Group Blog
 
All blogs
 

[PB]Lead 10th Anniversary Book『Document』 part6:Lead 100 Questions#2

Q039 – สิ่งที่ทำให้ทึ่งในเพศตรงข้าม?

ฮิโรกิ ใส่ส้นสูงแล้วก็เดินขึ้นลงบันได

ชินยะ รอยยิ้ม

เคตะ ลูบผมของตัวเองด้วยความรัก

อากิระ การเจริญเติบโต


Q040 – สิ่งที่กลัวที่สุดในโลกใบนี้?

ฮิโรกิ แมลงสาป

ชินยะ ภัยธรรมชาติ

เคตะ ซาดาโกะ

อากิระ ผี


Q041 –  สิ่งที่ทำอยู่เพื่อรักษาสุขภาพ?

ฮิโรกิ กินอาหารเสริมเป็นช่วงๆ

ชินยะ เล่นกล้าม กินวิตามิน

เคตะ ดื่มน้ำผัก

อากิระ ดื่มน้ำผัก


Q042 – เรื่องที่นานๆก็อยากจะลองได้ทำดู?

ฮิโรกิ บาสเกตบอล

ชินยะ เข้าแคมป์

เคตะ เลียนแบบคนตรงหน้า

อากิระ ขับรถ


Q043 – วุฒิบัตรที่อยากจะลองได้มา?

ฮิโรกิ Sky Diving

ชินยะ เทรนนิ่งทางด้านร่างกาย

เคตะ ใบขับขี่

อากิระ Interior Coordinator


Q044 – คำพูดติดปากที่ไม่อาจจะเลิกได้?

ฮิโรกิ ตอนที่คิดอยู่ก็จะกัดเล็บ

ชินยะ ทำไมล่ะ

เคตะ โกหกน่า!」 แล้วก็ตอนที่ทานข้าวอิ่มแล้วก็จะลูบหน้าอก

อากิระ เผลอกัดริมฝีปาก


Q045 – ถ้ามีวันนึงที่ได้เป็นผู้หญิงแล้วจะไปทำอะไร?

ฮิโรกิ ก็จะนอนทั้งวันจนกลับไปเป็นเหมือนเดิม

ชินยะ สนุกไปกับแฟชั่น

เคตะ อยากจะไปออก “Tokyo Girls Collection”

อากิระ อยากลองไปเข้าร่วมGirls talk


Q046 – ทั้งๆที่ตอนเด็กๆก็ไม่ชอบแท้ๆแต่ตอนนี้กลับชอบขึ้นมา?

ฮิโรกิ เห็ดชีทาเกะ

ชินยะ เห็ดชีทาเกะ พริกหยวก อะโวคาโด

เคตะ รูปร่างร่างกายของตัวเอง

อากิระ เวลาที่อยู่คนเดียว


Q047 – สภาพตอนที่ตัวเองนอน?

ฮิโรกิ เสื้อยืด กางเกง

ชินยะ กางเกงวอร์ม แล้วก็เสื้อยืด

เคตะ ฤดูร้อนกางเกงอย่างเดียว ฤดูนอกจากนั้นแล้วก็กางเกงวอร์มเสื้อยืด

อากิระ กางเกงขาสั้น แขนสั้น


Q048 – ของที่จะต้องมีอยู่ในตู้เย็นตลอด

ฮิโรกิ น้ำแร่

ชินยะ โยเกิร์ต เบียร์

เคตะ ไม่ค่อยจะได้ใช้ตู้เย็น

อากิระ กาแฟ


Q049 – ทรงผมที่คิดว่าแปลกที่สุดในรอบสิบปีมานี้?

ฮิโรกิ ผมทองหัวเห็ด

ชินยะ ทรงผมที่ทำตอนเล่นละครเวที ที่มีผมแค่ตรงกลางราวๆสิบเซนที่เป็นสีทอง

เคตะ ผมยาว

อากิระ ทำสีผม green ash


Q050 –  คิดว่าสิบปีหลังจากนี้โทรศัพท์มือถือจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นยังไง?

ฮิโรกิ ไม่รู้สิครับ อาจจะพัฒนาไปมากกว่าตอนนี้ อาจจะเดินหน้าไปจนตามไม่ทันเลย

ชินยะ สามารถทำการยืนยันตัวเองได้มั้ย?

เคตะ รูปร่างก็เป็นแบบสมาร์ทโฟน ความหนา 5mm. ไม่ต้องชาร์ตแบต นอกจากจะถือแล้ว แค่ไปสัมผัสก็สามารถใช้ได้

อากิระ เป็นรูปร่างหุ่นยนต์


Q051 – สถานที่ที่คิดว่าทำตัวได้ตามสบายที่สุด?

ฮิโรกิ บนเตียงในห้องของตัวเอง

ชินยะ โซฟาในห้องนั่งเล่นที่ห้อง

เคตะ ห้องของตัวเอง

อากิระ บ้านของตัวเอง


Q052 –  โดนพ่อแม่ตัวเองเรียกว่าอะไร?

ฮิโรกิ ฮิโรกิ

ชินยะ ชินยะ, ชินจัง

เคตะ เคจัง

อากิระ อากิ


Q053 – อ่านนิตยสารที่ตัวเองได้ลงมั้ย? ถ้าอ่านแล้วเป็นยังไง?

ฮิโรกิ  อ่านครับก็เช็คดูว่าตัวเองโพสหรือทำหน่าตาท่าทางแบบไหนไป

ชินยะ ชินยะ อ่านครับ ในระหว่างที่อ่านไปด้วยก็คิดว่าการสัมภาษณ์ครั้งหน้าจะพูดอะไรยังไง

เคตะ อ่านครับ ก็ย้อนพิจารณาตัวเองว่าถ้าพูดไปแบบนี้ๆ ก็คงจะดีกว่านะ

อากิระ อ่านครับ หาจุดที่มาพิจารณาย้อนดูตัวเอง


Q054 – ถ้าจะต้องไปเกาะร้างแล้วเอาของไปได้อย่างนึงแล้วจะเอาอะไรไป?

ฮิโรกิ เรือ

ชินยะ ไฟแช็คอันใหญ่ๆ

เคตะ กล่องดนตรีเพลง yasashisa ni tsudumareta nara

อากิระ  ไฟ


Q055 – ความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมาจนถึงวันนี้?

ฮิโรกิ กระดูกหัก

ชินยะ ในระหว่างที่ซ้อมอโรแบต แล้วสมาชิกในวงกดหัวลงไปตรงขา

เคตะ โดนที่เย็บกระดาษ แม็กเข้าไปที่นิ้วของตัวเอง

อากิระ ตอนที่กระโดดลงมาจากชั้นสอง


Q056 – สิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดในตอนนี้?

ฮิโรกิ เวลา

ชินยะ สภาพแวดล้อมกับเวลา

เคตะ Leaders

อากิระ เวลา


Q057 – ขนมที่ชอบ?

ฮิโรกิ ไอศกรีมช๊อคโกแลตมิ้นท์

ชินยะ ชีซ่า

เคตะ Macadamia nuts choco karikari ume

อากิระ  มันฝรั่งทอด (รสเกลือ)


Q058 – พูดถึงไส้ของโอนิกิริแล้วล่ะก็?

ฮิโรกิ บ๊วย

ชินยะ คมบุ

เคตะ ปลาซาเกะ

อากิระ ทาราโกะ


Q059 – คิดว่าถ้ามียาสีฟันรสอะไรก็คงจะดีนะ?

ฮิโรกิ คิดว่าไม่ต้องการรสอื่นนอกจากพวกมิ้นท์

ชินยะ รามุเนะ

เคตะ  รสนม

อากิระ เซลอรี่


Q060 – คำพูดคำนึงของเมื่อสิบปีก่อน

ฮิโรกิ  เพราะว่าจะเป็นเรื่องขึ้นมาทันทีเพราะงั้นแล้วอย่ามาหาเรื่องนะ!

ชินยะ คอยมองรอบๆตัวให้ดีก่อนที่จะทำตัวยังไง!

เคตะ คิดเรื่องต่างๆให้ดีแล้วก็ใช้ชีวิตไป!

อากิระ ทำตัวให้มันดีๆหน่อย!


Q061 – ถามคำถามตัวเองคำถามนึงหน่อย

ฮิโรกิ สิ่งที่อีกไม่นานนี้อนากตะทำให้สำเร็จคืออะไรเหรอ

ชินยะ เป็นแบบนี้ต่อไปแล้วจะดีเหรอ?

เคตะ ทำไมตอนนั้นถึงได้ไว้ผมยาวเหรอ?

อากิระ เส้นกับข้าวชอบแบบไหนเหรอ?


Q062 – แล้วก็ช่วยตอบคำถามเมื่อกี๊ด้วย

ฮิโรกิ อยากได้ใบขับขี่

ชินยะ คิดให้มากกว่านี้ รู้สึกให้มากกว่านี้ แล้วก็ปฏิบัติตัวตามนั้น

เคตะ ก็อยากจะดูเหมือนฟุรุยะ เคนจินี่

อากิระ เส้น(ตอนที่สูดแล้วกินเข้าไปน่ะดีมากเลย)


Q063 –  ถ้าเปรียบตัวเองเป็นสีแล้วคิดว่าเป็นสีอะไร

ฮิโรกิ  สีแดง เพราะว่าในLeadแล้วก็เป็นสีประจำตัวของตัวเอง

ชินยะ เขียว เพราะเป็นสีที่ตัวเองชอบ

เคตะ สีส้ม ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ก็เป็นการโมงโลกในแง่ดี สีส้มก็มีอิมเมจที่เป็นแบบนั้น

อากิระ ตอนนี้เป็นสีฟ้า แต่ก็อยากจะเป็นสีดำ  เพราะไม่อยากที่จะโดนย้อมให้เป็นสีอะไร


Q064 –  เรื่องผิดพลาดที่เผลอทำลงไปตอนไลฟ์

ฮิโรกิ เปลี่ยนชุดเร็วๆไม่ได้ แล้วก็ทำให้ออกไปช้าไปราวๆ 5วิ

ชินยะ เปลี่ยนชุดไม่ทัน ตอนที่ไฟส่องมาแล้ว แต่ก็ออกไปช้า

เคตะ รองเท้าหลุดไปข้างนึงแล้วก็ต้องเต้นต่อไปแบบนั้นเพลงนีง

อากิระ ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ต้องใส่ก็ได้ขึ้นไปบนเวที


Q065 – ของหวาน?ของเผ็ด?

ฮิโรกิ หวาน

ชินยะ เผ็ด

เคตะ หวาน

อากิระ หวาน


Q066 – ขี้ร้อน?ขี้หนาว?

ฮิโรกิ ทั้งสองอย่าง

ชินยะ ขี้หนาวจนขี้ร้อน

เคตะ ขี้หนาว

อากิระ ขี้ร้อน


Q067 – เซนซิทิฟ?ไม่เซนซิทิฟ?

ฮิโรกิ ไม่เซนซิทิฟ

ชินยะ ไม่เซนซิทิฟ

เคตะ ไม่เซนซิทิฟ

อากิระ เซนซิทิฟ


Q068 – จริงๆแล้วหลง○○」

ฮิโรกิ อุด้งที่ไม่มีโคชิ

ชินยะ กำแพง

เคตะ น่องของตัวเอง

อากิระ แผ่นชีทให้ความเย็น


Q069 – คันจิที่ชอบ

ฮิโรกิ 「宜」

ชินยะ 「光」

เคตะ 「楽」

อากิระ 「志」


Q070 – คำหรือคติที่ชอบ

ฮิโรกิ  สบายๆเป็นตัวของตัวเอง

ชินยะ เรื่องที่ทำไม่ได้นั้น ถ้าไม่ทำแล้วก็ยังคงทำไมได้

เคตะ หัวเราะวันละครั้ง

อากิระ ถ้ามีความเชื่อและมุ่งมั่นอันแรงกล้าซักวันนึงจักเป็นจริง


Q071 – ในสมาชิกในวงคนที่กินเยอะที่สุดคือ?

ฮิโรกิ ป๊ะป๋าชินยะ

ชินยะ ตัวเอง

เคตะ ชินจัง ของที่คนอื่นกินเหลือก็จะเอาไปกิน

อากิระ ชินยะ


Q072 – ในสมาชิกในวงคนที่เลือกกินมีของที่ชอบไม่ชอบมากที่สุดคือใคร?

ฮิโรกิ ชินยะกับฮิโรกิ

ชินยะ ฮิโรกิ

เคตะ ชินจัง ถึงจะไม่ชอบกินเห็ดแต่ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการปรุง ตรงนั้นเองก็ออกจะไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน

อากิระ ชินยะ


Q073 – ในหนึ่งวันแล้วช่วงเวลาที่ชอบที่สุดคือตอนไหน?

ฮิโรกิ ช่วงราวๆหนึ่งทุ่มของฤดูร้อน  กลางวันยาวดีทำให้คึกคัก

ชินยะ ช่วง 9-13น ช่วงที่มีพระอาทิตย์กำลังขึ้น

เคตะ 8-15.

อากิระ แล้วแต่ช่วงฤดู แต่ก็ชอบตอนเย็นตอนราวๆ5โมง


Q074 – ถ้าได้เป็นสมาชิกในวงได้วันนึงจะเป็นใคร แล้วทำไม?

ฮิโรกิ ชินยะ เพราะอยากจะเปลี่ยนที่ตั้งของเตียงตัวเอง

ชินยะ เคตะ อยากจะรู้ว่าปกแล้วคิดยังไง แล้วถึงได้เกิดกระทำแบบนั้นออกไป อยากจะรู้ทั้งหมดเลย

เคตะ ฮิโรซัง แล้วก็ลองทำอโครแบตดู

อากิระ เคตะ อยากจะลองทำเฮดแสตนด์ดูบ้าง


Q075 – พอตื่นนอนขึ้นมาแล้วสิ่งที่ต้องเป็นอย่างแรกเลยคืออะไร?

ฮิโรกิ นอนต่ออีกรอบ

ชินยะ พับฟูตองที่นอน

เคตะ ในระหว่างที่บิดขี้เกียจไปแล้วก็ร้องว่า อา!

