[PB]Lead 10th Anniversary Book『Document』 part3
...ต่อจากพาร์ท2...
ฮิโรกิเองในตอนนั้นเองก็ทำเพลงเหมือนกันสินะ
ฮิโรกิ ใช่แล้วครับ ตอนแรกที่ทำเพลงออกมานั้นก็เป็นผมล่ะมั้งนะ ในตอนนั้นก็มีรายการวิทยุที่ออกเป็นประจำ ก็พูดไปในรายการว่า 「ถ้าในไลฟ์ปีหน้า ไม่สามารถร้องเพลงที่ตัวเองทำออกมาได้แล้วล่ะก็ จะไปโกนหัวล้าน」 ที่เริ่มจากตรงนั้นแล้วก็เริ่มที่จะทำเพลงของตัวเองออกมา แต่ว่ามันก็ไม่ได้เรื่องเลย(หัวเราะ) หลังจากนั้นเองในไลฟ์ของแฟนคลับ ตรงช่วงวีดีโอโซโล่เองก็โดนแซวอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือเหมือนขาดอะไรไป เพราะงั้นถ้าจะให้พูดแล้ว ก็ไม่ใช่การที่จะเต้นคนเดียวแล้วก็จะให้เห็นพลังทั้งหมดของตัวเองที่มี ตอนช่วงที่กังวลว่า สรุปแล้วตัวเราเองนั้นทำอะไรได้บ้าง แล้วเพลงที่คิดทำขึ้นมาได้นั้นก็คือเพลงC/wของซิงเกิ้ล 「Giragira Romantic」ครับ อากิระ ผมเองที่เห็นสภาพแบบนั้นแล้ว ก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่า “การทำเพลงนี่มันดูน่าสนุกดีนะ” เคตะ ผมน่ะ ก็คิดว่าทำไม่ได้เลย แล้วก็เลิกคิดไปเลย ฮิโรกิ แต่ว่าจะให้พูดแบบตรงๆ ก็ไม่ได้ทำผลงานที่จะสามารถให้ใครมาฟังได้เลย ถ้าจะให้พูดมันก็เป็นความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน แต่ที่ทำได้เกินกว่าใครๆนั่นก็คงจะเป็นอากิระ ไม่ใช่แค่เป็นการทำให้ตัวเองสนุกได้แต่ถึงขั้นที่สามารถนำเอามาใช้ออกเป็นเพลงของLeadได้เลย ที่เป็นแบบนั้นได้ก็ดีใจครับ อากิระ นั่นก็เป็นเพราะแฟนๆนั่นล่ะ
ดีจังเลยนะ เพราะว่าโดนแฟนๆพูดมาเหรอ? อากิระ ใช่แล้วครับ เพราะว่ายังไงๆแล้วแฟนๆก็พูดมาว่า “ดีจังเลยนะ” หรือ 「อยากจะฟังอีกจัง」 ก็ยิ่งทำให้คิดว่าต้องพยายามให้มากขึ้นอีก
จุดเปลี่ยนของการทำเพลงคืออะไรเหรอ? อากิระ ปกติแล้วก็เป็นพวกชอบอยู่แต่ในร่มอยู่แล้ว แล้วการทำเพลงนั่นมันก็สนุกเหลือเกินจนแทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลย แล้วก็มีการประกาศออกมาถึงเรื่องCDแล้วก็ไลฟ์ ได้รับคำชมจากแฟนๆแล้วก็สต๊าฟ ที่เป็นงั้นแล้วก็อยากจะส่งเพลงอื่นๆออกมาอีก เป็นการที่ตัวเองนั้นได้สนุกสนานถึงขั้นสุดเลยครับ เคตะ อัคคุงก็เอาแต่อยู่ที่บ้านสินะ เพื่อนก็เลยไม่ค่อยจะมี(หัวเราะ) อากิระ หนวกหูน่า! ฮิโรกิ พูดถึงเพื่อนของอากิระแล้วก็ไม่เคยเห็นใครเลยนอกจากชินยะนะ(หัวเราะ) อากิระ หนวกหู!! ชินยะ เป็นพวกไม่ชอบเข้าสังคมไง・・・(หัวเราะ) อากิระ หนวก-หู-จริง!! คุยเรื่องต่อไปเหอะ!!
