|
- ผลิบาน ในลานธรรม - การบริหารจิต วิธีการดับไฟนรก หลวงพ่อพุทธ ฐานิโย
- Debug my heart ฮิตเลอร์ ดาไลลามะ ไอสไตน์ .......
- มาดู O so cute คาตากูน การ์ตูนเด็กเพื่อการศึกษาและพัฒนาทางอารมณ์
- หลวงพ่อโสธร -คำพรพระ ไหว้พระ พบปะ อาหารอร่อย
- "หลุดจากความทุกข์ เพราะสติรู้ตัว" (เมื่อได้ฟัง จึงรู้ ) หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ
- คลื่นแห่งมุทิตาจิต : คมความคิด กัลยาณมิตร รางวัลแมกไซไซ
- When the time ...stop...
- I GOT A JOY-JOY-JOY ป๋มมีความสุขที่หัวใจ ปอด ตับ ไต และม้ามมมมม...(กึ๋ย)...
- no me , just thee (ทำ)เต็มที่ ไม่มีลุ้น Syncrony, unlind, boundless energy, NEVER GIVE UP
- ...หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ..ถาม:"ท่านยังโกรธอยู่ไหม" หลวงปู่ตอบ "มี แต่ไม่เอา"
- Heaven on earth: ธรรมะของพระพุทธเจ้า ..ไม่เนิ่นช้า ท่าน ก เขาสวนหลวง หลวงปู่ดุลย์ อาจารย์ปราโมทย์
- Eradicating, peak , rejuvenizing ...this...
- มาโด๊บกัน... อิอิ... Flexibity is a key, gentleness is never out of league..
- Look, look, what is cooking in your mind
- อย่างน้อยชีวิต .. ก็ได้ใช้.. เพื่อสร้างสรรค์ สิ่งใด ในใจหวัง...
- May your life filled with tranquility and energy...
- จิตที่ส่งออกนอก....เป็นสมุทัย(หลวงปู่ดุลย์ อตุโล) ...........หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช
- เทวดาองค์น้อยๆ.. ชะรอยให้สดใส... purest precious..little angel
- แก้มใคร?.....
- Teacher....my stroke...
- ให้นำใจ(5) : แลบ่มร่ำ.... ให้นำใจ.. คุ้มภัยพาล ..
- ให้นำใจ (4) : to learn ..to let go ณ กึ่งกลางบันดาลใจ...ไฟส่องทาง
- Mistake is ..to learn... Self-understanding is graduated...
- ให้นำใจ(3) : ๑,๒๔๐ รูป ๑,๒๕๐ ก้าว.....
- ให้นำใจ(2) : เป็นเพียงอาการของจิต ระลึกรู้
- ....ให้นำใจ.. : ห้องพระ(ในใจเรา)...
- มงคลที่ ๑๑.....
- เพียงขณะ...หากรำลึก..: อัญเชิญประวัติเจ้าแม่กวนอิม(2)
- ขออัญเชิญ ประวัติเจ้าแม่กวนอิม(1)
- Always still...
- ..ด้วยฤทธีแห่งธรรม..
- เก้าอี้ดนตรีใจ ..ระวังไว้จะให้ใครนั่ง...
- ..แท้เพียง...
- Happiness within: a fractional moment of time
- Water and Fire(3) : in the jungle
- Water and Fire(2) : Water
- Water and fire(1) : Fire
- ..in the purest sense of the way..
- ..ได้อย่างไร..
- ..young grass..
- ..เพียรพิศ..
- ..it is a high time for high tea..
- ..ย่อม..จักยาก..
- ..like a stardust..that ever last..
- ..คลื่น... (แล้วไรต่อ?)
- ..เพียงรอยจาง..
- ..to dream the possible dream ..(with peaceful and calm)
- ..make a habbit of catching thought..
- ..May love is ever all around ..
- ..เปิด..
- ..อารมณ์ไม่ดี..
- ..Just take a deep breath ..at any case..
- ..ก็ลุล่วง..
- Snug as a bug hug : เก่ง ก็กอด... ไม่เก่ง ก็กอดดด..
- ..พักสายตา..
- ไกลกันหมื่นลี้.. ใจใกล้..
- Race to freedom ..กำจรจาย...
- ..เพียงเพราะ..
- อย่างบริสุทธิ์ใจ ในความรัก : To love for the sake of love
- ..บางเวลา..