อากิระ ดื่มกาแฟ


Translated by Kagimoto Y.y 8-28/7/2012




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 21:45:16 น.
Counter : 689 Pageviews.  

[PB]Lead 10th Anniversary Book『Document』 part5:Lead 100 Questions#1


Lead 100 Questions


Q001 – สิ่งที่กำลังหมกมุ่นอยู่ในตอนนี้?

ฮิโรกิ เชียร์ทีม Hiroshima Carp

ชินยะ สร้างพละกำลังร่างกาย(เล่นกล้าม จ๊อกกิ้ง)

เคตะ ซ้อมอโครแบต

อากิระ สลัด มาจนถึงตอนนี้ก็จะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ตอนนี้ไปซูเปอร์ไปเลือกซื้อผัก แล้วก็มาหั่นทำด้วยตัวเอง


Q002 –  กีฬาที่อยากจะท้าทายดู?

ฮิโรกิ วิ่ง50เมตร

ชินยะ กอลฟ์

เคตะ ปีนภูเขา

อากิระ แข่งรถ อยากจะแข่งแบบcircuit


Q003 –  มีแค่สิ่งนี้แหละที่คิดว่าจะไม่ยอมแพ้ใครนั้นคืออะไร?

ฮิโรกิ กินเร็ว

ชินยะ ความเร็วในการเตรียมตัวในการออกจากบ้านกลังจากตื่นในตอนเช้า

เคตะ ความคมของคาง

อากิระ ความเร็วในการกินของหวาน


Q004 – ถ้าตอนนี้จะให้ไปเดทแล้วอยากไปที่ไหน?

ฮิโรกิ สวนสาธารณะที่ไม่มีคน

ชินยะ ออนเซน

เคตะ Nagasaki huistenbosch

อากิระ ในทางตรงกันข้ามอยากจะถามถามคู่เดทว่าอยากจะไปที่ไหน


Q005 – มายบูมในช่วงนี้?

ฮิโรกิ แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้า

ชินยะ การฟังวิทยุ

เคตะ ไวน์ขาว

อากิระ สะสมของตั้งโชว์ทอง


Q006 – คนที่อยากจะลองได้เจอมากที่สุดในตอนนี้?(คนในประวัติศาสตร์ก็ได้)

ฮิโรกิ will.i.amBlackวง Eyed Peas

ชินยะ คุณตา

เคตะ ช๊อปเปอร์จากวันพีซ

อากิร ซากาโมโตะ เรียวมะ


Q007 –  ในทุกๆวันเรื่องที่จะไม่ทำไม่ได้เลยคือ?

ฮิโรกิ  ล้างมือ กลั้วคอ

ชินยะ เล่นกล้าม

เคตะ แช่ในอ่างอาบน้ำแล้วก็อ่านหนังสือการ์ตูน

อากิระ ชาร์ตแบตคอม


Q008 – ถ้ามีไทม์แมชชีนแล้วอยากจะไปช่วงเวลาไหน

ฮิโรกิ ตอนที่เป็นเด็กประถม! แล้วไปกินบะหมี่สำเร็จลูงที่คุณปู่ทำให้

ชินยะ อยากจะไปยืนอยู่ตรงช่วงวินาทีที่ตัวเองเกิด

เคตะ สถานที่ก็อียิปต์ อยากจะไปเห็นช่วงเวลาที่สร้างพีระมิด

อากิระ อนาคตที่ยาวไกลใบภายภาคหน้า อยากจะเทียบอนาคตที่เห็นในหนังกับที่ตัวเองไปดูมา


Q009 –  สิ่งที่เป็นสิ่งบอกลางเฉพาะของตัวเองคือ?

ฮิโรกิ  ก่อนที่จะไลฟ์แล้วก็กินน้ำผึ้ง

ชินยะ ถ้าฝันร้ายแล้ววันนั้นมักจะฝนตก

เคตะ ถ้าได้มองนาฬิกาแล้วเวลานั้นเป็น 6:13 ที่เป็นวันเกิดของตัวเองแล้ววันนั้นจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น

อากิระ ถ้าในหนึ่งวันได้เห็นพวกรถหรูๆสามคันวันนั้นจะมีเรื่องดีๆ


Q010 – วิชาที่เก่ง?

ฮิโรกิ พละ

ชินยะ พละ

เคตะ พละ กับดนตรี

อากิระ ดนตรี กับศิลปะ


Q011 – วิชาที่อ่อน?

ฮิโรกิ ภาษาญี่ปุ่น

ชินยะ คณิตศาสตร์

เคตะ คณิตศาสตร์กับภาษาญี่ปุ่น

อากิระ ภาษาญี่ปุ่น


Q012 –  ในภาพยนตร์ที่ดูมาจนถึงตอนนี้ เรื่องที่ประทับใจที่สุด?

ฮิโรกิ Cinderella Man

ชินยะ The Shawshank Redemption

เคตะ Kiki แม่มดน้อย เดลิเวอรี ฉากที่ทมโปะช่วยกิกิ

อากิระ ปราสาทลอยฟ้าลาพิวต้า


Q013 – 「จริงๆแล้ว○○ครับ

ฮิโรกิ ไม่มีเซนส์เรื่องทิศทาง(หลงทิศ)

ชินยะ เป็นคนขี้หนาว

เคตะ นักแสดงตลกที่ชอบมาก เป็นค่ายที่NG

อากิระ เป็นพวกอินดอร์


Q014 – อยากจะมีคำนำหน้าชื่อว่าอะไร?

ฮิโรกิ จบมาจากโทได

ชินยะ โอนเนอร์(ของร้านอาหาร)

เคตะ Dance Program Manager

อากิระ Specialist


Q015 – ตัวเองเป็นหนุ่มกินพืชหรือกินผัก? (เป็นคำที่ใช้ในเรื่องของความรัก กินเนื้อเป็นฝ่ายบุกกินพืชเป็นฝ่ายรอ)

ฮิโรกิ อาจจะเป็นกินพืชนะ

ชินยะ ตอนนี้เป็นแบบกินพืชโดยสิ้นเชิงเลย

เคตะ กินพืช

อากิระ เป็นกะหล่ำห่อเนื้อ(ภายนอกดูเป็นกินพืชแต่จริงๆแล้วกินเนื้อ)


Q016 – คิดว่ามีความรักแรกพบอยู่จริงมั้ย?

ฮิโรกิ คิดว่ามีนะ เหมือนกับวินาทีที่แบบเจอเสื้อผ้าที่ชอบ

ชินยะ ยังไงก็ต้องมีแน่นอน ตอนที่ไปซื้อของส่วนใหญ่ก็เป็นรักแรกพบ

เคตะ คิดว่ามี เสื้อผ้าที่มองแล้วใจเต้นยังมีเลย

อากิระ คิดว่ามีครับ ตอนที่ไปช๊อปปิ้งส่วนใหญ่ก็รักแรกพบ


Q017 – สัตว์เลี้ยงที่อยากจะลองเลี้ยงดู?

ฮิโรกิ ม้า

ชินยะ ฟีนิกซ์

เคตะ หมากับแมว

อากิระ  เหยี่ยว


Q018 – ของกินที่ชอบ?

ฮิโรกิ โซเมง

ชินยะ นาเบะ

เคตะ เนื้อผัดผัก นัตโต้

อากิระ โมทสึนาเบะ


Q019 – ของกินที่ไม่ชอบ?

ฮิโรกิ  ของกินจำพวกหอย

ชินยะ ของกินจำพวกหอย

เคตะ ของกินจำพวกเห็ด

อากิระ หอยเชลล์


Q020 – จุดที่มีเสน่ห์ของตัวเองที่ภูมิใจ?

ฮิโรกิ ผมของตัวเองที่มีความเป็นคิวติเคิล

ชินยะ จมูก

เคตะ รอยยิ้ม

อากิระ ฟันเขี้ยว


Q021 – ถ้าให้เปรียบตัวเองเป็นสัตว์?

ฮิโรกิ ชิวาว่า

ชินยะ ไก่ โดนพูดอยู่บ่อยๆว่าชอบมองไปมองมาปะหลกๆเหมือนนก

เคตะ แมวจรจัด

อากิระ แมว


Q022 – คิดว่าผู้หญิงกับผู้ชายจะเป็นเพื่อนกันจริงๆได้มั้ย?

ฮิโรกิ ก็ไม่รู้สิ ที่เรียกได้ว่าเพื่อนผู้หญิงนั้นผมแทบไม่มีเลย แต่แค่คิดว่าถ้าได้คุยกัยคนที่มีมุมมองที่ต่างออกไปจากผู้ชายก็คงจะนะ

ชินยะ คิดว่าได้ครับ ความรักกับมิตรภาพน่ะมันต่างกัน ในเวลาเดียวกันที่มันจะงอกเงยขึ้นมานั้นได้ แต่ไม่อาจจะพัฒนาได้

เคตะ ในกรณีที่มีความเห็นคล้ายกัน แล้วก็ไม่ใช่สเป็ค  ก็คิดว่าได้นะครับ

อากิระ การที่เป็นเพื่อนกันแล้วไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเพศเดียวกัน หรือคนละเพศ เรื่องของมิตรภาพความเป็นเพื่อนกับความรักแล้วมันเป็นคนละเรื่องกันเลย เพราะงั้นแล้วก็เลยคิดว่าได้ครับ


Q023 – ช่วยบอกเทคนิคเรื่องความรักหน่อยได้มั้ย?

ฮิโรกิ ในทางกลับกันช่วยบอกหน่อยสิครับ!

ชินยะ อยากจะให้เป็นคนบอกผมมากกว่า

เคตะ ทำพฤติกรรมแบบเดียวกัน เรื่องนี้นักแสดงก็ได้พูดออกทางโทรทัศน์ครับ

อากิระ เทคนิค!? มีด้วยเหรอครับ?(หัวเราะ)


Q024 – ของกินที่ติดในช่วงนี้?

ฮิโรกิ แตงกวาดองเกลือ

ชินยะ ไก่ย่าง

เคตะ ไอศครีมของ Häagen-Dazs รส Macadamia nuts

อากิระ เต้าหู้เย็น


Q025 –  เรื่องของสมาชิกในวงที่สนใจอยู่ในช่วงนี้?

ฮิโรกิ เวลาการอาบน้ำของเคตะ ก็จะอ่านการ์ตูนมั่งล่ะ หรือโทรศัพท์มั่งล่ะ

ชินยะ การใช้ชีวิตของเคตะ ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนา….

เคตะ มีช่วงเวลาท่าชินยะจะนั่งดูมือถือแล้วดูเป็นประกายซะเหลือเกิน

อากิระ เคตะที่ดูเว็บวีดีโอแบบทั้งวันทั้งคืน


Q026 – คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าหัวเราะได้สุดๆ?

ฮิโรกิ ชินยะ

ชินยะ ฮิโรกิ ตอนที่อยู่ที่ห้องคนเดียว นั่งดูโทรทัศน์ก็ขำแล้วก็ทุบขาตัวเองมั่งล่ะ

เคตะ ตัวเอง

อากิระ ฮิโรกิ


Q027 – คนที่เมาแล้วร้องไห้?

ฮิโรกิ อากิระ

ชินยะ อากิระ

เคตะ อากิระ (แกล้งร้องไห้)

อากิระ ผมเอง


Q028 – ความทรงจำแรกที่จำได้คือ?

ฮิโรกิ  ตอนที่อยู่ช่วงอยู่สถานรับเลี้ยงเด็ก ก็กินหน่อไม้ฝรั่งไม่ได้ แล้วก็โดนจับให้กินจนหมดช่วงเวลานอนกลางวันไป

ชินยะ แคมป์

เคตะ ช่วงเวลาที่ตอนสามขวบแล้วคุณแม่ไปแข่งขันรายการครอบครัวแล้วเคลียร์มาริโอได้หมดเลย

อากิระ  ร้องไห้โฮอยู่ในคอกของโรงเรียนอนุบาล


Q029 – วิธีปลดปล่อยความเครียด?

ฮิโรกิ นอนเยอะๆ

ชินยะ ไปซื้อของ เล่นกล้าม

เคตะ Break dance

อากิระ หายใจเข้าออกลึกๆ


Q030 – เวลาเมล์ในโทรศัพท์มือถือแล้ว เป็นพวกที่ใช้อิโมติค่อนเยอะหรือน้อย?

ฮิโรกิ คิดว่าเป็นพวกเยอะครับ

ชินยะ แล้วแต่กรณีครับ ถ้าเป็นอย่างพวกวันเกิดหรือวันครบรอบอะไรก็จะใช้เยอะ

เคตะ เป็นพวกเยอะรครับแทนที่จะใช้คำพูดก็จะใช้อิโมติค่อน

อากิระ เป็นพวกน้อยครับ


Q031 – ช่วงวินาทีที่คิดได้ว่าตัวเองนี่ล่ะอัจฉริยะ?

ฮิโรกิ ตอนที่เล่นเกมส์แล้วชนะสมาชิกในวงอย่างต่อเนื่อง

ชินยะ ตอนที่ลืมตาตื่นแล้ว ตาก็สว่างทันที

เคตะ ตอนที่กินอาการชุดแล้วในตอนสุดท้ายส่วนที่เหลืออยู่ก็เอาเข้าไปกินได้หมดในคำเดียว

อากิระ ตอนที่สามารถซ่อมพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียได้


Q032 – เรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นมากที่สุดมาจนถึงตอนนี้?

ฮิโรกิ ตอนที่ไปออกเป็นแขกรับเชิญของละครเวทีเรื่อง Tumbling

ชินยะ ตอนที่ออกงานเดี่ยว เล่นละครเรื่องKokansetsu!

เคตะ ออดิชั่นที่เป็นการทำให้ได้เข้ามาสู่โลกใบนี้ ไม่ใช่แค่ตื่นเต้น แต่ที่โดนแม่โมโหมากว่าทำไมจบลงด้วยการแนะนำตัวแต่ไม่ใช่การเต้น

อากิระ ได้ไปเต้นเปิดในไลฟ์ของ w-inds.


