จะอยู่อย่างไร ... เมื่อ " ถูกผู้ชายหักอก "













































มีคนเคยบอกว่า " อกหัก
ดีกว่ารักไม่เป็น "
สมัยก่อนอาจจะใช่ แต่สมัยนี้เห็นทียอมรักไม่เป็น
ดีกว่าอกหัก เพราะอกหักทีไรหัวใจแทบสลายทุกที

ที่
ผ่านมาแอบเห็นน้ำตาของสาวๆ ซึ่งถูกหักอกมานักต่อนักแล้ว
และเพราะความอยากรู้ว่าเหตุผลใด เป็นเหตุผลสุดฮิตที่ทำให้สาวๆ เสียอกเสียใจ
และลืมผู้ชายอันเป็นที่รักไม่ได้เสียที ...

จากการตระเวนสอบถาม
สาวๆ หน้าใสที่เดินขวักไขว่ไปมาตามท้องถนน ปรากฏว่า มีหลายสาเหตุด้วยกัน
แต่ที่เข้าวินมาเป็นอันดับแรก

เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นคน
แรก


ผู้หญิงยุคนี้ยังให้ความสำคัญกับผู้ชายที่เป็นคนแรก
ไม่ว่าจะเป็นแฟนคนแรก พาคนรัก ไปรู้จักกับพ่อ แม่เป็นคนแรก
และที่สำคัญสำหรับสาวๆ ยุคนี้แม้จะเป็นยุคไร้พรหมจรรย์ แต่สาวๆ
ส่วนใหญ่ก็ยังให้ความสำคัญกับผู้ชายคนแรก ที่เธอยอมเสียพรหมจรรย์ให้
ดังนั้น เวลาถูกผู้ชายซึ่งเป็นคนแรกของชีวิตหักอก
มันจึงเป็นความเจ็บปวดอย่างที่สุด

ความผูกพัน

ความ
ผูกพัน เพราะในช่วงเวลาที่หญิงชาย ซึ่งตัดสินใจคบหากัน
ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทั้งคู่ จะอยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา ดังนั้น
จึงเกิดความผูกพัน ทั้งในแง่ของความสุข ไปกินข้าวด้วยกัน
ซื้อสุนัขมาเลี้ยงด้วยกัน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นความผูกพันทั้งสิ้น
หรือแม้แต่ความทุกข์ที่เกิดจากการทะเลาะกัน
มันก็ถือเป็นความผูกพันอย่างหนึ่งด้วย อีกฝ่ายหนึ่งโมโห
อีกฝ่ายหนึ่งเข้ามาปลอบประโลม ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้เรียนรู้ซึ่งกัน และกัน
แล้วก็ยากที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเฉพาะฝ่าย
ที่กำลังจะถูกทิ้งนั้นจะที่ตัดใจลง

ยิ่งเพียงเหลือบไปเห็นของขวัญ
รูปพกในกระเป๋าก็ยิ่งตอกย้ำ ความคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
นอกจากสิ่งของแล้ว " สถานที่ " ก็เป็นส่วนสำคัญ
โดยเฉพาะเป็นที่ที่เคยทำกิจกรรมบ่อยๆ อย่างโรงภาพยนตร์ สวนสาธารณะ
หรือบ้านก็ตาม พอไปยืนมุมที่เคยจูงมือ โอบไหล่ หัวเราะต่อกระซิก
ยิ่งทำให้ช้ำใจ

เขาเป็นเพื่อนมาก่อน

ตอน
เป็นเพื่อนก็สนิทกันมาก พอเป็นแฟนกันก็ยิ่งมีความสนิทสนม แนบแน่นเข้าไปใหญ่
เมื่อเลิกกัน แต่ถ้ายังเจอกัน เพราะเรียนที่เดียวกันหรือทำงาน
ที่เดียวกันยิ่งทำให้ยากที่จะลืม