- What is about your?
- เมื่อไหร่ ดอกไม้จักบาน..
- ......I can never explain..my hero..เป็นดวงไฟส่องสว่างกลางความฝัน..
- ..ฮ้าวววววว..
- Tag ทำดีเพื่อพ่อ
- ..แว่ว..
- ..ห่มใด?..
- ..ทบเท่าพันทวี..
- ..You ..do.. something to me...
- ..หากแม้นว่าได้มอบแหวน ให้ใครหนึ่ง..
- ..เมื่อ-ใน-เงียบ....
- Mr. Snowman
- ..เป็นใจ..
- ..หนาวนี้ ..
- ..คนที่ทำให้อุ่น ..
- ...แห่งไมตรี...
- ..คน"ขัด"ใจ...
- ..ต้อง เย็น..
- A Stolen kiss
- ..หนีใจ..
- ..(เหยียบ)ให้มิด..
- Things an angel can live without
- ...all beauteous things...
- ..ม้าตีนปลาย..
- ..ล้อมใจ...
- ..เติมให้เต็ม...
- ..นั่งเมอร์เตอร์ไซด์(ปรื้นๆ)
- ..เพียงอุ่นๆ..
- The mystical night
- ....บัวใจ บัวใน.... (ดีใจ เปลี่ยน BG เป็นแล้ว อิอิ เกี่ยวไม๊เนี่ย..)
- ...ตื่น...
- ...การไหว้...
- .....ดินกลบหน้า....
- ..หลังฝน...
- ...จัก...รัก...
- ...ชีพดำรง...
- ...ยิ่ง...
- ห่มใด จักสุขกว่า...?
- คม-คำ
- ปรากฏการณ์ "เธอ"
- ...เพียงสายตา...
- ..รู้ตัวไหม..
- เป็นอะไร!
- วิชานี้...ไม่มีสอน...
|
|
|
|
|
ให้นำใจ(5) : แลบ่มร่ำ.... ให้นำใจ.. คุ้มภัยพาล ..


ฝนตก...

ฝนหาย...
ใจคลาย...
เปลี่ยนผัน...
ว่ายเวียน ...โรมรัน..
เช่นนั้น...ชั่ววัน..
หากเปลี่ยน ...กลับผัน..
กำหนด... เท่าทัน...
จากฝัน...
สู่ "จริง"...
แลบ่มร่ำ.... ให้นำใจ.. คุ้มภัยพาล .. ภัยใน(ใจ) นั่นแหล่ะ.. ต้องหมั่นดู..
มองทุกวัน เป็นแบบฝึกหัด... สิ่งใดผ่านมา ..กำหนดรู้... ดูให้เห็น.. สิ่ง-แท้-ที่เป็น.. ..เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป..
.................................................
(เจ้าของบล๊อก)เตือนตน(บ่มร่ำ).. ทุกวันไปค่ะ  
รับต้นอาทิตย์กับธรรมะท่านพุทธทาสค่ะ
พุทธทาส อินทปัญโญ นำเนื้อหามาจากหนังสือ จากศรีวิชัยถึงพุทธทาส ภิกขุ เรียบเรียงโดย คุณชำนาญ สัจจะโชติ พิมพ์ครั้งที่๑, ๒๕๔๙
นี่เรียกว่าขันธ์ ๕ หรือ ๕ ขันธ์
จะเรียกว่าการปรุงแต่ง ๕ กลุ่ม ๕ กอง ทั้งห้านั้นแหละเรียกว่าสังขาร ทั้ง ๕ กลุ่มนั้นถ้าเรียกโดยคำสามานยนามแท้ๆ ส่วนลึดแล้วเรียกว่าสังขารได้ทั้งนั้น
แต่เดี๋ยวนี้ทั้งเอาสังขารมาใช้กับกลุ่มที่ ๔ คือ สังขารขันธ์ ซึ่งมีความหมายแคบเข้ามา สังขารขันธ์หมายถึงความคิด แต่สังขาร เฉยๆ หมายถึงกรปรุงแต่งทุกสิ่ง รูปขันธ์ก็เป็นสังขาร เวทนาขันธ์ก็เป็นสังขาร สัญญาขันธ์ก็เป็นสังขาร สังขารขันธ์เองก็เป็นสังขาร อย่างนี้เป็นต้น
ดังนั้นเราไม่อาจจะมีขันธ์ทั้งห้าพร้อมกันในคราวเดียว มันแล้วแต่ว่าจิตมันกำลังไปยึดมั่นให้เป็นชีวิตอยู่ที่กลุ่มไหน บางเวลาความยึดมั่นถือมั่นของจิต มันไปยึดมั่นอยู่ที่กลุ่มรูป ตามเรื่องตามกรณี ที่มันมีอำนาจหรือมีเหตุปัจจัยให้ไปสนใจ ให้ไปยึดมั่นอยู่ที่กลุ่มรูป
