|
...คน 2 คน ตัดสินใจคบกัน แต่ไม่รู้ว่าตกลงเค้าอยากเป็น "แฟน" หรือเป็น "ชู้" หรือนี่? หรือ แค่ว่า่่ขออุบอิบเป็นชู้ทางใจก็พอ แต่อย่าได้คิดเป็นชู้ทางกายด้วยเลย ซึ่งกรณีเนี้ยดูออกยากกว่ากัน เพราะทั้งสองประการ (แฟนหรือ ชู้ทางใจ) นั้นกํ้ากึ่งกันเหลือเกิน วันนี้ขอแจกแจงให้ฟังละกัน หากอยากรู้ว่า คนที่ตัวเองคบอยู่นั้น เค้าคิดอยากเป็น "แฟน" หรือเป็น "ชู้ทางใจ" กับคุณกันแน่? เอ้า เริ่มสังเกตกันดังต่อไปนี้ได้เลย เพราะ สัญญาณต่อไปนี้แสดงว่า "เค้าอยากเป็นแฟนกับคุณ" ถ้าเค้า...
|
|
1. พูดให้ฟังว่าคุณกับเพื่อนสนิทหรือพี่น้องของเค้ามีบางสิ่งเหมือนกัน เช่น หัวเราะเหมือนม้าดีดกะโหลกงี้ อิอิ...พูดเล่นน่า ห้ามตกใจ เอาเป็นว่าเหมือนกันในเรื่องของนิสัยใจคอ, รักสนุกและชอบไปร้องเพลงคาราโอเกะละกัน ดังนั้น เค้าจึงคิดว่า คุณกับคนเหล่านี้คงสนิทกันได้ไม่ยาก
|
|
2. เค้าชอบหารือถึงแผนการในอนาคต แถม ยังสนใจในสิ่งที่คุณมีเป้าหมายอยู่ในใจด้วยใช่มะ...นั่นแน่ หวังลงหลักปักฐานด้วยกันก็บอกมาเหอะ น่าส่งเสริมนะ ไม่ใช่น่าหมั่นไส้
|
|
3. เค้าไม่ลังเลที่จะแนะนำคุณเมื่อเผอิญเจอคนที่เค้ารู้จัก อู้ หู หยั่งงี้ นอกจากจะแสดงว่าเค้าจริงใจกับคุณแล้ว เค้ายังภูมิใจในตัวคุณด้วยน่ะซี
|
|
4. เล่าให้ฟังอย่างตรงไปตรงมาว่า ทำไมรักครั้งก่อนของเค้าจึงกลายเป็นอดีต และพยายามเรียนรู้ ความผิดพลาดคราวนั้นเพื่อทำให้รักครั้งต่อไป ไม่ล้มเหลวเหมือนคราวที่แล้วไงเล่า (จริงอะ)
|
|
5. แสดงความสนใจในตัวคุณ ด้วยการถามเรื่องแฟนเก่า มาแนวไหนวะเนี่ย เช่น ถามว่าแฟนเก่าของคุณมีจุดเด่นอะไร ทำไมถึงชอบ แล้วสิ่งที่ไม่ชอบในตัวแฟนเก่าล่ะ มีอะไรมั่ง? คงอยากเก็บข้อมูลไปปรับตัวกลับใจ ให้เป็นที่ชื่นชอบของคุณแหงๆ มองในทางบวกเข้าไว้แล้วใจจะเบิกบาน
|
|
6. แนะนำให้คุณดูหนังโรแมนติกหรือหนังผี ฮ้า! สงสัยหนังภูตผีปิศาจช่วยทำให้คนเราหันมาเลิฟกันได้มั้ง หรือไม่งั้นถ้าดูด้วยกันจะได้หาเรื่องซบกันซะเลย ว้าว!
