ลูกทุกคนต้องอ่านก่อนจะสาย

ผมก็เป็นอีกคนที่เหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไป
เรียน เที่ยว นอน กิน  . . . ดึกๆ
ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม

ทั้ง
หมดเหล่านี้
มันก็เป็นกิจวัตรประจำ
วันของผม


และ
ผมก็เชื่อว่าวัยรุ่นสมัยนี้เค้าก็ทำแบบนี้กัน (ความเข้าใจของผมนะ)

'
จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง'
'กินกับอะไรบ้าง
แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย'

'รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย
เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง'

'ตัวเองวางก่อนดิ
ก่อนดิ'

นี่คือประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิด
และคัดสรรเตรียมพร้อมมา
ต่างๆ ก่อนโทรหาแฟน


ใน
ตอนดึกของทุกๆ
วัน  . . .  
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่
ในการคุยโทรศัพท์

แต่
ผมกลับรู้สึกว่า ระยะเวลาที่ผมใช้ไปนั้นไม่นานเลย

แต่  . . . พอรู้สึกอีกที
มันกลับผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว


ผมก็ไม่ชอบนะ   . . . หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นเหรอคนส่วนใหญ่
เค้าก็ทำกัน
^-^ 
ใคร
ไม่ทำก็เชยเป็นบ้าแล้ว
 
. . .  

เอ้อ . . .เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างหนึ่งของผมก็คือ
แม่ของผมมักชอบโทรหาผม
ทุกวัน


'
ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง'
'เย็นนี้กินข้าวอิ่ม
มั้ย'

'วันนี้เรียนเป็นยังไง
บ้าง'

'อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกล
นะ'


โธ่! คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที
ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ

โชค
ดี
  . . . ที่ผมพยายามตัดบทคุย
ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่
นาทีก็วางแล้ว

ก็
มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง


จนกระทั่งวันนั้น  . . .
'
ตัวเองตอบเค้าได้รึยัง
ว่ารักเค้ามั้ย'

'เร็วๆ สิ
เค้ายังอุตส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ'

'แล้วยังจะใจร้าย
ไม่บอกรักเค้าอีกเหรอ'

ติ๊ดๆ
ติ๊ดๆ
เสียงจากโทรศัพท์บอกผม
ว่ามีสายซ้อน


ผม
มองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า
'Home'
'โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้
เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย'

ผมไม่สลับสาย  . . .  ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่า สิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็
คงเป็นประโยคเดิมๆ

และ
นั่นเป็นการตัดสินใจ
  .
. .
ที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของผม

หลังจากนั้นไม่นาน . . .
ทางญาติของผมโทรมาแจ้งผม
ว่า . .
 . 
เมื่อ
คืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน

และได้ต่อสู้กับโจร
จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง

แม่เสียชีวิต เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ญาติของผมเล่าอีกว่า . .
.
ตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์
ไว้แน่น

และเบอร์โทรออกล่าสุด
ของเธอ ไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ

หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหาผม

สิ่งสุดท้ายในชีวิต ที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ
. . .

โทรศัพท์หาผมเพื่อฟัง
เสียงของผม

วินาที
นั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม

ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น

วันนั้น . . .
ผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม
ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม
ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต
ผู้หญิงคนเดียวที่ผม
สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา

โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ
ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่

ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ

คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่
ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ

คนเดียวในโลกที่ไม่ว่า โทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่น
แพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม

และคนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมใน
วินาทีสุดท้ายในชีวิต


ใน
บางครั้งประโยคที่ว่า
'ไม่มีคำว่าสาย
หากเราคิดที่จะแก้ตัว'

มัน
ก็ไม่เป็นความจริง
'เพราะบางปรากฏการณ์ใน
โลก
เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม
หลังจากนั้นไม่นาน
แฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ
ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป

วันนี้ผมเริ่มเข้าใจ
ชีวิตมากขึ้น

หลายๆ
อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป

เพราะตัวเราเท่านั้นที่
เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง

'
เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ
ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป'

ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ
ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง

แต่ . . . ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มี
อีกแล้ว


'
ในเมื่อเรามีความรัก
อันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว

แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร'





Free TextEditor







































































































Create Date : 27 เมษายน 2553
Last Update : 27 เมษายน 2553 11:52:51 น. 2 comments
Counter : 296 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:12:09:35 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 28 เมษายน 2553 เวลา:16:20:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.