แต่บางเวลามันไม่เป็นอย่างนั้น มันไปสนใจยึดมั่นอยู่ที่กลุ่มเวทนาแล้วมันก็เป็นเรื่องสืบต่อกันด้วย เพราะมีรูปขันธ์ คือ อายตนะภายในและอายตนะภายนอก มันจึงเกิดวิญญาณ มันจึงเกิดผัสสะ แล้วมันจึงเกิดเวทนา ดังนั้นรูปขันธ์กับเวทนาขันธ์ จะเกิดพร้อมกันไม่ได้ และเวทนาขันธ์มันก็สืบทอดมาจากรูปขันธ์ ที่มันทำหน้าที่ของมัน

นี่จะถ้าระวังจิต จะดูจิตแล้ว ก็จงดูว่ามันกำลังยึดมั่นอยู่ในขันธ์ไหน
มันเกิดมาจากความยึดมั่นในขันธ์นั้น ซึ่งมันจะตรงตามหลักพระพุทธภาษิตว่า สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานนักขันธา ทุกขา ขันธ์ที่มีความยึดมั่นถือมั่นโดยอุปาทานนั้นแหละเป็นตัวทุกข์ เมื่อมีความทุกข์แล้ว มันก็ต้องมีความยึดมั่นถือมั่น เมื่อมีความยึดมั่นถือมั่นแล้ว มันต้องมีสิ่งซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นถือมั่น มันก็ไม่พ้นไปจาก ๕ สิ่งนี้ คือ รูป เวทนา สังขาร สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นเอง
พูดอีกทีหนึ่งก็ว่า ถ้าจะแจกกันโดยรายละเอียด รายละเอียดให้มันละเอียด เท่าที่มันจะละเอียดได้แล้ว มันจะมีถึง ๑๒ อาการ หรือ ๑๑ อาการตามที่แจกไว้ในปฏิจจสมุปบาทอิทัปปัจจยตา หรือว่าถ้าจะมองดูในแนวของอริยสัจจ์ ก็ตัณหา ตัณหาคือเหตุให้เกิดทุกข์ เพราะอยากได้จึงเกิดทุกข์ ความอยากมันทำให้เกิดความรู้สึกของผู้อยาก นั้นคืออุปาทาน แล้วมีภพ มีชาติ ในความหมายของตัวกูผู้อยาก มันเต็มที่ขึ้นมา แล้วก็เป็นทุกข์

สูตรของอิทัปปัจจยตามีว่าอย่างนี้ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับไป สิ่งนี้จึงดับไป ก็คือส่วนที่เห็นเหตุมี แล้วส่วนที่เป็นเหตุดับไป ส่วนที่เป็นผลก็จะดับไป
พอกระทบอะไรทางตาเป็นต้น ก็ให้มีสติ เอาปัญญาว่าเช่นนั้นเองมาทันท่วงที เห็นว่าสิ่งนี้เช่นนั้นเอง ผัสสะนี้เช่นนั้นเอง เวทนานี้เช่นนั้นเอง แล้วก็ไม่ยึดถือ ก็ไม่เกิดความอยาก คือตัณหา ไม่เกิดความยึดถือ คือ อุปาทาน มันก็ไม่เกิดทุกข์ เพราะว่ามีสติรวดเร็ว เอาปัญญามาเพียงพอว่ามันเช่นนั้นเอง ผัสสะเช่นนั้นเอง เวทนาเช่นนั้นเอง อย่างนี้เรียกว่า ไม่โง่เมื่อมีผัสสะ คำพูดสั้นๆ เมื่อตอนกลางวันว่าไม่โง่ เมื่อมีผัสสะ นั่นแหละเป็นหลักสำคัญ ที่จะไม่ให้เกิดความทุกข์
ความทุกข์เกิดที่จิต เพราะเห็นผิดเมื่อผัสสะ ความทุกข์จะไม่โผล่ ถ้าไม่โง่เมื่อผัสสะ ความทุกข์เกิดไม่ได้ ถ้าเข้าใจเรื่องผัสสะ นั่นแหละ คือผลของการรู้เรื่องอิทัปปัจจยตา แล้วควบคุมกระแสแห่งอิทัปปัจจยตาได้ปิดกั้นกระแสแห่งการเกิดทุกข์เสียได้โดยสติ สติเป็นเครื่องกั้นกระแสแห่งความทุกข์ นี้เป็นหลักใหญ่ทั่วไปในพระพุทธศาสนา

