กีฬา ๆ ใครว่าเป็นยาวิเศษ

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันเสาร์ที่แล้วโน้น ๆ ๆ
นานมาก ๆ แล้วนะคะ ยายแม้น (เพื่อนบ้านที่แสนดี๊
ดี ช่างเม้าท์ข้างบ้านค่ะ
รวมทั้งช่างตัดผมประจำตัวของข้าพเจ้าด้วยนะคะ)
และเสี่ยก้าง (เพื่อนร่วมชายคาบ้านค่ะ)
มาชวนข้าพเจ้าไปพายเรือล่องแก่ง แถวๆ ป่าดำ
(Black Forest) ป่าทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน
ล่องตามแม่น้ำ Nagol ตั้งแต่เมือง Bad Liebenzell
ไปจนกระทั่งถึงเมือง Pfrozheim
เป็นระยะทางประมาณ ๒๕ กิโลเมตรเห็นจะได้

โดยมีพี่ขวาน (พี่คนไทยแสนดีอีกคนหนึ่ง
มาดเซอร์สุด ๆ จากเมืองหลวงของ
รัฐที่ข้าพเจ้าอยู่ค่ะ) ลงทุนขับรถมารับ
ทั้งขาไปและขากลับ (อะไรจะดีเลิศขนาดนั้นคะ
คุณพี่ขา)

เรือที่ล่องไปมีลักษณะคล้าย ๆ
เรือแคนนูแต่ฐานกว้างกว่า นั่งได้ ๓ คน
ข้าพเจ้านั่งตรงกลางเรือ
มีอีก ๒ คนนั่งหัวและท้ายเรือ
โดยเสี่ยก้างนั่งเป็น Navigator ที่หัวเรือกับ
น้องอีกคนหนึ่ง (มาจากเมืองใกล้ ๆ
กับเมืองหลวงของรัฐนี้ค่ะ)
นั่งที่ท้ายเรือทำหน้าที่เป็นคนคัดท้าย
ก็ไม่มีใครเคยพายเป็นมาก่อน
เพิ่มมาหัดเอาวันนี้แหล่ะค่ะท่านผู้อ่าน

ก็ผ่านมาสักหลายด่าน (ด่านแก่งหิน บาง
ที่ที่เป็นฝาย ก็ต้องยกเรือขึ้นบกข้ามไปค่ะ)
ประมาณ ๒ ชั่วโมงกว่าได้ น้ำไม่ลึกมากนักประมาณ
ต้นขา ที่ลึกมากก็แค่ ๒ เมตรกว่า ๆ
แต่น้ำค่อนข้างเชี่ยวบางจุด เรือก็ล่มไปได้ ๒
ครั้ง ทั้งหนาวทั้งเปียก พอครั้งที่ ๓
มีเหตุการณ์ ตื่นเต้นเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ระหว่างที่พายกันไปตามแม่น้ำเรื่อย ๆ
ก็มักจะนึกถึงหนังเรื่อง River Wild ที่เควิน
เบคอน เล่นเป็นตัวโกง

ทีนี้ก็พายกันมาได้สักพัก
ข้างหน้าเป็นแหล่งหินทั้งใหญ่ทั้งคม
และมีต้นไม้ล้มมาขวางทางไว้

ทำให้น้ำค่อนข้างเชี่ยวมาก
พี่ขวานเรือลำข้างหน้าเขาหยุดตะโกนบอกมาว่าให้ชิดซ้าย
แล้วให้ ลงจากเรือและยกเรือข้ามขอนไม้
แต่พวกข้าพเจ้าได้ยินไม่ชัด
ไม่เข้าใจที่พี่เขาบอก พวก
ข้าพเจ้าดูสัญลักษณ์มือแกว่า
ให้ไปทางขวาก่อนเพราะน้ำลึกเรือจะได้ไปได้
แล้วค่อยเรียบตามขอนไม้มาทางซ้ายมาข้ามขอนไม้

ตอนนั้นพวกข้าพเจ้ามาตรงกลางลำน้ำ
แล้วพอมาห่างจากขอนไม้ซัก ๓ เมตร
มีหินก้อนเบ้อเร่ออยู่ขวางหน้า
พวกข้าพเจ้าเพิ่งเห็น เสี่ยก้างบอกให้หลบ
ไปทางขวา แต่เจ้าน้องหางเสือมองไม่เห็น
เลยพายสปีดเต็มที่ เรือเลยชนกับก้อนหิน
ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่เรือหยุดและขวางลำน้ำ
พวกข้าพเจ้าก็พยายามจะขยับเรือให้ออกจากหินและหัน
หัวเรือให้ไปทางซ้าย

ความจริงถ้าพวกข้าพเจ้าลงแล้วจูงเรือเดินไป
ก็น่าจะเรียบร้อย เพราะน้ำแค่เหนือเอวนิดหน่อยเอง

ยังไม่ทันจะหันหัวเรือเลย
พลังน้ำก็ดันเรือข้าพเจ้าที่ขวางอยู่พลิกคว่ำ
ไปทางขวา พวกข้าพเจ้าทั้งหมดก็หล่นลงไป
ในขณะที่พวกข้าพเจ้าพยายามจะยืน
ตอนนี้ข้าพเจ้าเซไปชนเจ้าน้องคัดท้าย
ข้าพเจ้าก็พยายามจะยึดเรือและกู้เรือไปในตัว

เหตุการณ์ตอนนั้นเร็วมาก และมีเรือตามหลัง
พวกข้าพเจ้ามาอีกลำหนึ่ง (ลืมบอกไปค่ะว่า
ที่พายกันไปกันนั้น ไปกันทั้งหมด ๔ ลำ
ตอนนั้นเรือลำยายแม้นแกพายไปข้างหน้าตั้งนานแล้ว
ยายแกเอาแรงมาจากไหนก็ไม่ทราบได้นะคะ สงสัย
แกอัดกระทิงแดงไปเมื่อเช้าก่อนขึ้นรถมาค่ะ)

ทันทีทันใดน้ำที่เชี่ยวอยู่แล้วก็พลัดข้าพเจ้า
และน้องที่คัดท้ายไปปะทะกับขอนไม้โดยเอาหลังพิง
ขอนไม้ เท่านั้นไม่พอ มีเรือลำข้าพเจ้านั่นแหล่ะปลิวมาปะทะข้าพเจ้าอีกที
โดยเอาท้องเรือปะทะ กับท้องข้าพเจ้า
กลายเป็นท้องชนท้อง (โอ้ ข้าพเจ้ากลายเป็น
แซนวิชไปแล้ว) ตอนนั้น ต้นขาที่โดนท้องเรือสต๊าฟ
มันชาไปเลย ไม่รู้เป็นเพราะ
น้ำที่ค่อนข้างเย็นด้วยหรือเปล่า

ตอนนี้ขยับตัวไม่ได้เลย
และเหมือนเรือกดทับแน่นขึ้นทุกวินาที
เนื่องจากด้านท้องเรือข้างใน
มีพลังน้ำที่ไหลเชี่ยวดันเอาไว้
ด้วยความตกใจก็รีบตะโกนบอกให้เสี่ยก้างให้ช่วยมาดึงเรือออก
ไป ตอนนั้นไม่สามารถขยับเรือได้เลย
ฝ่ายเสี่ยก้าง ก็นึกว่าข้าพเจ้าตะโกนอะไรกันนักหนา ก็
เลยเข้ามาขยับ เสี่ยหน้าเสียเลยเพราะเขยื้อนไม่ออกเลย
พี่ขวานจากเรือที่ข้ามไปแล้ว ก็รีบ
มาช่วยกันขยับเรือ เรือที่ตามหลังมา
บังเอิญไปชนกับฝั่งทางขวา พี่กระหนุงกระหนิง
(พี่คนนี้น่ารักมากค่ะ มาจากเมืองเดียวกับน้องคัดท้าย
แกมาเรียนเกษตรค่ะ ขอพูดถึงพี่คนนี้นิดนึงนะคะ
พี่แกเป็นพ่อครัวประจำกลุ่มเราค่ะ
เวลานึกภาพพี่แกให้นึกถึงหุ่นของพ่อครัวมือหนึ่ง
นะคะ อย่าเอาไปนึกเปรียบเทียบกับ
ชื่อแกเป็นอันขาดเชียวค่ะ)

มาต่อดีกว่าค่ะ พี่กระหนุงกระหนิงที่นั่ง
เรือลำที่ตามเรือข้าพเจ้ามา
ก็เลยลงมาช่วยข้าพเจ้าอีกคนค่ะ
สรุปคือได้กำลังผู้ชาย ๓ คนมา
ขยับเรือ คือ พี่ขวานเรือก่อนหน้า
และพี่กระหนุงกระหนิง (พี่ ชื่อยาวจริงๆ เลยค่ะ)
เรือตามหลัง และเสี่ยก้างจากเรือที่ข้าพเจ้านั่งอยู่

ข้าพเจ้าก็เลยสามารถดึงตัวเองขึ้นมาได้
มาอยู่บนขอนไม้
เฮ้อ รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ๑ ขั้น
ยังไม่จบนะคะ

ไปอ่านต่อกันได้ที่นี่ค่ะ

เล่าต่อ

หมายเหตุ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
เมื่อกลางปีที่ผ่านมาค่ะ

(๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔)



Create Date : 12 มกราคม 2548
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 2:36:30 น. 2 comments
Counter : 404 Pageviews.  

 


มาลุ้นครับ

^___^.....


โดย: GTW วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:21:34:49 น.  

 
ขอบคุณค่ะจารย์จี

หลังจากทริปนี้ก็ปวดเมื่อยตามตัวแขน ขาและหลังไปอีกสองอาทิตย์กว่า ๆ ค่ะ

แต่ตอนกลับมาปวดหลังมาก ๆ ค่ะ
ยังกลัวว่ากระดูกสันหลังจะเคลื่อนหรือเปล่า
ก็ไปหาหมอเอ๊กซเรย์ดู เพื่อความชัวร์ค่ะ

หมอคงว่าเรากระต่ายตื่นตูมแหล่ะค่ะ


โดย: รสา รสา วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:22:47:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

รสา รสา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add รสา รสา's blog to your web]