Q033 – คนที่ยกย่องนับถือ?

ฮิโรกิ คุณพ่อ

ชินยะ ฮิโรกิ

เคตะ ฮิโระซัง

อากิระ Nick Carter(Back Street Boy)


Q034 – ถ้ามองทางด้านรูปธรรมแล้ว ตัวเองเป็นคนแบบไหน?

ฮิโรกิ ถ้าติดใจขึ้นมาแล้วก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ

ชินยะ เป็นคนที่ม่ช่วยเหลืออะไร

เคตะ ดื้อ น่ารำคาญ

อากิระ กำลังคิดอะไรอยู่นั้นก็ดูไม่รู้เลย


Q035 – เวลาที่ไปแวะร้านสะดวกซื้อแล้วจะเผลอซื้ออะไร?

ฮิโรกิ Pirukuru(นมเปรี้ยว)

ชินยะ ลูกอม Red Bull

เคตะ หนังสือการ์ตูน

อากิระ หมากฝรั่ง


Q036 – จะให้คะแนนในความมีเสน่ห์ในการเป็นผู้ชายของตัวเองเท่าไหร่?

ฮิโรกิ  70คะแนน ความเป็นชายนั้นยังไม่เพียงพอ ก็ยังเชื่อว่าจะยังสูงได้อีก

ชินยะ 40คะแนน

เคตะ 30คะแนน ขบทางเรื่องของด้านจิตใจไป30% ด้านเรื่องการใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆไปอีก 40%

อากิระ 5คะแนน


Q037 – ของที่แพงที่สุดที่เคยซื้อมาถึงตอนนี้?

ฮิโรกิ โทรทัศน์

ชินยะ CDJ(Turn Table)

เคตะ คอมพิวเตอร์

อากิระ synthesizer

Q038 – สมาชิกในวงคนที่เป็นคนช่างกินช่างดื่มมากที่สุด?

ฮิโรกิ อากิระล่ะมั้ง?

ชินยะ ฮิโรกิ

เคตะ  อาจจะไม่มีก็ได้มั้ง

อากิระ เคตะ

Translated by Kagimoto Y.y 8-28/7/2012





 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 21:45:00 น.
Counter : 646 Pageviews.  

[PB]Lead 10th Anniversary Book『Document』 part4

...ต่อจากพาร์ท3...



แล้วชินยะล่ะ?

ชินยะ ถ้าไม่มีอากิระแล้วล่ะก็ ก็จะไม่มีถึงซาวน์ของเสียงที่อยากจะสื่อออกไปถึงLeadersในตอนนี้  แล้วก็นับถือเข้าในส่วนตรงนั้นเองมากๆด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ได้แค่ผลิตทำซาวน์ออกมา แต่ก็ยังคอบผลิตสร้างไอเดียออกมาต่อกันทีละอย่างๆ คิดว่าทำให้Leadได้แพร่ออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วยครับ

อากิระ ซาวน์ที่พวกเราต้องการนั้น ผมเองก็เป็นคนที่รู้ดีที่สุด แล้วถ้าผมเป็นคนที่ทำเองแล้วล่ะก็คิดว่ามันจะต้องออกมาได้เร็วกว่าแน่ๆ ตัวผมนั้น กับสิ่งที่จะทำอุทิศให้Leadได้ แล้วก็ที่มีความมั่นใจแล้วนั้นมันก็ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้วนอกจากสิ่งนี้


น้องเล็กสุดก็กลายเป็นคนที่พึ่งพาได้แบบนี้สินะ

ชินยะ ใช่แล้วล่ะครับ แต่ว่านะ เป็นคนที่สรุปใจความในการพูดได้ไม่เก่งเลย ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าอากิระจะพูดออกมาได้มากกว่านี้ก็คงจะดีเหมือนกัน  อย่างตอนที่ประชุมกันแล้วก็จะพูดออกมาไม่ได้มากกว่าผมเสียอีก

อากิระ เป็นแบบนั้นสินะ  นั่นก็เป็นส่วนของหัวข้อในครั้งนี้ล่ะนะ  นอกจากด้านนั้นแล้วก็มักจะโดนพูดว่าเป็นคนที่เสียงดังหนวกหูตลอดล่ะนะ(หัวเราะ)

ฮิโรกิ ชินยะเองก็มีเรื่องแบบนั้นเหมือนกันเนอะ

ชินยะ ก็เป็นรู้สึกว่าเป็นคนที่มองในเรื่องรายละเอียดยิบย่อย หยุมหยิมอยู่เหมือนกัน แต่ฮิโรกิเองก็เป็นคนที่มองภาพกว้างๆมองในภาพรวมๆ  เคตะเองก็เป็นคนที่รู้สึกว่ามีช่องว่างระหว่างกันเยอะเกินคาด ก็เพราะว่าแบบรู้สึกว่า อย่างคำพูดแบบนั้นทำไมถึงได้ไปรู้จักมานะ?

ฮิโรกิ มันก็แน่นอนตรงที่ว่า ก็อยู่ดีๆโดนพูดมาอย่าง เป็นการใช้ที่เกินงบประมาณนี่ก็ตกใจไปเลย(หัวเราะ)


ที่เป็นแบบนั้นเพราะทำไมกันนะ?

เคตะ ก็จากหนังสือการ์ตูนครับ


เอ๊ะ หนังสือการ์ตูนเหรอ?

เคตะ ก็ค่อนข้างที่จะอ่านเยอะอยู่เลยล่ะครับ อาจจะเป็นพวกที่ถ้าไม่มีตัวหนังสือแล้วก็อาจจะอยู่ไม่ได้เลยก็ได้มั้ง

ฮิโรกิ ก็พูดมาแบบเท่อยู่เหมือนกันหรอกแต่ว่า ที่ว่าหนังสือการ์ตูน・・・ทั้งหมดนั่นมันเป็นของผมครับ ยิ่งไปกว่านั้นมีถือเข้าไปในห้องอาบน้ำเอาไปอ่านพลางตอนที่แช่น้ำอาบด้วย


ที่เอาไปอ่านระหว่างแช่น้ำไปด้วยมันไม่เวียนหัวเหรอ

เคตะ ตรงนั้นล่ะครับที่ทำให้มีสมาธิได้มากที่สุด


นั่นก็เป็นอีกด้านนึงของเคตะที่นับถือกันเหรอ?

ชินยะ ครับ จริงๆแล้วสิ่งที่เคตะพูด บางครั้งเองก็มีจดโน้ตไปด้วยเหมือนกันนะ

ฮิโรกิ พูดจริง?(หัวเราะ)

อากิระ ไม่เห็นเคยรู้เลย จะฮาไปแล้ว


เคตะที่เป็นแบบนั้น แล้วกับสิ่งที่นับถือของทุกๆคนในวงคิออะไรเหรอ?

เคตะ  อากิระน่ะนะก็เป็นคนที่คิดว่ามีจิตใจที่แข็งแรง อย่างตอนที่ใจสลายไปหรืออะไรแบบนั้นก็จะสามารถกลับขึ้นมาได้อีกครั้งนึง พลังในตอนนั้นน่ะสุดยอดเลย

อากิระ ก็ถ้าเอาแต่เครียด เซ็งอยู่ ก็จะโดนคนที่อยู่รอบๆตัวเอาใจใส่เสียสิ ไม่ว่ายังไงถ้ายังจะเซ็งแบบนั้นแล้ว ก็จะทำให้สามารถกลับมายืนให้ได้ใหม่ให้ได้เร็วที่สุดนะ

เคตะ ชินยะเองไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามก็จะรับได้เสมอหรือไร ก็เป็นแบบที่สามารถเข้าใจยอมรับได้ อายุก็ถึงจะห่างกันแค่ปีเดียว แต่ก็เหมือนพ่อจริงๆ ฮิโรกิเองที่มาจนถึงตอนนี้ก็มีช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ดี มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายเหมือนกันแต่ว่า ตั้งแต่ที่เดบิวมา ก็เป็นคนที่คิดว่าคลื่นจูนเข้ากันได้มากที่สุด

ฮิโรกิ ตรงนั้นเองก็เข้าใจอยู่เหมือนกัน  ความคิดเองก็ต่างกันโดยสิ้นเชิงเหมือนกัน แต่ว่าทางด้านค่านิยมนั้นก็คล้ายกันมากๆเลย

เคตะ ที่เกิดเรื่องต่างๆมากมายจนถึงได้มีตอนนี้ แต่ว่าตั้งแต่นี้ไปก็คิดว่า เรื่องคลื่นนั้นเองก็จะเข้ากันได้มากขึ้น

อากิระ พูดถึงตอนนี้ พอมาลองดูย้อนกลับไปแล้ว ก็เป็นการแกล้งมีความคิดถึงซึ่งกันและกันนะ(หัวเราะ)


ทั้งสี่คนที่เป็นแบบนั้นแล้ว ก็อยากจะให้พูดถึงเป้าหมายที่จะมุ่งไปสู่อนาคตนั้นมีมั้ย?

ฮิโรกิ ตอนสุดท้ายที่ได้ถ่ายทำหนังสือเล่มนี้  ก็ได้มีตรงที่ให้เขียนข้อความลงบนข้อมือหัวข้อที่ว่า 「สู่ตัวเองในหลังจากนี้อีกสิบปี ผมเองก็ได้เขียนถามตัวเองไปว่า ได้เป็นตัวเองที่อยากเป็นหรือยัง? ก็รู้อยู่แล้วล่ะครับ ว่าก็ยังไม่ได้เป็นตัวเองที่อยากเป็นหรอก ทำไมแล้วนั้น ก็คือว่า ตอนที่ตัวเองได้ทำให้เป้าหมายนึงให้สำเร็จขึ้นมาแล้ว ในอีกไม่นานต่อจากนั้นก็จะมีเป้าหมายใหม่เกิดขึ้นมาอีก แล้วก็ถ้าสามารถที่จะไล่มันได้แล้วล่ะก็ต้องลำบากเป็นแน่ ตั้งแต่นี้ไปหลังจากนี้สิบปี ก็คงจะเป็นผู้ชายแบบนี้ได้ล่ะมั้งนะ ก็มีที่คิดว่าคงจะเป็นแบบนั้นอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะกระโดดเดินหน้าไปให้ได้ครับ


ผู้ชายแบบไหนนี่มันยังไงกันนะ  อย่างเป็นคนที่ใจกว้างเหรอไง?

ฮิโรกิ ถ้าจะพูดแบบรูปธรรมก็คงจะไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ในระหว่างที่เป็นกังวลคิดมากไปนั้นก็ออกเดินไปข้างหน้า  พลางที่รู้สึกรับรู้ถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆ ก็เติบโตไปด้วย คิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็คงจะดีครับ


เอาล่ะ แล้วเคตะล่ะ

เคตะ ผมเองก็เขียนไปว่า ยังอยากที่จะเป็นประกายอยู่บนเวทีครับ ถ้าหลังจากนี้ไปอีกสิบปียังได้เต้นอยู่บนเวทีอยู่  ตรงนั้นแล้วก็คิดว่าคงจะเป็นเพราะทุกๆคน ความรู้สึกขอบคุณทั้งหมดนั้นแล้วยังไงก็จะไม่ลืมไปได้เลย แล้วก็จะยังรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณต่อไป แล้วก็คิดว่าอยากที่จะเต้นต่อไปให้ได้ตลอดไปครับ


ชินยะคุง

ชินยะ สามารถสื่อความเป็นตัวเองออกมาได้ดีแล้วหรือยัง?ก็เป็นคนที่ประเภทที่ว่าถ้าจะสามารถที่จะสื่ออะไรออกมาได้แล้วจะต้องใช้เวลาครับ  ทั้งที่คิดว่าระหว่างทำอยู่กลางทางนั้น อาจจะต่างออกไปก็ตาม แต่ยังไงซะ ก็มุ่งต่อออกไปแค่นั้นก็ดีแล้วแท้ๆ แต่ว่า ถ้าไม่ไปจัดการแก้ตั้งแต่แรกแล้วก็จำทำไม่สำเร็จ  เป็นคนที่ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ทั้งเรื่องความคิดการตัดสินใจ แล้วก็อยากได้พลังที่สามารถสื่อแสดงออกมาได้ในชั่วพริบตาครับ


แล้วเพื่อที่จะทำให้ได้มาแล้วล่ะก็?

ชินยะ รู้ถึงคำพูด

ฮิโรกิ อย่าบอกนะว่าก็จะเอาไปเชื่อมโยงกันด้วย(หัวเราะ)

ชินยะ (หัวเราะ) ก็คิดว่าการที่จะดูดเอาซึบซับเรื่องต่างๆเข้าไปนั้นมันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ การสัมผัสติดต่อกับผู้คน  รู้สึกถึงในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง แล้วก็อยากที่จะขยายในส่วนที่ตัวเองนั้นไม่มี

อากิระ ของผมก็ มีชีวิตอยู่ไปให้ภูมิใจให้ได้มากกว่าตอนนี้ครับ มาจนถึงตอนนี้สิบปี ก็ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนต่างๆมากมาย เพราะงั้นแล้วตั้งแต่นี้ต่อไป ก็อยากจะใช้ชีวิตให้เต็มที่ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเป็นที่ขายหน้าได้ ตัวผมนั้นก็มีความคิดที่เป็นเด็กอยู่เยอะอยู่ ก็คิดที่จะอยากเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถที่จะใช้ใจคิดได้ครับ


ถ้างั้นก็สุดท้ายนี้ ช่วยประกาศถึงเป้าหมายของLeadหน่อย

ฮิโรกิ ที่ได้ทำไลฟ์ที่ระลึกครบรอบสิบปีนี้ ก็ได้มีโอกาสได้นึกย้อนดูอะไรหลายๆอย่าง ในตอนนั้นเอง แทนที่จะเป็นการวาดภาพไปสู่อนาคต แต่ก็เป็นการที่ได้รู้สึกถึงความสำคัญของพลังที่จะใช้ชีวิตอยู่ไปในตอนนี้ จากรอยเท้าการเดินมาของอดีตที่ผ่านมา ก็ได้สร้างปัจจุบัน แล้วนั้นก็จะผสานเชื่อมไปสู่อนาคตอย่างเป็นธรรมชาติ คิดว่านั่นเองก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วครับ

อากิระ Leadersกับพวกเราทั้งสี่คน  เพื่อที่จะให้กลายเป็นฤดูร้อนที่จะเป็นหน้าจารึกและเป็นความทรงจำได้แล้ว ทุกๆคนก็มาสนุกไปกับฤดูร้อน ปี2012ไปอย่างสุดพลังกันเถอะ!




