ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ยาคูลท์ กำจัดกลิ่นจุดซ่อนเร้นสาว

ยาคูลท์


เชื่อได้ว่า... คงมีสาวๆ หลายคน ที่กำลังประสบปัญหากับสิ่งนี้ กับกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ในจุดซ้อนเร้น (อวัยวะเพศ) ที่หากแฟนหนุ่มเข้าใกล้ คงร้องจ๊ากจนต้องวิ่งหนีไปสามร้อยลี้ จนทำให้เพื่อนๆ ขาดความมั่นใจ แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ กับวิธีง่ายๆ มาฝากกัน ในการกำจัดกลิ่นนั้นให้หายไป

สำหรับกลิ่นเหม็นไม่ พึง ประสงค์ในจุดซ้อนเร้นของสาวๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดได้จากเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดีในช่องคลอดลดน้อยลง ซึ่งถูกทำลายโดยแบตทีเรีย จนเกิดเป็นกลิ่นเหม็นออกมา ในบางรายกลิ่นอาจจะแรงมาก แม้ในขณะเข้าใกล้ แต่ไม่ใช้เรื่องที่น่าตกใจ เพราะปัญหาที่เกิดนี้มีวิธีรักษาได้อย่างง่ายดาย

ส่วนวิธีรักษานั้น เพียงแค่เพื่อนๆ เพิ่มเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปทำลายแบตทีเรียที่เกิดอยู่ โดยเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดีที่ว่านี้ ก็คือเชื้อ "แลคโตบาซิลัส" (Lactobacillus) ที่มีอยู่ในยาคูลท์ ซึ่งเพื่อนๆ คงรู้จักกันดี

เพียงแค่เพื่อนๆ "ทานยาคูลท์วันละขวด" เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีให้กับร่างกาย ให้เข้าไปทำลายแบตทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น เท่านี้กลิ่นเหม็นที่เพื่อนๆ ไม่พึงประสงค์ในจุดซ้อนเร้นก็จะหายไปเอง



ขอบคุณข้อมูลจาก //fws.cc/tiensstar/index.php?topic=1597




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2554   
Last Update : 7 ตุลาคม 2554 15:27:23 น.   
Counter : 5273 Pageviews.  

แฟชั่นหมวกเก๋ๆ ใส่แล้วอินเทรนด์

ช่วงนี้แฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมมีมากมายให้เราเลือกสรร จนบางครั้งก็เลือกกันไม่ถูก บางครั้งเราก็ควรจะเลือกที่เหมาะกับตัวเราสภาพบ้านเมืองเรา วันนี้บูรินขอเอาแฟชั่นที่สามารถใช้ได้จริงๆ มาให้สาวๆ ได้ชมกันนั่นก็คือ หมวกค่ะ บ้านเมืองเราแดดแรงการสวมหมวกป้องกันแสงแดดเพื่อไม่ให้มาทำลายผิวเรานั้นควรและจำเป็นอย่างยิ่ง

และตอนนี้ก็มีแฟชั่นหมวกมากมายออกมาให้เราเห็นมากมาย เหล่าศิลปิน ดารา ก็ใส่กันมากมาย ถ้าสาวๆ คนไหนไม่มีไว้ในครอบครองจะเชยเอานะคะ ก่อนอื่นก่อนที่จะไปหามาไว้ใส่เดินเริ่ด เชิ่ด เราลองไปดูกันก่อนดีกว่าว่าหมวกประเภทไหนควรใส่อย่างไร

หมวกทรงปีกใหญ่

หมวกลักษณะนี้จะฮิตมากเมื่อไปทะเลเราจะเห็นสาวๆหลายคนใส่กันมากมาย เพราะนอกจากจะกันแดดได้ดีแล้ว ยังสามารถเป็ยพร็อบในการถ่ายรูปให้คุณดูเป็นเจ้าหญิงแสนสวยได้ง่ายไเมื่อคุณใส่คู่กับเเม๊กซี่เดรสแสนสวย

หมวกทรง Fedora Hat (ทรงไมเคิล)

หมวกลักษณะแบบนี้จะออกแนวใส่ได้บ่อยใส่เวลาไปเดินเล่นชิวล์ๆ ช้อบปิ้งหรือในวันสบายๆ พักผ่อนเพราะหมวกทรงแบบนี้จะไม่ใหญ่จนดูโอเว่อร์เกินไปทำให้คุณสาวๆ ใส่ได้ง่ายกัยชุดเสื้อผ้าที่มีอยู่ ไม่ต้องหาชุดให้วุ่นวายเป็นพิเศษ

