♣ ก็แค่ .. คิดถึง ♣















































เดินทางมาไกลแสนไกล
ได้มาพบ
หน้าเธอในวันนี้
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก...จะบอกไว้หากอยากรู้
ฉัน
ตั้งใจมาพบ...ให้หายคิดถึง
ตั้งใจมาเจอหน้า...ให้ใจมันพอมีแรงไปต่อ
ก็
เท่านั้น...





อย่าเพิ่งทำหน้าอึดอัดอย่างนั้น
ไม่ต้องแสดงท่า
ทีลำบากใจแบบนี้
เพราะฉันแค่แวะมา...ในฐานะคนคุ้นเคย
ไม่สิ...เคยคุ้น
...มากกว่า




ฉันรู้ว่าวันนี้เธอมีใครอีกคน
ความ
จริงก็รู้มา...ตั้งแต่วันนั้นแล้วล่ะ
วันที่เธอมาบอกลา...ยุติเรื่องราว
ระหว่างเรา
คนสองคน...ที่เคยเข้าใจกัน
ก็แค่เคย...


เพราะวันนี้เธอคงไม่เข้าใจ
ฉัน
แต่อยากจะบอกว่าฉันยังเข้าใจเธอ...เสมอ...
เข้าใจถึงเขาคนนั้นของ
เธอด้วย
ว่า...ไม่สบายใจ
ที่ฉันคนนี้มาให้เห็นหน้า

แต่อย่า
กังวลไปเลยนะ
ฉันจะรีบไปตามทาง...ที่ควรไป





ที่มาหา...เพราะความทรงจำมัน
เริ่มเลือน
ถึงจะเจ็บช้ำ...เป็นแผลลึกที่เลือดยังไหลซิบมาจนทุกวันนี้
แต่
ก็ยังอยากเก็บเอาไว้...
เพราะเรื่องในอดีตมันสวยงาม
...เกินกว่าจะตัด
ใจลืมได้


ดังนั้นฉันจึงเลือกจะเก็บ
มันไว้...ไม่ได้เอาเป็นบทเรียน
แต่เผื่อในวันที่เหงา...จะได้ยิ้มได้
ว่า
ฉันเคยมีคืนวันที่ดี...ร่วมกับใครคนหนึ่งมาแล้ว
ไม่รู้ทำไม...
พอ
พบหน้าเธอดูเหมือนความทรงจำที่ลางเลือน
กลับแจ่มชัดขึ้นมาจนน่ากลัว
...กลัว
ใจตัวเอง...





ขอบคุณที่ให้เวลา
...ยอมมาพบหน้า
ไม่หลบตา...ด้วยซ้ำ
ฉันดีใจที่คน ๆ ที่ฉันเคยเลือก
ไม่
เป็นแบบใคร ๆ...
ที่มักจะเย็นชาใส่คนเคยคุ้น
ขอบคุณ...จากใจ
เพราะ
ฉันก็แค่...คิดถึง
ไปล่ะนะ...






ขอบคุณที่ให้เวลา...ยอมมาพบหน้า
ไม่
หลบตา...ด้วยซ้ำ
ฉันดีใจที่คน ๆ ที่ฉันเคยเลือก
ไม่เป็นแบบใคร ๆ...
ที่
มักจะเย็นชาใส่คนเคยคุ้น
ขอบคุณ...จากใจ
เพราะฉันก็แค่...คิดถึง
ไป
ล่ะนะ...



























Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 10:38:10 น.
Counter : 538 Pageviews.  

♣ คุณกำลังกลัวความรักอยู่หรือเปล่า ♣














































“ ความรัก คือ การทิ้งความกลัวไป “



คำ
กล่าวที่มีความหมายดี ๆ นี้ดูสวยงาม
แต่อาจจะยากแก่การลงมือทำ
จริง
ๆ ในสายตาของบางคน
ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาเลย
หรือ
คนที่เคยผ่านประสบการณ์เลวร้าย
จากความรักมาแล้ว.....



ที่
เป็นอย่างนี้อาจเพราะพวกเขารู้สึกว่า
การนำตัวเองเข้าไปพัวพันกับความ
รัก
ก็เหมือนกับการเสี่ยง... เสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธ...
ถูกทำให้ผิด
หวัง...ถูกทอดทิ้ง..และทำให้เจ็บปวด
จึงเป็นที่มาของความรู้สึก..กลัว
ความรัก.....