...ต่อพาร์ท5...

Translated by Kagimoto Y.y 8-28/7/2012




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 21:44:50 น.
Counter : 592 Pageviews.  

[PB]Lead 10th Anniversary Book『Document』 part3

...ต่อจากพาร์ท2...

ฮิโรกิเองในตอนนั้นเองก็ทำเพลงเหมือนกันสินะ 

ฮิโรกิ ใช่แล้วครับ ตอนแรกที่ทำเพลงออกมานั้นก็เป็นผมล่ะมั้งนะ ในตอนนั้นก็มีรายการวิทยุที่ออกเป็นประจำ ก็พูดไปในรายการว่า ถ้าในไลฟ์ปีหน้า ไม่สามารถร้องเพลงที่ตัวเองทำออกมาได้แล้วล่ะก็ จะไปโกนหัวล้าน」 ที่เริ่มจากตรงนั้นแล้วก็เริ่มที่จะทำเพลงของตัวเองออกมา  แต่ว่ามันก็ไม่ได้เรื่องเลย(หัวเราะ)   หลังจากนั้นเองในไลฟ์ของแฟนคลับ ตรงช่วงวีดีโอโซโล่เองก็โดนแซวอยู่เหมือนกัน  นั่นก็คือเหมือนขาดอะไรไป เพราะงั้นถ้าจะให้พูดแล้ว ก็ไม่ใช่การที่จะเต้นคนเดียวแล้วก็จะให้เห็นพลังทั้งหมดของตัวเองที่มี  ตอนช่วงที่กังวลว่า สรุปแล้วตัวเราเองนั้นทำอะไรได้บ้าง แล้วเพลงที่คิดทำขึ้นมาได้นั้นก็คือเพลงC/wของซิงเกิ้ล Giragira Romanticครับ

อากิระ ผมเองที่เห็นสภาพแบบนั้นแล้ว ก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่า การทำเพลงนี่มันดูน่าสนุกดีนะ

เคตะ ผมน่ะ ก็คิดว่าทำไม่ได้เลย แล้วก็เลิกคิดไปเลย

ฮิโรกิ แต่ว่าจะให้พูดแบบตรงๆ ก็ไม่ได้ทำผลงานที่จะสามารถให้ใครมาฟังได้เลย  ถ้าจะให้พูดมันก็เป็นความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน  แต่ที่ทำได้เกินกว่าใครๆนั่นก็คงจะเป็นอากิระ  ไม่ใช่แค่เป็นการทำให้ตัวเองสนุกได้แต่ถึงขั้นที่สามารถนำเอามาใช้ออกเป็นเพลงของLeadได้เลย  ที่เป็นแบบนั้นได้ก็ดีใจครับ

อากิระ นั่นก็เป็นเพราะแฟนๆนั่นล่ะ


ดีจังเลยนะ เพราะว่าโดนแฟนๆพูดมาเหรอ?

อากิระ ใช่แล้วครับ เพราะว่ายังไงๆแล้วแฟนๆก็พูดมาว่า ดีจังเลยนะหรือ อยากจะฟังอีกจัง」 ก็ยิ่งทำให้คิดว่าต้องพยายามให้มากขึ้นอีก


จุดเปลี่ยนของการทำเพลงคืออะไรเหรอ?

อากิระ  ปกติแล้วก็เป็นพวกชอบอยู่แต่ในร่มอยู่แล้ว แล้วการทำเพลงนั่นมันก็สนุกเหลือเกินจนแทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลย  แล้วก็มีการประกาศออกมาถึงเรื่องCDแล้วก็ไลฟ์ ได้รับคำชมจากแฟนๆแล้วก็สต๊าฟ ที่เป็นงั้นแล้วก็อยากจะส่งเพลงอื่นๆออกมาอีก เป็นการที่ตัวเองนั้นได้สนุกสนานถึงขั้นสุดเลยครับ

เคตะ อัคคุงก็เอาแต่อยู่ที่บ้านสินะ เพื่อนก็เลยไม่ค่อยจะมี(หัวเราะ)

อากิระ หนวกหูน่า!

ฮิโรกิ พูดถึงเพื่อนของอากิระแล้วก็ไม่เคยเห็นใครเลยนอกจากชินยะนะ(หัวเราะ)

อากิระ หนวกหู!!

ชินย เป็นพวกไม่ชอบเข้าสังคมไง・・・(หัวเราะ)

อากิระ หนวก-หู-จริง!! คุยเรื่องต่อไปเหอะ!!


อากิระที่เริ่มพูดเรื่องที่ดีๆได้ก็ค่อยดีหน่อย(หัวเราะ) เอาล่ะแล้วจุดเปลี่ยนของเคตะล่ะ?

เคตะ ของผมก็เป็นช่วงฤดูร้อนปี2011ที่ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของLeadด้วย กับการออกของซิงเกิ้ล HURRICANEครับ

ฮิโรกิ หลังจากซิงเกิ้ล SPEED STAR ★」ก็ไมได้มีงานออกมาเลยปีนึง จะให้พูดตรงๆ ถึงจะเข้าเดือนพฤษภาคมแล้วก็ไม่ได้มีเรื่องพูดคุยที่ดูจะออกเดินไปข้างหน้าได้เลย

ชินยะ ปกติแล้ว ก่อนที่จะมีงานก็ต้องคุยเริ่มทำกันก่อนราวๆครึ่งปี กับLeadที่มีภาพลักษณ์ว่าเป็น หนุ่มฤดูร้อนที่ก็อาจจะมีความหมายไปว่าจะต้องออกงานตอนฤดูร้อนหรือยังไง แต่ก็ได้แต่กลัว

อากิระ จากอดีตของตัวเองที่ได้มีเรื่องไป ที่ก็กลัวไม่กล้าแม้จะที่จะไปถามถึงสถานการณ์นี้กับทางสต๊าฟได้ เป็นทุกๆวันที่มีแต่ความกังวล

ฮิโรกิ พูดถึงเรื่องการออกซิงเกิ้ลแล้ว ก็ต้องมีเรื่องๆหลายอย่างที่ทางสต๊าฟจะต้องดำเนินงานไปเอาลายเซ็นต่างๆมาให้ได้  แล้วก็รู้ถึงการที่สต๊าฟคอยทำแบบนั้นให้ด้วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะรออยู่เฉยๆ

ชินยะ แล้วพอเข้าเดือนมิถุนายน อยู่ๆก็ได้ยินมาว่าจะได้ออกซิงเกิ้ลออกมาได้

เคตะ ก็ดีใจมากๆ โล่งอกไปเลย

ฮิโรกิ  จากตอนที่จะทำการออกซิงเกิ้ลนั้น แล้วก็ต้องไปเอาลายเซ็น แล้วเหตุผลที่ได้มานั้นก็เป็นผลของการออกเพลงให้โหลดตอนช่วงฤดูใบไม้ผลิ พอได้ยินมาแบบนั้นแล้ว ก็สาบานเลยว่ายังไงก็จะต้องมาขอบคุณกับLeadersให้ได้

ชินย อื้ม แล้วก็กำหนดได้ว่าจะเป็นเพลง HURRICANEออกมา แล้วเพลงC/wก็ได้เป็นเพลงที่พวกเราเขียนกันออกมาเพื่อที่จะแสดงถึงความรู้สึกขอบคุณ  แล้วชื่อของคอนในตอนนั้นก็ออกมาเป็น sunxyou

ฮิโรกิ ก็ทิ้งความคิดที่ว่า ตั้งเอาไว้เผื่อตอนสิบปี แล้วก็คิดว่าก็สื่อไปเลยในตอนที่อยากจะสื่อออกไป  จะปีหน้าก็เป็นของปีหน้าแล้วค่อยสื่อไปดีกว่า


Leadersเองก็ดีใจกันใช่มั้ยล่ะ?

ฮิโรกิ ตอนนั้นก็พอเหมาะกับที่ได้ไปออกอีเวนท์ตอนเดือนมิถุนายนพอดี  ก็ได้ประกาศไปตอนMCในตอนหลัง  ก็เป็นช่วงเวลานึงที่จะไม่ลืมเลยตลอดชีวิต

เคตะ ตอนนี้พอมานึกถึงแล้วก็จะร้องไห้

ฮิโรกิ ก็ได้ให้รับการประกาศไปตามลำดับกับนักแสดงที่ออกในงาน  พวกเราก็ประกาศจากปากของพวกเราเองแต่ว่า ทั้งๆที่ก็มีแฟนๆของศิลปินอื่นนอกจากLeadแท้ แต่ในสถานที่เล่นอีเวนท์นั้นก็เสียงดังกึกก้อง・・・

ชินยะ ภาพในตอนนั้นก็จะไม่ลืมไปตลอดชีวิตเลยนะ・・・ ตอนนั้นดีใจมากๆ  ที่มีคนที่มีความคิดแบบเดียวกันมีมากถึงขนาดนั้น  แล้วก็ตัดสินใจว่าทั้งหมดของตัวเองนั้นคือLead

เคตะ ผมนั้นก็ตดใจกับเสียงร้องอื้ออึงนั่นมาก แล้วก็รู้สึกประทับใจมากสุดๆ ในตอนขบทั้งๆที่ก็ต้องเป็นตอนที่ทุกๆคนต้องร้องเพลงด้วยกันแท้ๆ ฮิโระซัง ก็เอาแต่มาพูดด้วยจลอดเลยว่า สุดยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ!(หัวเราะ)

ฮิโรกิ ทั้งๆที่เคตะก็พูดตอบมาว่า เดี๋ยวเอาไว้คุยทีหลัง แต่ก็ได้เอาแต่พูดไปแบบนั้นครับ(หัวเราะ)

เคตะ แล้วตอนในช่วงเวลานั้นก็รู้สึกได้ว่าเครื่องร้อนมาก เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีได้เลยมั้งที่ยืนอยู่บนเวทีแล้วรู้สึกภูมิใจเหลือเกิน  แล้วก็ทำให้รู้สึกจากเบื้องลึกของจิตใจเลยว่า อยากที่จะยืนต่อไปบนเวทีแบบนี้ นอกจากนั้นแล้ว・・・

ฮิโรกิ นอกากนั้นแล้ว?

เคตะ ก็ขอสาบานเลย! ว่าจะไม่ทำให้แฟนๆต้องเสียใจด้วยหารไว้ผมยาวเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว!

(ทุกๆคนฮาก๊าก)

อากิระ ในคืนนั้นทุกๆคนก็มารวมตัวกัน แล้วผมกับฮิโรกิเอาแต่อ่านคอมเม้นในบล็อกผมกันตลอดเลย (ในตอนนั้นยังไม่เปิดบล๊อกของLead) Leadersจากทั่วทั้งประเทศก็มาคอมเม้นกันด้วยความรู้สึกร้อนแรง เหมิอนกับได้อยู่ที่ตรงนั้นด้วย  แล้วก็คุยกันพลางที่นั่งอ่านคอมเม้นด้วยกันว่า จะไม่ต้องทำให้โอกาสที่Leaders ได้ให้พวกเรามาอีกครั้งต้องสูญเปล่าไปอีก

ชินยะ เป็นเพราะLeaders ในปีที่9 Leadเองก็ได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกัน


แล้วก็ซิงเกิ้ลที่ออกมานั้นก็ได้เข้าไปติดในชาร์ตท๊อป10 ได้ในรอบห้าปีครึ่ง

อากิระ ก่อนอื่นจากอาทิตย์ของการออกของซิงเกิ้ล HURRICANEมีอีเวนท์ที่สับหว่างไปกับทัวร์ ในทุกๆวันของช่วงMCจะต้องพูดประกาศอันดับในชาร์ตรายวัน แล้วก็ได้ร่วมยินดีไปกับLeadersด้วย ที่มาจนถึงตอนนั้นที่ได้แต่คอยปิดตามาตลอดที่จะไม่รับรู้ความจริงแต่นั้นตอนนั้นก็สามารถที่จะรับฟังได้

ฮิโรกิ ซิงเกิ้ลที่ออกในปีนี้เพลง Wanna Be With Youก็ได้มีท่อนที่ร้องไปว่า  “ถ้าเป็นโลกที่มีกับเธอแล้วล่ะก็ อะไรก็ไม่กลัวสภาพจิตใจในตอนนั้นแล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ  ที่มีLeadersอยู่ด้วยไม่ว่าจะอะไรก็ไม่กลัว แล้วก็อยากที่จะพยายามไป

เคตะ ในเพลงHURRICANE ก็มีเนื้อร้องท่อนที่ว่า เมื่อใจหลอมรวมเป็นหนึ่งปาฏิหาริย์จะต้องร่ายรำลงมาแน่นอนแล้วก็ที่สามารถเข้าไปติดในชาร์ตหนึ่งในสิบได้ในรอบห้าปีครึ่งนั้น ก็ได้เป็นการได้ทำให้เนื้อเพลงนั้นเป็นจริงขึ้นมา

อากิร  ไม่ว่าเพลงไหนๆแล้วก็เต็มไปด้วยควาทรงจำเต็มไปหมด  แต่ในเพลง HURRICANEแล้วนั้นก็มีความทรงจำอยู่เต็มไปหมดเป็นพิเศษเลยนะ

ทุกคน อื้ม

ชินยะ พูดถึงเรื่องพละกำลังของฤดูร้อนในปีนั้นแล้วก็ค่อนข้างลำบาก เหนื่อยอยู่เหมือนกัน แล้วLeadersเองก็ยังเอาชีวิตมาคอยตามพวกเราตามอีเวนท์ภายใต้อากาศที่ร้อนแรง  แล้วก็เลยไม่อาจะที่จะสามารถพูดบ่นอะไรได้ แล้วสมาชิกในวงเองก็จำกันได้ด้วยว่า ก็มีความภาคภูมิใจกัน ตรงที่ว่าตัวพวกเราเองนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วด้วย

เคตะ มีอยู่วันนึงที่อัคคุงร้องไห้ออกมาต่อหน้าLeadersด้วย


เป็นงั้นเหรอ?

