Group Blog
ล้านนาวาไรตี้
ล้านนาอักขรา
เพลงไท
All Blogs
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๔ ตอนที่ ๓ (จบบทที่ ๔)
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๔ ตอนที่ ๒
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๔ ตอนที่ ๑
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๓ ตอนที่ ๓ (จบบทที่ ๓)
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๓ ตอนที่ ๒
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๓ ตอนที่ ๑
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๒ ตอนที่ ๔ (จบบทที่ ๒)
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๒ ตอนที่ ๓
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๒ ตอนที่ ๒
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๒ ตอนที่ ๑
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๑ ตอนที่ ๔ (จบบทที่ ๑)
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๑ ตอนที่ ๓
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๑ ตอนที่ ๒
คร่าวซอสมภมิต บทที่ ๑ ตอนที่ ๑
คร่าวซอเรื่องธัมม์ สมภมิต
ประกาศสงกรานต์ล้านนา ปีกดยี จ.ศ.๑๓๗๒
เมืองปัวนี้เป็นเมืองดี: ว่าด้วย ปัว หรือ วรนคร
ทำไมต้องต้องเดือนแปดสองหน
ลมหนาวที่เปลี่ยนทิศ กับชึวิตที่เปลี่ยนทาง
ล้านนาคีตา ลีลาขับขาน (ตอนที่ ๓)
ล้านนาคีตา ลีลาขับขาน (ตอนที่ ๒)
ล้านนาคีตา ลีลาขับขาน (ตอนที่ ๑)
กั่นโลง(โคลง) สิบสองสิงหา
นางเทวดาผุ้รับเอาขุนสังขานต์
หนังสือปีใหม่ล้านนา ปี ๑๓๗๑ ปีกัดเป้า
หนังสือปีใหม่ ปีเปิกใจ้ จ.ศ. ๑๓๗๐
ฤๅพระเจ้าติโลกจะไม่ได้สร้างพระเจ้าทองทิพย์ที่น่าน
สุเทวบรรพต...ดอยศักดิ์สิทธิ์เหนือเมืองเชียงใหม่
ตามรอยบูรพกษัตริย์ ณ วัดเชียงยืน
เมิงเจงตุ๋ง - เมืองเชียงตุง
หนังสือปีใหม่ ปีเมืองใค้ (ปีกุญช์นพศก) จ.ศ. ๑๓๖๙ ตัว
ต้อนรับวันแห่งความรักกับ "ด้วยปุพเพ ฤๅผลกัมม์แต่งสร้าง"
"ยวน" ผู้นิราศร้างห่างมาตุภูมิ
เชียงดาว...เทวาลัยบรรพต
ผีหม้อหนึ้ง
อภัยมณีชาดก การเดินทางที่กลับด้าน
ภาษาย่อยในจังหวัดน่าน
งดงามตามแบบวิหารไทลื้อในเมืองน่าน
เลียบปราการแห่งอิสรภาพ
พระอิศวร VS พระพุทธเจ้า
สวัสดีปีใหม่...ปีใหม่ของคุณ ของผม หรือของใคร?
หนังสือปีใหม่เมือง ประจำปีรวายเส็ด จุลศักราช ๑๓๖๘ ตัว
เก็บของเก่า มาเล่าใหม่ : ไหว้สาพระธาตุ ด้วยเบื้องบาทไต่เทียว
แหล่งพำนักสุดท้ายของผู้สร้างนครเชียงใหม่
ได้ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่แล้ว
เลียบปราการแห่งอิสรภาพ
เมื่อพูดถึงเรื่อง คุก หรือ คอก นับว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ปรารถนาที่จะเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้น แม้แต่ได้ยินก็ไม่อยากจะได้ยินเอาเสียเลยด้วยซ้ำ ด้วยภาพลักษณ์แห่งคำว่า คุก นั้นจะคลาคล่ำไปด้วยผู้ที่ได้กระทำความผิดต่าง ๆ นานา เพียงแค่นี้ก็ทำให้หลายคนเมินหน้าหนี... แต่ไฉนกลับมีคนเข้าไปยัดเยียดเบียดเสียดกันทุกที