เดี๋ยวนี้เรามันโง่ จนความทุกข์เกิดแล้วก็ยังไม่รู้สึก ฉะนั้นจะต้องมีสติว่องไวฉับพลันทันที ถ้ามันไม่ว่องไวฉับพลันทันที มันก็ต้องฝึกมัน ฝึกมัน ก็ต้องฝึกมัน ให้เป็นสติที่ว่องไว แล้วก็อบรมปัญญาให้มากพอ มีปัญญาถูกต้องมากพอ สติรวดเร็ว สตินั้นเหมือนเครื่องขนส่ง สติเหมือนกับเจ้าหน้าที่ขนส่ง มันขนเอาปัญญา คือความรู้เรื่องอิทัปปัจจยตามาทันท่วงทีเมื่อผัสสะ ผัสสะของเราไม่โง่ซิ เพราะเป็นผัสสะที่เต็มอยู่ด้วยสติและปัญญา มันไม่เป็นผัสสะโง่ ความทุกข์ไม่มีทางจะเกิด
ในเรื่องสตินี้มันต้องฝึก แล้วก็จะมีผล คือได้หรือรู้ แล้วก็ทำต่อๆ ไปจนถึงที่สุด เป็นผู้มีสติสมบูรณ์ คือสติไวที่สุด เหมือนสายฟ้าแลบ เพราะว่าการเกิดแห่งกิเลสหรือกระแสแห่งอิทัปปัจจยตานั้น มันเหมือนสายฟ้าแลบ มันเร็วมาก เราก็ต้องฝึกสติของเราให้เร็วขึ้น ให้เป็นสิ่งที่เร็วเหมือนกับสายฟ้าแลบ มันก็จะแก้ปัญหาได้ ส่วนเรื่องของปัญญานั้น ในขั้นตอนของธัมมานุปัสนา ๔ ข้อข้างท้ายนั้น มันเห็นอนิจจัง จนกระทั่งเห็นวิราคะ จนนิโรธะ จนปฏินิสสัคคะ นี่ปัญญามันสมบูรณ์แล้ว มันตัดกิเลสแล้ว มันหลุดพ้นแล้ว เพราะอำนาจของการปฏิบัติที่ถูกต้องอย่างนี้

May we see the reflection of ourself As clear as a blue sky May every line... every details.... show us signs That we can smile..., as we live life with purpose and... kind...
.................................................. treehouse
มีสติ เป็นสุข วันจันทร์ อังคารถึงอาทิตย์ค๊าบบบ
Create Date : 08 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 8:23:49 น. |
|
19 comments
|
Counter : 2390 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:04:45 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:31:43 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:52:09 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:50:58 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:33:15 น. |
|
|
|
โดย: คนสาธารณะ วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:40:55 น. |
|
|
|
โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:19:00 น. |
|
|
|
โดย: mameehanako วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:20:21 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:18:50 น. |
|
|
|
โดย: ธรรม (ห่วงใย ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2551 เวลา:2:49:44 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:38:24 น. |
|
|
|
โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:13:22:34 น. |
|
|
|
โดย: treehouse วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:07:12 น. |
|
|
|
| |
|
Emo น้องลิง
Emo น้องเพนกวิน
เพียงขีดเขียน จากแรงบันดาลใจ
..ที่สัมผัสในใจ ในผู้คน........
(ขอบคุณเจ้าของรูปและเพลง ที่นำมาใส่ในบล๊อกนี้ทุกท่านนะคะ
ขอบคุณที่ทำให้ โลกสวย และไพเราะค่ะ)
|
|
|
|
|
|
|
ไร้สติ ไร้ปัญญา สร้างปัญหา
ตั้งมั่นในสติ ฝึกฝนกำหนดตัวทุกวัน