อากิระ ครับ พอได้นึกถึงการกระทำแล้วก็วิธีการคิดของตัวเองที่เป็นมาจนถึงตอนนั้นแล้วก็รู้สึกอายขึ้นมา  แล้วก็รู้สึกเสียใจผิดหวังกับตัวเองที่เป็นแบบนั้น  แล้วก็รู้สึกขอโทษเป็นอย่างสูงต่อleadersที่คอยเชียร์ให้กำลังใจตัวเองที่เป็นแบบนั้นมา  ทั้งๆที่ก็เป็นระหว่างไลฟ์อยู่แท้ๆ แต่ก็ทนไม่ไหว จนน้ำตาไหลออกมา รู้สึกขอบคุณซาบซึ้งต่อLeadersมากที่มาเปลี่ยนแปลงตัวผมเอง ตั้งแต่นี้ไปเพื่อที่จะปกป้องLeaders  ก็จะทิ้งความเป็นตัวชองตัวเองที่มันน่าเบื่อหน่ายไป แล้วก็จะปกป้องLead จนกว่าจะตายไปข้างเลย


การมีอยู่ของLeadersแล้วสำหรับทั้งสี่คนแล้วก็เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากเลยสินะ

ชินยะ ใช่แล้วล่ะครับ เมื่อกี๊ฮิโรกิเองก็พูดไปเหมือนกัน  ถึงตอนที่พวกเราจะแตกแยกกระจายกันไปเองก็ยังคงรอคอยการกลับมาของพวกเราอยู่ตลอด สำหรับพวกเราแล้วก็ยังจะพูดมาด้วยคำพูดอย่างที่ว่า เพราะว่ามีไลฟ์ของLeadอยู่ ก็เลยสามารถพยายามไปได้ในทุกๆวัน ตัวผมเองที่คอยเอาแต่หนีมาตลอดก็ทำให้ได้รู้ตัวขึ้นมาว่า 「เป็นแบบนี้จะต้องไม่ได้แน่ ทั้งทำให้ได้คิดได้ถึงการมีอยู่ของแฟนๆ แล้วก็การเป็นกกลุ่มเป็นหนึ่งเดียวกันของLead

ฮิโรกิ  ตั้งแต่ที่พวกเราปรับเปลี่ยนเส้นทางกรเดินไปแล้ว ทุกๆคนนั้นจะสามารถตามพวกเราไปได้จนถึงแค่ไหนนั้น ก็เป็นกังวลมาตลอด แต่ว่าทุกๆคนที่คอยให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็สามารถที่จะพยายามมาได้


เสียงที่ว่านั้นก็เป็นจดหมายที่มาจากแฟนๆเหรอ?

อากิระ ก็มีคอมเม้นของในบล็อกด้วยครับ


มีคำพูดแบบไหนที่มาคอยช่วยเป็นแรงหนุนเหรอ?

ฮิโรกิ Leadersน่ะ ถึงจะใจดี แล้วก็เข้มงวดด้วยในเวลาเดียวกันนะครับ มีทั้งที่โดนพูดว่า ตรงนั้นน่ะมันไม่ดีนะ」 「Leadที่ฉันรับได้น่ะเป็นแบบนี้  แล้วก็มีด้วยที่คิดได้ว่า เป็นแบบนี้นี่เอง

อากิระ ช่วงนี้พอกลังจากจบไลฟ์แล้วก็อ่านคอมเม้นในบล็อกเลย แล้วก็สามารถที่จะเอาไปใช้ได้ในไลฟ์ครั้งต่อไปได้ด้วย

ฮิโรกิ  อื้ม ตอนFC Eventในปี2010 ที่เอาเพลงของเลดี้กาก้ามาใช้ ก็ได้เป็นการได้ให้เห็นการแสดงในแนวใหม่ออกไป การเต้นแบบนั้นแล้วก็คิดว่ามันเท่ดี แล้วก็มีความรู้สึกที่ว่าอยากจะให้ได้เห็นถึงการแสดงในแนวใหม่ แต่ก็ยังมีความเป็นกังวลด้วยว่าจะสามารถรับกันได้มั้ย  เพราะงั้นแล้วในระหว่างที่ทำการแสดงอยู่ จากที่นั่งคนดูบรรยากาศก็เป็นแบบนิ่งงันกันไปหมด・・・・・・ พอคิดว่า ยังไงๆแล้วก็คงจะรับกันไม่ได้แล้วก็กลุ้มไป แต่พอได้ไปอ่านคอมเม้นในบล็อก ที่มีเขียนกันเข้ามาว่า เท่มากๆ ซะจนไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกไปได้เลย」「อยากที่จะเห็น Leadแบบนี้แหละ


ในเวลาสิบปีมานี้ ก็ได้มีโอกาสที่ได้ลองมองย้อนไปถึงหลายๆโอกาส  ความสัมพันธ์ของทั้งสี่คนในตอนนี้นั้นก็แข็งแกร่งทีสุดเลยล่ะมั้งนะ?

ฮิโรกิ ก็เป็นแบบนั้นล่ะครับ ในเรื่องของทางด้านงานเอง ก็รู้กันด้วยว่าก็อยากจะให้ทำแบบนี้ๆนะขึ้นมา ก็รู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์แบบนั้นขึ้นมาเลยครับ

อากิระ ถ้าคิดว่า ถ้าความสัมพันธ์มันจะต้องขาดกันขึ้นมาแล้ว ยังไงๆมันก็ขาดกันไปไม่ได้  สิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์แล้วมันไม่ใช่อะไรที่จะตัดกันได้ง่ายๆเลย  โดยเฉพาะในช่วงนี้  ที่ได้มีโอกาสให้สมาชอกในวงได้แสดงถึงความรู้สึกในใจออกมา ก็ทำให้คิดได้จริงๆว่ายังไงๆมันก็ตัดกันไม่ขาด


นั่นก็คงจะเป็นความรู้สึกที่ว่า ครั้งนึงเคยได้แยกจากกันไปแล้ว แล้วก็กลับมาแข็งแกร่งขึ้นได้อีกครั้งล่ะมั้งนะ

อากิระ ก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ  เพราะว่ารู้ถึงความรู้สึกจองตอนที่มองต่าง มุ่งไปในทางที่ต่างกัน  ช่วงนี้ทั้งสี่คนก็เลยคุยกันมากเลย


แล้วตอนนั้นจะไปรวมตัวกันที่ไหนเหรอ?

อากิระ ก็ที่ห้องของผมกับชินยะครับ


แล้วทำไมถึงเป็นที่นั่นล่ะ?

อากิระ นั่นก็แค่ทำแบบนั้นเองครับ


หืม ห้องเหรอ・・・? สกปรกเหรอไงนะ?(หัวเราะ)

ฮิโรกิ โอ๊ะ! โดนแฉแล้ว (หัวเราะ)

เคตะ ก็แค่ถ้ามากันครบทั้งสี่คนแล้วก็นั่งกันไม่พอแค่นั้นแหละครับ

ฮิโรกิ ก็เพราะไม่ค่อยจะมีโต๊ะ

ชินยะ ฉันกับอากิระน่ะไม่มีทางใช้ชีวิตแบบนั้นแน่ๆ ถึงจะมีความหมายแบบนั้นก็ตาม แต่ฮิโรกิก็เข้ากับเคตะได้ดีนะ


เคตะคิดเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสี่คนยังไง?

เคตะ พูดถึงเรื่องคามสัมพันธ์ก็ไม่ค่อยรู้หรอกครับ แต่ว่าถ้าพูดถึงการมีอยู่ของกันและกันแล้วนั่นคือความสัมพันธ์แล้วล่ะก็คงจะเป็นแบบนั้นล่ะครับ

อากิระ หืม? หมายความว่ายังไงน่ะ?

ฮิโรกิ ไม่เป็นไรหรอก ค่อยๆพูดออกมาก็ได้นี่?(หัวเราะ)

เคตะ เอ่อ คือว่า  ที่มีสมาขิกในวงด้วยกันมาถึงสิบปีก็สุดยอดไปเลยมั้ยล่ะครับ  แบบถ้าว่าถ้าขาดหายไปซักคนนึงแล้วล่ะก็จะต้องรู้สึกไม่ดีใช่มั้ยล่ะ  ถ้ามีกันแค่สามคนก็จะมีความรู้สึกแบบว่ามันมีอะไรขาดหายไป การมีอยู่กันสี่คนนี่แหละที่เป็นธรรมดาและทำให้รู้สึกสงบ สบายใจ

ฮิโรกิ แบบว่าตรงนั้นเองก็รู้สึกได้เหมือนกันเลย  เป็นความรู้สึกแบบตอนที่ไปออกงานเดี่ยวแล้วก็กลับมา  แบบว่า อา ตรงนี่แหละคือที่ของฉัน


ตอนนี้ก็ซี้กันสุดๆเลยสินะ

เคตะ ตอนวันหยุดเอง ก็จะคิดว่า ตอนนี้จะทำอะไรอยู่นะ

อากิระ ก็คิดเหมือนกัน(หัวเราะ)

ฮิโรกิ  พอไปอ่านในบล็อกก็จะแบบว่า หืม ไปซื้อของสินะเนี่ย(หัวเราะ)

เคตะ แล้วก็อย่างชินยะก็จะมาถามว่า วันนี้จะไปไหนล่ะ?」

ชินยะ ก็แบบว่ามันรู้สึกอยากรู้นี่(หัวเราะ)  แต่แค่ไม่ใช่แค่ว่าจะไปที่ไหน  ไปซ้อมหรืออะไร หรือไปได้รับแรงกระตุ้นอะไรมาก็ยากจะถามให้รู้ไม่ใช่เหรอ

อากิระ ก็เพราะว่าในหนึ่งปี ราวๆ 330วันก็จะกินข้าวด้วยกัน นานๆมีเวลาที่ต้องห่างๆกันไปบ้างมันก็จำเป็นนะ・・・(หัวเราะ)


งั้นเหรอๆ ก็ไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดานะ ก็มีความสัมพันธ์แบบที่ต้องแข่งรับขับสู้กันมาตลอดด้วย แล้วก็อาจจะทำให้เกิดความสัมพันธ์ขึ้นมาก็เป็นได้

ฮิโรกิ  เข้ารับสู่ปีที่สิบเองก็ยังคงมีกำแพงที่อยากจะพังทลายออกไป ในตัวของผมเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ๆหรือเรื่องเล็กๆเองก็ตามก็อยากที่จะข้ามผ่านไปให้ได้  ตั้งแต่นี้ไปจะเป็นยังไงนั้นมันก็ยังไม่รู้แต่ว่า มันไม่ได้มีแค่ตัวผม ยังมีทุกๆคนอยู่ ยังมีLeadersอยู่  ยังมีสต๊าฟอยู่ เพราะงั้นแล้วนับตั้งแต่นี้ไปจะก้าวข้ามผ่านอะไรยังไงก็มีความมั่นใจแล้ว





ก้าวรับเข้าสู่ปีที่สิบนี้Leadเองก็อยากจะเดินหน้าต่อไปยังไง?

ฮิโรกิ  ที่มาจนถึงตอนนี้ก็ได้ให้ความสำคัญกับทางเดิน แต่ว่าในการแสดงของในตอนนี้เองก็สามารถที่จะตัดสินได้ตั้งแต่เพลงเลย ช่วงนี้ก็ได้เอาอโครแบติคได้เข้ามาใช้จนเป็นจุดเด่นเลย  แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้น ก็อยากจะค้นหาในสิ่งที่จะสามารถเชื่อมโยงพวกเราแล้วก็Leaders ให้ได้ลึกซึ้งไปกว่านี้อีก

อากิระ ก็รู้สึกโลภแล้วก็ต้องการอะไรๆมากมาย อย่างอยากจะเต้นให้ได้เก่งขึ้นมากกว่านี้มั่งล่ะ อยากจะเรียนรู้ท่าเทคนิคของอโครแบติคมั่งล่ะ แล้วก็อย่างที่อยากจะร้องเพลงให้ได้เก่งขึ้นไปมากกว่านี้มั่งล่ะ  เรื่องที่ทุกข์ทรมานเองก็มีเยอะอยู่เหมือนกันแต่ว่า นั่นก็เป็นช่วงที่ทำให้ต้องหยุดยืนอยู่เฉยๆ เพราะงั้นแล้วเพื่อที่พวกเราจะเจริญเติบโตขึ้นไปแล้วนั้น ก็จะให้ความสำคัญไปกับในทุกๆวัน


ที่ได้ผ่านมาสิบปีแล้ว มีตรงจุดไหนที่อยากจะเจริญเติบโตขึ้นไปอีกมั้ย?