.....
แม้ความรักอาจไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
แต่มันก็มีค่า.. ต่อการมีชีวิตอยู่

เป็นแรงบันดาลใจให้เราทำอะไรได้มากมาย



....
อยากบอกกับคนที่ยังกลัวความรักว่า
ไม่ผิดหรอกที่คุณจะกลัวมัน
เพราะ
อย่างน้อยคุณก็รู้ตัวเองดีว่า กลัวความรัก
ต่างกับคนที่วิ่งหนีความรัก
และเฝ้าหลอกลวงตัวเองว่า
มีความสุขดีแล้วกับการอยู่คนเดียว



ไม่จำ
เป็นต้องพบเจอและสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นตัวเอง
เพราะกลัวจะต้องรักคน
อื่น
แต่ลืมนึกไปว่า ถึงเราจะหนีมันอย่างไร ก็หนีไม่พ้นหรอก
เพราะ
ความรักมันอยู่ในใจของเรา
จะหนียังไงมันก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ
แล้ว
คุ้มหรือเปล่ากับการต้องหลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น



....
หนทางของความรัก มันอาจจะไม่ได้เป็นภาพที่ชัดเจน
ให้เราเดินไปได้สะดวก
หรือง่าย ๆ
แต่สิ่งที่รออยู่ที่ปลายทางนั้น ก็มีค่ามากพอ
ที่จะกวัก
มือเรียกเราให้เดินเข้าไปหา



...แทน
ที่เราจะวิ่งหนีมัน ก็เปลี่ยนมาเป็นเตรียมตัวเองให้พร้อม
เวลาที่จะต้อง
ไปเจอกับมันดีกว่า
เหมือนกับเวลาที่เราออกเดินทาง
ก็เตรียมเสื้อกัน
หนาวไปบ้างเผื่อเจออากาศที่หนาวเย็น
เสื้อกันฝนหยิบไปหน่อยก็ดี
เผื่อ
หยิบมาใส่เวลาที่ฝนมันตก
หยูกยาก็ติดไปบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ
พอปฐม
พยาบาลตัวเองเบื้องต้นเวลาเจ็บไข้



....
แต่ถ้าเดินทางออกไปแล้วโชคร้าย
ต้องสะบักสะบอมกลับมาก็ไม่เป็นไร...
รักษา
ตัวเองใหม่ เผื่อออกเดินทางในครั้งต่อไปก็เท่านั้นเอง..
แต่เชื่อไหมว่า
..การเดินทางครั้งต่อไปของเรา
มันต้องดีกว่าครั้งแรกอยู่แล้วล่ะ...
ว่าไหม...?



....."วันนั้น อ่อนแอ
แต่วันนี้ไม่ใช่"....









Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 10:36:40 น.
Counter : 420 Pageviews.  

♣ อยากแก้แค้นเขาให้เจ็บเหมือนที่เราเจ็บจะดีหรือเปล่า? ♣













































อารมณ์ชั่ววูบ
ของคุณกำลังบอกให้คุณคิดอย่างนี้อยู่หรือเปล่า ถ้ามันบอก ผมว่าคุณใจร่มๆ
ก่อนดีกว่า
อย่าเพิ่งรีบวู่วามอะไรแม้ว่าตอนนี้คุณกำลังเจ็บปวดกับการกระทำที่เขาทำ
อยากแก้แค้น อยากให้เขาเจ็บเหมือนที่คุณเจ็บ คุณมีสิทธิ์ทำได้
แต่คุณต้องบอกตัวเองให้มีสติ และต้องย้ำถามกับตัวเองด้วยว่า
ทำแล้วได้อะไรบ้าง



ทำแล้วเขาคืนกลับมามั้ย
ถ้าคืนกลับมา
...จงทำ แต่ถ้าทำแล้วไม่ได้
อะไรคืนกลับมาแม้กระทั่งเขา...จงล้มเลิกความ
คิดนี้ซะ



การแก้แค้นมันไม่ทำให้
คุณได้อะไร นอกเสียจากความสะใจและเขาก็เจ็บปวด ใช่ครับ!!!
คุณอาจบอกตัวเองว่าขอแค่ได้ทำ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ใครที่ไม่เคยเจ็บก็คงไม่รู้ว่าการอยู่นิ่งเฉยโดยไม่ลงมือทำอะไรเสียบ้าง
มันเหมือนคนโง่ที่ถูกคนอื่นตบหน้าแล้วบื้อใบ้เป็นนางเอกหนังไทยในสมัยโบราณ
ยอม ยอม และต้องยอมลูกเดียว



อยากบอกคุณว่า...ครั้งหนึ่งผมก็เคยคิดเหมือน
คุณอยากเอาคืนเขาคนนั้นให้สาสมใจกับที่เขาทำ แต่คุณก็น่าจะรู้บ้างนะว่า
โลกใบนี้ยังมีอะไรให้คุณทำอีกมากมาย
มากเกินกว่าที่คุณจะมัวมาเสียเวลาแก้แค้นเขา



คุณฟันไป 1 เขาต้องฟันกลับมา 1 คุณแทง 2
เขาก็ต้องแทงคืน 2 แล้วเมื่อไหร่หรือมันจะจบจะสิ้น



ดับความอาฆาตแค้นนั้นซะ สงบสติ
แล้วมาหาวิธีดับไฟที่สุมตัวคุณให้หมด
เริ่มต้นด้วยการให้คุณลองถอยตัวเองออกมาหนึ่งก้าว ใช้สมองที่คุณยังมีอยู่
คิดและทบทวนว่าปัญหาที่แท้จริงมันเกิดจากอะไร
แท้จริงทุกอย่างที่มันเกิดปัญหาในใจคุณ ก็คือคุณยังทำใจไม่ได้
คุณยังตื้อตันหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ คุณจึงยังคงมีอารมณ์ที่ร้อน
และก็ยังคงมีบางสิ่งบางอย่างที่ค้างคาใจอยู่



