|
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย และวิศิษฏศิลปิน
เม.ย. ๔๘
เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๘ รัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ ๒ เมษายน ของทุกปี อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น วันอนุรักษ์มรดกไทย ด้วยตระหนักในพระปรีชาสามารถในด้านศิลปวัฒนธรรม และพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงอนุเคราะห์สนับสนุนกิจกรรมอันเนื่องด้วยงานวัฒนธรรมของชาติเสมอมา โดยเฉพาะทรงเป็นแบบอย่างในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ และพระราชจริยาวัตรในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติในสาขาต่าง ๆ เช่น วรรณศิลป์ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ภาษาไทย สถาปัตยกรรม ดนตรีไทยและพุทธศาสนา รวมทั้งได้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการสร้างสรรค์และธำรงรักษามรดกของชาติให้ยั่งยืนตกทอดต่อไปถึงลูกหลาน สำหรับคำว่า มรดกไทย ในที่นี้ คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ได้ให้ความหมายไว้ว่า มรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติ ซึ่งได้แก่ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โบราณสถาน วรรณกรรม ศิลปหัตถกรรม นาฏศิลป์และดนตรี ตลอดจนถึงการดำเนินชีวิตและคุณค่าประเพณีต่างๆอันเป็นผลผลิตร่วมกันของผู้คนในผืนแผ่นดินในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีได้รับการทูลเกล้าฯถวายพระสมัญญาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑ ว่า เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย และเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ วันศิลปินแห่งชาติ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติก็ได้ทูลเกล้าฯถวายพระสมัญญา วิศิษฏศิลปิน (อ่านว่า วิ-สิด-สิน-ละ-ปิน) แด่พระองค์ท่าน ซึ่งมีความหมายว่าทรงมีพระอัจฉริยะภาพและทรงพระปรีชาสามารถในศิลปะหลายสาขา ทรงมีคุณูปการต่อเหล่าศิลปินและศิลปวัฒนธรรมของชาติ และยังทรงเป็นเมธีทางด้านวัฒนธรรม คือทรงเป็นปราชญ์ที่มีความรอบรู้ในวัฒนธรรมด้านต่างๆ ภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงงานด้านศิลปวัฒนธรรม นับเป็นภาพที่คุ้นตาพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพระปรีชาสามารถในศิลปะหลายสาขาก็ล้วนเป็นที่ประจักษ์ อาทิ ด้านวรรณศิลป์ ทรงได้พระราชนิพนธ์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีความหลากหลายในแนวเรื่องและลีลา งามด้วยรสถ้อยทางภาษา เปี่ยมด้วยสุนทรียะและเนื้อหาสาระ ในหนังสือ เทพรัตนบรรณศิลป์ ของ รศ.ศุภรัตน์ เลิศพาณิชย์กุล ได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระปรีชาสามารถแต่งคำประพันธ์ได้ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และร่าย แต่ทรงแต่งโคลงสี่สุภาพได้ดียิ่งเช่น เรื่องอยุธยา กษัตริยานุสรณ์ พุทธศาสนสุภาษิต เป็นต้น พระราชนิพนธ์ร้อยกรองที่มีอยู่จำนวนมากได้สะท้อนให้เห็นเด่นชัดถึงการทรงเป็นกวีและปราชญ์ทางภาษาแห่งรัตนโกสินทร์ร่วมสมัย ผู้ทรงสืบทอดความงามความชื่นชมแห่งวรรณศิลป์ไทยได้อย่างดีเลิศ และยังทรงเป็นตัวอย่างพิสูจน์ให้เห็นว่า การเป็นกวีนั้นผสานกลมกลืนกันระหว่าง พรสวรรค์ และ ความวิริยะในการฝึกฝน เป็นศาสตร์และศิลป์อันสร้างสรรค์จากปัญญาและหัวใจร่วมกัน ในด้านพระราชนิพนธ์ร้อยแก้วนั้น