ฮิโรกิ ยังไงแล้ว มันก็คงจะเป็นความรับผิดชอบล่ะมั้ง  พวกเราLeadเองตอนที่มีทางเดินต่างกันไปแล้วก็ที่ต้องมาคอบแก้ตรงนั้นกัน ชินยะก็แบบว่าเป็นคนที่มาเตือนสติแล้วรวมทุกๆคนกลับมา  ก็จริงที่ว่าหัวหน้าวงนั้นก็คือตัวผมแต่ว่า ก็เป็นความรู้สึกที่ว่าทำกันอยู่สองคนนะ

ชินยะ ก็คงจะเป็นที่ว่าทั้งสองคนก็คอยคุยกันอยู่ตลอดล่ะมั้ง ตัวฉันเองทั้งๆที่ก็มีฮิโรกิที่เป็นหัวหน้าวงแต่ก็ได้ทำการอะไรที่กระทำลงไปเองแล้วก็รวมทุกๆคนกลับมานะ แล้วฉันเองก็เป็นคนที่รู้สึกแล้วก็นึกถึงภาพของสิ่งที่ไม่อาจจะมีใครได้นึกถึงเอาไว้แล้วก็จัดการแก้ไขมัน พูดแบบนี้อาจจะดูยุ่งไม่เข้าเรื่องก็เป็นได้แต่ว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะคอยเสริมให้กับทุกๆคนได้ก็คงจะดี

ฮิโรกิ ของอากิระเองก็เป็นด้านเสียง ที่เวลาพูดอะไรไปแล้วก็จะแสดงออกมาให้ได้เห็นเลย ของเคตะเองก็เป็นด้านของความเห็น  แต่ว่าตัวเองนั้นก็จะเป็นคนประเภทคิดในเรื่องต่างๆนาๆไป นั้นก็รู้ตัวอยู่  ก็คิดเหมือนกันว่า ถ้าเป็นแบบนี้แล้วจะดีมั้ยนะ  พวกเราตอนที่เครียดกันมากๆ ก็มีตอนที่คำพูดของเคตะเองก็ได้เป็นสิ่งที่ได้มาเปิดทางให้พวกเราเหมือนกันนะ

อากิระ ก็มีเหมือนกันนะ เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์



ถ้างั้นแล้ว อากิระเองกับเคตะเองก็เป็นคนที่สามารถยอมก้มหัวให้ได้เหมือนกันเหรอ

อากิระ เอ่อ ผมนั้นก็เป็นสัตว์เลี้ยงของเคตะมาโดยตลอดแหละครับ(หัวเราะ)

เคตะ นี่ไม่ได้เป็นมนุษย์เหรอไง

อากิระ ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นแมวนะ แต่ชินยะน่ะนะ เป็นป๊ะป๋า  เหมือนที่เขาพูดไปแบบเมื่อกี๊ก็เป็นการมีอยู่ที่สามารถจะพึ่งพิงได้ตลอดเลย  ก็โดนสมาชิกในวงพูดด้วยว่าเป็นคนที่เป็นธรรมชาติแต่ว่า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ก็จะจัดการอย่างเอาจริงเอาจัง  อย่างตอนที่แย่ๆชินยะเองก็เป็นคนที่รวมทุกๆคนกลับมา  ถ้าไม่ได้ชินยะเองก็อาจจะไม่มีLeadในตอนนี้ก็เป็นได้ ฮิโรกิเองก็เป็นคนที่คิดถึงLeadมากที่สุด ถ้าเป็นคนในครอบครัวก็คงจะเป็นเหมือนแม่ ส่วนในอีกด้านนึงก็มีส่วนที่เป็นเหมือนพี่ชายด้วย


อากิระเองจริงๆแล้วก็มีพี่ชายอยู่ด้วยใช่มั้ย?

อากิระ มีครับ มีพี่ชายเอง แล้วก็ในเหล่าบรรดาญาติๆด้วยกันเองก็เป็นคนที่เด็กที่สุด ในค่ายเพลงเองก็เป็นคนที่เด็กที่สุดด้วย  เพราะงั้นแล้ว ไม่ว่าจะยังไงแล้วก็มีส่วนของความรู้สึกที่ต้องคอยเหมือนพึ่งคนที่เป็นพี่อยู่ตลอด เพราะตรงนั้นเองฮิโรกิ ก็เหมือนกับพี่ชายจริงๆเลย

เคตะ นี่!(หัวเราะ)

อากิระ พูดแทรกมาได้ดีมากเลยนะ(หัวเราะ) เคตะน่ะเป็นคนที่มีอารมณ์แปรปรวน เรื่องส่วนตัวเองจะไปทำอะไรยังไงนั้นก็ไม่รู้เลย  อยู่ๆก็ออกไปข้างนอก อยู่ๆก็กลับเข้ามา แบบอารมณ์แบบนั้นเลย ก็มีส่วนที่ว่าเป็นยังไงนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันแต่ว่าก็คิดว่านั่นเองก็มีเสน่ห์ของเขาเหมือนกัน แล้วก็เหมือนอย่างที่ฮิโรกิ พูดไป ก็นับถือเขาในส่วนที่เป็นคนที่fine playด้วย



...ต่อพาร์ท4...

Translated by Kagimoto Y.y 8-28/7/2012




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 21:44:19 น.
Counter : 601 Pageviews.  

[PB]Lead 10th Anniversary Book『Document』 part2

...ต่อจากพาร์ท1...

แล้วสมาชิกในวงทำยังไงกับเรื่องนี้?

ฮิโรกิ ตอนที่ได้ยินว่าเรื่องที่โดนลงตีพิมพ์ไปนั้นเป็นเรื่องจริงเคตะก็ร้องไห้ออกมา

เคตะ  ตอนที่พอคิดว่าถ้าแฟนๆได้เห็นนิตยสารแล้วล่ะก็รู้สึกกลัวขึ้นมามากๆ แล้วก็เลยทำให้น้ำตาไหลออกมาเลย  เป็นอีกพริบตานึงที่รู้สึกถึงความสำคัญมากของเรื่องงาน  ในตอนนั้นเองอัคคุงก็นั่งคุกเข่าลงขอโทษด้วย แล้วที่เห็นสภาพแบบนั้นก็คิดอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากที่อยากจะต่อยเขา ยังไงแล้วก็ไม่อาจจะให้อภัยได้ หลังจากนั้นก็ไม่พูดกับเขาเลยไปอาทิตย์นึง ก็เป็นแบบความรู้สึกที่ว่าคอยเฝ้าจับตาดู

ฮิโรกิ ของผมก็มีแต่ความรู้สึกผิดและขอโทษแต่แฟนๆเต็มไปหมด  พูดกันแบบตรงๆว่างานอีเวนท์ก็น้อยลงไปจริงๆ แต่ว่าการที่จะขึ้นไปยืนบนเวทีนั้นก็กลัวซะเหลือเกิน  จะให้พูดตรงๆเลยก็คิดว่ามันได้จบลงไปแล้วล่ะครับ


แล้วได้พูดอะไรกับอากิระมั้ย?

ฮิโรกิ ก็ไม่ได้พูดอะไรครับ ถึงมันจะเป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งการตรึกตรองอย่างรุนแรง ในใจนั้นก็โกรธจนทำให้ตัวสั่นเลย แต่เพราะว่าเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงก็ถูกลงตีพิมพ์ไปเยอะเหมือนกัน มันก็ไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าทั้งหมดนั้นมันเป็นความรับผิดชอบขออากิระ ที่เหนือไปกว่านั้นแล้วมันก็คิดว่าเป็น ความรับผิดชอบที่มีร่วมกัน  ที่ว่ากันว่าสาเหตุของการทำให้เกิดเหตุต่างๆนั้นคือการทำตัวที่เฉยๆของสมาชิกในวง


แล้วชินยะล่ะ?

ชินยะ ก็เป็นอะไรที่รู้สึกถึงความรู้สึกที่ว่าอันตรายเอามากๆ  คนที่อยู่เคียงข้างอากิระอย่างผมนั้นแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ในจุดยืนที่จะสามารถชี้แนะอะไรได้เลย  ก็จำได้ว่าพูดปลอบกับอากิระที่กำลังเศร้าเป็นทุกข์ใจไปว่า ไม่เป็นไรหรอก

อากิระ แล้วที่เรื่องนั้นมันออกมานั้นก็เป็นช่วงเวลาพอดีกับก่อนที่จะเริ่มออกฉายภาพยนตร์ที่ได้รับบทให้แสดงนำ ก็เป็นช่วงที่ได้ไปให้สัมภาษณ์เดี่ยวบ้าง ช่วงเวลาที่สำคัญแบบนั้นแล้วก็ได้กระทำการที่ผลีผลามออกไป กลับไปทำลายโอกาสที่ตัวเองอุตส่าห์ได้รับมาจนพังทลายไปซะหมด แล้วก็เพราะเรื่องนั้นก็เป็นเหตุที่นำไปสู่ความหมดหวังแห่งความเป็นจริง  หลังจากนั้นแล้วจำนวนของการแสดงไลฟ์มันก็ลดลงไปจริงๆ รูปร่างโครงสร้างอะไรต่างๆมันก็ค่อย เล็กลง

ชินยะ แล้วที่เป็นปัญหามากที่สุดก็คือถึงจะโดนสต๊าฟพูดอะไรมาก็ตามในตรงนั้นแล้วก็ใช่ว่าจะมีความรู้สึกผิดแล้วก็จะมองตัวเอง แต่กลับเป็นการแค่แสร้งทำว่าเป็นแบบนั้น แล้วก็ไม่ได้มีความคิดความรู้สึกที่จะแก้ไขปรับปรุงอะไรเลย ตอนนั้นเองผมก็ไม่ได้คิดอะไรซะนอกจากดวงไม่ดีแค่นั้น การที่จะมาคิดทบทวนถึงการกระทำของพวกเราเองนั้นมันไม่มีเลย  ก็มีความรู้สึกแบบที่ว่า ถ้ามันจะจบลงด้วยสิ่งนี้แล้วมันก็ช่วยไม่ได้

เคตะ หลังจากที่มาขอโทษกับพวกเราแล้ว  อัคคุงที่ก็ทำตัวเหมือนกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ในระหว่างที่พวกเราก็คอยมองเขาที่ถอยออกห่างไปก้าวนึงนั้น ก็ทำให้รู้สึกได้ถึงการที่เป็นตัวใครตัวมันของLeadขึ้นมาอย่างจริงๆ ผมเองก็ทำตัวไม่ดีตามกระแสนั้น แล้วก็ใช้ชีวิตแบบไร้ซึ่งการตรึกตรองให้ดี ทุกเรื่องนั้นจะเลือกเพียงแค่ว่า มัน สนุกหรือไม่สนุกไม่เอาใจใส่เรื่องงาน ทำไปแบบลวกๆ แล้วก็ใช้ชีวิตแบบอิสระเสรี

ฮิโรกิ  ช่วงที่ลำบากสุดๆของLeadนั้นก็คือ สมาชิกในวงต่างเอาแต่กระทำตัว ประพฤติตัวในแบบที่ผิดๆ แล้วก็ไม่ว่ากล่าวตักเตือนกัน ถึงจะเห็นแต่ก็แสร้งทำเป็นว่าไม่เห็น นอกเหนือไปจากความคิดที่เป็นคู่หูกันทางเรื่องงานแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นเลย ความสัมพันธ์ที่เริ่มกันมาจากเพื่อนกันนั้นมันก็ได้จางหายลงไป

ชินยะ  ที่คิดแบบนั้นได้แล้วยังไงฮิโรกินี่ก็เป็นผู้ใหญ่จังเลยนะ ช่วงเวลาที่ฮิโรกิมีปัญหาเองก็เหมือนกัน ในตอนนั้นเองฮิโรกิที่อยู่ในฐานะหัวหน้าวงนั้นไม่ว่าจะมีความคิดแบบไหนแล้วก็ที่ระรู้สึกถึงได้นั้น หรือไม่ได้นั้น การที่แสร้งทำเป็นว่ามองไม่เห็นของพวกเรานั้นต่างหากที่เป็นปัญหา

ฮิโรกิ ไม่หรอกๆ ก็เป็นอย่างที่ทุกๆคนรู้อยู่ว่าตัวฉันในตอนนั้นน่ะ ก็สามารถที่จะมีสมาธิกับเรื่องงานได้  ด้วยความรู้สึกที่ว่า ก็จะทำในเรื่องที่ทุกๆคนชอบไปซะ!”  ก็อาจจะเป็นกฎใหม่ที่ไม่ได้คิดใส่ใจลงไปเลย

อากิระ เพราะด้วยเรื่องนั้นเองก็ได้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้ต้องกระจัดกระจายกันไปอีก ในครั้งนี้เองก็ไปถึงแฟนๆเองด้วยที่กระจัดกระจายกันไป

ฮิโรกิ แต่ว่า มันก็ไม่ได้จบลงไปนะ นี่Leadเองก็จะสิบปีแล้ว


เรื่องอื่นๆแล้วก็มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?