หมวกแก๊ป

ถึงจะเป็นทรงหมวกแก๊ปที่ดูแมนๆ แต่ว่าผู้หญิงอย่างเราก็ใช่ว่าจะใส่ไม่ได้ เพียงแต่ว่าคุณอาจต้องแต่งตัวให้ดูทะมัดทะเมงขึ้น กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ดูเข้ากันดีอย่างลงตัวเลยละคะ

หมวกไหมพรม

หมวกแบบนี้เหมาะที่จะสวมใส่ฤดูหนาวมากกว่าเลือกแบบที่ไม่หนาจนเกินไป (ฤดูหนาวบ้านเราก็ไม่หนาวมากหนาไปอาจจะร้อนได้นะคะ) นอกจากจะช่วยให้คุณสาวๆ ดูเก๋เริ่ดแล้วยังช่วยให้อบอุ่นด้วยใส่คู่กับเสื้อกันหนาวน่ารักๆ กับบูทสักคู่ก็ไม่เลวนะคะ

นี่ก็เป็นบางส่วนที่บูีิรินหยิบยกมาเป็นตัวอย่างให้คุณสาวๆ เลือกดูกันพอหอมปากหอมคอนะคะ สาวๆคนไหนที่ยังไม่มีหมวกเเสนเก๋แบบนี้ไว้ในครอบครอบรีบไปหามาไว้ด่วนค่ะ แล้วคราวห้าจะมีอะไรดีๆมาฝากกันอย่าลืมติดตามกกันนะคะ...

เรียบเรียงโดย

ขอบคุณภาพประกอบจาก //koreainlove.com




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2554   
Last Update : 7 ตุลาคม 2554 15:08:41 น.   
Counter : 1969 Pageviews.  

ถ้ามัวแต่มองข้อเสีย แล้วเมื่อไหร่จะเห็นด้านดี ๆ ของกันและกัน

ความรัก

ถ้ามัวแต่มองข้อเสีย แล้วเมื่อไหร่จะเห็นด้านดี ๆ ของกันและกัน (ใยไหม)

ชีวิตของเราจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย ถ้าเรามองเห็นด้านดี ๆ ของกันและกัน ความดีของแฟนเรามีอะไรบ้างนะ? ลองนึกออกมาให้เยอะ ๆ แล้วจะรู้สึกว่าเรานี่โชคดีจังเลยนะ มีแฟนที่ดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ ข้อดีเขาเยอะจริง ๆ ถ้ามองเห็นแต่ข้อเสีย...ทุกอย่างก็จะกลายเป็นตรงข้าม เขาไม่ดีอย่างโน้น เขาไม่ดีอย่างนี้ คบไปก็เหมือนกับชีวิตรักครั้งนี้แย่จริง ๆ

การมองโลกในด้านดี ช่วยทำให้ความรู้สึกของเราดีตามไปด้วย มันจะดีแค่ไหน ถ้าเราอารมณ์ดีกับความรักของเราทุกวัน ไม่ใช่อามรณ์เสีย เพราะมองเห็นแต่ข้อเสียของกันและกัน พอเห็นข้อเสียมาก ๆ เข้า ความรู้สึกก็จะติดลบ กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปเลย

ถ้าปล่อยให้ความรักติดลบในสายตาของตัวเอง ใครก็คงจะช่วยไม่ได้ เวลามีปัญหาทะเลาะกัน ก็เอาข้อเสียของกันและกันมาประจานให้รู้สึกไม่ดี เป็นใคร...ลองถ้าถูกหักหน้าแบบนั้น ก็ต้องโกรธ ไม่พอใจ อย่าลืมว่า...จุดด้อยของมนุษย์ ถ้าถุกกระทบเพียงน้อยนิดสิบปีก็ไม่มีวันลืม

รักบนความเข้าใจกันดีกว่า อย่าทำร้ายความรักด้วยอคติของตัวเองเลย นอกจากจะไม่เข้าท่าแล้ว ยังเป็นการเบี่ยงเบนเส้นทางของความรัก ให้ออกนอกเส้นทางเดิม ๆ ยิ่งเห็นข้อเสียเยอะ...ความรักก็ยิ่งห่างไกลออกไป

