|
ไม่มีรักแท้ในMSN
แอบอมยิ้ม เมื่อเห็น head line ของหนึ่งในสมาชิก MSN แก๊งค์ของเรา ..."ไม่มีรักแท้ ใน MSN"...
จำไม่ได้ว่า ฉันเองเริ่มกลับมาใช้โปรแกรมแชทเป็นจริงเป็นจังอีกครั้งเมื่อไรกัน แต่จำได้ว่าสมัยสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนทำงานใหม่ ตอนโน้นอินเทอร์เน็ตเพิ่งเริ่มมีใช้แพร่หลาย
โปรแกรมแชทยอดฮิตสมัยนั้น คือ ICQ บ้าใช้อยู่เป็นปีๆ ทั้งคุยเล่น คุยข่าว(สัมภาษณ์แหล่งข่าวบางคนนี่ล่ะ) วันละหลายชั่วโมง
ได้รู้จักเพื่อนรุ่นพี่ใหม่ๆ ก็ตั้งหลายคน มีพี่ต๊ะ พี่แม่ส้ม พี่ขาว...จำได้เท่านี้ ทั้งหมดเป็นขาประจำเว็บ bookcyber (ในอดีต)
พอเลิกเล่น ICQ ก็ไม่ได้คุยกับพี่ๆ อีกเลย จำไม่ได้ว่าทำไมจู่ๆ ก็ไม่ได้เล่น
เหมือนกับที่จำไม่ได้ว่าทำไมกลับมาแชทอีกนั่นล่ะ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ICQ เป็น MSN
รายชื่อในลิสต์เอ็มเกือบทั้งหมด ก็เป็นพี่ๆ เพื่อนน้องที่รู้จักกันในชีวิตจริงๆ อยู่แล้ว
ในแก๊งค์ติดเอ็มพอกัน ติดที่ว่าไม่ได้หมายถึง คุยกันตลอดเวลาจนไม่เป็นทำอะไรหรอกน่ะ
คำว่า ติดของเรา หมายถึง นั่งโต๊ะเปิดคอมพิวเตอร์ปั๊ปต้องเปิดโปรแกรม แชททิ้งไว้... ทิ้งไว้งั้นล่ะ มีเรื่องคุยถึงคุย
จะว่าไปประหยัดค่าโทรศัพท์ไปได้ไม่ใช่น้อย...
แต่ถ้าต้องเม้าท์แตกเป็นเรื่องเป็นราว เรายอมเสียตังค์หยิบมือถือขึ้นมากดหากัน ไม่ใช่อะไร เคยเม้าท์กันยาวๆ แล้วเกิดอาการงง ประมาณว่า คุยกันคนละเรื่องมาก็เยอะ
ด้วยความที่ต่างกัน ต่างเม้าท์ไง มือก็พิมพ์ไป ตาอ่านอีกฝ่ายที่พิมพ์มาไม่ทัน เข้าใจผิดไปกันใหญ่ก็หลายหน
พูดอย่างนี้ ไม่ใช่ลิสต์ในเอ็มจะมีแต่คนคุ้นเคย เพื่อนใหม่ พี่ใหม่ๆ ก็มีไม่น้อย แต่ทั้งหมดจะรู้ที่มาที่ไปนะจ๊ะว่า...ไม่ใช่ซิ ที่ส่งแอดลิสต์มาจากไหนไม่รู้ก็พอมี...
"พี่ๆ ตกลงว่าโดนใครหลอกมาอ่ะ"ฉันโอ๊ะ...โอ ไปถาม
"เออน่า"ฝ่ายโน้น พิมพ์ต๊อกแต๊กตอบมา ไม่ทันที
"ใครอ่ะบอกหน่อยดิ"
"ไม่....มี แค่อยากเรียกร้องความสนใจเฉยๆ"
(ฮา)
ไม่มีรักแท้ใน MSN... จริงอ่ะ

Create Date : 07 เมษายน 2551 | | |
Last Update : 7 เมษายน 2551 17:31:46 น. |
Counter : 845 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ข้อความลึกลับ
มีคำถามเล่นๆ ได้แรงบันดาลใจมาจาก... ไม่บอกดีกว่า...ไม่จำเป็น
ถ้า...อยู่มาวันหนึ่ง คุณได้รับแมสเสจลึกลับ จากใครที่ไหนก็ไม่รู้ เบอร์มือถือที่ส่งมาไม่มีในโฟนบุ๊ก เบอร์ไม่คุ้นเลย ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ส่งข้อความมาว่า "ฉันคงต้องไปปรึกษาทนายความว่า.... การแอบรักผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต มันผิดกฎหมายไหมจ๊ะ"
......คุณจะทำยังไง.... 