เพราะยังไม่มีคนใหม่


ข้อนี้แหละ
ที่สาวๆ หลายคนบอกตรงกันว่า เพราะฉันยังไม่มีคนใหม่ ฉันจึงเจ็บปวด
แต่ถ้ามีคนใหม่เมื่อไร ปัญหาถูกหักอกคงทุเลาไปได้เยอะ เพราะคนใหม่ (
ที่เข้าที ) จัดเป็นยาชั้นเยี่ยมยิ่งกว่าหมอไหนๆ เลยทีเดียว

ผู้มี
ประสบการณ์ด้านอกหัก อย่าง " ยิ้ม " วลัยพร ลาภทวี สาวสวยวัย 24 ปี
แจงเหตุผลที่เธอลืมยากว่า เธอเพิ่งเคยมีแฟน พอมีแฟนมันเป็นความภูมิใจเล็กๆ
ของผู้หญิง เวลาเขาทำอะไรก็ดีไปหมด ช่วงเวลาที่คบกัน
มันจึงเป็นเวลาที่มีความสุข แต่พอเลิกกันมันยากที่จะลืม

สาวหน้าใส
วัย 24 ปี " แพร์ " หรรษา แก้วชิงดวง บอกเหตุผลว่า ที่ลืมไม่ได้
เพราะผู้หญิงมักทำใจยอมรับไม่ได้ที่โดนทิ้ง ทำให้ย้อนถามตัวเองว่า
เราทำอะไรผิดหรือเปล่า เขาถึงทิ้งเราไป ผู้หญิงเป็นคนชอบคิดมาก
เมื่อหาคำตอบไม่ได้ ความคิดก็ยังวนเวียนอยู่ ทำให้ตัดใจไม่ได้สักที

ถึง
จะมีล้านเหตุผลที่ทำให้ " ลืม " ยาก แต่อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงไว้
เมื่อผิดหวังในความรัก ขอให้รักตัวเองให้มากๆ รวมทั้งทำอะไรขอให้มีสติ
ไตร่ตรองให้รอบคอบ และอยู่กับเพื่อน อยู่กับครอบครัว
แล้วจะรู้ว่ายังมีคนที่ยังรักเราอยู่











ผู้หญิง
นะค่ะ.คอม








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 17:20:02 น.
Counter : 560 Pageviews.  

9 วิธี เป็นคนเจ้าเสน่ห์ที่มีความสุข
















































              หลายคนอาจมั่นใจในตัวเองว่าเป็นคนมีเสน่ห์
และถูกแวดล้อมด้วยคนรอบข้างตลอดเวลา
แต่แน่ใจหรือว่าคุณเป็นคนเจ้าเสน่ห์ที่มีความสุขในชีวิตจริงๆ
ไม่ใช่แค่คนมารุมล้อมคุณเพราะการที่คุณลงทุนทุ่มเงินหรือสิ่งตอบแทนให้เขา
เหล่านั้น "หนังสือ 104 วิธีสู่การเป็นคนน่ารัก"
ได้ให้แง่คิดการมีชีวิตแบบเป็นสุข
จนอดหยิบยกมานำเสนอให้กับสาวเจ้าเสน่ห์ที่อยากมีความสุขที่แท้จริงไม่ได้ว่า
จริงๆ แล้ว การหันมามองตัวเองเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเองมากที่สุด


1.
สร้างเป้าหมายให้กับชีวิต
ดัชนี
ที่สามารถใช้ชี้วัดความกระตือรือร้นและพลังชีวิตของแต่ละคนคือความสามารถใน
การสร้างเป้าหมายในชีวิต ลองถามตัวเองให้แน่ในเกี่ยวกับเป้าหมายระดับต่างๆ
ที่ตั้งไว้ เพราะสิ่งนั้นควรจะเป็นเรื่องที่เราต้องการจริงๆ
มีเวลาและพลังงานมากพอ รวมทั้งคุ้มค่าต่อความพยายามที่แลกไป
เป้าหมายในระดับสูงน่าจะเป็นสิ่งสะท้อนถึงคุณค่าที่เรายึดถือในชีวิตอย่าง
แท้จริง เพื่อที่ว่าจะได้เกิดแรงผลักดันในการไปให้ถึง