รั้วสูงสีขาวที่มีลวดหนามติดเป็นแนวตามฐานล่างกำแพงและข้างบน ยิ่งทำให้ภาพภายในดูลึกลับและกลัวเกรงอย่างเป็นที่สุด ถึงแม้กระนั้นก็ไม่อาจที่จะทานความ อยากรู้ ว่าภายหลังประตูที่ปิดอยู่ตลอดเวลานั้นจะเป็นอย่างไร พอทราบว่าจะต้องเข้าไปทัศนศึกษาในทัณฑสถานหญิง กลางเวียงเชียงใหม่ด้วยแล้ว ก็แทบที่จะระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่ได้
ในยามเช้าอากาศเย็นสบาย แต่ในใจกลับร้อนรุ่ม สายตาจดจ้องมองไปยังประตูว่า จะมีอะไรรออยู่ หลังประตูนั่นหนอ? ขณะที่รอประตูเปิดนั้น ก็เห็นหลายคนหอบข้าวหอบของ คงจะเป็นญาติพี่น้องผู้ต้องขังคนใดคนหนึ่งเป็นแน่ ด้วยเดินเข้าไปตรงส่วนที่ไปแจ้งเรื่องขอเข้าเยี่ยม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันกับทัณฑสถาน นับว่าวันนี้นับเป็นวันดีวันหนึ่งเลยทีเดียวของผู้ต้องขังคนนั้นเป็นอย่างยิ่ง ที่มีญาติพี่น้องที่มาเยี่ยมมาเยือนในครั้งนี้ แต่อีกหลายคนคงจะเหงา เช่นเดียวกับพี่สาวคนหนึ่งที่ใกล้กันนั้น ดูจากเครื่องแต่งกาย ด้วยผ้าซิ่นสีน้ำเงินล้วนและเสื้อสีฟ้า คงเป็นหนึ่งในผู้ต้องขังทั้งหมด กำลังกวาดลูกไทรที่ร่วงหล่นอยู่ข้างถนน และต้องทำหน้าที่ตัวเองไปตามปกติ แต่บางทีหากคิดอีกทาง ก็อาจจะโชคดีกว่าใครอีกหลายคนที่อยู่ภายในรั้วสูงสีขาวนั้นก็เป็นได้ ด้วยได้ออกมาสู่ภายนอกที่มีกลิ่นอายของอิสรภาพอยู่ไม่ไกลในวันข้างหน้า
แดดแรงแสงกล้าขึ้นทุกขณะ ก็ได้เวลาที่จะได้เข้าไปเยี่ยมเยือน เนื่องนักศึกษาที่ไปด้วยกันในครั้งนี้ เป็นกลุ่มใหญ่ จึงมีการจัดระเบียบและตรวจตรากันนานพอสมควร จึงก้าวผ่านประตูเข้าไป ประตูแล้ว ประตูเล่าที่ก้าวผ่าน ราวกับความอิสรเสรีได้ถอยห่างออกไปทุกที และหยุดยั้งและรั้งรออยู่ตรงประตูนั้นเอง รอที่เรา หรืออีกหลาย ๆ คนในนั้นก้าวผ่านออกไป และพาความอิสรเสรีนั้นกลับไปกับตัวด้วย
ลานโล่ง ที่ปลูกต้นไม้ ดอกไม้เสียร่มรื่นและชื่นใจ นั่นก็อาจทำให้ใจที่ห่อเหี่ยวกลับสดชื่นขึ้นมาได้บ้างกระมัง ด้วยชีวิตที่ต้องถูกจำกัดอยู่ภายในนี้แทบจะหาความเริงรื่นได้ยากเต็มที จากจุดนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ต้องขังส่วนใหญ่แล้วจะนุ่งผ้าถุงสีน้ำเงินและเสื้อสีฟ้า ที่ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ขอตนเองไป ในชั้นนี้จะมีประตูอีกชั้นหนึ่งที่กั้นเป็นชั้นใสสุด หากนับรวมชั้นนี้เข้าไปอีก ก็คงจะเป็น ๕ ชั้น แต่ชั้นที่ ๕ นี่อาจจะสำหรับคนบางคนก็เป็นได้ ด้วยเห็นผู้ต้องขังอีกหลายคนต่างเดินไปมาบนลานนี้ หากเมื่อเทียบกับจำนวนทั้งหมด คงเป็นจำนวนที่น้อยมาก
เมื่อประตูนั้นเปิดออก เหมือนกับเปิดประตูใจที่จะรับรู้ และเข้าถึงวิถีความเป็นไปแห่งโลกที่ไร้อิสระเช่นนี้