|
|
7. ชวนคุณให้มางานที่เค้าสามารถใช้เวลาร่วมกับคุณได้ และไม่เขิน หากใครๆ เกิดเห็นเค้าอยู่กับคุณเข้าพอดี เพราะคิดว่าคุณเป็นพิกเจอร์ เพอร์เฟกต์ คู่รักเหมาะเหม็งของเค้าไง
|
|
8. เค้าอยากจับมือถือแขนคุณ เวลาไปไหนต่อไหนด้วยกัน...บ้างไหม? ถ้าใช่ แสดงว่าเค้าอยากเป็นแฟนแหงๆ ไม่ต้องสงสัยให้เวียนเฮดแล้ว
้
|
|
... พวกเราชอบใช้คำว่า "ชู้ทางใจ" โดย หมายถึง แอบชอบและแอบหลงเสน่ห์ใครสักคนเข้าเท่านั้น ไม่ได้คิดเป็นอื่นมากไปกว่านี้ (เอ๊ะ หรือว่าคิด?) และคงไม่อ้าปากบอกคนนั้นหรอกว่า ฉันมีใจให้นะ แหม...มันเขินจะตาย ดังนั้น หากท่านใดลังเลไม่แน่ใจ ว่าใครคิดกะคุณในทางที่เป็น "ชู้ทางใจ" รึเปล่า? ก็ให้สืบจากพฤติกรรมดังต่อไปนี้ของ “ฝ่ายที่ส่งสายตามาเหล่” ละกัน ว่าเข้าข่ายนี้ไหม...
|
|
1. ชอบมองมาที่คุณบ่อยๆ แบบชอบดูพฤติกรรมน่ารักๆ และน่าใกล้ชิดของคุณไหม? ถ้าคำตอบคือ ใช่ นั่นแหละก็ใช่แล้ว แต่เค้าคงไม่กล้าเข้าไปจีบตรงๆ หรอก กลัวเขินแล้วทำอะไรเพี้ยนๆ ออกมาน่ะสิ หรือไม่งั้นอาจเพราะเค้ามีแฟนแล้วก็ได้ จึงขออยู่ห่างๆ เข้าไว้ หยั่งงี้แม้เป็นชู้ก็ไม่น่าเกลียด เพราะไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้คุณนี่นา
|
|
2. เวลาคุยกันเค้ามักคุยเรื่องกว้างๆ ให้ฟัง เช่น เค้ามีงานอดิเรกอะไร, ไปออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่ไหน, ชอบกีฬาอะไรเป็นพิเศษ และอยากรู้เรื่องของคุณด้วย เพราะเค้าสนคุณนี่จ๊ะ ถ้าเผื่อชอบอะไรคล้ายกัน จะได้ชวนไปทำกิจกรรมนั้นด้วยกันซะเลย โถ...อุตส่าห์ใช้ยาสีฟันใกล้ชิดแล้วก็ต้องลองอยู่ใกล้กันมั่งดิ แต่ขอร้องอย่าชวนแฟนคุณมาด้วยละกัน มันแสลงใจน่ะซีถามได้
|
|
3. เค้าเคยบอกคุณไหมว่า เวลาทำงานของเค้าไม่แน่ไม่นอน หรือไม่เป็นอันหลับอันนอน หาก ไม่ได้เจอคุณซึ่งเป็นชู้ทางใจของเค้าก็บ่ฮู้? จึงอยากคุยกันทางโทรศัพท์มากกว่า เพราะหากต่างฝ่ายต่างมีแฟนแล้ว ถ้าแค่คุยกันทางโทรศัพท์ก็ไม่ถือว่านอกใจแฟน (จนเว่อร์ไป) น่ะสิ แต่ขืนให้คุณมาเจอเค้าสิ ไม่แน่น้า อะไรต่อมิอะไรอาจสะปร๊ากเลยเถิดขึ้นมาก็ได้ งั้นใช้เครื่องมือสื่อสารน่ะดีแล้ว ไม่ต้องเห็นหน้า เดี๋ยวยิ่งพาหวั่นไหว...โอ้โห ฟังลิเกดีจัง
|
|
4. บางทีเค้าอาจมีรูปของคุณตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน หรือ ดีไม่ดี รูปอาจอยู่ในกระเป๋าสตางค์ เค้าก็ได้ โอ้โห แอบมีใจให้ลึกซึ้งแฮะ
|
|
สุดท้าย... ใจนึงเค้าก็อยากอยู่กะ คุณสองต่อสองหรอกนะ แต่อีกใจกลับบอกตัวเองว่าอย่าดีกว่า, ลืมเสียดีกว่า
เพราะพอใจที่จะแอบชอบโดยไม่แสดงออกมากเกินไปน่ะสิคะ
ขอบคุณที่มา:นิตยสารผู้หญิง
|
|
|