2.
กำหนดแต่ละก้าวสู่จุดหมายให้ชัดเจน

แต่ละก้าวที่เรามุ่งไปสู่จุดหมาย เมื่อสิ้นสุดภารกิจแต่ละขึ้นตอน
สูดหายใจลึกๆ และทบทวนอีกครั้งว่าก้าวต่อไปจะแตกต่างจากเดิมอย่างไร
ด้วยวิธีนี้จะทำให้เรามองเห็นขึ้นต่อไปชัดเจนขึ้น
และมีพลังงานสำรองมากพอที่จะลุยไปข้างหน้า
หากเป้าหมายที่วางไว้เป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิต
ลองปรึกษากับคนที่ประสบความสำเร็จมาก่อน
ใช้คำแนะนำและชัยชนะของพวกเขามาเป็นแรงกระตุ้นที่มีประโยชน์สำหรับเรา
แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

3.
รักษาทัศนคติในแง่บวกและความกระตือรือร้นเอาไว้ให้ดี

กฎทองที่ควรมีไว้เตือนใจตัวเองเป็น
ประจำคือ พยายามเพ่งมองผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งต่างๆ
ที่เรากำลังทำอยู่ในแง่ดี มากกว่ามองในแง่ลบ
แล้วสิ่งนี้เองที่จะสะท้อนไปถึงสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
ที่คุณจะสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี
ทำให้มีความสุขในการทำงานเพิ่มขึ้น

4.
รู้จักใช้ศิลปะในการวิพากษ์วิจารณ์

อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้พ้นทั้งในชีวิตส่วนตัวและ
ชีวิตการงานคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์
ทั้งที่เราเป็นผู้กระทำและเป็นฝ่ายถูกกระทำ ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็ตาม
ศิลปะในการวิพากษ์วิจารณ์ที่สร้างสรรค์มีกฎง่ายๆ อยู่ไม่กี่ข้อ คือ
มีจุดประสงค์ในการวิจารณ์ที่เสนอทางออกที่เป็นจริง
รวมทั้งให้คำแนะนำที่ดีในการแก้ปัญหา
ในการวิพากษ์วิจารณ์ควรทำเป็นส่วนตัวไม่ใช่ในที่สาธารณะ
และคำนึงถึงความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนต่างๆ ด้วย หากทำได้ตามขั้นตอนเหล่านี้
การวิพากษ์วิจารณ์นั้นๆ จะให้ผลในแง่ดี

5. พูดคำว่า “ไม่” เสียบ้าง
เพื่อลดความเครียดลง

ดู
เหมือนว่าความเครียดส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมาจากการปฏิเสธคน
ไม่เป็น หรือการไม่พูดคำว่า “ไม่” ออกไปชัดเจน
ในบางสถานการณ์โดยเฉพาะในชีวิตการทำงาน
การปฏิเสธในเวลาที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรือทำให้ดูไร้น้ำใจเสมอไป
เพียงแต่ต้องเลือกวิธีการและจังหวะเวลาให้ดี
ปฏิเสธอย่างชัดเจนในกรณีที่ทำไม่ได้จริงๆ พูดสั้นๆ แค่ “ไม่ค่ะ ขอบคุณมาก”
แต่ในบางกรณีอาจปฏิเสธพร้อมเหตุผลสั้นๆ เช่น “ไม่สะดวกค่ะ
ต้องรีบเตรียมรายงานสำหรับวันพรุ่งนี้”
การมีท่าทียิ้มแย้มจะทำให้การปฏิเสธนั้นไม่ดูก้าวร้าว