คุณรู้ไหมว่า อารมณ์ข่มได้ด้วยปัญญา
มันคือปัญญาที่คุณเอาไว้ใช้ประคองตัวเองให้ยืนได้
มันคือปัญญาที่จะคอยบอกทางให้คุณได้ไปเจอแสงสว่าง
และมันคือปัญญาที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความแค้นที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งมวล



เอาล่ะ...คุณถอยออก
มาอีกก้าว
แล้วลองบอกตัวเองซิว่าคุณกล้าพอที่จะเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือหรือเปล่า
คุณเลวพอที่จะทำร้ายเขาเหมือนที่เขาเลวพอที่จะทำร้ายคุณมั้ย



คุณไม่ใช่คนที่เลวอะไรขนาดนั้นนี่ครับ
คุณเจ็บและอยากให้เขาเจ็บ แต่คุณจะเจ็บยิ่งกว่า เจ็บมากเสียด้วย
ไม่ใช่ว่าคุณทำแล้วคุณจะสาแก่ใจนะครับ คุณเองที่จะมีตราบาปไปพร้อมๆ กับเขา
เจ็บน่ะมันคงเจ็บเท่ากัน
ถ้าคุณแก้แค้นเขาคืนแต่อย่าให้บาปกรรมเขาต้องเท่ากับคุณเลยครับ
เลือกไม่ทำบาปเสียจะดีกว่ามั้ย



หลังจากที่คุณถอยหลังไปสองก้าวแล้ว
ทีนี้อยากให้คุณถอยออกมาอีกก้าว ก้าวนี้แหละทีคุณจะต้องแข็งใจได้เสียที



อย่าปล่อยให้ตัวเอง
ต้องยอมรับความต้องการที่มันมาจาก อารมณ์เพียงชั่ววูบ
อย่าปล่อยให้จิตใต้สำนึกดีๆ ต้องถูกมารที่แฝงเข้ามาในความคิดบ่อนทำลาย



ทบทวนถึงผลได้ผลเสีย คุ้มมั้ยถ้าจะทำอะไรโง่ๆ
ลงไปอย่าเสี่ยงลงทุนทำอะไรที่มันไม่ได้ผลกำไรเลยครับขาดทุนเปล่าๆ
คงถึงเวลาที่คุณจะต้องหันหลังเดินออกจากความเจ็บปวดและความอาฆาตแค้นนั้น
เสียที เห็นแสงสว่างที่มันรำไรๆ อยู่ข้างหน้าบ้างหรือยัง



โน่นไง...ยังมีพ่อแม่ที่รักคุณรอคุณอยู่
โน่นไง...ยังมีใครก็ไม่รู้
ที่มีเค้าว่าเขามีรักแท้ที่พร้อมจะมอบให้คุณกวักมือเรียกคุณอยู่ไหวๆ
โน่นไง...มีบันไดที่พร้อมจะให้คุณปีนป่ายไปหาสวรรค์ ชั้น 8 ชั้น 9 ชั้น 10
ก็ว่ากันไป
คุณรู้มั้ย...คุณน่ะโชคดีเป็นบ้าที่ไม่ต้องกลับไปตกขุมนรกขุมนั้นอีก



เมื่อใดที่คุณเดินหลุดพ้นทางเดินสายเก่า
แล้ว คุณก็อย่าริเก็บเอาภาพเก่าๆ
กลับไปคิดให้เป็นความเครียดแค้นอีกนะครับเครียดมากเดี๋ยวจะแก่เร็ว
แล้วอย่ามาหาว่าผมไม่เตือนคุณก็แล้วกัน











Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 10:32:43 น.
Counter : 658 Pageviews.  

ผู้หญิง...มนุษย์ที่มีปากไม่ตรงกับใจ



















































ผู้หญิง
...มนุษย์ที่มีปาก ไม่ตรงกับใจ (อักขระบันเทิง)

เมื่อวานผมถูกแฟนต่อว่าอีกแล้วครับ
ตลอดเวลาที่คบกันมาเกือบ 3 ปี
นี่เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เธอน้อยใจผม
สายตานั้นตัดพ้อด้วยความผิดหวัง แล้วพูดกับผมว่า "คุณไม่เคยเข้าใจฉันเลย"
ให้ตายเถอะครับ...ผมรักเธอนะครับ แต่...แต่ผมไม่เข้าใจเธอจริง ๆ นั่นแหละ


มี
อย่างที่ไหน... บอกว่า "อยากไปช้อปปิ้ง เพราะตอนนี้มี SALE ทั้งห้าง"
ผมเลยบอกว่า "อยากไปก็ไป เสร็จตอนไหนก็โทร.มาบอกแล้วจะไปรับ"
เท่านั้นแหละ...เธอก็ตีโพยตีพาย แล้วหาว่าผมจะปล่อยเธอไปคนเดียวได้ยังไง

อ้าว...
ก็เธอเคยบอกว่าชอบเดินช้อปปิ้งคนเดียวนี่นา
เพราะไปกับผมมันต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
กลัวว่าผมจะเหนื่อยรอแล้วคราวนี้เธอก็ไม่ได้ชวนผมไปส ักหน่อย
ผมผิดเหรอที่ไม่ไปเนี่ย