ถ้าความรักมันอยู่ไกลจนต่อกันไม่ติด คราวนี้จะทำยังไง จะให้มานึกถึงข้อดีของเขาอีกครั้ง มันก็คงไม่ทันกาลซะแล้ว แบบนี้เขาถึงบอกว่าเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ ก่อนจะคิดหรือพูดอะไร ก็ต้องนึกก่อนว่าถ้าเป็นเราได้ยินแบบนั้น หรือถูกกระทำแบบนั้นจะรู้สึกยังไง ทนไม่ได้ใช่ไหม โกรธใช่ไหม ทั้ง ๆ ที่เราก็รู้ตัวว่าเรามีข้อดีใช่ไหม ทำไมแฟนเรามองเห็นแต่ข้อเสีย

คนเราต่อให้เป็นคนโมโหร้าย เข้าใจยาก อยู่ด้วยแล้วหงุดหงิด หรือรู้สึกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ดั่งใจก็ตาม แต่ถ้าเรารักที่ตัวตนจริง ๆ ของเขา ถ้าเรารักเขาที่ข้างใน เราจะไม่รู้สึกเลยว่าข้อเสียของเขา จะสร้างปัญหาให้กับความรักของเรา ไม่มีอะไรจะมาทำลายความรักได้ ถ้าเราไม่ยอมซะอย่าง จริงไหม ร้อยล้านความไม่ดีที่เขาเป็น เมื่อเทียบกับข้อดีของเขา มันก็พอแล้วไม่ใช่หรือ ถ้าข้อดีข้อเดียวของเขา เป็นข้อดีที่ใครคนอื่นไม่มี ข้อดีของเขาข้อนี้แหละ ที่จะทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง

ข้อดีที่บอกว่าเขารักเราจริง ๆ มันหายากนะ ถ้าเจอแล้วก็ต้องรักษาไว้ดี ๆ ความรักเอาชนะได้ทุกอย่างอยู่แล้วล่ะ แม้กระทั่งความไม่ดีทั้งหลายของเขา วันหนึ่งความรักอาจเปลี่ยนเขาให้เป็นคนใหม่ได้ จริง ๆ นะ ทุกอย่างอยู่ที่ "ใจ" ถ้าเราคิดว่า "ดี" มันก็ดี ถ้าเมื่อไหร่ที่เห็นแต่ด้านที่ไม่ดี มันก็ไม่มีวันมีความสุขหรอก

ขอให้โชคดีกับด้านดี ๆ ของความรักทุกคนนะ ^___^





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

จากหนังสือ : ไม่อยากให้เราเลิกกัน
เขียนโดย: ออนอุมาร์




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2554   
Last Update : 6 ตุลาคม 2554 16:12:05 น.   
Counter : 1265 Pageviews.  

หุ่นงาม ไร้เซลลูไลท์





หุ่นงาม ไร้เซลลูไลท์
(นิตยสาร Appeal)

1.ทำไมผู้หญิงมีเซลลูไลท์ : เหตุที่ผู้หญิงมีเซลลูไลท์ก็เพราะว่าเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของผู้หญิงมีความยืดหยุ่นกว่าของผู้ชาย แถมธรรมชาติยังสร้างเนื้อเยื่อของผู้หญิงให้เหมาะกับการตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตามเซลลูไลท์ที่ได้มาก็ทำให้ผู้หญิงเสียสวยเพราะมองดูไม่สวยงาม เป็นรอยตะปุ่มตะป่ำเหมือนผิวส้ม

2.เซลลูไลท์เป็นพันธุกรรมหรือไม่ : แม้ว่าตอนนี้คุณมีเซลลูไลท์ไม่มากนัก แต่ให้ดูต้นขาของคุณแม่เป็นตัวอย่าง ถ้าคุณแม่มีเซลลูไลท์ละก็ เป็นไปได้ว่าคุณจะมีเซลลูไลท์ 80% ในอนาคต ถ้าคุณไม่หาวิธีป้องกันตั้งแต่วันนี้

3.อายุมีบทบาทกับเซลลูไลท์ : ยิ่งอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อจะลดลง ซึ่งจะทำให้เซลล์ไขมันขยายมากขึ้น เปิดโอกาสให้เซลลูไลท์มาพอกพูนตามร่างกาย หากใครที่ยังไม่มีปัญหาเซลลูไลท์ในขณะที่อายุยังน้อย แต่ในอนาคตคงได้เจอกับเซลลูไลท์แน่นอน