อากิระ ผมก็ได้ไปร่วมแสดงในละครของFuji Tv เรื่อง Taiyo To Umi No Kyoushitsu

ฮิโรกิ การที่สมาชิกในวงได้ร่วมเล่นละครในเดือนกันยานั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจด้วยครับ ก็มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายแต่ว่า  ก็เป็นอีกครั้งนึงที่รู้สึกได้ว่าพวกเราจะชนะหรือแพ้ในโลกนี้ได้หรือไม่ ก็จำได้เลยว่าได้คอยดูไปด้วยความหวังเต็มเปี่ยม  ในตอนนั้นเองก็เป็น ฮิโรกิที่ชั่วร้ายมากครับ(หัวเราะ)

เคตะ การเปลี่ยนโหมดของฮิโระซังในตอนนั้นก็เร็วมากเลยล่ะนะ

ฮิโรกิพราะว่าละครก็เป็นช่วงฤดูร้อน ก็เป็นช่วงที่ทับซ้อนกับทัวร์ด้วย อากิระที่หลังจากไปถ่ายทำเสร็จแล้ว ก็จะไปขึ้นชินคังเซนต่อ แล้วก็มาเล่นไลฟ์ พอไลฟ์เสร็จก็กลับไปถ่ายทำต่อ เพื่อเป็นการที่จะช่วยลดภาระให้เขาแล้วก็ต้องคอยจัดการช่วยเหลือให้ดีเตรียมไว้ให้ ก็คิดว่าพลังความความสัมพันธ์ของเราทั้งสามคนก็สูงมากทีเดียว

อากิระ ผมที่ฟกช้ำดำเขียวมาจากละครแล้วพอกลับมาก็ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากสมาชิกในวง ก็ทำให้รู้สึกขึ้นมาจริงๆว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้าน

เคตะ แต่ว่าอากิระในตอนนั้นน่ะ ดูไม่มีอัธยาศัยเอาซะเลย

อากิระ ตรงนั้นตัวเองก็รู้ยู่เหมือนกันนั่นล่ะ พอได้ไปดูรูปในช่วงนั้นแล้ว ก็รู้สึกว่าได้แต่แสดงออกถึงหน้าตาท่าทางที่ดูนิสัยไม่ดีออกไป เป็นแบบหน้าบึ้งตีงๆน่ะ

เคตะ ทำตัวเป็นดาราเหรอไง? (หัวเราะ)

อากิร เป็นแบบนั้นรึเปล่านะ ด้วยความอ่อนโยนของทั้งสามคนแล้ว ตัวฉันที่ก็จะดูโดดเด่นขึ้นมาได้ก็คิดว่าดีแล้ว ในช่วงเวลาที่คิดว่าอยากจะทำอะไรที่นอกเหนือไปจากเรื่องของดนตรีแล้ว  ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่ได้ให้ไปเล่นละครพอดี ทั้งเรื่องที่ทางต้นสังกัดเองก็ได้โยนโอกาสลงมาให้อีกครั้งก็ด้วย ก็ได้ถือว่าตัวเองเป็นตัวแทนของLead ก็ต้องแสดงออกไปให้ได้ดีๆ นั้นก็โดนพูดใส่อยู่ จนที่ทำให้คิดว่าแค่ตัวฉันเองก็ทำได้เหมือนกันนี่

เคตะ อัคคุงในตอนนั้น ด้วยสายตาปกติที่เหมือนแมวนั้น ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสายตาที่ดูหยิ่งขึ้นมา ตรงนั้นเองถ้าจะให้พูดแบบตรงไปตรงมา ก็คิดว่า เปลี่ยนไปนะทำให้คุยด้วยได้ยากมาก

อากิระ  ก็มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมาย แล้วก็เรื่องที่เห็นในทางที่ต่างออกไปทำให้เห็นความหวังขึ้นมา แล้วก็แบบว่ามีเรื่องที่ได้รับการชมมาเยอะอยู่  จากการเจริญเติบโตตรงนั้นเองก็ไม่ได้คิดถึงทุกๆคน แล้วก็ไม่รู้สึกตัวด้วย  กลายเป็นคนหยิ่งยโสตามแบบแผน

ชินยะ แต่ว่านั่นน่ะค่อนข้างที่จะเข้าใจอยู่นะ ก็เพราะว่ามีช่วงที่กลัวที่จะเห็นผลของงานที่จะออกมาด้วยใช่มั้ยล่ะ  ที่ไม่อาจจะอยู่รับความจริงได้  ที่ไม่อาจจะรับความจริงได้ก็อาจจะเป็นต้นเหตุของสิ่งนั้นก็ได้นะ  ตัวผมเองในราวๆปี2007 การที่จะดูรูปหรือผลงานที่ออกมาไม่ใช่ว่าก็ไม่มีความกล้าแต่เป็นแบบว่าอยากจะข้ามๆไปเลย  เหมือนกับว่า ถ้ากลัวกับการที่จะโดนพูดอะไรแล้วล่ะก็ แทนสิ่งนั้นแล้วจะปรับปรุงตัวเองแท้ๆ  แต่ก็กลับไม่ทำแบบนั้น ได้แต่รู้สึกว่าทำตัวเหมือนข่มขวัญตัวเอง

อากิระ มันได้เกิดความมั่นใจแบบแปลกๆขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้  ตัวเองนั้น ก็เป็นที่ชื่นชอบแบบเต็มที่ ไม่ส่าจะทำอะไรก็ทำได้  ไม่ว่าจะอะไรก็สามารถเป็นได้ แน่นอนว่า ในสถานที่ถ่ายทำละครเอง ก็ไม่สามารถจะสบายใจได้ทั้งหมด แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ


ที่ได้ไปเล่นละครแล้วฮิโรกิที่ดีใจยินดีด้วยล่ะเป็นยังไง?

ฮิโรกิ จากที่ผมคิด ก็คิดว่าไม่ได้มีคนดูในเรื่องของพวกเราเลยนะ อากิระจะยังจำได้มั้ยนะ?

อากิระ อะไรเหรอ?

ฮิโรกิ ตอนที่ไปทัวร์ที่ไหนซักที่ตอนช่วง MC  ก็มีคนตะโกนเรียกชื่อบทของอากิระในละครขึ้นมา โมจิกิ!แล้วพอหลังไฟล์จบในห้องแต่งตัว อากิระก็พูดขึ้นมาว่า ฉันน่ะไปยืนอยู่ตรงนั้นด้วย ความเป็น Akira,Lead การมาเรียกกันแบบนั้นจะเลิกกันได้มั้ยเนี่ย?

อากิระ แล้วก็ทะเลาะกันเลยเหรอ?

ฮิโรกิ เปล่า ฉันก็แอบคิดในใจ

อากิระ จำไม่ได้เลยนะ ・・・แต่ว่าที่คนรอบๆตัวไมได้เห็นน่ะมันก็เป็นเรื่องจริงนั่นล่ะ  แต่ทั้งๆที่ก็อยุ่ในช่วงของการที่เกิดความผิดพลาดติดต่อกันหลายๆเดือนแท้ๆ  แล้วก็ไม่ได้ทำการแก้ไขอะไรแต่ก็ได้รับโอกาสมา เป็นการที่มีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป


ชินยะล่ะรู้สึกยังไงกับอากิระในตอนนั้น?

ชินยะ ในตอนนั้นเองผมก็เกิดความเข้าใจผิดเหมือนกัน ก็มีช่วงที่คิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงจะไมได้  แต่ก็มีที่คิดเหมือนกับอากิระว่า จะยังไงซะ มันก็ยังคงพอไปไหวล่ะน่า แล้วก็เป็นช่วงที่อายุนั้นอยู่ในช่วงที่เริ่มดื่มเหล้าได้แล้ว ชีวิตก็สนุกสนานเหลือเกิน  ไปทำงานทั้งๆที่ก็เมาค้างได้แบบหน้าตาเฉยก็มี  แทนที่จะเป็นเรื่องงาน กลับเห็นเรื่องส่วนตัวมาก่อน   แล้วก็เพราะว่ามีแต่การทำตัวแบบที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นแล้วก็เลยไมได้อยู่ในจุดยืนที่สามารถจะพูดอะไรกับอากิระได้เลย


แล้วเคตะล่ะ?

เคตะ จริงๆแล้วการที่อากิระได้ไปเล่นในละครนั้น เป็นอะไรที่ผมไม่อาจจะเข้าใจยอมรับได้เลย ใครๆเองก็มีเรื่องที่ผิดพลาดกันมาทั้งนั้น แต่ก็กลับไปคิดว่า ทั้งๆที่กลับมีเรื่องนั้นเกิดขึ้นมาแท้ๆ แล้วอากิระยังได้งานอีกเหรอ?」 ทิ้งระยะห่างกับสมาชิกในวง แล้วก็ไม่มีแรงที่อยากจะทำงาน จากที่เป็นแบบนั้นเองก็ทำให้โดนสต๊าฟดุมากขึ้น・・・ ในระหว่างที่พลางคิดว่า ทำไมถึงมีแต่ฉันเท่านั้นที่โดน?” การใช้ชีวิตเองก็เริ่มแย่ลงๆไป

ฮิโรกิ คตะในช่วงนั้นก็ไม่ค่อยที่จะไปซ้อมด้วย

เคตะ อารมณ์อยากที่จะทำงานมันหายไปแล้วก็กลายเป็นตื่นเช้าไม่ได้  การที่ยิ่งโดนดุก็ยิ่งทำให้เป็นงั้นมากขึ้น  เรื่องกฎหรืออะไรนั้นก็ไม่สนใจเลย  คนที่คอยอยู่เคียงข้างอย่างฮิโรกิ หรือสต๊าฟ หรือความรู้สึกของตัวเอง ก็คิดว่ามีแค่ตัวเองนั่นล่ะ สะดวกดีแล้ว แล้วก็ใช้ชีวิตไปแบบนั้น


เป็นอะไรที่เกินกว่าที่คิดไว้เลย แบบว่า เคตะไม่ได้ดูเป็นคนที่จะดูเป็นแบบนั้นเลย

เคตะ ยกตัวอย่างเช่น  ทุกๆวันก็จะเพิกเฉยต่องานแล้วก็เที่ยวจนถึงเช้ามั่งล่ะ  แทนที่จะมุเรื่องงาน และการทำตามกฎเอง ก็พยายามทำเต็มที่ แต่เพราะแบบนั้นเองก็ทำให้โมโหขึ้นมา แล้วก็การติดต่อประสานงานกับคนอื่นๆนั้นกลายเป็นเรื่องที่รู้สึกแย่ขึ้นมา  แล้วก็ยังรู้สึกต่อต้านถึงคนมาคอยดุด้วย・・・ เป้าหมายเองก็พลันหายไปหมดด้วย

ฮิโรกิ เคตะน่ะสมัยตั้งแต่ยังเด็ก ก็ไม่ใช่แค่เรื่องร้องเพลงกับเต้น ทางด้านการแสดงเองก็ทำได้ดีเหมือนกัน  ยังไงซะ ก็เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์  บางทีอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความผิดหวังท้อแท้มาก่อนเลยก็ได้  ผมเองก็คิดว่านั่นมันก็สุดยอดอยู่เหมือนกัน  แต่สำหรับเคตะเองแล้ว ก็เป็นอะไรที่ดูทรมานเกินกว่าที่ได้คิดไว้ซะอีกนะ

เคตะ ก็อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้นะ  ทุกๆครั้งที่เห็นอากิระ โดนชม มีความสุขสนุกสนานไปกับการได้รับสัมภาษณ์เรื่องกองถ่าย ก็เหมือนกับว่าตัวเองโดนทิ้งเอาไว้อยู่ข้างหลัง แล้วเรื่องนั้นก็ไม่อาจจะให้อภัยได้  เพราะงั้นแล้วผมเองก็ไม่ได้ดูละครเรื่องนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ ทำให้คิดว่าก็ต้องฮึกขึ้นมาให้ได้ แต่ว่าทำยังไงก็ทำไม่ได้

ฮิโรกิ ทุกๆคนที่โดนผู้ใหญ่รายล้อมมาตั้งแต่มัธยมต้น ก็อาจจะมีความรู้สึกที่ว่าโดนกดดันเลี้ยงดูให้โตมาแบบนั้นกันก็เป็นได้  แต่ว่านั่นมันก็เป็นเคราะห์กรรมของโลกของการทำงานนี้  แต่ว่าผมที่จากโลกของการเป็นคนธรรมดาเข้ามาสู่โลกนี้ตอนม.5แล้วก็อาจจะไม่เข้าใจถึงความรู้สึกแบบนั้นก็เป็นได้ แต่ยังไงแล้วทั้งสามคนก็คงจะต้องเป็นแบบนั้นสินะครับ


นั่นก็เป็นช่วงก่อนอายุ20ปี ถือว่าเป็นการแสดงของวัยต่อต้านที่ออกจะมาช้าไปหน่อยเหรอ?

ชินยะ อืม ก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ว่าจะต่อต้านหรืออะไรแม้แต่น้อยเลยนะครับ แต่ว่าเพียงเพราะเหตุผลที่ว่า เพื่องานแล้ว มันก็อาจจะจริงว่าที่ไม่อาจจะทนไหวต่อไปได้เพื่อเรื่องที่สนุกสนาน  แล้วก็คิดจริงๆว่าถ้ายังจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆแล้วล่ะก็ไม่ไหวแน่ๆ  แต่ว่าพอมีเรื่องที่สนุกสนานมาอยู่ต่อหน้าตัวเองแล้ว เรื่องนั้นเองก็พรากจากต่อหน้าสายตาไปได้อย่างง่ายๆเช่นกัน

เคตะ ตัวผมเองก็ไม่ได้รู้สึกที่ว่าจะต้องมาต่อต้านหรืออะไรนะครับ แต่เพียงแค่ว่า รู้สึกแย่กับการที่จะต้องมาแข่งขันอะไรกัน ยังไงซะก็อยากที่จะมีอิสระ  แล้วความอิสระนั้นก็ไม่อาจจะที่จะชดใช้ได้ด้วยเรื่องงาน  แล้วก็เพราะเรื่องนั้นแล้ว เอามันมาทำเป็นว่า มันเป็นสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีในการทำงาน แล้วก็หลีกหนีไปจากโลกของความเป็นจริง

อากิระ ในระหว่างนั้นเอง ในกองถ่ายทำละครของผมเองก็เกิดปัญหาขึ้นต่างๆมากมาย  ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนนักแสดง แล้วก็สต๊าฟ  กลับไปสร้างความเดือดร้อนรบกวนให้กับสต๊าฟที่คิดว่าจะคอยช่วยผลักดันให้กลับมาได้อีกครั้งนึง  แล้วก็เป็นอีกครั้งนึงที่ไปเหยียบทำลายความรู้สึกเชียร์คอยเอาใจช่วยของแฟนๆอีกครั้งนึง  ทั้งๆที่ก็อุตส่าห์ได้รับโอกาสมาอีกครั้งแล้วแต่ก็ไปทำให้มันพลังทลายลงไปอีก

ฮิโรกิ ยังไงแล้วเรื่องนั้นก็รู้สึกได้อยู่เหมือนกัน แต่ว่ามันก็เกิดขึ้นนะ・・・

ชินยะ ถึงจะอยู่ด้วยกันทุกๆวันก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้รู้เลย

อากิระ อื้ม ก็อุตส่าห์ได้รับโอกาสให้ไปเป็นตัวแทนของLeadแล้วแท้ๆ  ก็กลัวที่จะโดนสมาชิกในวงจะรับรู้ได้ถึงกันเหลือเกิน・・・ เพราะงั้นแล้วก็เลยรักษาระยะห่างไว้ แล้วก็เลยทำตัวเป็นว่าไม่มีความรู้สึกอะไรไงล่ะ

ทุกๆคน อ้อ

อากิระ อย่าร้องว่า อ้อ สิ ดูเป็นอะไรที่ซับซ้อน(ยิ้มแหย)

เคตะ ก็มันไม่มีคำอื่นที่จะพูดออกไปได้นอกจาก อ้อน่ะสิ


พูดตรงๆก็คือไม่คิดยอมรับผิด แล้วก็จะขอโทษเหรอ?