6.
มองหาศรัทธาในชีวิต

ใน
ชีวิตคนเราจำเป็นต้องมีศรัทธาต่อบางสิ่งอยู่เสมอ
ศรัทธาคือความเชื่อมั่นหรือการให้คุณค่าต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เป็นความหมายและคำอธิบายต่อการได้เกิดมามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ง่ายๆ
อย่างเช่นความศรัทธาที่มีต่อศาสนา
ซึ่งถ้าเราจะยึดถือในเรื่องศาสนาได้อย่างพอดีก็นับเป็นเรื่องดีมาก
เมื่อมีศรัทธาแล้ว ก็หันมายอมรับและพอใจกับตัวเอง
ด้วยการค้นหาความสำเร็จสูงสุดในชีวิตให้เจอแล้ว แล้วมีความพอใจกับมัน
แค่นี้ความพอใจในชีวิตก็จะเกิดขึ้นเอง

7. ดูแลสุขภาพกายใจให้ดีอยู่เสมอ
อย่าหลงลืมเป็นอันขาด
การดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ
เป็นเรื่องพื้นฐานที่เราต้องทำให้เป็นวินัยไปชั่วชีวิต
เพราะเมื่อสุขภาพดีเป็นเบื้องต้นแล้ว
เท่ากับว่าต้อนทุนชีวิตของเรามีตุนอยู่เต็มกระเป๋า
โดยเริ่มด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่ามัวคุมอาหารจนผอมหัวโต
ออกกำลังกายเป็นประจก อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 20 นาที
และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ คุณภาพชีวิตเต็มร้อยแน่นอน

8.
อิ่มใจกับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต

ไม่จำเป็นเสมอไปที่ความอิ่มเอิบใจ จะมาจากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
เพราะมีตัวอย่างหลายต่อหลายเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ
ต่างหากที่จะนำไปสู่ชัยชนะที่สูงที่สุดในชีวิต
ดังนั้นลองหันมาชื่นชมกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำสำเร็จดูบ้าง
หากรู้จักอิ่มใจแล้ว ทีนี้ก็มอบความรักให้กับผู้อื่นด้วยการให้อภัย
และพร้อมที่จะยกโทษให้คนรอบข้างได้เสมอ

9. ฟื้นฟูคุณค่าให้ตัวเอง
ในวันที่แสนท้อแท้

คง
จะมีบ้างในบางวันที่รู้สึกล้มเหลวและเป็นผู้แพ้
แทนที่จะปล่อยให้ตัวเองหมดแรงนอนซม หรือตามใจตัวเองผิดๆ
ด้วยการกินอย่างไม่บันยะบันยัง
ดังนั้นลองหาวิธีง่ายๆในการสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เช่น
ใช้เวลายามเย็นเดินชมสวน โทรคุยกับเพื่อนเก่าที่มีคำพูดดีๆ ให้เราเสมอ

              สุดท้ายพึงระลึกอยู่เสมอว่า
ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่ก้าวย่างอยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้ หากมีปัญหา หรือท้อแท้
หรือแม้แต่กำลังมีความสุข ก็อย่าลืมนึกถึงคนรัก ครอบครัว และเพื่อนๆ
มาอยู่แวดล้อมคุณด้วย
















ขอขอบคุณข้อมูลจาก  pooyingnaka.com









Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 16:59:40 น.
Counter : 336 Pageviews.  

24 แนวคิดเพื่อชีวิต















































24 แนวคิดเพื่อชีวิต

วันนี้มีแนวคิด
ที่อ่านแล้วรู้สึกโดนใจมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน.......ลองไปดูกัน

1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ
เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน
แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง 

2.พระเจ้าอาจจะต้องการให้เราพบคนที่
ไม่ใช่…ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาเราพบคนคนนั้นแล้ว
เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ทานประทานมา 

3.ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่
แม้จะแยกความรู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์ แบบรักใคร่ออกไปแล้ว 

4.สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต
คือการพบคนที่มีความหมาย อย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่า
เราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้นและจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป 

5.เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง
ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น
แต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนาน
จนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูที่เปิดไว้รอเรา 

6.เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่ง
อยู่ ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันสักคำ
แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือน ได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด 