ก.นิ่งเฉย ข.ส่งแมสเสจกลับไป ค.โทร.หาเจ้าของเบอร์ลึกลับ
Create Date : 03 เมษายน 2551 | | |
Last Update : 3 เมษายน 2551 16:55:00 น. |
Counter : 643 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เมื่อความรักหมดอายุ
ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ที่เห็นผู้ชายผมยาว หน้าโหดๆ ตรงหน้าเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆ เมื่อเอ่ยถึงเรื่องราวแต่หนหลังของตนเอง
ฉันอึ้งไปกับประโยคสั้นๆ ของคุณพี่หน้าโหดที่บอกว่า "ความรักก็เหมือนขนม มีวันหมดอายุ"
...???... ความรักหมดอายุ ก็คงไม่ต่างอะไรกับการ"หมดรัก"หรอกเนอะ
"ทั้งๆ ที่เขาดีกับฉันตั้งหลายอย่าง ทำโน่นทำนี่ให้ ดูแล อะไรต่างๆ นานา แต่จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่า ไม่รักเขาอีกแล้วขึ้นมาเฉยๆ ซะงั้น"
"วันนี้ ที่ฉันไม่มีใคร เห็นอะไรที่เขาเคยทำให้ อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาทุกที"ไม่น่าเชื่อว่านี่คือคำพูดของคนหน้าตาโหดๆ ตรงหน้า
"ไม่จริงหรอก อาการหมดรัก หรือไอ้คำว่าความรักหมดอายุเนี่ย ไม่มีทางเกิดขึ้นมาเองเฉยๆ "ฉันค้านในใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
ถ้ารักของเรา เธอและฉันหมดอายุขึ้นมาพร้อมๆ กันก็คงไม่เป็นปัญหา แต่เมื่อไร มันเกิดกับเธอหรือฉันก่อน ไม่ฉันหรือเธอต้องมีใครสักคนเจ็บ...
เจ็บนี้อีกนานน...
"อาหารเป็นพิษยังดีกว่า รักเป็นพิษ" เพื่อนผู้สันทัดกรณีที่มักเป็นผู้ฟังที่ดีเอ่ยปาก พร้อมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจคารมคมคายของตัวเอง
เราทั้งหมดก็หัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน บางคนแค่หัวเราะหึๆ บ้างก็แค่แค่นเสียงออกมา บางคนมีแค่รอยหยักที่ริมฝีปาก แต่แววตาช่างหม่นหมองนัก คนๆ นั้น...คงกำลังนึกถึงเรื่องราวของตัวเอง
"น้ำองุ่น น้ำเปล่า40ดีกรีผสมน้ำส้ม 100%"ทำให้การสนทนาในค่ำคืนนั้นออกรสยิ่งนัก
เราแบ่งปันเรื่องราวของกันและกันและพบว่า ในห้วงเวลาที่ผ่านเลยเราต่างมีประสบการณ์โศรกเศร้าเคล้าน้ำตาคนละนิดคนละหน่อย พอแลกเปลี่ยนแบ่งปันซึ่งกันและกันได้บ้าง
เพลงรักขายดิบขายดี ขายได้ทุกยุคทุกสมัย คงเพราะเหตุนี้
บ้างบอกเล่าเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ บ้างนึกย้อนถึงอดีตที่ผ่านมานาน หากนับเวลาบนปฎิทิน แต่ความทรงจำอันรวดร้าวยังคงทิ้งร่องรอยไว้
อะไรที่เราอยากลืมๆ มันไป กลับสนิทแนบแน่น และมีที่ทางของมันเองในใจ เผลอไปสะกิดโดนเข้าเมื่อไร เป็นต้องเจ็บแปลบทุกทีซิน่า
ไม่ว่า นานหรือไม่ เราต่างมี"บาดแผล" และได้บทเรียนคล้ายคลึงกัน และยอมรับว่า ไม่มียาวิเศษใดๆ รักษาเยียวยาบาดแผลในใจของเราได้ดีเท่ากับ"กาลเวลา"
ไม่มีใครแทนที่ใครได้ ...การคว้าใครสักคนที่เดินผ่านเข้ามา โดยหวังว่าจะเป็นยาประสานใจ เพื่อลืมหรือลบบาดแผล ที่มีใครสักคนทิ้งเอาไว้
ประหนึ่ง"บัวหิมะ"รักษาได้ทุกโรค ตั้งแต่แมลงสัตว์กัดต่อย ถึงน้ำร้อนลวกเกิดขึ้นจริงได้แค่ในนิยายกำลังภายใน...