อากิระ ตัวเองก็รับรู้ดีอยู่ว่า ตัวเองได้ทำเรื่องแบบไหนไปแล้วก็จะทำให้คนอื่นๆต้องผิดหวังซักแค่ไหน  นั่นก็ยิ่งทำให้ต้องปิดตาหนีไปจากความเป็นจริงมากขึ้นอีก เพราะคิดจริงๆว่า เวลาจะเป็นตัวช่วยเยียวยา แล้วก็ไม่คิดที่จะมองย้อนดูตัวเอง แล้วด้วยสิ่งนี้เองก็ยิ่งทำให้ทั้งแฟนๆแล้วก็สต๊าฟผิดหวัง สุญเสียความน่าเชื่อถือไปจากสมาชิกในวง เรื่องทั้งหมดไม่อยู่ในร่องในรอยไปหมด

ชินยะ ฤดูร้อนปีนั้นพอจบลงแล้ว ก็รู้สึกได้จริงๆสินะว่าอยู่ๆก็ดูห่างไกลออกไปจากคนรอบๆตัว ตอนที่ได้มารวมตัวกันครบอีกครั้งนึงฮิโรกิก็พูดว่า ขอโทษสต๊าฟทุกๆคนเสีย แล้วก็ตั้งใจฟังเรื่องที่เค้าจะพูด แล้วก็จัดการรีเซ็ตสถานการณ์ที่เป็นในตอนนี้ทั้งหมดซะเถอะ แต่ว่าเราทั้งสามคนก็ทำหัวแข็งแล้วก็ไม่ยอมรับด้วย

อากิระ อะไรที่ถูกผิดก็ตัดสินไม่ได้เลย  ความคิดที่ตรงกันข้ามกับตัวเองก็มองว่าเป็นศัตรูไปหมด เพราะงั้นแล้วเรื่องคำพูดเองก็ พูดแบบลวกๆ

เคตะ ก็เป็นแบบนั้นล่ะนะ  รู้สึกได้ว่า แรงจูงใจของตัวเองนั้นมันหายไปทั้งหมด พูดตรงๆ เรื่องเต้นหรือร้องเพลงเองก็ทิ้งไปทั้งหมดเหมือนกัน・・・

ฮิโรกิ เคตะหลังจากทัวร์จบลงก็กลับบ้านที่ฟุกโอกะไปราวๆเดือนนึงนะ

เคตะ สภาพจิตใจนั้นมันก็แย่มากๆจนรู้สึกไม่อยากที่จะอยู่โตเกียวเลย  พอมานั่งนึกย้อนดูตอนนั้นแล้วก็ถือว่าเป็นการเสียมารยาทต่อแฟนๆที่คอยส่งแรงเชียร์มาให้ตลอดมาก ถึงจะเป็นการกระทำที่เอาแต่ใจตัวเองมากๆ แต่มันก็ถึงขีดจำกัดอยู่เหมือนกัน ที่ได้กลับบ้านไปแล้วก็ใจเย็นลงไปได้ แล้วก็กลับไปยืนบนเวทีที่ไต้หวันได้อีกครั้ง แล้วแรงจูงใจมันก็กลับมาได้อีกครั้งนึง

ฮิโรกิ ในช่วงเวลานั้นเองก็เป็นช่วงที่Leadเองก็ต้องทุกข์ทรมานที่สุดนะ

อากิระ ถึงในตอนนั้นจะไม่รู้สึกตัวก็เถอะ  ในตอนนั้นที่ได้ออกซิงเกิ้ล 「STAND UP!」「Sunny Dayไป ก็ไม่ได้รับการวิพากวิจารณ์ที่ดี สภาพของพวกเราเองก็ส่งผลถึงลำดับของยอดขายด้วย

ฮิโรกิ ตอนที่ขึ้นชาร์ตก็ตั้งใจว่าอยากจะทำให้มันจริงๆจังๆ แต่ทุกๆคนก็รู้กันอยู่แล้วสินะ  เพลงSunny Dayนั่นน่ะ เมื่อทัวร์ปีที่แล้ว(2011) ก็เป็นครั้งที่ได้ร้องออกไปจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ  Leadersเองก็ดูกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม พวกเราเองก็ดีใจกันสุดๆเลย

ชินยะ ตอนไลฟ์ปีใหม่เองที่ร้อง STAND UP!เองก็เป็นงั้นเหมือนกันเนอะ ในที่สุดทั้งสองเพลงนี้ก็ได้รับกรฉายแสงเต็มที่

เคตะ ขอโทษกับทั้งสองเพลงนั้นด้วยนะ (หัวเราะ)

ต้นเหตุของการหนีออกมาจากความทุกข์ในตอนนั้นได้คืออะไร?

ฮิโรกิ ของผมก็ตอนช่วงปี2009 ตรงกับช่วงเพลง Giragira Romanticพอดี ก็โดนแฟนๆพูดว่า การแสดงออกดูดีขึ้นนะครับ


มีอะไรในใจที่ได้เปลี่ยนไปเหรอ?

ฮิโรกิ ช่วงต้นปีของปีนั้นผมได้เริ่มทำบล็อกโซโล่ของตัวเองครับ ณ ที่ตรงนั้นแล้วก็ ได้เริ่มติดต่อกับแฟนๆได้อย่างโดยตรงขึ้นมา  จากที่ได้คุยและได้รับมาแล้วนั้น ก็ทำให้ค่อยๆเริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้งนึง

ชินยะ แล้วอัตราการอัพบล็อกของฮิโรกิก็ค่อนข้างสูงด้วยสินะ

ฮิโรกิ ก็ตั้งแต่ที่เริ่ม จนทำได้ถึงราวๆ สองปีก็อัพเกือบจะทุกวันเลย

เคตะ แล้วก็ยังคงทำบล๊อกในมือถือต่อควบคู่กันไปด้วยสินะ?

ฮิโรกิ อื้ม จริงๆแล้วการจะเขียนอะไรนั้นก็ไม่เก่งเลย ที่จะเขียนนั้นก็ลำบากอยู่ในหลายๆวันเหมือนกัน  แต่ว่า เพื่อที่จะให้หลังจากนี้แล้วไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง ก็คิดว่าก็จะทำในสิ่งที่ตัวเองจะสามารถทำได้  ตัวผมในตอนนั้นเองก็คิดแล้วว่าแฟนๆได้ล้มเลิก ตัดใจไปจากLeadแล้ว  ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในวงก็ไม่ดี การแสดงเองก็แย่  ไม่ว่าจะอะไรก็ทำให้ผิดหวังทั้งนั้น  ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นแล้วมาทำบล็อกแล้วได้อ่านคอมเม้น แล้ว ก็คิดว่า แฟนๆเองก็กำลังรอการแก้ไขระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเรา แล้วก็การกลับมาอยู่นะ”  “รอการกลับขึ้นไปยืนบนเวทีของพวกเราอยู่


ก็คอยปกป้องดูเลอยู่สินะ

ฮิโรกิ ครับนั่นก็ทำให้ดีใจมากๆเลยครับ  ถึงจะรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย แต่ก็ยังรอคอยผมที่เป็นแบบนั้นอยู่ การที่ได้รู้ว่ามีคนเข้าข้างนั้นมันก็เป็นกำลังใจ ในตอนนั้นแล้วตั้งแต่ที่เดบิวมาก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่ใหญ่ที่สุดเลย


ความสัมพันธ์ของทั้งสี่คนที่แข็งแกร่งขึ้น แล้วสถานการณ์ก็ค่อยๆดีขึ้นทีละน้อยๆ แล้วก็ได้ตัดใจได้ถึงเป้าหมายต่อไปงั้นเหรอ?

ชินยะ เอ่อ ก็ยังนะครับ ในตอนนั้นความสัมพันธ์ระหว่างในสมาขิกในวงก็คงยัง・・・

ฮิโรกิ ยังไงซะ ในตอนไลฟ์ ก็ตั้งใจวาจะให้ได้เห็นถึงสถานการณ์ของLeadในตอนนั้น  ก็ได้เริ่มมีเป้าหมายที่เหมือนกันขึ้นมาแล้ว

เคตะ ความคาดหวังของตัวผมนั้นเป็นคนที่มีได้แย่ที่สุดเลยครับ เอาแต่ไปสายมั่งล่ะ หยุดการซ้อมไปโดยขาดการติดต่อมั่งล่ะ  การติดต่อตอบสนองเรื่องงานนั้นก็ไม่มีเลย  ที่มานั่งย้อนดูในตอนนี้แล้ว ในรูปนั้น ก็ไม่ได้มีเหมือนวิญญาณอยู่เลย

ฮิโรกิ ผมเองก็ค่อยๆยาวขึ้นด้วย(หัวเราะ)

ชินยะ แล้วก็โดนแม่ดุด้วยสิ(หัวเราะ)

เคตะ เรื่องผมยาวน่ะ คุยกันไว้ถึงแค่นั้นพอจะได้มั้ย? ทั้งๆที่ก็พูดเรื่องจริงจังขึ้นมาแล้ว(หัวเราะ)


แล้วอากิระในตอนนั้นล่ะเป็นยังไง?

อากิระ ฮิโรกิที่รู้สึกได้ถึงเรื่องแบบนั้นมันก็สำคัญจริงๆนะ ผมเองในตอนนั้นก็ยังคงปิดตาปากความเป็นจริง ยัคงเอาแต่ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบซ้ำไปซ้ำมา





ถึงจะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดอยู่หลายครั้งหลายคราแล้วแต่ที่เหตุผลที่ยังไม่เปลี่ยนนั้นคืออะไรเหรอ?

อากิระ จะพูดว่าไม่เปลี่ยนไปเลย หรือกระไร ก็ไมได้คิดที่จะเปลี่ยนซะมากกว่า  ก็คิดว่าใครๆก็ตามที่จะมาพูดอะไรนั้นก็คิดว่ามันมาจุ้นจ้านวุ่นวายไปหมด แล้วที่ใกล้ๆตัวในตอนนั้นคนที่เห็นพ้องด้วยก็มีเหมือนกัน เพราะงั้นแล้วด้วยเสียงของการเป็นผ้ใหญ่ที่เริ่มที่จะเอาเป็นเอาตายขึ้นมา  สิ่งที่อยู่ในใจตอนนั้นทั้งหมดในตอนนั้นมันก็ปฏิเสธไปซะหมด ตัวเองในตอนนั้นก็ไม่อาจที่จะเอากลับมาได้เลย

ฮิโรกิ แต่ว่า ในตอนนั้นเองอากิระก็เริ่มที่จะคาดหวังและเริ่มออกเดินไปข้างหน้าแล้วใช่มั้ยล่ะ?

อากิระ นั่นมันก็เป็นอะไรที่ก็ดูเป็นแค่ผิวเผิน ตอนนี้พอมาคิดๆดูแล้ว ในใจนั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย  ช่วงเวลาที่ตัวเองจะปรับเปลี่ยนอะไรก็ไม่มี  เพราะว่ายังไงก็ยังคงอยากจะให้ความสำคัญต่อสิ่งที่สนุกๆมาก่อน

ทุกๆคน อ้อ

อากิระ เพราะงั้นถึงได้บอกไปไงว่าอย่าร้อง อ้อกัน (ยิ้มแหย)

เคตะ  ก็มันไม่มีคำอื่นที่จะพูดออกไปได้นอกจาก อ้อน่ะสิ

อากิระ ออกไปอยู่นอกกฎ ออกไปอยู่นอกวงโคจร  แหกมันไปซะทั้งหมด สำหรับLeadแล้วก็ได้เป็นอิทธิพลที่ร้ายแรงต่อๆไป

เคตะ แบบว่าเป็นบทสรุปที่สรุปออกมาได้ดีนะ

ชินยะ สมแล้วที่เป็นราชาของการหัวเราะก๊าก

อากิระ ก็สรุปแบบจริงจังออกไปเท่านั้นล่ะนะ

ฮิโรกิ พอเถอะ มันดูอึมครึมเกินไปแล้ว! พูดกันแบบนั้นพอได้แล้ว โตๆกันได้แล้ว!(หัวเราะ)


(หัวเราะ) อากิระที่มีแต่เรื่องที่ต้องคิดทบทวนตัวเองแบบนั้น ที่เริ่มทำเพลงขึ้นมานั้นมันเริ่มมาจากตรงไหนเหรอ?

อากิระ อ๊ะ ถ้าเป็นเรื่องนั้นแล้วล่ะก็จะสามารถพูดเรื่องที่ดูเดินไปข้างหน้าได้บ้าง! พวกผมเองก็ไม่เคยพูดหรอกว่าเพลงแบบนี้ๆ แล้วไม่ชอบไม่เอาแล้ว แต่ก็มีที่คิดว่า ยังไงๆก็ชอบเพลงแบบนี้นะ เพราะงั้นแล้วก็เลยมีความคิดบวกที่ว่า อยากจะทำเพลงแบบนี้ แล้วผมที่ก็เป็นคนที่การจะสื่อหรือพูดอะไรออกไปนั้นไม่เก่งเลย  สิ่งที่ตัวเองอยากจะพูดก็ไม่สามารถสรุปแล้วพูดออกไปได้  ก็คิดว่าถ้าเป็นเพลงหรือเนื้อเพลงแล้วก็อาจจะสื่อได้ก็ได้นะ



...ต่อพาร์ท3...

Translated by Kagimoto Y.y 8-28/7/2012




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 21:43:59 น.
Counter : 918 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

Kagimoto Y.y
Location :
Tokyo-->Ibaraki Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




follow me @KagimotoYy
facebook: Thai Leaders
メラメラสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539メラメラ
ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

☆*゚ ゜゚*☆*゚ ゜゚*☆*゚ ゜゚*☆*゚ ゜゚*
New Comments
Friends' blogs
[Add Kagimoto Y.y's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.