[PB]Lead 10th Anniversary Book『Document』 part4
...ต่อจากพาร์ท3...
แล้วชินยะล่ะ? ชินยะ ถ้าไม่มีอากิระแล้วล่ะก็ ก็จะไม่มีถึงซาวน์ของเสียงที่อยากจะสื่อออกไปถึงLeadersในตอนนี้ แล้วก็นับถือเข้าในส่วนตรงนั้นเองมากๆด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ได้แค่ผลิตทำซาวน์ออกมา แต่ก็ยังคอบผลิตสร้างไอเดียออกมาต่อกันทีละอย่างๆ คิดว่าทำให้Leadได้แพร่ออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วยครับ
อากิระ ซาวน์ที่พวกเราต้องการนั้น ผมเองก็เป็นคนที่รู้ดีที่สุด แล้วถ้าผมเป็นคนที่ทำเองแล้วล่ะก็คิดว่ามันจะต้องออกมาได้เร็วกว่าแน่ๆ ตัวผมนั้น กับสิ่งที่จะทำอุทิศให้Leadได้ แล้วก็ที่มีความมั่นใจแล้วนั้นมันก็ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้วนอกจากสิ่งนี้
น้องเล็กสุดก็กลายเป็นคนที่พึ่งพาได้แบบนี้สินะ ชินยะ ใช่แล้วล่ะครับ แต่ว่านะ เป็นคนที่สรุปใจความในการพูดได้ไม่เก่งเลย ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าอากิระจะพูดออกมาได้มากกว่านี้ก็คงจะดีเหมือนกัน อย่างตอนที่ประชุมกันแล้วก็จะพูดออกมาไม่ได้มากกว่าผมเสียอีก อากิระ เป็นแบบนั้นสินะ นั่นก็เป็นส่วนของหัวข้อในครั้งนี้ล่ะนะ นอกจากด้านนั้นแล้วก็มักจะโดนพูดว่าเป็นคนที่เสียงดังหนวกหูตลอดล่ะนะ(หัวเราะ) ฮิโรกิ ชินยะเองก็มีเรื่องแบบนั้นเหมือนกันเนอะ ชินยะ ก็เป็นรู้สึกว่าเป็นคนที่มองในเรื่องรายละเอียดยิบย่อย หยุมหยิมอยู่เหมือนกัน แต่ฮิโรกิเองก็เป็นคนที่มองภาพกว้างๆมองในภาพรวมๆ เคตะเองก็เป็นคนที่รู้สึกว่ามีช่องว่างระหว่างกันเยอะเกินคาด ก็เพราะว่าแบบรู้สึกว่า อย่างคำพูดแบบนั้นทำไมถึงได้ไปรู้จักมานะ? ฮิโรกิ มันก็แน่นอนตรงที่ว่า ก็อยู่ดีๆโดนพูดมาอย่าง 「เป็นการใช้ที่เกินงบประมาณ」นี่ก็ตกใจไปเลย(หัวเราะ)
ที่เป็นแบบนั้นเพราะทำไมกันนะ? เคตะ ก็จากหนังสือการ์ตูนครับ
เอ๊ะ หนังสือการ์ตูนเหรอ? เคตะ ก็ค่อนข้างที่จะอ่านเยอะอยู่เลยล่ะครับ อาจจะเป็นพวกที่ถ้าไม่มีตัวหนังสือแล้วก็อาจจะอยู่ไม่ได้เลยก็ได้มั้ง ฮิโรกิ ก็พูดมาแบบเท่อยู่เหมือนกันหรอกแต่ว่า ที่ว่าหนังสือการ์ตูน・・・ทั้งหมดนั่นมันเป็นของผมครับ ยิ่งไปกว่านั้นมีถือเข้าไปในห้องอาบน้ำเอาไปอ่านพลางตอนที่แช่น้ำอาบด้วย
ที่เอาไปอ่านระหว่างแช่น้ำไปด้วยมันไม่เวียนหัวเหรอ เคตะ ตรงนั้นล่ะครับที่ทำให้มีสมาธิได้มากที่สุด
นั่นก็เป็นอีกด้านนึงของเคตะที่นับถือกันเหรอ? ชินยะ ครับ จริงๆแล้วสิ่งที่เคตะพูด บางครั้งเองก็มีจดโน้ตไปด้วยเหมือนกันนะ ฮิโรกิ พูดจริง?(หัวเราะ) อากิระ ไม่เห็นเคยรู้เลย จะฮาไปแล้ว