4.บทบาทของฮอร์โมนกับเซลลูไลท์ : เซลล์ไขมันจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนของผู้หญิง ทั้งนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีอยู่ในยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งมีปริมาณเอสโตรเจนสูงและอาจก่อให้เกิดเซลลูไลท์เพิ่มขึ้น คุณจึงควรปรึกษาสูติ-นรีแพทย์เกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิดที่หลีกเลี่ยงฮอร์โมนเอสโตรเจน

5.การอาบน้ำที่ผสมเกลือหรือสาหร่าย : การอาบน้ำที่ผสมเกลือและสารสกัดจากสาหร่าย สามารถช่วยลดเซลลูไลท์ แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้สาหร่ายให้ประโยชน์ในการช่วยเผาผลาญไขมัน ส่วนการอาบน้ำที่ผสมเกลือ จะได้ผลมากถ้าเซลลูไลท์เกิดจากการมีน้ำขังอยู่

6.ควรขัดผิวไหม : ควรขัดผิวเป็นอย่างยิ่งที่ดีที่สุดคือการขัดผิวทุกวันขณะอาบน้ำ เพราะการขัดผิวจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีทั่วร่างกาย ช่วยขจัดเซลลูผิวเก่าๆ รวมทั้งช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มและเรียบเนียนขึ้น

7.การนวด ควรนวดบริเวณที่มีเซลลูไลท์ : เพราะจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและช่วยกระตุ้นให้มีการเผาผลาญไขมัน และยังช่วยให้ต่อมน้ำเหลืองทำงานดี ซึ่งจะช่วยขจัดเซลลูไลท์ที่เกิดจากากรที่มีน้ำขับอยู่

8.มือนวดและอุปกรณ์นวด : การนวดเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือต่อมน้ำเหลือง จะช่วยลดเซลลูไลท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้อุปกรณ์นวด หรือการนวดดึงผิวก็ได้ผลเร็ว เพราะจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี และช่วยขัดเซลล์ไขมัน

9.การอาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น : การอาบน้ำอุ่นสลับกับการอาบน้ำเย็น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยกระชับผิวและขจัดของเสียออกจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่ดีที่สุดควรอาบน้ำอุ่นก่อนแล้วตามด้วยน้ำเย็น

10.ครีมต้านเซลลูไลท์ : ควรนวดผิว ด้วยครีมต้านเซลลูไลท์ทุกเช้าเย็น เพื่อเป็นการช่วยบำรุงผิวและช่วยกระตุ้นการเผาผลาญเซลล์ไขมันใต้ผิว

11.ผลลัพธ์ที่ได้จากครีมต้านเซลลูไลท์ : ครีมต้านเซลลูไลท์ ส่วนใหญ่มักบอกประสิทธิภาพว่าจะเห็นผลหลัง 10 วัน สามารถลดน้ำที่ขังอยู่ตามเซลล์ได้ประมาณ 25% และประมาณหนึ่งเดือนจะสามารถลดผิวเปลือกส้มได้ประมาณ 30%

12.ครีมต้านเซลลูไลท์มีประสิทธิภาพนานแค่ไหน : ถ้าคุณใช้ครีมต้านเซลลูไลท์ ออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน จะได้ผลนาน แต่ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมเดิม ๆ เซลลูไลท์ก็จะกลับมาเยี่ยมคุณเหมือนเดิม

13.ส่วนผสมใดในครีมได้ผลกับการขจัดเซลลูไลท์ : ส่วนผสมที่มีบทบาทสำคัญในการขจัดเซลลูไลท์คือ คาเฟอีน guarana, viniferin จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการขจัดไขมันในเซลล์ นอกจากนี้ ruscus ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองและป้องกันการสะสมเซลลูไลท์ตามขา ส่วนสารสกัดจากแปะก๊วยและโสมจะช่วยกระตุ้นการขจัดไขมัน ทั้งนี้โสมมีแอนโดรเจนจากพืชซึ่งจะช่วยป้องกันการสร้างเซลลูไลท์ที่เกิดจากเอสโตรเจน ส่วนสารสกัดจาก horse chestnut จะช่วยขจัดสารพิษ ช่วยให้เซลล์แข็งแรงและช่วยขจัดน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย

14.ทำไมต้องดื่มน้ำมาก ๆ : การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยเผาผลาญพลังงาน ซึ่งจะช่วยขจัดไขมันด้วย นอกจากนี้น้ำยังช่วยให้ผิวสวยจากภายใน ดังนั้น คุณจึงควรดื่มน้ำวันละประมาณ 1-1.5 ลิตร

15.ความเครียดทำให้สะสมเซลลูไลท์ : จากการศึกษาของนักวิชาการพบว่า ฮอร์โมนแห่งความเครียด เช่น adrenalin และ noradrenalin ทำให้เกิดเซลล์ไขมัน วิธีผ่อนคลายความเครียดก็คือ การเล่นโยคะ หรือนั่งสมาธิ จะช่วยลดความเครียด แต่ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ

16.เลเซอร์ขจัดเซลลูไลท์ : ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกเสริมความงามเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ช่วยขจัดเซลลูไลท์

Tip : การทำทรีตเม้นท์หรือ Boby Wrapping สามารถช่วยกำจัดเซลลูไลท์ได้ดี



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

สิงหาคม 2554 ISSUE 04




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2554   
Last Update : 6 ตุลาคม 2554 16:11:03 น.   
Counter : 1219 Pageviews.  

มารู้จักการแต่งตัว-แต่งหน้า แบบ เกาหลี + ญี่ปุ่น

แต่งหน้าแบบสาวเกาหลี ญีุ่ปุ่น
แต่ก่อนนั้น เรื่องแฟชั่นเราต้องยกให้ชาวญี่ปุ่นเค้า ไม่ว่าจะแต่งหวานๆ แต่งแปลกๆ แต่งเท่ๆ เก๋ไก๋ แต่ทุกวันนี้เรารับกระแสเกาหลีเข้ามาตั้งแต่ แดจังกึม ฟูลเฮ้าส์ ดงบังชินกิ วันเดอร์เกิล์ล ฯลฯ ดังนั้นหากพูดถึงเรื่องแฟชั่นแล้ว ปัจจุบันนี้คงจะหนีไม่พ้นแฟชั่นที่มาแรงแซงทางโค้ง นั่นก็คือ "แฟชั่นสไตล์เกาหลี" กระแสนิยมที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน
แฟชั่นในยุคนี้ "เทรนด์เกาหลี" เริ่มเข้ามาในสังคม ไทยเรามากสุด ๆ เมื่อพูดถึงคำ ๆ นี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนะคะ กระแสที่มาแรงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมทางด้านการบันเทิง ดารา นักร้อง ซีรี่ส์ต่าง ๆ ในด้านของภาษาก็เป็นที่นิยมไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้มีจำนวนนิสิตนักศึกษาไม่น้อยที่สนใจและเลือกเรียนภาษาเกาหลีมาก ขึ้น พวกเราเริ่มรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีกันมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน การทักทาย และแฟชั่นเสื้อผ้า เพราะว่าคนเกาหลีเน้นสวมเสื้อผ้าตามฤดูกาลแตกต่างกันไป แต่ละฤดูมีลักษณะการแต่งกายที่ไม่เหมือนกัน เช่น
ฤดูใบไม้ผลิ หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า "พม" ฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด สดใส เสื้อผ้ามีหลากหลายสไตล์ด้วยกัน

ฤดูร้อน หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า "ยอรึม" ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีสดใสเช่นกัน แต่โทนสีอ่อนลงมากกว่า ลักษณะเสื้อผ้าจะเป็นเสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วน เป็นต้น
ฤดูใบไม้ร่วง หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า "คาอึล" ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นเสื้อผ้าสีทึบ ๆ มืด ๆ เช่น สีน้ำเงิน สีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า สีน้ำตาล
ฤดูหนาว หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า "คยออูล" ฤดูนี้เสื้อผ้าส่วนใหญ่เน้นสีดำเป็นหลัก เสื้อแขนยาวสีเข้ม เสื้อกันหนาวสีดำ เสื้อไหมพรมใส่คู่กับผ้าพันคอสีเข้ม ๆ