พิชญุตม์ ถามว่า
"เสื้อที่ใส่มาวันนี้สวยไหม" ผมมองแล้วบอกว่า "ก็ดีนะ
แต่ผมว่าคุณใส่สีขาวดูดีกว่า" เท่านั้นแหละ...เธอก็โวยวาย
หาว่าผมไม่พูดให้กำลังใจเธอบ้างเลย


อ้าว...
ก็เธอใส่สีขาวแล้วสวยจริง ๆ นี่ครับ แต่ใส่สีชมพูนี่ก็ดีอยู่หรอกนะ
แต่ผมว่ามันก็งั้น ๆ ผมก็พูดตามที่ใจรู้สึก ทำไมเธอต้องโกรธด้วยเนี่ย

มี
อย่างที่ไหน... พูดว่า "ไม่ต้องโทร.มาเลยนะ"
ผมมองเธอแล้วได้แต่งง...กะอีแค่ผมไปกินข้าวตามนัดไม่ ได้เพราะติดงาน
เท่านั้นแหละ...เธอก็เกิดอาการงอนทุรันสูง
แล้วผมเองก็ไม่ชอบการทะเลาะกันด้วยสิ เลยคิดว่าใจเย็นเมื่อไหร่ค่อยคุยกัน
แต่กลายเป็นว่าวันรุ่งขึ้น...เธอส่งข้อความมาแต่เช้า ว่า
"ไม่โทร.มาง้อนี่...เพราะไม่เห็นว่าฉันมีความสำคัญใช่ ไหม"


อ้าว...
ก็เธอบอกเองนี่นาว่าไม่ต้องโทร.ไป ตกลงผมผิดอีกแล้วเหรอเนี่ย

มี
อย่างที่ไหน... ตะโกนออกมาว่า "ฉันเกลียดคุณ"
ผมเสียใจนะครับ...เพราะผมรักเธอมาก แต่ถ้าเธอเกลียดจริง ๆ
แล้วผมจะทำอย่างไรล่ะ ก็เลยทำได้แต่ยอมรับความจริง ค่อย ๆ
เดินห่างออกมาจากเธอช้า ๆ คิดในใจว่าถ้าเลิกกัน
แล้วจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ก็คงต้องเ ลิก...
แต่เธอกลับตะโกนไล่หลังผมมาอีกว่า "คนบ้า! จะเลิกกันจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย!"

อ้าว...
ก็เธอเพิ่งพูดว่าเกลียดผมไม่ใช่ เหรอครับ เกลียด...ก็แปลว่าอยากเลิก
ถ้าไม่อยากเลิก ก็น่าจะพูดกันดีดี จะโกรธที่ผมเหล่สาวอื่นก็ได้
จะทุบตีผมก็ได้ แต่...น่าจะฟังและยอมรับคำขอโทษจากผมบ้าง
ผมไม่ได้อยากเลิกกับเธอหรอกครับ...เพราะผมรักเธอ
แต่สำหรับผู้ชายอย่างผม...ผมไม่ชอบฝืนใจใคร แล้ว...ตกลงเธอจะเอายังไงเนี่ย


มีอย่างที่ไหน... เมื่อวานเราไปดูหนังด้วยกัน
ผมอยากดูหนังแอ็คชั่น แต่เธออยากดูหนังโรแมนติก ผมให้เธอเป็นคนเลือก
ทำใจไว้แล้วว่ายังไงก็คงต้องดูเรื่องที่เธออยากดู
แต่เธอกลับพูดเสียงอ่อยว่า "ดูเรื่องของเธอก็ได้ เธออยากดูนี่นา"
ผมเลยเดินไปซื้อตั๋วด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะกลับมาเห็นเธอยืนหน้าหงิก
แล้วบอกกับผมด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดว่า "คุณไม่เคยเข้าใจฉันเลย"


อ้าว...
แหง ล่ะครับ... ผมไม่เข้าใจเธอจริง ๆ
ก็เธอบอกเองว่าดูเรื่องที่ผมอยากดูก็ได้...
แล้วทำไมต้องเดินหนีผมไปอย่างนั้นล่ะให้ตายเถอะครับ. ..เธอเข้าใจการใช้ภาษา
ไทยในการสื่อสารผิดไปหรือเปล่าเนี่ย

ผมรักแฟนผมมากครับ...
เวลาเกือบ 3 ปี ที่เราคบกันมามันอาจจะไม่นานมาก
แต่สำหรับผม...มันทำให้ผมได้เรียนรู้ความจริงที่ว่า
การมีเธออยู่เป็นเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองได้ รู้จักคำว่า "ความสุข"
ทั้ง ๆ ที่เธอก็ทำให้ผมปวดหัวไม่รู้ต่อกี่รอบ กับอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