เคตะที่เป็นแบบนั้น แล้วกับสิ่งที่นับถือของทุกๆคนในวงคิออะไรเหรอ? เคตะ อากิระน่ะนะก็เป็นคนที่คิดว่ามีจิตใจที่แข็งแรง อย่างตอนที่ใจสลายไปหรืออะไรแบบนั้นก็จะสามารถกลับขึ้นมาได้อีกครั้งนึง พลังในตอนนั้นน่ะสุดยอดเลย อากิระ ก็ถ้าเอาแต่เครียด เซ็งอยู่ ก็จะโดนคนที่อยู่รอบๆตัวเอาใจใส่เสียสิ ไม่ว่ายังไงถ้ายังจะเซ็งแบบนั้นแล้ว ก็จะทำให้สามารถกลับมายืนให้ได้ใหม่ให้ได้เร็วที่สุดนะ เคตะ ชินยะเองไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามก็จะรับได้เสมอหรือไร ก็เป็นแบบที่สามารถเข้าใจยอมรับได้ อายุก็ถึงจะห่างกันแค่ปีเดียว แต่ก็เหมือนพ่อจริงๆ ฮิโรกิเองที่มาจนถึงตอนนี้ก็มีช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ดี มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายเหมือนกันแต่ว่า ตั้งแต่ที่เดบิวมา ก็เป็นคนที่คิดว่าคลื่นจูนเข้ากันได้มากที่สุด ฮิโรกิ ตรงนั้นเองก็เข้าใจอยู่เหมือนกัน ความคิดเองก็ต่างกันโดยสิ้นเชิงเหมือนกัน แต่ว่าทางด้านค่านิยมนั้นก็คล้ายกันมากๆเลย เคตะ ที่เกิดเรื่องต่างๆมากมายจนถึงได้มีตอนนี้ แต่ว่าตั้งแต่นี้ไปก็คิดว่า เรื่องคลื่นนั้นเองก็จะเข้ากันได้มากขึ้น อากิระ พูดถึงตอนนี้ พอมาลองดูย้อนกลับไปแล้ว ก็เป็นการแกล้งมีความคิดถึงซึ่งกันและกันนะ(หัวเราะ)
ทั้งสี่คนที่เป็นแบบนั้นแล้ว ก็อยากจะให้พูดถึงเป้าหมายที่จะมุ่งไปสู่อนาคตนั้นมีมั้ย? ฮิโรกิ ตอนสุดท้ายที่ได้ถ่ายทำหนังสือเล่มนี้ ก็ได้มีตรงที่ให้เขียนข้อความลงบนข้อมือหัวข้อที่ว่า 「สู่ตัวเองในหลังจากนี้อีกสิบปี」 ผมเองก็ได้เขียนถามตัวเองไปว่า 「ได้เป็นตัวเองที่อยากเป็นหรือยัง?」 ก็รู้อยู่แล้วล่ะครับ ว่าก็ยังไม่ได้เป็นตัวเองที่อยากเป็นหรอก ทำไมแล้วนั้น ก็คือว่า ตอนที่ตัวเองได้ทำให้เป้าหมายนึงให้สำเร็จขึ้นมาแล้ว ในอีกไม่นานต่อจากนั้นก็จะมีเป้าหมายใหม่เกิดขึ้นมาอีก แล้วก็ถ้าสามารถที่จะไล่มันได้แล้วล่ะก็ต้องลำบากเป็นแน่ ตั้งแต่นี้ไปหลังจากนี้สิบปี ก็คงจะเป็นผู้ชายแบบนี้ได้ล่ะมั้งนะ ก็มีที่คิดว่าคงจะเป็นแบบนั้นอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะกระโดดเดินหน้าไปให้ได้ครับ
ผู้ชายแบบไหนนี่มันยังไงกันนะ อย่างเป็นคนที่ใจกว้างเหรอไง? ฮิโรกิ ถ้าจะพูดแบบรูปธรรมก็คงจะไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ในระหว่างที่เป็นกังวลคิดมากไปนั้นก็ออกเดินไปข้างหน้า พลางที่รู้สึกรับรู้ถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆ ก็เติบโตไปด้วย คิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็คงจะดีครับ
เอาล่ะ แล้วเคตะล่ะ เคตะ ผมเองก็เขียนไปว่า 「ยังอยากที่จะเป็นประกายอยู่บนเวที」ครับ ถ้าหลังจากนี้ไปอีกสิบปียังได้เต้นอยู่บนเวทีอยู่ ตรงนั้นแล้วก็คิดว่าคงจะเป็นเพราะทุกๆคน ความรู้สึกขอบคุณทั้งหมดนั้นแล้วยังไงก็จะไม่ลืมไปได้เลย แล้วก็จะยังรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณต่อไป แล้วก็คิดว่าอยากที่จะเต้นต่อไปให้ได้ตลอดไปครับ