เสื้อสไตล์เกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน เหตุเป็นเพราะว่าอากาศในประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวเย็น เพราะฉะนั้นจึงเน้นเสื้อตัวยาว ๆ โทนสีอาจตัดกันหรือเป็นโทนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ส่วนกางเกง มักเป็นกางเกงประมาณเข่า มีผ้าผูกเอวประดับแทนเข็มขัด ในฤดูหนาวจะเป็นกางเกงขายาวแทน
สำหรับผู้หญิง ก็จะเป็นกระโปรง ส่วนใหญ่แล้วออกแนวหวาน ๆ น่ารัก ๆ หากเป็นกระโปรงสั้น นิยมใส่เล็กกิ้งไว้ด้านใน แต่ส่วนมากผู้หญิงเกาหลีนิยมใส่ชุดแซ็ก
รองเท้า ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นหลัก หรือรองเท้าบู๊ต อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ ลักษณะสีสันออกโทนสีพื้น ๆ
เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ใช้เพชรคริสตัลเป็นส่วนประกอบ ลักษณะเหมือนทองคำขาว เงิน ไม่นิยมนำทองมาเป็นส่วนประกอบนะคะ
ทรงผม เน้นความเป็นธรรมชาติ นิยมดัดเป็นลอน ๆ คลื่น ๆ ทำผมให้ดูยุ่ง ๆ เป็นธรรมชาติ ทรงนี้สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
เครื่องประดับผม ที่กำลังเป็นที่นิยมกันใน ตอนนี้ คือ "ที่คาดผมแบบทูอินวัน" (คาดหนึ่งอันแต่ดูเหมือนมีสองอัน) มีลักษณะแยกเป็นสองแฉกด้วยกัน มีสีสันสดใส มีลักษณะเป็นเพชร วับ ๆ หรือตามวัสดุที่ประดิษฐ์มา หรือเป็นกิ๊บติดผมแนวน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊ก

รวมไปถึง "แฟชั่นการแต่งหน้าแบบเกาหลี" ที่เป็นกระแสมาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ การแต่งหน้าแบบเกาหลีจะเน้นแบบธรรมชาติเป็นหลัก การแต่งหน้าแบบนี้คนไทยเราก็กำลังฮิตกันมาก ๆ ลักษณะการแต่งหน้าแบบนี้ นอกจากจะดูสวยอย่างธรรมชาติแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่สดใสอีกด้วย
1. คนเกาหลีเวลาแต่งหน้าจะเน้นที่ "ดวงตา" เป็นหลัก อาจ เป็นเพราะว่าคนเกาหลีมีจุดอ่อนที่ตา หมายถึง ตาตี่ และมีชั้นเดียว สามารถลังเกตได้จากการที่คนเกาหลีทำศัลยกรรม ส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีเน้นทำตาสองชั้นเป็นหลัก แต่สำหรับคนที่ไม่ทำศัลยกรรมจะมีการแต่งดวงตาให้ดูคมชัดขึ้นและเป็นธรรมชาติ โดยเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิว หรือสีขนตา และควรใช้ประมาณ 3 สี โดยทาไล่ตามเฉดโทนอ่อนที่สุดไปจนถึงเข้มที่สุด และลงสีที่หนึ่งที่เป็นโทนสีอ่อนสุดบริเวณเปลือกตา ทาสีที่สองลงตรงบริเวณจุดกึ่งกลางของตา และเกลี่ยขึ้นข้างบน แล้วไล่สีที่สามจากหางตามาถึงบริเวณกึ่งกลางตาแล้วเกลี่ยขึ้น ลงสีที่เข้มที่สุดตามแนวชิดขอบตาอีกครั้ง และเกลี่ยให้เรียบเนียน
2. ถ้าอยากให้ดวงตาดูสวยคมชัดยิ่งขึ้น อย่าลืมเขียนขอบตาด้วย แต่ ควรเป็นชนิดเค้กอายไลเนอร์ เพราะดูซอฟต์เป็นธรรมชาติมากกว่า และไม่ควรเขียนแบบตวัดปลายขึ้น เขียนสีดำเฉพาะขอบตาบนเท่านั้น ซึ่งจะลากให้เป็นเส้นเล็กที่สุดโดยแทรกเข้าไประหว่างขนตา ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไป จากหัวตาจนถึงหางตาเท่า ๆ กัน และใช้แปรงเกลี่ยเพื่อไม่ให้เห็นเป็นเส้นขอบวาด
3. ส่วนขอบตาล่าง ให้ใช้สีขาวเขียนที่ขอบตา โดย เขียนที่ขอบตาด้านใน อีกเทคนิคที่ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งนั่นคือใส่ขนตาปลอม ซึ่งนิยมแซมขนตาแบบที่เป็นช่อ เพราะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเป็นแผง การดัดขนตาให้งอนเริ่มจากโคนไล่ขึ้นไปที่ปลายและปัดมาสคาร่าทั้งขนตาจริงขน ตาปลอมพร้อมกัน วิธีนี้ทำให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ดูเป็นธรรมชาติ