กลาง
วันยิ้มน่ารักอยู่ดี ๆ ตอนเย็นกลับออกท่าทางขัดใจไม่มีเหตุผลซะงั้น
ถ้าเธอพูดว่า "ไม่" มันต้องหมายความว่า "ใช่" ทุกที
(ซึ่งผมก็จะมารู้เอาทีหลัง แหงล่ะ...
ใครจะคิดว่าพจนานุกรมฉบับผู้หญิงมันมีความหมายแปลออก มาตรงข้ามกับคำพูดที่
เปล่งออกมาล่ะครับ)


แปลกใช่ไหมครับ
แปลกที่ทำไมเธอต้องปากไม่ตรงกับใจ แล้วแบบนี้เราจะเข้าใจกันได้ยังไง
ก็มนุษย์ผู้ชายไม่ชอบอะไรอ้อมค้อมนี่นา ให้ตายเถอะ... ผมรักเธอ นะครับ


แต่...
แต่แม้ผมจะไม่ค่อยเข้าใจ (จริง ๆ) ในการสื่อสารของมนุษย์ผู้หญิง

แต่...
แต่วันนี้ผมจะไปง้อเธอที่บ้าน

อ้าว...ก็บอกแล้วไง
ครับ... ว่าผมรักเธอมาก... มากจริง ๆ










ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
หนังสือ : Love
Series ชุด "ความรู้สึกของผู้ชาย"
เขียนโดย : พิชญุตม์









Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 10:06:14 น.
Counter : 361 Pageviews.  

ก็ฉันสวยเลือกได้


















































สวยเลือกได้

ใคร ๆ ก็ว่าฉันนั้นสวยเลือกได้ ... เบือกหนุ่ม ๆ
นับร้อยพันที่มาจีบตัวเองได้ และเลือกหนุ่ม ๆ ที่ตัวเองไม่ชอบทิ้งได้
เหมือนเด็ดใบกระเพราอย่างไรอย่างนั้น เพราะฉันนั้นสวยเลือกได้อย่างไรล่ะ...


ตอนฉันอายุยี่สิบสองปี
ผู้เคราะห์ร้ายที่ 1 :  นายสาธิต อาชีพข้าราชการ
วิธีการเข้ามาจีบ
:   ขอเบอร์โทรศัพท์ โทรมาชวนไปเที่ยวโน่นนี่

ผลลัพธ์ : ฉันไม่สนใจที่จะไปด้วย ปฏิเสธไปแล้ว
สาเหตุ
:   นายสาธิตไม่ร่วย

   ... ก็ฉันสวยเลือกได้นี่ ...


ตอนฉันอายุยี่สิบ
สามปี

ผู้เคราะห์ร้ายที่ 2 :  นายสมเจตน์  อาชีพพ่อค้า

วิธีการเข้ามาจีบ :   เสนอตัวพาครอบครัวฉันไปเที่ยวทะเล

ผลลัพธ์ :  ฉันคิดอยู่หนึ่งชั่วโมง และปฏิเสธไป
สาเหตุ
:    นายสมเจตน์รวย แต่ไม่หล่อ อ้วน หัวล้าน 
    ...
ก็ฉันสวยเลือกได้นี่ ...


ตอนฉันอายุยี่สิบสี่ปี
ผู้เคราะห์ร้ายที่ 3 :  นายวินัย  อาชีพอาจารย์มหาวิทยาลัย
วิธี
การเข้ามาจีบ :   เอาตำราวิชาการที่เขาเขียนเองมาฝาก
แต่ฉันอ่านไม่รู้เรื่อง

ผลลัพธ์
: ฉันเอาหนังสือไปชั่งกิโลขาย เอาเงินมาซื้ออาหารให้แมวกิน
สาเหตุ
:   นายวินัยรวย หล่อ แต่ดูเหมือนคนขี้โรค สติเฟื่องเกินไป
...
ก็ฉันสวยเลือกได้นี่ ...


ตอนฉันอายุยี่สิบ
ห้าปี

ผู้เคราะห์ร้ายที่ 4 :  นายวัฒนา
อาชีพนักกีฬาทีมชาติ
วิธีการเข้ามาจีบ :  
เสนอตัวพาครอบครัวฉันไปดูเขาแข่งโอลิมปิกที่จีน

ผลลัพธ์ : ฉันคิดอยู่สองคืนและปฏิเสธ
สาเหตุ : 
นายวัฒนารวย หล่อ แข็งแรง แต่ดูไม่อบอุ่นเลย
...
ก็ฉันสวยเลือกได้นี่ ...


ตอนฉันอายุยี่สิบหกปี
ผู้เคราะห์ร้ายที่ 5 :  นายชูชาติ อาชีพนักดนตรี
วิธีการเข้ามาจีบ
:   แต่งเพลงรักให้ฉันและร้องให้ฉันฟังในคืนพระจันทร์เต็มดวง

ผลลัพธ์ : ฉันฟังเพลงจบแล้วหัวเราะน้ำตาร่วง
โบกมือไล่เขากลับไป
สาเหตุ :  นายชูชาติรวย หล่อ แข็งแรง
ดูเป็นคนอบอุ่น แต่ไม่เร้าใจ
   ...
ก็ฉันสวยเลือกได้นี่ ...
