           
7.เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามี
อะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไปแต่ก็จริง
อีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้าง จนกระทั่งสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา 

           
8.การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคน ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ
อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา
แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ให้พอใจว่า
อย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเรา 

           
9.มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมัน
จากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้น
จากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ 

            10.อย่าบอกลา
ถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว
อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถทำใจได้ 

11.ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง
ถึงแม้ว่าจะผิดหวัง และมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง
และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน 

12.การที่เราจะประทับใจใครนั้นใช้เวลา
แค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง
การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน
แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต 

13.อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้
อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน
ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียว
สามารถทำให้วันที่หม่นหมอง กลับสดใส ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ 

14.มีช่วงเวลาในชีวิตที่คุณคิดถึงใคร
สักคน จนกระทั่งอยากดึงเขามาจากความฝัน เพื่อกอดเอาไว้
ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น 

15.ฝัน
ถึงสิ่งที่คุณต้องการฝัน ไป ในที่ที่คุณต้องการไป เป็น
ในสิ่งที่คุณต้องการเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว
และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ 

16.ขอให้คุณมีความสุขมากพอ
ที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอ ที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง
มีความเศร้าโศกพอ ที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอ
ที่จะทำให้คุณเป็นสุข 

            17.เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด
รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน 

           
18.คำพูดที่ไม่ได้ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง
คำพูดที่โหดร้ายอาจทำลายชีวิต คำพูดที่เหมาะกาละเทศะอาจลดความเครียด
คำรักอาจเยียวยาและทำให้มีสุขได้ 

           
19.จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารัก เป็นตัวของตัวเอง
อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่าต้องการเพียงภาพสะท้อน
ของตัวเราที่ปรากฎในตัวเขา 

            20.คนที่มีความสุขที่สุด
ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด
เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก 

21.ความสุขรออยู่เบื้องหน้าผู้ที่มี
น้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่พยายามแล้ว
เพราะมีเพียงพวกเขาเท่านั้น ที่รู้จักคุณค่า
ของผู้คนที่ได้สัมผัสชีวิตพวกเขา 

22.ความรักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม งอกงามด้วยรอยจูบ
และจบลงด้วยคราบน้ำตา 

23.อนาคต
ที่สดใสมีรากฐาน อยู่บนอดีตที่ถูกลืม คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี
ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ 

24.คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบ
ข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม
ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้ 

เป็นยังไงกันบ้างคะ 
โดนใจกันรึเปล่าเอ่ย...














ขอขอบคุณข้อมูลจาก  pooyingnaka.com







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 16:58:09 น.
Counter : 224 Pageviews.  

อาการของสาวๆ ที่ทำให้หนุ่มๆ สติแตก!!













































สาว ๆ หลายคนคงมักจะคิดว่าทำไมแฟนของเราถึงชอบว่าเรา 
และชอบทะเลาะ   วันนี้เลยหาคำตอบมาให้ค่ะว่าสาว ๆ เป็นแบบนี้รึเปล่า  

1. จู้จี้ขี้บ่น
             ผู้ชายอาจพอใจ
เมื่อได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นครั้งคราว
แต่เมื่อการเอาใจใส่ดูแลกลายเป็นจู้จี้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เขาจะรู้สึกเหมือนถูกควบคุมจนหายใจไม่ออก คุณจู้จี้ได้นิดหน่อย
ดูแลเขาได้เล็กน้อย แต่เท่านั้นพอ เมื่อเขาพูดว่า "ผมสบายดี ที่รัก"
ก็ถึงเวลาถอยห่างออกมา ถ้าได้เรียนรู้ว่าเมื่อผู้ชายต้องการความช่วยเหลือ
เขาจะร้องขอเอง