อากิระที่เริ่มพูดเรื่องที่ดีๆได้ก็ค่อยดีหน่อย(หัวเราะ) เอาล่ะแล้วจุดเปลี่ยนของเคตะล่ะ? เคตะ ของผมก็เป็นช่วงฤดูร้อนปี2011ที่ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของLeadด้วย กับการออกของซิงเกิ้ล 「HURRICANE」ครับ ฮิโรกิ หลังจากซิงเกิ้ล 「SPEED STAR ★」ก็ไมได้มีงานออกมาเลยปีนึง จะให้พูดตรงๆ ถึงจะเข้าเดือนพฤษภาคมแล้วก็ไม่ได้มีเรื่องพูดคุยที่ดูจะออกเดินไปข้างหน้าได้เลย ชินยะ ปกติแล้ว ก่อนที่จะมีงานก็ต้องคุยเริ่มทำกันก่อนราวๆครึ่งปี กับLeadที่มีภาพลักษณ์ว่าเป็น “หนุ่มฤดูร้อน” ที่ก็อาจจะมีความหมายไปว่าจะต้องออกงานตอนฤดูร้อนหรือยังไง แต่ก็ได้แต่กลัว อากิระ จากอดีตของตัวเองที่ได้มีเรื่องไป ที่ก็กลัวไม่กล้าแม้จะที่จะไปถามถึงสถานการณ์นี้กับทางสต๊าฟได้ เป็นทุกๆวันที่มีแต่ความกังวล ฮิโรกิ พูดถึงเรื่องการออกซิงเกิ้ลแล้ว ก็ต้องมีเรื่องๆหลายอย่างที่ทางสต๊าฟจะต้องดำเนินงานไปเอาลายเซ็นต่างๆมาให้ได้ แล้วก็รู้ถึงการที่สต๊าฟคอยทำแบบนั้นให้ด้วย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะรออยู่เฉยๆ ชินยะ แล้วพอเข้าเดือนมิถุนายน อยู่ๆก็ได้ยินมาว่าจะได้ออกซิงเกิ้ลออกมาได้ เคตะ ก็ดีใจมากๆ โล่งอกไปเลย ฮิโรกิ จากตอนที่จะทำการออกซิงเกิ้ลนั้น แล้วก็ต้องไปเอาลายเซ็น แล้วเหตุผลที่ได้มานั้นก็เป็นผลของการออกเพลงให้โหลดตอนช่วงฤดูใบไม้ผลิ พอได้ยินมาแบบนั้นแล้ว ก็สาบานเลยว่ายังไงก็จะต้องมาขอบคุณกับLeadersให้ได้ ชินยะ อื้ม แล้วก็กำหนดได้ว่าจะเป็นเพลง 「HURRICANE」ออกมา แล้วเพลงC/wก็ได้เป็นเพลงที่พวกเราเขียนกันออกมาเพื่อที่จะแสดงถึงความรู้สึกขอบคุณ แล้วชื่อของคอนในตอนนั้นก็ออกมาเป็น 「sunxyou」 ฮิโรกิ ก็ทิ้งความคิดที่ว่า “ตั้งเอาไว้เผื่อตอนสิบปี” แล้วก็คิดว่าก็สื่อไปเลยในตอนที่อยากจะสื่อออกไป จะปีหน้าก็เป็นของปีหน้าแล้วค่อยสื่อไปดีกว่า
Leadersเองก็ดีใจกันใช่มั้ยล่ะ? ฮิโรกิ ตอนนั้นก็พอเหมาะกับที่ได้ไปออกอีเวนท์ตอนเดือนมิถุนายนพอดี ก็ได้ประกาศไปตอนMCในตอนหลัง ก็เป็นช่วงเวลานึงที่จะไม่ลืมเลยตลอดชีวิต เคตะ ตอนนี้พอมานึกถึงแล้วก็จะร้องไห้ ฮิโรกิ ก็ได้ให้รับการประกาศไปตามลำดับกับนักแสดงที่ออกในงาน พวกเราก็ประกาศจากปากของพวกเราเองแต่ว่า ทั้งๆที่ก็มีแฟนๆของศิลปินอื่นนอกจากLeadแท้ แต่ในสถานที่เล่นอีเวนท์นั้นก็เสียงดังกึกก้อง・・・ ชินยะ ภาพในตอนนั้นก็จะไม่ลืมไปตลอดชีวิตเลยนะ・・・ ตอนนั้นดีใจมากๆ ที่มีคนที่มีความคิดแบบเดียวกันมีมากถึงขนาดนั้น แล้วก็ตัดสินใจว่าทั้งหมดของตัวเองนั้นคือLead เคตะ ผมนั้นก็ตดใจกับเสียงร้องอื้ออึงนั่นมาก แล้วก็รู้สึกประทับใจมากสุดๆ ในตอนขบทั้งๆที่ก็ต้องเป็นตอนที่ทุกๆคนต้องร้องเพลงด้วยกันแท้ๆ ฮิโระซัง ก็เอาแต่มาพูดด้วยจลอดเลยว่า 「สุดยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ!」(หัวเราะ) ฮิโรกิ ทั้งๆที่เคตะก็พูดตอบมาว่า 「เดี๋ยวเอาไว้คุยทีหลัง」 แต่ก็ได้เอาแต่พูดไปแบบนั้นครับ(หัวเราะ) เคตะ แล้วตอนในช่วงเวลานั้นก็รู้สึกได้ว่าเครื่องร้อนมาก เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีได้เลยมั้งที่ยืนอยู่บนเวทีแล้วรู้สึกภูมิใจเหลือเกิน แล้วก็ทำให้รู้สึกจากเบื้องลึกของจิตใจเลยว่า อยากที่จะยืนต่อไปบนเวทีแบบนี้ นอกจากนั้นแล้ว・・・ ฮิโรกิ นอกากนั้นแล้ว? เคตะ ก็ขอสาบานเลย! ว่าจะไม่ทำให้แฟนๆต้องเสียใจด้วยหารไว้ผมยาวเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว! (ทุกๆคนฮาก๊าก) อากิระ ในคืนนั้นทุกๆคนก็มารวมตัวกัน แล้วผมกับฮิโรกิเอาแต่อ่านคอมเม้นในบล็อกผมกันตลอดเลย (ในตอนนั้นยังไม่เปิดบล๊อกของLead) Leadersจากทั่วทั้งประเทศก็มาคอมเม้นกันด้วยความรู้สึกร้อนแรง เหมิอนกับได้อยู่ที่ตรงนั้นด้วย แล้วก็คุยกันพลางที่นั่งอ่านคอมเม้นด้วยกันว่า จะไม่ต้องทำให้โอกาสที่Leaders ได้ให้พวกเรามาอีกครั้งต้องสูญเปล่าไปอีก ชินยะ เป็นเพราะLeaders ในปีที่9 Leadเองก็ได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกัน
แล้วก็ซิงเกิ้ลที่ออกมานั้นก็ได้เข้าไปติดในชาร์ตท๊อป10 ได้ในรอบห้าปีครึ่ง อากิระ ก่อนอื่นจากอาทิตย์ของการออกของซิงเกิ้ล 「HURRICANE」มีอีเวนท์ที่สับหว่างไปกับทัวร์ ในทุกๆวันของช่วงMCจะต้องพูดประกาศอันดับในชาร์ตรายวัน แล้วก็ได้ร่วมยินดีไปกับLeadersด้วย ที่มาจนถึงตอนนั้นที่ได้แต่คอยปิดตามาตลอดที่จะไม่รับรู้ความจริงแต่นั้นตอนนั้นก็สามารถที่จะรับฟังได้ ฮิโรกิ ซิงเกิ้ลที่ออกในปีนี้เพลง 「Wanna Be With You」ก็ได้มีท่อนที่ร้องไปว่า “ถ้าเป็นโลกที่มีกับเธอแล้วล่ะก็ อะไรก็ไม่กลัว”สภาพจิตใจในตอนนั้นแล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ ที่มีLeadersอยู่ด้วยไม่ว่าจะอะไรก็ไม่กลัว แล้วก็อยากที่จะพยายามไป เคตะ ในเพลง「HURRICANE」 ก็มีเนื้อร้องท่อนที่ว่า “เมื่อใจหลอมรวมเป็นหนึ่งปาฏิหาริย์จะต้องร่ายรำลงมาแน่นอน” แล้วก็ที่สามารถเข้าไปติดในชาร์ตหนึ่งในสิบได้ในรอบห้าปีครึ่งนั้น ก็ได้เป็นการได้ทำให้เนื้อเพลงนั้นเป็นจริงขึ้นมา! อากิระ ไม่ว่าเพลงไหนๆแล้วก็เต็มไปด้วยควาทรงจำเต็มไปหมด แต่ในเพลง 「HURRICANE」แล้วนั้นก็มีความทรงจำอยู่เต็มไปหมดเป็นพิเศษเลยนะ ทุกคน อื้ม ชินยะ พูดถึงเรื่องพละกำลังของฤดูร้อนในปีนั้นแล้วก็ค่อนข้างลำบาก เหนื่อยอยู่เหมือนกัน แล้วLeadersเองก็ยังเอาชีวิตมาคอยตามพวกเราตามอีเวนท์ภายใต้อากาศที่ร้อนแรง แล้วก็เลยไม่อาจะที่จะสามารถพูดบ่นอะไรได้ แล้วสมาชิกในวงเองก็จำกันได้ด้วยว่า ก็มีความภาคภูมิใจกัน ตรงที่ว่าตัวพวกเราเองนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วด้วย เคตะ มีอยู่วันนึงที่อัคคุงร้องไห้ออกมาต่อหน้าLeadersด้วย
เป็นงั้นเหรอ? อากิระ ครับ พอได้นึกถึงการกระทำแล้วก็วิธีการคิดของตัวเองที่เป็นมาจนถึงตอนนั้นแล้วก็รู้สึกอายขึ้นมา แล้วก็รู้สึกเสียใจผิดหวังกับตัวเองที่เป็นแบบนั้น แล้วก็รู้สึกขอโทษเป็นอย่างสูงต่อleadersที่คอยเชียร์ให้กำลังใจตัวเองที่เป็นแบบนั้นมา ทั้งๆที่ก็เป็นระหว่างไลฟ์อยู่แท้ๆ แต่ก็ทนไม่ไหว จนน้ำตาไหลออกมา รู้สึกขอบคุณซาบซึ้งต่อLeadersมากที่มาเปลี่ยนแปลงตัวผมเอง ตั้งแต่นี้ไปเพื่อที่จะปกป้องLeaders ก็จะทิ้งความเป็นตัวชองตัวเองที่มันน่าเบื่อหน่ายไป แล้วก็จะปกป้องLead จนกว่าจะตายไปข้างเลย
การมีอยู่ของLeadersแล้วสำหรับทั้งสี่คนแล้วก็เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากเลยสินะ ชินยะ ใช่แล้วล่ะครับ เมื่อกี๊ฮิโรกิเองก็พูดไปเหมือนกัน ถึงตอนที่พวกเราจะแตกแยกกระจายกันไปเองก็ยังคงรอคอยการกลับมาของพวกเราอยู่ตลอด สำหรับพวกเราแล้วก็ยังจะพูดมาด้วยคำพูดอย่างที่ว่า 「เพราะว่ามีไลฟ์ของLeadอยู่ ก็เลยสามารถพยายามไปได้ในทุกๆวัน 」 ตัวผมเองที่คอยเอาแต่หนีมาตลอดก็ทำให้ได้รู้ตัวขึ้นมาว่า 「เป็นแบบนี้จะต้องไม่ได้แน่」 ทั้งทำให้ได้คิดได้ถึงการมีอยู่ของแฟนๆ แล้วก็การเป็นกกลุ่มเป็นหนึ่งเดียวกันของLead ฮิโรกิ ตั้งแต่ที่พวกเราปรับเปลี่ยนเส้นทางกรเดินไปแล้ว ทุกๆคนนั้นจะสามารถตามพวกเราไปได้จนถึงแค่ไหนนั้น ก็เป็นกังวลมาตลอด แต่ว่าทุกๆคนที่คอยให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็สามารถที่จะพยายามมาได้