ตอนฉันอายุยี่สิบเจ็ดปี
ผู้
เคราะห์ร้ายที่ 6 :  นายอารยะ อาชีพนักแข่งรถมอเตอร์ไซด์
วิธีการเข้ามา
จีบ :   พาฉันซ้อนมอเตอร์ไซด์ซิ่งไปบนถนนร่วมกับฝูงเด็กแว้น

ผลลัพธ์ :ฉัน...ก็สนุกดีนะ แต่ไม่เอาดีกว่า
สาเหตุ
: นายอารยะรวย หล่อ แข็งแรง ดูเป็นคนอบอุ่น เร้าใจ แต่ดูไม่เป็นผู้ใหญ่

... ก็ฉันสวยเลือกได้นี่ ...



ตอนฉันอายุ
ยี่สิบแปดปี

ผู้เคราะห์ร้ายที่ 7 :  นายอุดม อาชีพทหาร

วิธีการเข้ามาจีบ :   สอนฉันขี่ม้าและขับรถจิ๊ปในค่ายทหาร

ผลลัพธ์ : มันไม่ใช่นะกิ๊บ...
สาเหตุ :  นายอุดมรวย
หล่อ แข็งแรง ดูเป็นคนอบอุ่น เร้าใจ เป็นผู้ใหญ่ แต่น่ากลัวเกินไป

 
... ก็ฉันสวยเลือกได้นี่ ...



ตอนฉันอายุ
ยี่สิบเก้าปี

ผู้เคราะห์ร้ายที่ 8 :  นายศักดิ์ชาย
อาชีพดารานักแสดง
วิธีการเข้ามาจีบ :  
พาฉันไปนั่งดูเขาแสดงละครในกองถ่ายฯ
และพาฉันไปยืนให้ปาปารัชซี่ถ่ายภาพเป็นเวลาสิบนาที
เพื่อให้ข่าวของเรากระฉ่อนไปทั้งเมือง

ผลลัพธ์
: ฉันตบหน้าเขาและวิ่งหนีจากมาเมื่อรู้ความจริง
สาเหตุ
:  นายศักดิ์ชายรวย หล่อ แข็งแรง ดูเป็นคนอบอุ่น เร้าใจ เป็นผู้ใหญ่
ไม่น่ากลัว แต่เป็นเกย์...ต้องการควงฉันเพียงเพื่อกลบข่าว
...
ไม่เป็นไร ฉันสวยเลือกได้นี่ ...



ตอนฉันอายุสาม
สิบปี

ผู้เค! ราะห์ร้ายที่ 9 :  นายสถิตย์
อาชีพหมอดูชื่อดัง
วิธีการเข้ามาจีบ :  
ดึงมือฉันไปดูและทำนายทายทักโชคชะตาเนื้อคู่ว่าน่าจะทำอาชีพหมอดูแน่ ๆ
(เชยมาก ๆ)

ผลลัพธ์
: ฉันให้แห้วกระป๋องเขาไป
สาเหตุ :  ก็ดีหรอก...นายสถิตย์รวย หล่อ
แข็งแรง ดูเป็นคนอบอุ่น เร้าใจ เป็นผู้ใหญ่ ไม่น่ากลัว ไม่เป็น
เกย์ แต่ดูเจ้าชู้
... ไม่เป็นไร
ฉันสวยเลือกได้นี่ ...



ตอนฉันอายุสามสิบเอ็ดปี
ผู้เคราะห์ร้ายที่ 10 :  นายวิชชุ อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน
วิธี
การเข้ามาจีบ :   ซื้อดอกไม้มาฝาก เข้าหาทางพ่อแม่ฉัน ส่งการ์ดข้อความหวาน ๆ
มาให้ชวนฉันไปทานข้าวเย็นในโรงแรมสุดหรู ฯลฯ

ผลลัพธ์ : ฉันคิดหนัก แล้วปฏิเสธไป
สาเหตุ
:  นายวิชชุรวย หล่อ แข็งแรง ดูเป็นคนอบอุ่น เร้า! ใจ เป็นผู้ใหญ่
ไม่น่ากลัว ไม่เป็นเกย์ ไม่เจ้าชู้ แต่ไม่มีอารมณ์ขัน
...
ก็คงไม่เป็นไรมั้ง ฉันสวยเลือกได้นี่ ...


ตอนฉันอายุสามสิบ
สองปี
ผู้เคราะห์ร้ายที่ 11 :  นายอนันต์  อาชีพนักบิน

วิธีการเข้ามาจีบ :    พาฉันนั่งเครื่องบินฟรีไปบาหลี
พร้อมเลี้ยงอาหารทะเลใต้แสงเทียน สุดโรแมนติกริมชายหาดแปซิฟิกตอนใต้

ผลลัพธ์ : ฉันนอนก่ายหน้าฝาก คิดหลายคืนแล้วปฏิเสธ
(อีกแล้ว)
สาเหตุ :  นายอนันต์หล่อ รวย แข็งแรง ดูเป็นคนอบอุ่น เร้าใจ
เป็นผู้ใหญ่ ไม่น่ากลัว ไม่เป็นเกย์ ไม่เจ้าชู้ มีอารมณ์ขัน
แต่ฉันอยากได้ทั้งหมดที่ว่ามามากกว่านี้ โดยเฉพาะความรวย

 
... เอ่อ ก็คงไม่เป็นไรมั้ง ฉันสวยเลือกได้นี่ ...