  2.
บุกรุกความเป็นส่วนตัว
             ทุกคนย่อมต้องการโลกส่วนตัว
สถานที่ที่ผู้ชายจะอยู่ลำพัง เขาอาจจะอยากคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องงาน
ความทะเยอทะยาน ความใฝ่ฝัน หรืออะไรทำนองนี้ ถ้าคุณถามเขาว่า
"กำลังคิดอะไร?" เขามักจะตอบว่า "เปล่า" แต่ถ้าคุณรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
ก็อย่ารุกเร้าเขาอีกต่อไป ให้เวลาส่วนตัวกับเขาบ้าง

3. ตอบ "เปล่า" เมื่อเขาถามว่า "เป็นอะไรไป?"
             เมื่อ
ผู้ชายถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
แสดงว่าสัมผัสที่หกซึ่งไม่ค่อยมีอยู่แล้วของเขาบอกว่าคุณมีปัญหาคาใจ
บางครั้งเขารู้ว่าปัญหาคืออะไร แต่บ่อยครั้งที่เขาไม่รู้ การตอบเขาว่า
"เปล่า" ไม่ช่วยอะไรเลย
สิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุดคือตอบเขาอย่างซื่อตรงในครั้งแรกที่เขาถาม
ไม่อย่างนั้นเขาอาจเชื่อคำตอบของคุณและเข้านอนคนเดียวโดยไม่สนใจคุณว่าคุณ
กำลังมีปัญหาจริงๆ

4.
ตัดสินใจไม่ได้

             เขาจะตัดสินใจว่าอยากกินอะไรได้ภาย
ใน 30 วินาที ขณะที่คุณกวาดตามองทั่วทุกเมนู ทีละรายการและพยายามตัดสินใจ
และที่เลวร้ายสำหรับผู้ชายคือการช้อปปิ้งของผู้หญิง
คุณลองเสื้อตัวแล้วตัวเล่าแต่ก็ไม่ตัดสินใจซื้อสักตัว
สำหรับเขาเสื้อผ้าเป็นเพียงเครื่องนุ่งห่ม
อย่าไปทำให้เขาทุกข์ทนกับจิตใจรวนเร พยายามตัดสินใจฉับไวเป็นครั้งคราว

5. ชวนทะเลาะเพื่อจะขอคืนดี
             บาง
ครั้งผู้หญิงหาเรื่องทะเลาะเพียงเพราะจะทำแบบนั้น
ผู้หญิงชอบความสนิทสนมที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ทางอารมณ์ระหว่างคู่รัก
ผู้ชายมองว่าการด่าทอเป็นเรื่องเลวร้าย
พวกเขาไม่ชอบวิธีกระชับความสัมพันธ์แบบนี้ ดังนั้นถ้าคุณจะทะเลาะกับเขา
ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ประโยชน์พอจะทำอย่างนั้น

6. บอกใช่ (แต่หมายถึงไม่)
             ผู้ชาย
ไม่สามารถอ่านใจคุณได้ พวกเขาจะถือเอาคำพูดของคุณตามที่คุณพูดทุกคำ
ไม่หมายถึงไม่ ใช่หมายถึงใช่ บางครั้งเขาสับสนกับการที่ไม่คือใช่
และใช่คือไม่ เขาจึงต้องใช้ความพยายามในการเดาความหมายที่แท้จริงของคุณ
แต่มันน่าหงุดหงิดเมื่อเขาเดาผิดซะครึ่งนึง

  7. โวยวายกล่าวหา
             ควรหัดพูดอย่าง
มีเชิงเมื่อต้องบอกเขาว่าคุณไม่พอใจอะไร เขาทำไม่ได้ดั่งใจคุณทุกครั้งแน่
หากคุณอยากได้ดอกไม้ ลองซื้อดอกไม้ให้เขาแทน
และดูว่าเขาเข้าใจสิ่งที่คุณสื่อหรือเปล่า
เขาอาจจะรู้สึกทุกข์ใจด้วยความรู้สึกผิดจนนอนไม่หลับเชียวล่ะ

