty Free ถ่ายรูปที่ Hong Kong ก็เลยถ่ายได้รูปเดียวนี่แหละ



15:05 การเดินทางที่ยาวนานกว่า 18 ชั่วโมงเริ่มต้นขึ้น ที่นั่งของเที่ยวบิน A16 เต็มหมด เสียงประกาศมีถึง 3 ภาษาคืออังกฤษ, ฝรั่งเศส และจีน (ต่างจาก TG 600 ของการบินไทยที่มีภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ) ฟังรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง เขาบอกว่าใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง ระยะทางเกือบ 20,000 kms เครื่อง Airbus ของ Air Canada จะมีหน้าจอส่วนตัวให้ดูหนัง ฟังเพลงหรือเล่นเกมส์ตามอัธยาศัย ระหว่างทางผมนั่งมองจอที่เขาเรียกว่า EnRoute ตลอด (Navigator ที่คอยบอกว่าตอนนี้เครื่องถึงไหนแล้ว) ระหว่างที่ผ่านญี่ปุ่น เครื่องตกหลุมอากาศบ่อยครั้ง (ผบ.ทบ.บอกภายหลังว่านั่งสวดมนต์มาตลอดทาง) ลูกคนกลาง (5 ขวบ) กับคนเล็ก (3 ขวบ) สลับกันอ๊วกเป็นว่าเล่น Air Hostess ต้องคอยมาช่วยเช็ด เอาผ้าร้อน ผ้าเย็น ถุงขยะมาให้เป็นระยะ เพิ่งรู้ว่าเป็น Air Hostess ไม่ง่ายอย่างที่คิด ผมนั่งหลับๆ ตื่นๆ กันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ หูก็อื้อๆ ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง ก็ยังไม่ถึงสักที (มีคนแนะนำว่าให้เอาลูกอม sugus มาเคี้ยวตอนหูอื้อ ผมว่าช่วยได้บ้าง)




 

Create Date : 15 กันยายน 2548    
Last Update : 21 มกราคม 2549 23:38:30 น.
Counter : 707 Pageviews.  


Tripple Jack
Location :
Ontario, Canada

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Tripple Jack's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.