อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
ดูทีวี เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด

    ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด


    เล่นแท็บเล็ตในที่มืด


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ต้อหิน โรคร้ายของดวงตาที่มาจากการใช้สายตาในที่มืดมากเกินไป คนติดแชท ติดดูทีวีในที่มืด ระวังไว้เลย !

              เวลานอนบนเตียงหรือโซฟานุ่ม ๆ ดูทีวีไป เล่นสมาร์ทโฟนไป รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูกเลยเนอะ แถมหลายคนยังชอบปิดไฟนอนเล่นให้ได้บรรยากาศมืด ๆ ทึม ๆ ซะด้วย แต่ความสบายแบบชิล ๆ ที่เราทำอยู่ทุกวันแบบนี้ รู้ไหมว่าคุณกำลังทำร้าย "ดวงตา" ของตัวเองอยู่นะ และเผลอ ๆ อาจถึงขั้นตาบอดได้ด้วย !!!

    ขอบอกว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง ๆ โดย นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญโรคตาประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การที่สมัยนี้คนใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้น ทั้งเล่นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ไอแพด ดูโทรทัศน์ ทำให้เกิดโรค "เทคโนโลยีซินโดรม" ตามมา ซึ่งหนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นก็คือ "โรคต้อหิน" อันมีสาเหตุมาจากความเครียดจนทำให้ความดันลูกตาขึ้นได้

              สำหรับโรคต้อหินนั้น นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ได้อธิบายว่า โรคนี้จะมีการทำลายของเส้นประสาทตาจากหลายสาเหตุ สาเหตุสำคัญเกิดจากความดันในลูกตาสูงเกินไป ทั้งจากการสร้างน้ำในลูกตามากเกินไป หรือระบายออกน้อยเกินไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และคนเป็นจะไม่รู้ตัว

    ทั้งนี้ หากเป็นแล้วจะมีผลให้ลานสายตาแคบลงเรื่อย ๆ หากไม่รักษา ปล่อยทิ้งไว้ จะสูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด แม้จะรักษาความดันได้เป็นปกติ แต่สายตาจะไม่กลับคืนเป็นปกติ หรือเรียกว่าสูญเสียอย่างถาวร หากบอดแล้วบอดเลย หรือตาพร่ามัวตลอดชีวิต


    ดูทีวีในที่มืด


    แล้วการปิดไฟดูทีวี เล่นสมาร์โฟนในที่มืด จะทำให้เป็นต้อหินได้อย่างไรล่ะ?

    ...นั่นก็เพราะการใช้เทคโนโลยีมาก ๆ นาน ๆ จะทำให้สายตาล้า มีอาการตาแห้ง จึงเกิดความเครียดขึ้นได้ และไปทำให้ความดันในลูกตาสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของต้อหิน การที่สายตาล้าก็เกิดจากการเพ่งภาพหรือตัวอักษรหน้าจอที่มีขนาดเล็กมากเกินไป ยิ่งเราเพ่งก็จะยิ่งทำให้ม่านตาขยายใหญ่ขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะผู้ที่นิยมปิดไฟดูทีวี เล่นสมาร์ทโฟน ไอแพด ส่องไฟฉายอ่านหนังสือ คนกลุ่มนี้ต้องใช้สายตากำกับตลอดเวลา ทำให้กล้ามเนื้อตาล้า ตาแห้ง เครียดตลอดเวลา ยิ่งรายละเอียดเยอะตาก็ยิ่งทำงานหนัก จึงเสี่ยงต่อโรคเทคโนโลยีซินโดรมนี่แหละ

    ว่าแล้วก็มาดูอาการเตือนของความเครียดที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการเพ่งมากเกินไปดีกว่า เริ่มจากรู้สึกแสบตา ตาแห้ง น้ำตาไหล กะพริบตาบ่อย ปวดเมื่อยล้าที่กระบอกตา สายตาพร่า มองเห็นไม่ชัด บางคนอาจปวดศีรษะไมเกรนร่วมด้วย

    หากใครรู้ว่าตัวเองกำลังสุ่มเสี่ยงมีปัญหาทางสายตา หรือมีอาการไปแล้ว ก็ต้องหาวิธีบรรเทาและรักษาตัวเองกันก่อนเลย ง่าย ๆ ทำได้ชัวร์ ตามนี้

    นอนหลับเป็นเวลา 7 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ 

    ดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มน้ำให้ตาให้ชุ่มชื้นขึ้น

    ทำประคบเย็น โดยให้ใช้ผ้าขนหนูหนาหรือผ้าเช็ดหน้า พับ 3 ส่วน นำไปแช่น้ำที่มีน้ำแข็งจนเย็น บิดหมาด ๆ วางปิดตั้งแต่ขมับให้ทับพาดผ่านดวงตา เว้นสันจมูก ไปถึงขมับอีกข้าง ถ้าเย็นเกินไปให้เอาออก หากหายเย็นให้นำไปแช่น้ำเย็นใหม่อีกครั้ง ทำติดต่อกันอย่างน้อย 20 นาที พัก 1 นาที วันละ 2 หน จะช่วยลดความเครียด เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา

    ควรเปิดไฟดูทีวี อ่านหนังสือ ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในที่ ๆ มีแสงสว่างเพียงพอ

    ควรใช้เทคโนโลยีเท่าที่จำเป็น คือ ไม่ควรเกิน 25 นาที และให้หยุดพัก 5 นาที หรือถ้าใช้นาน 30 นาที ก็ต้องหยุดพัก 10 นาที

    เปลี่ยนอิริยาบถสลับกันไป 

    พยายามควบคุมจิตใจตัวเอง หากไม่จำเป็น อย่าไปยุ่งกับเทคโนโลยี

    วิธีข้างต้นนี้จะช่วยป้องกันให้ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กทุกคนห่างไกลจากโรคทางสายตาต่าง ๆ รวมทั้งต้อหินที่ทำอันตรายร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้เลย




Create Date : 09 มิถุนายน 2557
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 9:41:43 น. 1 comments
Counter : 1692 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:18:00:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.