โชคดีอยู่บ้างตรงที่ วงสนทนาในวันนั้น แม้จะทำให้เรามีน้ำตาอีกครั้ง แต่ในท้ายที่สุด ก่อนพวกเราจะแยกย้ายกันไปนอน
เราต่างสามารถหัวเราะได้กับความทุกข์ของเมื่อวาน และเพ่งมองมันอย่างเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม

"แกเชื่อในคู่แท้ไหม"ใครสักคนเอ่ยขึ้นมาตอนไหน ฉันก็จำได้ไม่ถนัดนัก แต่จำคำตอบของตนเองได้
"ฉันไม่รู้หรอกว่าเชื่อไหม แต่จะไม่หมดหวังหรอกนะ"
จำได้ไหมที่เราเคยเชื่อเหมือนๆ กันว่า เราต้องรู้จัก "ฝัน"และมี"ความหวัง"
ชีวิตเราจะแห้งแล้งสักแค่ไหนกัน หากอยู่อย่างปราศจากฝัน และหวัง...
"ยิ้มกับความฝันและความหวังไว้นะ"ฉันบอกเพื่อนและตัวเอง
"ทำไมขนม เมื่อเรารู้ว่า มันหมดอายุ เรายังเลือกที่จะทิ้งมันไปโดยไม่เสียดายได้ล่ะ"
"ความรัก ไม่เหมือนขนม แต่เราก็เลือกได้ไม่ใช่หรือ"
Create Date : 24 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 24 มีนาคม 2551 23:17:52 น. |
Counter : 855 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คำถามและเวลาที่เหลือ
คำถามและเวลาที่เหลือ
ปีใหม่ปีที่แล้ว ฉันและกลุ่มเพื่อนรวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือช่วยกันคนละไม้ละมือลงเงินตามแต่กำลังทรัพย์และแรงศรัทธา จัดพิมพ์หนังสือเล่มเล็กๆ ชื่อ ชีวิตนี้น้อยนัก ซึ่งเป็นบทนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราช ที่พูดถึงบาปบุญคุณโทษและกฎแห่งกรรมตามหลักศาสนาพุทธ
รวมเงินกันได้จำนวนหนึ่งก็จัดพิมพ์หนังสือแจกจ่ายเป็นวิทยาทาน
นอกเหนือไปจากเจตนาที่ต้องการทำบุญในโอกาสปีใหม่แล้ว ฉันคิดเองว่า เราต่างต้องการเตือนสติตนเองให้คิดดี ทำดี ในเมื่อยอมรับและเห็นตรงกันว่า ชีวิตคนเรานี้สั้นนัก
ความสั้นยาวของชีวิตในความหมายของพวกเรา ไม่ได้วัดที่ระยะเวลาของการมีชีวิตอยู่ แต่ตัดทอนเหลือแค่ช่วงชีวิตที่ได้มีโอกาสทำดี หรือน้อยที่สุดไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร
การทำดีจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก

เมื่อต้นเดือนก่อนฉันและครอบครัวตั้งใจไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย เมื่อตรวจเช็คเลือดและความพร้อมของร่างกายแล้ว ไม่ใช่เราทั้งหมดที่มีโอกาสบริจาคเลือดตามที่ตั้งใจไว้
ถ้านอนไม่พอ หรือถ้าในรอบอาทิตย์นั้น ป่วยไม่สบายต้องกินยาปฏิชีวนะก็ไม่สามารถบริจาคโลหิตได้
ยังมีข้อห้ามอื่นๆ อีกที่คนที่คิดอยากไปบริจาคเลือดต้องรู้ไว้ เช่น ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ก่อนมาบริจาคอย่างน้อย 24 ชั่วโมง งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคเพื่อให้ปอดฟอกเลือดได้ดีขึ้น
สำหรับคุณผู้หญิงถ้ากำลังตั้งครรภ์หรือเป็นช่วงวันนั้นของเดือนก็บริจาคไม่ได้เช่นกัน
ทำดีด้วยการบริจาคโลหิตที่คิดเองว่า ง่ายแล้ว ไม่ง่ายเหมือนกัน
คนกลัวเข็ม กลัวเลือดก็คงไม่มีโอกาส เช่นเดียวกับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี (ฮา)
นอกเหนือจากที่ต้องมีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 45 กิโลกรัมแล้ว
เคยถามตัวเองเล่นๆ ว่า คนเราจะมีโอกาสบริจาคโลหิตได้กี่ครั้งกัน เพราะบริจาคได้แค่ 3 เดือนครั้งเท่านั้นเอง
วันก่อนโน้นได้ยินข่าวเกี่ยวกับ คุณยอดรัก สลักใจนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดัง
คุณยอดรักเพิ่งตรวจพบว่า ป่วยเป็นมะเร็งตับขั้นร้ายแรงแล้ว
คุณหมอบอกว่า อาจมีโอกาสอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณยอดรักทำให้ฉันกลับมาถามตนเองว่า ถ้าเราเหลือเวลาอีกแค่ 6 เดือน เราจะทำยังไง