แฟชั่นญี่ปุ่น
ส่วนการแต่งตัวแบบชาวญี่ปุ่น ก็ยังไม่ได้หายไปไหน แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า ที่เค้าแต่งๆ กันนั้น เรียกว่ายังไง วันนี้เย็นตาโฟรวบรวมมาให้อ่านกันค่ะ

แฟชั่นญี่ปุ่น
แฟชั่นวัยรุ่นสไตล์ญี่ปุ่นตอนนี้ที่มาแรงสุดๆ ก็คงจะเป็น เสื้อผ้า ประเภท Gothic & Lolita และ Punk เรามาเริ่มรู้จักกันเลยดีกว่าว่าแต่ละสไตล์เป็นอย่างไร...

Gothic (โกธิค)
แฟชั่นแนวนี้ส่วนมากจะเน้นไปในเรื่องของโทนสีที่ดูครึมๆ ลึกลับๆ ซึ่งเป็นแฟชั่นแบบ “Dark Style” มักจะเป็นสีดำซะส่วนใหญ่ แต่ก็อาจจะมีส่วนประกอบเป็นสีขาว หรือสีแดง ตามแต่สไตล์ของแต่ละคน
ที่มาของแฟชั่นแนวนี้มาจากทางยุโรปเหนือและแถบอังกฤษค่ะ ซึ่งต้นกำเนิดอยู่ที่ชาวพื้นเมือง เรียกว่า “ชาวโกธิค” ซึ่งเราจะเห็นแฟชั่นสไตล์นี้ในหนังผี เช่น พวกท่านเคาน์, แวมไพร์ หรือพวกแม่มดในเทพนิยายที่ดูเรียบแต่หรูนั่นเอง หรือถ้าใครเคยอ่านหนังสือการ์ตูนเรื่อง “หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว” (Yamatonadeshiko) ก็จะเห็นการแต่งการสไตล์ Gothic ในเรื่องด้วยนะคะ

Lolita หรือ Lolita Baby (โลลิต้า)
ส่วนมากแฟชั่นแนวนี้จะเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นสาวๆ มากกว่า เพราะจะออกแนวหวานแหว๋วเหมือนตุ๊กตาน่ารักนะคะ เสื้อผ้าในแนวนี้จะเน้นไปทางลูกไม้ ระบาย และสีผ้าที่ดูหวานๆ เช่น สีชมพู สีขาว ซะส่วนใหญ่แฟชั่นแบบ Lolita คือการนำเอาแบบชุดของตุ๊กตาของเด็กผู้หญิงและชุดของเชื้อพระวงศ์ (พวกเจ้าหญิงน่ะคะ)นำมาประยุกต์ใช้กันให้เหมือนเจ้าหญิงน้อยๆในเทพนิยาย แฟชั่นแนวนี้เป็นที่นิยมมากในผู้ดีสมัยก่อนในแถบยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และได้แพร่หลายไปในอีกหลายประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น
Neo Lolita (นีโอโลลิต้า)
Neo Lolita (นีโอโลลิต้า) Neo Lolita เป็นการนำสไตล์ Lolita มาประยุกต์ให้เป็นแบบที่ทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ เป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นโดยเฉพาะสาวๆ เพราะโทนสีจะหวานๆ นอกจากนั้นยังใช้ผ้าลายสก็อตมาตกแต่งอีกด้วย
Gothic & Lolita
Gothic & Lolita แฟชั่นสไตล์ Gothic & Lolita คือ การนำเอาแฟชั่นแนว Gothic และ Lolita มารวมกัน โดยนำเอาความลึกลับของแนว Gothic และความหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของแนว Lolita มาผสมผสานกันทำให้เกิดเป็นแนวใหม่ คือ Gothic & Lolita ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคงจะเป็นเสื้อผ้าของ Mana วง Malice Mizer