ทรงเริ่มต้นเรียงร้อยมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๐ และทรงฝึกฝนเรื่อยมา ทรงเริ่มจากเรียงความ สารคดี งานวิชาการสั้นๆ และพัฒนาต่อไปเรื่อยๆตามลำดับความรู้ที่เพิ่มพูนขึ้น พระราชนิพนธ์ร้อยแก้วที่มีอยู่มากคือ สารคดีเสด็จเยือนต่างประเทศ ซึ่งเรื่องแรกก็คือ การเดินทางไปร่วมพิธีพระบรมศพพระเจ้ากุสตาฟที่ ๖ อดอล์ฟ นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชนิพนธ์ที่แปลจากภาษาจีน เช่น นวนิยายเรื่อง ผีเสื้อ จากเรื่องหูเตี๋ย ของ หวังเหมิง นักประพันธ์ชื่อดังของจีน หยกใสร่ายคำ อันเป็นกวีจีนโบราณ จำนวน ๓๔ บท เป็นต้น ซึ่งภาษาจีนนี้ใช่จะเรียนกันง่ายๆ ส่วนใหญ่จะล้มเลิกเสียกลางคัน แต่พระองค์กลับทรงศึกษาและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจนอ่าน พูดและเขียนได้คล่อง ในด้านพระนามแฝง มี ๔ พระนาม ซึ่งได้รับสั่งถึงที่มาของพระนามด้วย คือ ก้อนหิน-ก้อนกรวด ก้อนหินคือพระองค์เอง รับสั่งว่าเพราะพระองค์ท่านตัวโตเลยใช้ชื่อก้อนหิน ใช้ร่วมกับก้อนกรวดคือ กุณฑิกา ไกรฤกษ์ ที่ตัวเล็กกว่า แว่นแก้ว เป็นชื่อที่ทรงตั้งขึ้นเอง เพราะตอนทรงพระเยาว์มีชื่อว่า ลูกแก้ว และทรงโปรดเพลงน้อยใจยาที่นางเอกชื่อ แว่นแก้ว หนูน้อย เป็นชื่อเล่นที่เรียกในครอบครัวว่าน้อย เลยใช้พระนามแฝงว่า หนูน้อย และบันดาล เป็นคำที่ผุดขึ้นมาในสมอง ไม่มีเหตุผลอะไร ลายสือศิลป์พู่กันจีน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในการเขียนหนังสือจีนด้วยพู่กัน ดังลายสือฝีพระหัตถ์ที่เขียนว่า เซิ่ง โซ่ว อู๋ เจียง แปลว่า ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ที่ประดับเด่นเป็นสง่า ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา ณ บริเวณวงเวียนโอเดียน ในด้านศิลปะ ภาพวาดการ์ตูน ทรงเขียนไว้มากมาย หลายลักษณะ ล้วนสื่อความคิด จินตนาการ อารมณ์ขันจากใจสู่ใจได้อย่างน่ารักและสนุกสนาน เช่น ภาพช้อปปิ้ง ที่ล้อถึงการซื้อของมากมายจนต้องใช้ปากคาบ หรือภาพการ์ตูนล้อพระองค์เองที่ทรงวาดประกอบ ในพระราชนิพนธ์ คนแขนหัก ที่ลงในมติชนสุดสัปดาห์เมื่อเร็วๆนี้ นอกจากพระราชนิพนธ์ดังกล่าวแล้ว ยังทรงเป็นนักร้อง นักดนตรีไทยที่มีความสามารถรอบด้าน ทรงพระราชนิพนธ์เนื้อเพลงไทยไว้หลายเพลง รวมทั้งเพลงลูกทุ่ง ซึ่งเพลงแรกก็คือ ส้มตำ ที่เรารู้จักกันดี และยังทรงมี งานปั้น อีกจำนวนหนึ่ง ณ สถาบันการศึกษาและโรงงานเซรามิคหลายแห่ง ทรงเขียน ภาพจิตรกรรม ไว้ถึง ๑๐๐ ภาพ เช่น ภาพกลับบ้านเกิด มิตรภาพ รวมถึงภาพจิตรกรรมที่วัดท่าสุทธาวาส และวัดอัมพวันเจติยาราม อันเป็นงานศิลป์ที่งดงามยิ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชูปถัมภ์อันหลากหลาย และประกอบพระราชกิจมากมายเพื่อช่วยอนุรักษ์ พัฒนาศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นสมบัติของชาติอย่างยั่งยืน ทั้งในเรื่องการช่างไทย ดนตรีไทย นาฏศิลป์ งานพิพิธภัณฑ์ โบราณสถานในภูมิภาคต่างๆ ตลอดจนเรื่องอาหารไทย และวิถีชีวิตไทยในด้านอื่นๆ เช่น ด้านสุขภาพอนามัย ด้านสังคมสงเคราะห์ช่วยเด็กพิการและด้อยโอกาส ฯลฯ โดยเฉพาะทรงพระราชทานพระราชูปถัมภ์แก่เหล่าศิลปินน้อยใหญ่มากมาย ทั้งศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน ศิลปินเพลงลูกทุ่ง ฯลฯ เช่น เสด็จฯไปเป็นประธานในงานด้านวัฒนธรรม เสด็จฯไปเยี่ยมเยียนศิลปินที่เจ็บป่วยหรือพระราชทานของเยี่ยม พระราชทานรางวัลแก่ศิลปิน เป็นต้น ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าวล้วนสร้างขวัญกำลังใจ และก่อให้เกิดการตื่นต้วในวงการศิลปวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง ทรงเป็นปราชญ์ทางภาษา วรรณคดี ประวัติศาสตร์ โบราณคดีและพิพิธภัณฑวิทยา อีกทั้งได้พระราชทานปัญญาความรู้ในเรื่องเหล่านี้แก่วงวิชาการ ที่สำคัญยิ่งก็คือ ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการงานวัฒนธรรม ทั้งในด้านการอนุรักษ์ พัฒนา การปลูกฝังเผยแพร่ การถ่ายทอดสืบสาน และการจัดเก็บข้อมูลต่างๆอย่างเป็นระบบอีกด้วย พระมหากรุณาธิคุณและพระเกียรติคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หากจะกล่าวโดยสรุปคงต้องยกกลอนเทิดพระเกียรติของ นายประสิทธิ์ รุ่งเรืองรัตนกุล มาดังนี้ หนึ่งนักปราชญ์อัจฉริยะรัตนโกสินทร์ หนึ่งคีตศิลปินปิ่นสยาม หนึ่งกวีลีลาสง่างาม หนึ่งนงรามวิจิตรศิลป์ระบิลไกล ดุจแก้วเก้าวาววับระยับฟ้า เทพรัตนา แห่งรัฐวิวัฒน์สมัย ชุบชีวินศิลปะวัฒนธรรมไทย เกริกเกรียงไกรคู่หล้าคู่ฟ้าดิน
. สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
Create Date : 22 เมษายน 2550 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2550 0:15:06 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1993 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 125.24.242.159 วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:18:56:06 น. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 113.53.36.56 วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:08:40 น. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 125.24.208.212 วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:52:20 น. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 125.25.173.212 วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:14:48 น. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 125.24.207.86 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:56:04 น. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 125.24.212.168 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:22:01:39 น. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 182.53.31.159 วันที่: 30 ธันวาคม 2553 เวลา:22:12:41 น. |
|
|
|
โดย: ปรีชา รัตนประสิทธิ์ IP: 113.53.189.245 วันที่: 1 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:36:19 น. |
|
|
|
โดย: หลวงตาเซาะกราว IP: 27.55.0.72 วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:18:50:10 น. |
|
|
|
| |
|
|
ร่วมบริจาค ร่วมสร้างมหากุศล สร้างอาคารผู้ป่วยใน ตึกสงฆ์อาพาธ ณ.โรงพยาบาลอุดรธานี น้อมถวายเป็นอาจาริยบูชาแด่ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจริญอายุครบ 96ปี (12 สิงหาคม 2552 ) และน้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ( 5 ธันวาคม 2554 ) โดยการทอดผ้าป่า 84,000 กอง กองละ 2,000หรือตามกำลังศรัทธาร่วมบริจาคได้ที่ วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี หรือโดยการโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี"ผ้าป่า 84,000 กอง โรงพยาบาลอุดรธานี โดยหลวงตามหาบัว "
ธนาคารกสิกรไทย สาขาเอกมัย เลขที่ 059-250-1009
ธนาคารกสิกรไทย สาขาอุดรธานี เลขที่ 110-220-7333
ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 510-418-7348