ฉันตอบในใจว่า คงต้องมานั่งคิดๆ และเขียนรายการสิ่งที่อยากทำ ภายใต้ความเป็นไปได้และข้อจำกัดเรื่องเวลา
ที่สุดแล้วก็คิดว่า สิ่งที่ต้องทำแน่ๆ คือ ลาออกจากงานและใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หันไปถามเพื่อนรุ่นพี่ด้วยคำถามเดียวกัน
ฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด สู้ให้หาย คำตอบของเราแต่ละคนคงแตกต่างกันไป
ฟังคำตอบของรุ่นพี่แล้วก็คิดถึงการต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดของ คุณหมอสงวน นิตยารัมพงศ์
คุณหมอพบว่า ตนเองเป็นมะเร็งและต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเข้มแข็งจนมีชีวิตยืนยาวต่อมาได้เกือบ 5 ปี
ทั้งๆ ที่คุณหมอเจ้าของไข้บอกว่า มีเวลาเหลือเพียงไม่กี่เดือน
ตลอดช่วงเวลาที่เหลืออยู่ คุณหมอสงวนไม่เพียงทำงานในหน้าที่เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอย่างเต็มที่ สานต่อปณิธานในการปฎิรูประบบสุขภาพ สร้างความเป็นธรรมด้านสุขภาพให้ประชาชนคนไทย
ในช่วงที่ป่วย คุณหมอยังริเริ่มโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน หรือจิตอาสาให้คนไข้ที่ป่วยและหายแล้วให้กำลังใจช่วยเหลือเพื่อนที่ยังเจ็บป่วยให้หายจากโรคต่างๆ ด้วย และอื่นๆ อีกมากมาย
ผลงานของคุณหมอที่พวกเรารู้จักกันดี คือโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30 บาท
คนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำแต่ความดีอย่างคุณหมอสงวน น่าจะมีอายุยืนยาวกว่านี้
เราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกตายไม่ได้ แต่บางคนมีโอกาสรู้ว่า ตนเองเหลือเวลาอีกเท่าไร จะน้อยจะมากจะสั้นหรือยาว คงไม่สำคัญเท่ากับว่าเวลาที่มีอยู่นั้น เราได้ ทำอะไรบ้าง
เราอยากให้คนอื่นจดจำเราแบบไหน ถ้าเราจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือน
ลองถามตัวเองกันบ้างดีไหม
ชั้น5 ประชาชาติ 25 กุมภาพันธ์ 2551
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551 | | |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:41:21 น. |
Counter : 602 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ไปเป็นชาวเกาะกันเต๊อะ
28 ม.ค.2551
...โหวตเลือกหัวหน้าพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็น "นายกรัฐมนตรี" เป็นคนเดียวกับเจ้าของรายการอาหาร และอดีตผู้ว่าจ.ที่ได้ชื่อว่าเป็นปท.ไท
เรามีประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนิกเนมแปลกประหลาดที่สุด"ยุทธ-ตู้เย็น"ผู้ซึ่งป้าเจ้าของตู้เย็นที่ยุทธพาตำรวจไปยิงถล่มวันนั้นฝากถึงในวันที่รู้แล้วว่ายุทธของป้าจะได้นั่งเก้าอี้อันทรงเกียรติมาว่า
"ได้ดีแล้วอย่าลืม(จ่ายค่าเสียหาย)ตู้เย็น..."
เขาว่ากันว่า "นายกรัฐมนตรีคนใหม่"จะเป็นใครไปไม่ได้
เขาว่ากันว่า "เหลิมดาวเทียม" อดีตพ่อดีเด่น ผู้ซึ่งรักลูกตัวเองสุดหัวใจจะได้นั่งคุมเก้าอี้มท.
เขาว่ากันว่า "นบปะดน"อดีตนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง อดีตสมาชิกพรรคคนใต้ แต่ได้ไม่ดีเท่าเมื่อย้ายมามีหัวหน้าพรรคเป็นคนเหนือ ผู้ซึ่งรับตำแหน่งทนายและโฆษกประจำตัวอดีตท่านผู้นำ
มีผลงานดีเด่นในทางฝีปากจนว่ากันว่าจะได้มานั่งเป็นคุมกระทรวงที่ดูแลเรื่องการศึกษาของเยาวชนของชาติ...
เราจะมีรมต.ต่างประเทศชื่อ....
มีรมต.คลังชื่อ...มี...ชื่อ
ว่ากันว่าทั้งหมดทั้งมวลจัดตามใบสั่ง...
ประเทศสาราขัณฑ์นี้อยู่ที่ใดหนอในโลกนี้...
ไปเป็นชาวเกาะกันเถอะเรา...

Create Date : 28 มกราคม 2551 | | |
Last Update : 28 มกราคม 2551 11:42:49 น. |
Counter : 767 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|