เสียงที่ว่านั้นก็เป็นจดหมายที่มาจากแฟนๆเหรอ? อากิระ ก็มีคอมเม้นของในบล็อกด้วยครับ
มีคำพูดแบบไหนที่มาคอยช่วยเป็นแรงหนุนเหรอ? ฮิโรกิ Leadersน่ะ ถึงจะใจดี แล้วก็เข้มงวดด้วยในเวลาเดียวกันนะครับ มีทั้งที่โดนพูดว่า 「ตรงนั้นน่ะมันไม่ดีนะ」 「Leadที่ฉันรับได้น่ะเป็นแบบนี้」 แล้วก็มีด้วยที่คิดได้ว่า “เป็นแบบนี้นี่เอง” อากิระ ช่วงนี้พอกลังจากจบไลฟ์แล้วก็อ่านคอมเม้นในบล็อกเลย แล้วก็สามารถที่จะเอาไปใช้ได้ในไลฟ์ครั้งต่อไปได้ด้วย ฮิโรกิ อื้ม ตอนFC Eventในปี2010 ที่เอาเพลงของเลดี้กาก้ามาใช้ ก็ได้เป็นการได้ให้เห็นการแสดงในแนวใหม่ออกไป การเต้นแบบนั้นแล้วก็คิดว่ามันเท่ดี แล้วก็มีความรู้สึกที่ว่าอยากจะให้ได้เห็นถึงการแสดงในแนวใหม่ แต่ก็ยังมีความเป็นกังวลด้วยว่าจะสามารถรับกันได้มั้ย เพราะงั้นแล้วในระหว่างที่ทำการแสดงอยู่ จากที่นั่งคนดูบรรยากาศก็เป็นแบบนิ่งงันกันไปหมด・・・・・・ พอคิดว่า ยังไงๆแล้วก็คงจะรับกันไม่ได้แล้วก็กลุ้มไป แต่พอได้ไปอ่านคอมเม้นในบล็อก ที่มีเขียนกันเข้ามาว่า 「เท่มากๆ ซะจนไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกไปได้เลย」「อยากที่จะเห็น Leadแบบนี้แหละ」
ในเวลาสิบปีมานี้ ก็ได้มีโอกาสที่ได้ลองมองย้อนไปถึงหลายๆโอกาส ความสัมพันธ์ของทั้งสี่คนในตอนนี้นั้นก็แข็งแกร่งทีสุดเลยล่ะมั้งนะ? ฮิโรกิ ก็เป็นแบบนั้นล่ะครับ ในเรื่องของทางด้านงานเอง ก็รู้กันด้วยว่าก็อยากจะให้ทำแบบนี้ๆนะขึ้นมา ก็รู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์แบบนั้นขึ้นมาเลยครับ อากิระ ถ้าคิดว่า ถ้าความสัมพันธ์มันจะต้องขาดกันขึ้นมาแล้ว ยังไงๆมันก็ขาดกันไปไม่ได้ สิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์แล้วมันไม่ใช่อะไรที่จะตัดกันได้ง่ายๆเลย โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่ได้มีโอกาสให้สมาชอกในวงได้แสดงถึงความรู้สึกในใจออกมา ก็ทำให้คิดได้จริงๆว่ายังไงๆมันก็ตัดกันไม่ขาด
นั่นก็คงจะเป็นความรู้สึกที่ว่า ครั้งนึงเคยได้แยกจากกันไปแล้ว แล้วก็กลับมาแข็งแกร่งขึ้นได้อีกครั้งล่ะมั้งนะ อากิระ ก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ เพราะว่ารู้ถึงความรู้สึกจองตอนที่มองต่าง มุ่งไปในทางที่ต่างกัน ช่วงนี้ทั้งสี่คนก็เลยคุยกันมากเลย
แล้วตอนนั้นจะไปรวมตัวกันที่ไหนเหรอ? อากิระ ก็ที่ห้องของผมกับชินยะครับ