ตอนฉันอายุ
สามสิบสามปี

ผู้เคราะห์ร้ายที่ 12 :  นายนพพล &!
nbsp;อาชีพนักการเมือง
วิธีการเข้ามาจีบ :     ชวนฉันไปดูแหวน
ทำทีจะให้คนอื่น แต่เมื่อฉันเลือกแหวนวงที่สวยที่สุด
(และราคาแพงที่สุดหลักหลายแสนบาท) ขึ้นมา เขาก็มอบให้ฉันและ
คุกเข่าขอแต่งงานพร้อมสินสอดยี่สิบล้านบาท
(ไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะนะก่อนเล่นการเมืองจนจะตาย)

ผลลัพธ์ : ฉันเขินมาก ปฏิเสธเขาแล้ววิ่งหนีมา
เหมือนนิยายรักน้ำเน่า
สาเหตุ :    นายนพพลหล่อมาก รวย แข็งแรง
ดูเป็นคนอบอุ่น เร้าใจมาก เป็นผู้ใหญ่ ไม่น่ากลัว ไม่เป็นเกย์ไม่เจ้าชู้
มีอารมณ์ขัน แต่ฉันอยากได้ทั้งหมดที่ว่ามามากกว่านี้อีก โดยเฉพาะความรวย

  ... เอ่อ ก็คงไม่เป็นไรมั้ง ฉันสวยเลือกได้นี่เนอะ ...



ตอนฉันอายุสามสิบสี่ปี
ผู้เคราะห์ร้าย
ที่ 13 :  นายสิน  อาชีพนักธุรกิจ
วิธีการเข้ามาจีบ :    
เขาทำทุกอย่างเท่าที่ผู้ชายที่เคยมาจีบฉันทั้งสิงสองคนก่อนหน้าจะทำให้ได้
รับปากว่าจะยกธุรกิจโรงงานหมูยอร้อยล้านให้เป็นเจ้าของ
เงินทองข้าวของอะไรอยากได้จะทุ่มให้ไม่อั้น

ผลลัพธ์
: ฉันปฏิเสธเขาอย่างสุภาพ แม้ว่าเขาจะอ้อนวอนแทบเป็นแทบตายก็ตาม
สาเหตุ
:  นายสินหล่อมาก ๆ ! รวยมาก ๆ แข็งแรง ดูเป็นคนอบอุ่น เร้าใจมาก
เป็นผู้ใหญ่ ไม่น่ากลัวไม่เป็นเกย์เลย  ไม่เจ้าชู้แน่นอน มีอารมณ์ขัน
แต่ฉันอยากได้ทั้งหมดที่ว่ามามากกว่านี้อีกโดยเฉพาะความรวย
   
... เอ่อ ก็คงไม่เป็นไรมั้ง ฉันสวยเลือกได้นี่ใช่มั๊ย ...



























ตอนฉันอายุสามสิบห้าปี
ผู้เคราะห์ร้ายที่ 14 :  ... ไม่มี ...

ผลลัพธ์ :
 ฉันเริ่มหันซ้ายหันขวาหาคนที่จะเข้ามาหา
(หายไปไหนหมดเนี่ย)
พยายามสืบค้นดูว่าเจ้าสิบสามคนที่เคยมาจีบฉันนั้นไปไหนหมด และพบว่าทุกคน
แต่งงานกันกันไปหมดแล้ว จำได้ว่าเคยได้ยินใครในสิบสามคนนี้แหละบอกฉันว่า
"ผมจะรอคอยคุณตลอดไป" เชอะ คนผีทะเลไม่รักษาคำพูด..
.
สาเหตุ :
   เพื่อนชายคนหนึ่งของฉัน (ที่แต่งงานแล้ว) บอกฉันว่า
"ก็แบบนี้แหละผู้หญิงเลือกมาก จนไม่มีใ! ห้เลือก ส่วนผู้ชายน่ะ
ไม่เลือกอะไรเล้ยนอกจากหน้าตาแล้วก็มาเสียใจทีหลังทั้งคู่ ฮ่าๆๆๆ"

"พูดอะไรของเธอ ฉันสวยเลือกได้นะ"
ฉันโมโห "แล้วก็ตอนนี้มีให้เลือกมั๊ยล่ะ ฮ่าๆๆๆ ... ฉันนิ่งอึ้ง
อาจจะจริงของเขา...


ตอนฉันอายุสามสิบหกปี
ผู้เคราะห์ร้าย
ที่ 14 :  ... ก็ยังไม่มี ... โลกบัดสี อเวจีบัดซบ ...
สวยเลือกได้อย่างฉันทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ...