ภายในรั้วนี้มีผู้คนจากหลายที่ จากหลายความผิดที่ก่อ มารวมกันอยู่ในนี้ ทั้งหมดเป็นผู้หญิง หากไม่มีความผิดติดตัวแล้ว อาจจะทำให้คิดว่าในนี้เป็นฝ่ายในของวังหลวง หรือไม่ก็อาจจะคิดว่าในนี้เป็นเมืองแม่ม่ายก็ได้เช่นกัน ทั้งที่ผู้ที่มีความผิดระดับที่ร้ายแรงต้องโทษประหาร จำคุกตลอดชีวิต หรือแบบมีกำหนด และแม้กระทั่งผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินจากศาลก็มีด้วยเช่นกัน แต่ทุกชีวิต ก็มาใช้ชีวิตร่วมกันภายใต้กฎเกณฑ์อันเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด
บางคนเมื่อมาอยู่ในนี้ ได้พาบุคคลผู้ไม่มีความผิดมาอยู่ร่วมด้วย นั่นคือ เด็ก อันเป็นลูกของผู้ต้องขังที่ติดท้องมาตอนถูกจับ ก็ต้องมาอยู่รวมกันในนี้ด้วยเช่นกัน เด็กผู้บริสุทธิ์ ก็กลับกลายต้องถูกจองจำด้วยผิดที่มี?เป็นผู้ต้องขัง ไม่เกี่ยวอันใดกับชีวิตที่ไร้เดียงสานั้นเลย ใครจะไปรู้ ปม อาจถูกขมวดไว้ในใจของเด็กตั้งแต่ตอนที่คลอดมานั้นก็เป็นได้ หากปมนั้นขมวดแน่นและหลายชั้น ก็อาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันหัวใจของเด็กเมื่อโตขึ้นอาจจะสูญเสียไปเลยก็ได้ ทั้งหมดเป็นปัญหาที่สืบทอดต่อไปในวันข้างหน้า ถึงแม้ว่าเป็นการคาดเดา แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้อย่างมาก ด้วยความผิดแม้แต่หนึ่งครั้ง อาจจะไม่ได้ทำลายเพียงแค่ตัวเองเท่านั้น แต่ส่งผลไปยังบุคคลอื่นอีกมากในสังคม
ถัดจากโรงเรือนเด็กอ่อน ใกล้กันนั้นเป็นห้องเยี่ยม ที่มีญาติพี่น้องแวะเวียนมาหา
หน้าต่อหน้า เสียงต่อเสียง คงจะดีไม่น้อย หากไม่มีกระจกใสกางกั้น และกรองเสียงผ่านเครื่องพูด เห็นกันอย่างชิดใกล้ แต่ก็ห่างกันเหลือเกิน พ่อแม่เยี่ยมลูก ลูกมาเยี่ยมแม่ จอแจกันอยู่ด้านนอก เป็นภาพที่สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้นึกถึงบางคนที่อยู่ใกล้กัน มีโอกาสที่จะเจอกันทุกวันกลับไม่ค่อยจะได้พูดคุยกันเท่าไรนัก ต่างฝ่ายต่างมีที่ทางส่วนตัวแม้แต่กับคนในครอบครัวก็ตามที ความอบอุ่นจะเอามาจากไหน ถ้าไม่เคยเอาให้กันและกัน บางครั้งกว่าจะได้พูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกันก็สายเกินแก้ไปแล้วก็ได้ อาจจะถูกแบ่งกั้นด้วยกระจกใส อย่างที่ห้องเยี่ยมในห้องขังนี้ก็เป็นได้... หากคิดในแง่ดีที่หน่อย ก็ยังดีกว่าที่จะลาลับล่วงไปไม่หวนคืนอีกเลย
ห่างจากห้องเยี่ยมไปไม่ไกลนัก รูปลักษณ์คล้าย ๆ โรงงานย่อม ๆ ก็ว่าได้ เป็นโรงเรือนที่เปิดโล่ง ติดไว้ด้วยตาข่ายลวดที่ปิดล้อมไว้ ภายในมีผู้หญิงที่อยู่เครื่องแต่งกายแบบเดียวกันทั้งหมด บางคนก็ยังเป็นวัยรุ่น บางคนก็ย่างเข้าวัยกลางคน และบางคนก็เส้นผมเปลี่ยนสีเป็นสีขาวหมดทั้งศีรษะเลยทีเดียว ต่างฝ่ายต่างง่วนกับผืนผ้าและจักรเย็บ เรือนนี้เป็นเรือนที่เป็นโรงงานเย็บผ้า อันเป็นการฝึกวิชาในการประกอบอาชีพหลังจากพ้นโทษออกไป ให้มีช่องทางทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เป็นการฝึกที่อยู่ในการควบคุม ทุกกระเบียดนิ้ว