แล้วทำไมถึงเป็นที่นั่นล่ะ? อากิระ นั่นก็แค่ทำแบบนั้นเองครับ
หืม ห้องเหรอ・・・? สกปรกเหรอไงนะ?(หัวเราะ) ฮิโรกิ โอ๊ะ! โดนแฉแล้ว (หัวเราะ) เคตะ ก็แค่ถ้ามากันครบทั้งสี่คนแล้วก็นั่งกันไม่พอแค่นั้นแหละครับ ฮิโรกิ ก็เพราะไม่ค่อยจะมีโต๊ะ ชินยะ ฉันกับอากิระน่ะไม่มีทางใช้ชีวิตแบบนั้นแน่ๆ ถึงจะมีความหมายแบบนั้นก็ตาม แต่ฮิโรกิก็เข้ากับเคตะได้ดีนะ
เคตะคิดเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสี่คนยังไง? เคตะ พูดถึงเรื่องคามสัมพันธ์ก็ไม่ค่อยรู้หรอกครับ แต่ว่าถ้าพูดถึงการมีอยู่ของกันและกันแล้วนั่นคือความสัมพันธ์แล้วล่ะก็คงจะเป็นแบบนั้นล่ะครับ อากิระ หืม? หมายความว่ายังไงน่ะ? ฮิโรกิ ไม่เป็นไรหรอก ค่อยๆพูดออกมาก็ได้นี่?(หัวเราะ) เคตะ เอ่อ คือว่า ที่มีสมาขิกในวงด้วยกันมาถึงสิบปีก็สุดยอดไปเลยมั้ยล่ะครับ แบบถ้าว่าถ้าขาดหายไปซักคนนึงแล้วล่ะก็จะต้องรู้สึกไม่ดีใช่มั้ยล่ะ ถ้ามีกันแค่สามคนก็จะมีความรู้สึกแบบว่ามันมีอะไรขาดหายไป การมีอยู่กันสี่คนนี่แหละที่เป็นธรรมดาและทำให้รู้สึกสงบ สบายใจ ฮิโรกิ แบบว่าตรงนั้นเองก็รู้สึกได้เหมือนกันเลย เป็นความรู้สึกแบบตอนที่ไปออกงานเดี่ยวแล้วก็กลับมา แบบว่า อา ตรงนี่แหละคือที่ของฉัน
ตอนนี้ก็ซี้กันสุดๆเลยสินะ เคตะ ตอนวันหยุดเอง ก็จะคิดว่า “ตอนนี้จะทำอะไรอยู่นะ” อากิระ ก็คิดเหมือนกัน(หัวเราะ) ฮิโรกิ พอไปอ่านในบล็อกก็จะแบบว่า “หืม ไปซื้อของสินะเนี่ย” (หัวเราะ) เคตะ แล้วก็อย่างชินยะก็จะมาถามว่า 「วันนี้จะไปไหนล่ะ?」 ชินยะ ก็แบบว่ามันรู้สึกอยากรู้นี่(หัวเราะ) แต่แค่ไม่ใช่แค่ว่าจะไปที่ไหน ไปซ้อมหรืออะไร หรือไปได้รับแรงกระตุ้นอะไรมาก็ยากจะถามให้รู้ไม่ใช่เหรอ อากิระ ก็เพราะว่าในหนึ่งปี ราวๆ 330วันก็จะกินข้าวด้วยกัน นานๆมีเวลาที่ต้องห่างๆกันไปบ้างมันก็จำเป็นนะ・・・(หัวเราะ)
งั้นเหรอๆ ก็ไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดานะ ก็มีความสัมพันธ์แบบที่ต้องแข่งรับขับสู้กันมาตลอดด้วย แล้วก็อาจจะทำให้เกิดความสัมพันธ์ขึ้นมาก็เป็นได้ ฮิโรกิ เข้ารับสู่ปีที่สิบเองก็ยังคงมีกำแพงที่อยากจะพังทลายออกไป ในตัวของผมเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ๆหรือเรื่องเล็กๆเองก็ตามก็อยากที่จะข้ามผ่านไปให้ได้ ตั้งแต่นี้ไปจะเป็นยังไงนั้นมันก็ยังไม่รู้แต่ว่า มันไม่ได้มีแค่ตัวผม ยังมีทุกๆคนอยู่ ยังมีLeadersอยู่ ยังมีสต๊าฟอยู่ เพราะงั้นแล้วนับตั้งแต่นี้ไปจะก้าวข้ามผ่านอะไรยังไงก็มีความมั่นใจแล้ว