วันหนึ่งฉันไปยืนต่อแถวซื้อขนมเค้กเจ้าที่ดังที่สุดในเมืองไทยมากิน
ระหว่างยืนรอคิวซื้ออยู่หน้าร้าน ฉันก็มองใบหน้าของตัวเองในผนังกระจก
ภาพที่เห็นคือหญิงสาวในวัยใกล้กลางคนผิวพรรณเริ่มร่วงโรยกำลังยืนถือร่มกับ
ข้าวของพะรุงพะรังอยู่
ฉันเห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วยังเผลอวิจารณ์เงานั้นอย่างปากจัดโดยไม่เกรงใจ
ว่าจะเป็นเงาตัวเองสักนิด
ป้าเพิ้งที่ไหนหนอ...ใช่ป้าเพิ้งคนที่เคยสวยงามเปล่งปลั่ง
ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ผิวนวลสวย หุ่นดีอย่างเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วหรือเปล่าหนอ
วันเวลาของคนเรามันผ่านไปไวจริง ๆ...
          
ฉันซื้อขนมเค้กกลับมาบ้าน ราคาแพงโหดร้ายทารุณมาก แต่หน้าเค้ก็สวยน่ากินมาก
ๆ เช่นกัน ตั้งใจว่าจะกินหลังอาหารเย็นวันนั้นเลย แต่ก็ยั้งใจไว้ เค้กสวย ๆ
แบบนี้ไว้กินวันพรุ่งนี้ดีกว่า 

        
จนถึงวันรุ่งถึงฉันก็ยังเสียดายที่จะกินเค้กชิ้นนั้น มันสวยเสีย!
จนฉันไม่กล้ากินเลย ดูเล่นให้ชื่นใจอีกสักวันเถอะน่า
แล้ววันที่สามเมื่อฉันอยากจะกินเต็มที่ มองไปที่เค้กแสนสวยอีกทีก็ต้องตกใจ
โกรธและเศร้าใจ เพราะเค้กแสนสวยก้อนนั้นขึ้นราเสียแล้ว ...

         
ฉันนั่งมองเค้กก้อนนั้นแล้วถอนหายใจ
นิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วก็รู้สึกว่าชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองก็คงเหมือนกับ
เค้กก้อนนี้ มัวแต่กังวลในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยมาจนไม่อาจทำอะไรได้อีก จะเคยสวยเคยสง่าแค่ไหน
เมื่อเวลามาถึงช่วงหนึ่ง มันก็ไม่มีความหมายเสียแล้ว
น่าแปลก
บางทีมนุษย์ผู้มีมันสมองเป็นเลิศก็ยังต้องใช้ขนมเค้กที่ไร้ชีวิตมาสอนใจ...
แต่ก็ดี เพราะฉันตัดสินใจได้แล้ว



ตอนฉันอายุสามสิบแปดปี
ผู้โชคดีรายที่ 1 : นายสมหวัง อาชีพครูโรงเรียนประถม
วิธีการเข้า
มาย :  ง่ายจนคาดไม่ถึง เขาเดินเข้ามาบอกว่ารักฉัน
แต่ต้องเจียมตัวเพราะไม่มีอะไรเลยขอแค่ได้บอกรักฉันสักครั้งก็ดีใจแล้ว

จากสายตาของฉัน : นายสมหวังไม่หล่อ ไม่รวย ไม่แข็งแรง ดูไม่อบอุ่นเร้าใจ
เป็นผู้ใหญ่พอประมาณ น่ากลัวบางครั้ง แต่ก็ไม่เป็นเกย์ ไม่เจ้าชู้
มีอารมณ์ขันนิดหน่อย หนี้สินอีกพอควร หากเทียบกับชายหนุ่ม สิบสามคน
ที่ผ่านมาแล้วคงเรียกได้ว่านายสมหวังนั้นสู้ไม่ได้เลยสักนิด
แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันประทับใจ  ในตัวเขาก็คือเขารักฉันจริง ๆ เขาดูแลฉันได้
เป็นที่พึ่งฝากผีฝากไข้ได้

ผลลัพธ์
:ฉันแต่งงานกับนายสมหวังและมีลูกสองคน เราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวเล็ก ๆ
ที่มีความสุข ในบ้านพักครูหลังโรงเรียน
ตอนนี้เราสองคนเก็บเงินไปซื้อบ้านหลังใหม่ถาวรชานเมืองกันอยู่
อาจจะต้องกู้เงินธนาคารและผ่อนหลายสิบปีเพราะเราไม่มีเงินสดมากมายนัก
แต่เราก็ดีใจที่จะได้มีบ้านเป็นของตัวเอง

ทุกวันนี้ฉันมองนายสมหวัง
ด้วยความภูมิใจที่เขาขยันขันแข็งและดีต่อฉัน ไม่
ต้องหล่อ ต้องรวย หรือมีบุคคลิกน่าตื่นเต้นหลงใหลอะไรหรอก
แค่รักฉันอย่างจริงใจก็พอแล้ว...พอแล้วจริง ๆ
เพราะ
ที่สุดแล้ว...ลูกผู้หญิงอย่างฉันก็ต้องการแค่นี้แหละ



(ปล.
ในที่สุดฉันก็เลือกได้ เห็นมั๊ยล่ะว่าฉันสวยเลือกได้จริง ๆ..)










Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 9:49:01 น.
Counter : 418 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.