Punk
Punk หรือ UK.Punk (พังค์) แฟชั่นสไตล์ Punk เริ่มตั้งแต่ยุคปลายของปี’60 และถิ่นกำเนิดของแฟชั่นแนวนี้คือประเทศอังกฤษ สมัยนั้นจะเริ่มในกลุ่มเล็กในยุคที่มีการปฏิวัติและเหตุจลาจลกลางเมือง ซึ่งแนวนี้จะออกแนวรุนแรง เช่น มีการเจาะตามร่างกาย การเพ้นท์หรือสัก แฟชั่นแนวนี้จะเน้นโทนสีดำเป็นหลัก นิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย นิยมแต่งหน้าและเขียนตากับปากด้วยสีดำ โดยจะมีส่วนประกอบของผ้าที่เป็นตาข่าย และเศษผ้าลุ่ยๆ ส่วนเครื่องประดับส่วนใหญ่จะเป็นเข็มขัด โซ่และหมุดเหล็ก โดยจะเห็นได้จาก วงร็อกของอเมริกานั่นเอง
Punk หรือ UK.Punk (พังค์)
JAP’Punk (เจแปนพังค์) เป็นพังค์ที่ประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์ของญี่ปุ่น ต้นแบบมาจาก UK.Punk และการ์ตูนเรื่อง NANA ของ Ai Yazawa พังค์ในแบบญี่ปุ่นบางทีก็จะอาศัยประยุกต์ระหว่างผ้าลายญี่ปุ่นมาบวกกับการ ออกแบบในแนวพังค์
เด็กแนวสไตล์ญี่ปุ่น

แฟชั่น Gal
พูดถึงแฟชั่นญี่ปุ่นยุคแรกๆ เลย ใครๆ ก็ต้องนึกถึงสาวน้อยหน้าใส ใส่ถึงเท้ายาวๆ ย่นๆ ที่เรียกว่า
Loose Socks .. ถือว่าเป็นแฟชั่นของเด็กวัยรุ่นยุคดั้งเดิมเลยทีเดียว (ราวๆ ก่อนปี 1998) ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีแต่งกันอยู่ แฟชั่นแบบนี้ เราเรียกว่า Gal โดยมีกฎง่ายๆ เพียงแค่

1. มีความมั่นใจในความน่ารักของตัวเอง
2. แต่งตัวออกใสๆ น่ารักไว้ก่อน
3. พูดด้วยน้ำเสียงสูงหวาน
4. นุ่งมินิสเกิร์ต (แม้จะเป็นชุดนักเรียน) พร้อม Loose Sock เรียกได้ว่า ขายความใสล้วนๆ เลยก็ว่าได้

แฟชั่น Gankuro
สาวๆ จะนิยมทาหน้าทาตัวให้ดำ และย้อมผมสีทอง ใส่ไมโครสเกิร์ตและรองเท้าบูต ซึ่งเราจะเรียกว่า แฟชั่น Gankuro-หน้าดำ ซึ่งนับว่า เป็นแฟชั่นที่หลุดโลกมากทีเดียว
แฟชั่น Manba
สไตลื Manba นั้น ดูเผินๆ จะคล้ายกับกังคุโระมากทีเดียว เพราะจะทาผวิและหน้าสีดำเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่ Manba นั้นมักย้อมผมสีขาว (หรือไม่ย้อมผม) แต่งขอบตา ขอบปากให้เป็นสีขาวมากๆ และจะไม่แต่งตัวเน้นความเท่ แต่จะเน้นความน่ารักแทน นิยามสีชมพู และมักมี Accessory น่ารักติดตัวเสมอ มักพูดลงท้ายด้วยคำว่า nyan (คล้ายเสียงแมวร้อง) ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มผู้ชาย เราจะเรียกว่า Center Guy ซึ่งจะเน้นความน่ารักไม่แพ้กัน
5 กฎเหล็ก Japanese Make Up Style

1. ผิวหน้าจะต้อง เนียน กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย
2. ปัดแก้มด้วยสีชมพูเรื่อ หรือ สีพีช
3. ตาจะต้องดูกลมโ ต ขอบตาชัด มีประกายวิ้ง วิ้ง ขนตายาว หนา และงอน
4. คิ้วโก่งเป็นเอกลักษณ์ สีคิ้วเดียวกับสีผม
5. ปากอวบอิ่ม สีนู้ดบางใส และเคลือบกลอสเป็นเงา
ข้อมูลเ หล่านี้ รวบรวมที่มาจาก
- //www.siamkane.com/content.php?id=108
- นิตยสารแคนดี้ เล่มเดือนมกราคมค่ะ / ถ้า copy ข้อมูลไปจาก yenta4 ให้เครดิตกลับมาด้วยนะคะ




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2554   
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 17:11:02 น.   
Counter : 1984 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]