ก้าวรับเข้าสู่ปีที่สิบนี้Leadเองก็อยากจะเดินหน้าต่อไปยังไง? ฮิโรกิ ที่มาจนถึงตอนนี้ก็ได้ให้ความสำคัญกับทางเดิน แต่ว่าในการแสดงของในตอนนี้เองก็สามารถที่จะตัดสินได้ตั้งแต่เพลงเลย ช่วงนี้ก็ได้เอาอโครแบติคได้เข้ามาใช้จนเป็นจุดเด่นเลย แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้น ก็อยากจะค้นหาในสิ่งที่จะสามารถเชื่อมโยงพวกเราแล้วก็Leaders ให้ได้ลึกซึ้งไปกว่านี้อีก อากิระ ก็รู้สึกโลภแล้วก็ต้องการอะไรๆมากมาย อย่างอยากจะเต้นให้ได้เก่งขึ้นมากกว่านี้มั่งล่ะ อยากจะเรียนรู้ท่าเทคนิคของอโครแบติคมั่งล่ะ แล้วก็อย่างที่อยากจะร้องเพลงให้ได้เก่งขึ้นไปมากกว่านี้มั่งล่ะ เรื่องที่ทุกข์ทรมานเองก็มีเยอะอยู่เหมือนกันแต่ว่า นั่นก็เป็นช่วงที่ทำให้ต้องหยุดยืนอยู่เฉยๆ เพราะงั้นแล้วเพื่อที่พวกเราจะเจริญเติบโตขึ้นไปแล้วนั้น ก็จะให้ความสำคัญไปกับในทุกๆวัน
ที่ได้ผ่านมาสิบปีแล้ว มีตรงจุดไหนที่อยากจะเจริญเติบโตขึ้นไปอีกมั้ย? ฮิโรกิ ยังไงแล้ว มันก็คงจะเป็นความรับผิดชอบล่ะมั้ง พวกเราLeadเองตอนที่มีทางเดินต่างกันไปแล้วก็ที่ต้องมาคอบแก้ตรงนั้นกัน ชินยะก็แบบว่าเป็นคนที่มาเตือนสติแล้วรวมทุกๆคนกลับมา ก็จริงที่ว่าหัวหน้าวงนั้นก็คือตัวผมแต่ว่า ก็เป็นความรู้สึกที่ว่าทำกันอยู่สองคนนะ ชินยะ ก็คงจะเป็นที่ว่าทั้งสองคนก็คอยคุยกันอยู่ตลอดล่ะมั้ง ตัวฉันเองทั้งๆที่ก็มีฮิโรกิที่เป็นหัวหน้าวงแต่ก็ได้ทำการอะไรที่กระทำลงไปเองแล้วก็รวมทุกๆคนกลับมานะ แล้วฉันเองก็เป็นคนที่รู้สึกแล้วก็นึกถึงภาพของสิ่งที่ไม่อาจจะมีใครได้นึกถึงเอาไว้แล้วก็จัดการแก้ไขมัน พูดแบบนี้อาจจะดูยุ่งไม่เข้าเรื่องก็เป็นได้แต่ว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะคอยเสริมให้กับทุกๆคนได้ก็คงจะดี ฮิโรกิ ของอากิระเองก็เป็นด้านเสียง ที่เวลาพูดอะไรไปแล้วก็จะแสดงออกมาให้ได้เห็นเลย ของเคตะเองก็เป็นด้านของความเห็น แต่ว่าตัวเองนั้นก็จะเป็นคนประเภทคิดในเรื่องต่างๆนาๆไป นั้นก็รู้ตัวอยู่ ก็คิดเหมือนกันว่า ถ้าเป็นแบบนี้แล้วจะดีมั้ยนะ พวกเราตอนที่เครียดกันมากๆ ก็มีตอนที่คำพูดของเคตะเองก็ได้เป็นสิ่งที่ได้มาเปิดทางให้พวกเราเหมือนกันนะ อากิระ ก็มีเหมือนกันนะ เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์