8. เปรียบเทียบเขากับพ่อของคุณ
             ผู้ชาย
จะชื่นชมผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเองทีสามารถดูแลตัวเองได้ ที่เขาไม่อยากได้
คือ ผู้หญิงที่เริ่มต้นแหงนมองหน้าเขาและขอให้เขาดูแลเธอ
พวกเขาต้องการคู่ชีวิต
การเปรียบเขากับพ่อของคุณทำให้เขาหมดความสนใจคุณอย่างสิ้นเชิง

 9. พยายาม "เห็นใจ" ปัญหาของเขา
             วิธี
การรับมือผู้ชายที่กำลังมีปัญหาเรื่องงานหรือชีวิตด้านอื่นคือ
ปล่อยให้เขาจมอยู่กับปัญหานั้น เขาจะพร่ำพูดว่าทุกอย่างย่ำแย่สำหรับเขา
และเขาใช้สติปัญญาจนหมดแล้วยังไม่รู้จะทำยังไง
อย่าเปรียบเทียบปัญหาว่าขี้ปะติ๋วสำหรับคุณ
เขาอยากให้คุณฟังปัญหาของเขาเท่านั้น

10. พูดอ้อมค้อม
             เพราะเขาเป็นเพศ
ที่ขาดความอดทน ถ้าคุณมีเรื่องจะบอกเขา
จะได้ผลมากที่สุดถ้ายึดหลักพูดให้สั้นและอ่อนหวาน
ไม่มีอะไรน่าทุกข์ใจสำหรับผู้ชายคนหนึ่งมากไปกว่าการฟังเรื่องที่เล่าอ้อม
ค้อม

 11. นินทา/ปากพล่อย
นินทา
พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการจิกกัดว่าร้ายคนอื่น
เพราะบุคคลที่ตกเป็นเป้านั้นไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง
แล้วความยุติธรรมอยู่ตรงไหน? นี่เป็นเหตุผลที่เขาเลี่ยงไม่ยอมร่วมวงนินทา
  ปาก
พล่อย

เมื่อไรก็ตามที่ผู้ชายพบว่าคู่รักของเขาเปรียบเทียบเรื่องบนเตียงของตัวเอง
กับของเพื่อน ความรู้สึกแรกของเขาคือสิ้นหวัง
เขาจะมีหน้าไปพบเพื่อนคุณได้อีกหรือ ความรู้สึกต่อมาคือเขาถูกคุณหักหลัง
เขาไว้ใจคุณด้วยการเปิดเผยความลับด้านมืดที่สุดและลึกที่สุดของเขา
แต่เขากลับเป็นอาหารปากกลางวงสนทนาของคุณกับเพื่อน

  12. ถามเขาว่า "คุณรักฉันไหม"
             แน่
นอนถ้าเขาไม่ได้บอกรักคุณมาพักหนึ่งแล้ว
คุณถึงควรจะหยิบยกหัวข้อนี้มาพูดเป็นครั้งคราว
ต้องยอมรับว่าสมองของเขาแปลกที่ไม่สามารถเข้าใจว่าการบอกรักเป็นประจำมีผล
ต่อหัวใจของผู้หญิง แต่ผู้ชายก็เป็นผู้ชายอย่างนี้จริงไหม?

13. บ่นไม่หยุด/สื่อความหมายสับสน
บ่น
ไม่หยุด
ผู้หญิงสมัยนี้น่าจะมีอำนาจเท่าเทียมกับผู้ชายทุกด้าน
ดังนั้นทำไมเรายังบ่นกันไม่หยุด? ยังไม่มีใครตอบได้
อย่างน้อยผู้ชายก็ตอบไม่ได้
แต่ถ้าคุณคิดถึงแม่ของคุณก่อนจะเริ่มตำหนิเขาในบางเรื่องคุณอาจเลิกคิดบ่นก็
ได้
สื่อความหมายสับสน
เมื่อผู้ชายคนหนึ่งรู้สึกวาคุณสนใจเขา
แต่ทุกอย่างที่หลุดจากปากคุณกลับเป็นตรงกันข้าม เขาจะสับสนกับสารที่ได้รับ
เช่น คุณหัวเราะกับมุขตลกของเขา คุณสบตาเขา
คุณสะบัดผมใส่เขาและไขว้ขาไปทางที่เขาอยู่
แต่เมื่อเขาชวนคุณดินเนอร์คุณกลับปฎิเสธ???