ต่อไปอีกหน่อยก็เป็นโรงครัว เป็นสถานที่ประกอบอาหารที่ต้องเลี้ยงทุกชีวิตที่อยู่ในนี้ แต่ละวันจะมีรายการอาหารวางไว้ล่วงหน้า ที่จะต้องประกอบอาหารตามรายการที่วางไว้ ส่วนคนกินแม้นไม่ใช่หมอดูก็คงจำได้ว่า แต่ละมื้อจะได้รับประทานอะไรบ้าง ที่สังเกตและขอชื่นชมอยู่อย่างหนึ่ง คือทุกอย่างเป็นระบบระเบียบและสะอาดสะอ้านสมกับเป็นโรงครัว ดีกว่าโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเสียอีก แต่นั่นแหละ ทุกอย่างล้วนมีกรอบมีเส้นที่ขีดให้เดินและเป็นไปตามนั้น ด้วยตนเองไม่มีสิทธิ์ที่จะแวะ หรือออกจากเส้นจากกรอบนั้นได้ ด้วยความอิสรเสรีได้ถูกทิ้งไว้เบื้องนอกตั้งแต่ย่างกรายเข้ามาแล้ว ทุกชีวิตต่างก็ต้องดิ้นรนที่จะอยู่ไปภายใต้กฎเกณฑ์ที่วางไว้ให้ได้
ไม่เพียงแต่การเรียนรู้ในการเย็บจักรตัดผ้าแล้ว การทอผ้าก็เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมเสริมการเรียนรู้และประกอบอาชีพ กี่ทอผ้าหลายหลังวางเรียงรายอยู่ในโรงทอ มีทั้งวัยรุ่นและวัยกลางคนกำลังสับฟืมจากเส้นด้ายมาเป็นผืนผ้ากันอย่างขะมักเขม้น โดยมีผู้ที่มีอาวุโสกว่าคอยดูแลอยู่ด้วย แต่ก็ต้องทำงานในส่วนของตนด้วยเช่นกัน
เสียงกี่ทอผ้าดังผสานเสียงกับการเรียนเขียนอ่านจากโรงเรือนใกล้ ๆ ที่เป็นสองชั้น ชั้นแรกเป็นห้องส่วนประชาสงเคราะห์ให้กับผู้ที่พ้นโทษออกไป และติดตามผล และห้องใหญ่เป็นห้องสมุดที่มีหนังสือหลากหลาย มีผู้ต้องขังผู้ที่รักในวิชาความรู้เข้าไปนั่งอ่านกันอย่างจริงจัง แม้นว่ากำแพงสูงจะกางกันเสรีภาพในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ได้กางกั้นการเรียนรู้ ด้วยภายในมีโรงเรียนที่สอนตั้งแต่เริ่มให้อ่านออกเขียนได้ ไปจบถึงระดับปริญญาตรี สำหรับการศึกษาปริญญาตรีนั้น เป็นการเรียนทางไกลกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช แต่ผู้เรียนต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในการเรียนระดับนี้ ซึ่งก็ได้มีผู้ที่สำเร็จการศึกษาไปหลายคนแล้วเหมือนกัน นอกจากการเรียนการสอนแล้ว ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มีการเรียนรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้ก้าวทันโลกที่รุดหน้าไปอย่างมาก และนี่เองอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ที่จะสามารถพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นทางด้านการศึกษาและจิตใจ เพื่อที่สู้ต่อไปในโลกภายนอกหลังจากที่พ้นโทษออกไป
เมื่อเลาะเส้นทางมาถึงอีกฟากหนึ่งนั้น จะเป็นเรือนนอนของผู้ต้องขัง ที่เป็นเรือนที่ติดเหล็กดัด ส่วนภายในนั้นเป็นห้องโล่ง ที่มีเตียงสองชั้นตั้งอยู่หลายตัว แต่ละห้องเป็นห้องใหญ่ที่อยู่ด้วยกันหลายคน ที่ต้องแบ่งปันจัดสรรกันอยู่ แทนที่จะได้อยู่กับพ่อแม่พี่น้องกลับต้องมายัดเยียดกันอยู่ในโรงนอน ด้วยความผิดที่ได้กระทำไว้ หนักบ้างน้อยบ้างต่างก็ผลักดันให้ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในนี้ทั้งนั้น