ถ้างั้นแล้ว อากิระเองกับเคตะเองก็เป็นคนที่สามารถยอมก้มหัวให้ได้เหมือนกันเหรอ อากิระ เอ่อ ผมนั้นก็เป็นสัตว์เลี้ยงของเคตะมาโดยตลอดแหละครับ(หัวเราะ) เคตะ นี่ไม่ได้เป็นมนุษย์เหรอไง อากิระ ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นแมวนะ แต่ชินยะน่ะนะ เป็นป๊ะป๋า เหมือนที่เขาพูดไปแบบเมื่อกี๊ก็เป็นการมีอยู่ที่สามารถจะพึ่งพิงได้ตลอดเลย ก็โดนสมาชิกในวงพูดด้วยว่าเป็นคนที่เป็นธรรมชาติแต่ว่า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ก็จะจัดการอย่างเอาจริงเอาจัง อย่างตอนที่แย่ๆชินยะเองก็เป็นคนที่รวมทุกๆคนกลับมา ถ้าไม่ได้ชินยะเองก็อาจจะไม่มีLeadในตอนนี้ก็เป็นได้ ฮิโรกิเองก็เป็นคนที่คิดถึงLeadมากที่สุด ถ้าเป็นคนในครอบครัวก็คงจะเป็นเหมือนแม่ ส่วนในอีกด้านนึงก็มีส่วนที่เป็นเหมือนพี่ชายด้วย
อากิระเองจริงๆแล้วก็มีพี่ชายอยู่ด้วยใช่มั้ย? อากิระ มีครับ มีพี่ชายเอง แล้วก็ในเหล่าบรรดาญาติๆด้วยกันเองก็เป็นคนที่เด็กที่สุด ในค่ายเพลงเองก็เป็นคนที่เด็กที่สุดด้วย เพราะงั้นแล้ว ไม่ว่าจะยังไงแล้วก็มีส่วนของความรู้สึกที่ต้องคอยเหมือนพึ่งคนที่เป็นพี่อยู่ตลอด เพราะตรงนั้นเองฮิโรกิ ก็เหมือนกับพี่ชายจริงๆเลย เคตะ นี่!(หัวเราะ) อากิระ พูดแทรกมาได้ดีมากเลยนะ(หัวเราะ) เคตะน่ะเป็นคนที่มีอารมณ์แปรปรวน เรื่องส่วนตัวเองจะไปทำอะไรยังไงนั้นก็ไม่รู้เลย อยู่ๆก็ออกไปข้างนอก อยู่ๆก็กลับเข้ามา แบบอารมณ์แบบนั้นเลย ก็มีส่วนที่ว่าเป็นยังไงนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันแต่ว่าก็คิดว่านั่นเองก็มีเสน่ห์ของเขาเหมือนกัน แล้วก็เหมือนอย่างที่ฮิโรกิ พูดไป ก็นับถือเขาในส่วนที่เป็นคนที่fine playด้วย
...ต่อพาร์ท4...
Translated by Kagimoto Y.y 8-28/7/2012
Create Date : 28 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 21:44:19 น. |
|
6 comments
|
Counter : 601 Pageviews. |
|
|
สังเกตว่าเคตะจะแอบจิกอัคคุง
แล้วมันยังไงกันที่อัคคุงบอกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของเคตะ ฮ่าๆๆๆ
บรรยายกาศหลังเคตะพูดถึงปี 2011 ค่อยดีขึ้นมาหน่อยก่อนหน้านี้เครียดมากๆๆ
อารมณ์แปรปรวนของเคตะเนี่ยยังไงก็แก้ไขไม่ได้สินะ ลำบากันน่าดู
แต่ก็อย่างอัคคุงว่า...ก็เป็นเสน่ห์ของเคตะเค้า