14. พูดถึงแฟนเก่า
             เรื่องราวเกี่ยว
กับแฟนเก่าของคุณเป็นสิ่งที่ผู้ชายไม่สนใจอย่างแน่นอน
ความคิดแรกของเขาที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่คุณพูดถึงแฟนเก่าคือ "ดี
งั้นทำไมคุณมาอยู่กับผม ไม่ใช่เขาล่ะ"
แล้วคุณรู้สึกอย่าไรถ้าเขาเริ่มพูดถึงความนูนเด้งของหน้าอกแฟนเก่าของเขาไม่
หยุดปาก

15.
ถือสากับมุขตลกของเขา
้             ลามก หยาบคาย และไร้รสนิยม
คือคุณสมบัติสรุปมุขตลกของผู้ชายทุกคนอย่างย่อๆ
แต่เมื่อเขาใช้มุขแบบนั้นกับคุณ มันอาจทำให้คุณเจ็บปวดใจมากๆ
แต่คุณต้องรู้ว่าเขาไม่ได้จริงจังกบมุขตลกนั้น
ถ้าแฟนของคุณทำให้คุณรู้สึกด้อยค่ากับคำวิจารณ์ถากถางของเขา
บอกเขาตรงๆจะง่ายที่สุด อย่ายิ้มอย่างสุภาพ(สื่อความหมายผิดๆ)
อย่าบอกเห็นด้วย (ใช่ แต่หมายถึงไม่) และอย่าบอกว่าเปล่า
เมื่อเขาถามว่าคุณมีปัญหาอะไร และอย่าถือสากับมันจะได้ไหม?

    เป็นยังไงกันบ้างคะ  สาว ๆ
คนไหนที่ยังทำอยู่ก็ลองเปลี่ยนตัวเองนะคะ 
เดี๋ยวจะไม่มีใครมาสนใจค่ะ.........







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 16:54:57 น.
Counter : 331 Pageviews.  

ความรักมีค่ามากเพียงใด






















































เราอาจจะรอคอยใครบางคนอยู่
ใคร...ที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเราไปจากเดิม
เรา
อาจจะเดินไปเจอใครคนนั้นที่ปลายฟ้า
หรืออาจจะอยู่เพียงแค่ปลายสายตา

ไม่
มีใครรู้ว่าปลายทางของความรักจะเป็นเช่นไร
ถ้าโชคดี
เราอาจจะมีความรักดีๆ ที่ทำให้เรามีความสุข
แต่ถ้าโชคร้าย
คนที่เคยสูญเสียความรักไปแล้วเท่านั้น
ถึงจะรู้ว่า
เราอาจจะชดใช้สิ่งที่เราเคยทำพลาด
ด้วยความเจ็บปวด
อย่างที่อาจจะไม่มีใครเข้าใจ

ในวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป
เราอาจ
จะเสียใจกับสิ่งที่ไม่อาจหวนคืน
แต่วัน
นึงข้างหน้า
เราจะขอบคุณความเจ็บปวดเหล่านั้น

เราจะขอบคุณวันที่ไม่มีใคร
และไม่ว่า
คืนวันที่ผ่านไปจะเจ็บช้ำสักเพียงไหน

โอบกอดตัวเองบ้างในวันที่ไม่
มีใคร
ปลอบใจตัวเองบ้างในวันที่ความรักเปลี่ยนไป
โชคชะตาอาจจะพาเรา
ไปพบเจอใครต่อใคร
ในวันที่เรามองย้อนกลับมา


หัวใจจะบอกเราเสมอว่า
ความรัก
... มีค่าเพียงใด































Free TextEditor







































































































 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2553 13:24:23 น.
Counter : 325 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.