เมื่อมองจากระเบียงเรือนนอน ไปทางขวามือ ก็จะเห็นเป็นห้องอาบน้ำ ที่เปิดโล่ง ด้วยเหตุที่ในนี้ทั้งหมดเป็นผู้หญิง และผู้คุมก็เป็นผู้หญิงกันทั้งสิ้น ฉะนั้นการเปิดโล่งจึงไม่ตะขิดตะขวงใจใด ๆ ทั้งนั้น กอปรกับระเบียบของทัณฑสถานนี้ ที่ผู้ต้องขังจะต้องอยู่ในสายตาผู้คุมอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่เช้าจนถึงเข้านอน ทุกกิจกรรมต่างต้องทำตามที่กำหนดไว้ทุกอย่าง ให้เป็นระบบระเบียบและเรียบร้อยอย่างยิ่ง แรงบีบคั้นต่าง ๆ ก็กัดกร่อนหัวใจ และเชื่อว่าทุกคนปรารถนาที่จะโบยบินสู่เสรีภาพเบื้องนอก การอยู่ข้างในแม้นว่าสะดวกสบายตามอัตภาพที่พึงจะมีได้ มีการฝึกฝนวิชาชีพให้เรียนรู้ได้ก็จริง แต่การอยู่ด้วยกันกับคนรักและครอบครัวย่อมมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
หากเลือกได้ คงไม่มีใครที่จะเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในนี้
แต่เมื่อทำผิด ก็ต้องชดใช้
ห้องขัง ขังได้แต่เพียงกายที่ต้องอยู่ในขอบเขตที่จำกัด แต่ไม่ได้ขังจิตใจที่พึงจะพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้น ตระหนักพึงรู้ถึงความผิดและการกระทำของตนอยู่ตลอดเวลา เป็นโรงฝึกให้ใจเข้มแข็ง แข็งต่อสิ่งผิด คิดในสิ่งทีถูกขึ้น
ชีวิตหลายชีวิตต่างผิดพลาด ทุกคนต่างก็เคยผิดพลาดด้วยกัน แต่คนที่สำเร็จในชีวิตจะนำความผิดพลาดนั้นมาแก้ไข และเป็นบทเรียนเพื่อที่จะผลักดันตนเองให้ก้าวไปข้างหน้าต่อไปหรือไม่
ไม่มีคนใดที่ไม่เคยทำผิดเลยในโลกนี้ เพียงแต่ความผิดนั้นมากน้อยต่างกันไป เมื่อไม่สามารถที่จะทำให้ดีที่สุดได้ แต่ก็ต้องทำผิดให้น้อยที่สุด
ประตูแล้วประตูเล่าที่เดินย้อนผ่านออกมา คล้ายกับคอยกระซิบเตือนว่า ดูไว้ จำไว้...ดูไว้ จำไว้...
และแล้วแต่ละคนก็พาอิสระเสรีกลับออกไปด้วยดวงใจที่มั่นคงขึ้นกว่าเดิม๚๛
ปล. บทความนี้ คัดมาให้อ่านจากบทความที่ส่งอาจารย์ในกระบวนวิชา Huge 106 ครับ
Create Date : 23 พฤษภาคม 2549
Last Update : 23 พฤษภาคม 2549 16:36:53 น.
2 comments
Counter : 808 Pageviews.
Share
Tweet
โดย:
โสมรัศมี
วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:40:11 น.
หวัดดีจ้ะ ศศิศ
โดย: nok (
ผู้สาวเมืองยศ
) วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:55:25 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ศศิศ
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
buaravong
Angleevil
ศศิศ
WIWANDA
นายช่างปลูกเรือน
ผู้สาวเมืองยศ
piccy
ไวรัลยา
คนชื่นชอบนิยาย ^^
[NostalgiA]
เมฆชรา
A_Mong
proctorray
Webmaster - BlogGang
[Add ศศิศ's blog to your web]
Links
CM77 วิทยุอินเตอร์เน็ตล้านนา
โลกล้านนา
oatbook
สกุลไทย
นครน่าน
สวัสดีน่าน
ฤๅดอกไม้จักลาร่วง
หอมรดกไทย
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.