ชินยะคุง ชินยะ 「สามารถสื่อความเป็นตัวเองออกมาได้ดีแล้วหรือยัง?」ก็เป็นคนที่ประเภทที่ว่าถ้าจะสามารถที่จะสื่ออะไรออกมาได้แล้วจะต้องใช้เวลาครับ ทั้งที่คิดว่าระหว่างทำอยู่กลางทางนั้น อาจจะต่างออกไปก็ตาม แต่ยังไงซะ ก็มุ่งต่อออกไปแค่นั้นก็ดีแล้วแท้ๆ แต่ว่า ถ้าไม่ไปจัดการแก้ตั้งแต่แรกแล้วก็จำทำไม่สำเร็จ เป็นคนที่ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ทั้งเรื่องความคิดการตัดสินใจ แล้วก็อยากได้พลังที่สามารถสื่อแสดงออกมาได้ในชั่วพริบตาครับ
แล้วเพื่อที่จะทำให้ได้มาแล้วล่ะก็? ชินยะ รู้ถึงคำพูด ฮิโรกิ อย่าบอกนะว่าก็จะเอาไปเชื่อมโยงกันด้วย(หัวเราะ) ชินยะ (หัวเราะ) ก็คิดว่าการที่จะดูดเอาซึบซับเรื่องต่างๆเข้าไปนั้นมันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ การสัมผัสติดต่อกับผู้คน รู้สึกถึงในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง แล้วก็อยากที่จะขยายในส่วนที่ตัวเองนั้นไม่มี อากิระ ของผมก็ 「มีชีวิตอยู่ไปให้ภูมิใจให้ได้มากกว่าตอนนี้」ครับ มาจนถึงตอนนี้สิบปี ก็ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนต่างๆมากมาย เพราะงั้นแล้วตั้งแต่นี้ต่อไป ก็อยากจะใช้ชีวิตให้เต็มที่ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเป็นที่ขายหน้าได้ ตัวผมนั้นก็มีความคิดที่เป็นเด็กอยู่เยอะอยู่ ก็คิดที่จะอยากเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถที่จะใช้ใจคิดได้ครับ
ถ้างั้นก็สุดท้ายนี้ ช่วยประกาศถึงเป้าหมายของLeadหน่อย ฮิโรกิ ที่ได้ทำไลฟ์ที่ระลึกครบรอบสิบปีนี้ ก็ได้มีโอกาสได้นึกย้อนดูอะไรหลายๆอย่าง ในตอนนั้นเอง แทนที่จะเป็นการวาดภาพไปสู่อนาคต แต่ก็เป็นการที่ได้รู้สึกถึงความสำคัญของพลังที่จะใช้ชีวิตอยู่ไปในตอนนี้ จากรอยเท้าการเดินมาของอดีตที่ผ่านมา ก็ได้สร้างปัจจุบัน แล้วนั้นก็จะผสานเชื่อมไปสู่อนาคตอย่างเป็นธรรมชาติ คิดว่านั่นเองก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วครับ อากิระ Leadersกับพวกเราทั้งสี่คน เพื่อที่จะให้กลายเป็นฤดูร้อนที่จะเป็นหน้าจารึกและเป็นความทรงจำได้แล้ว ทุกๆคนก็มาสนุกไปกับฤดูร้อน ปี2012ไปอย่างสุดพลังกันเถอะ!
...ต่อพาร์ท5...
Translated by Kagimoto Y.y 8-28/7/2012
Create Date : 28 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 21:44:50 น. |
|
6 comments
|
Counter : 592 Pageviews. |
|
|
แต่พาร์ทนี้ฮาเงิบสุดตอนเคตะกับการ์ตูน ฮ่าๆๆๆ แล้วก็ชินยะที่จดคำพูดของเคตะไว้บางครั้ง ฮาเกินไปแล้วจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณพี่ย้งมากค่ะ XD