แก่นแท้ของพุทธศาสนา
 
 ##แก่นแท้ของพุทธศาสนา##
 
'พุทธศาสนา' สอนอะไร? และ ชาวพุทธทำอะไรกัน โดย 'ประภาส ชลศรานนท์' อธิบายครบถ้วนกระบวนความ สั้นๆ กะทัดรัด ชัดเจน ดีมาก
        
เคยมีครูสอนภาษาชาวฝรั่งท่านหนึ่ง ถามว่า : "พุทธศาสนาสอนอะไร? และชาวพุทธทำอะไรกันบ้าง?"
        
ผมบอกว่า : "ศาสนาพุทธนั้นสอนว่า ชีวิตนี้เป็นทุกข์"
 
ฝรั่งท่านนั้นก็งงว่า : "พุทธสอนอย่างนี้จริงๆ หรือ"
        
ผมจึงบอกว่า : "จริง! คำแรกของความจริง 4 ประการแห่งชีวิตคือ คำว่า 'ทุกข์' เกิดก็ทุกข์ แก่ก็ทุกข์ เจ็บก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์
แล้วศาสนาพุทธก็ให้หา เหตุแห่งทุกข์ 'สมุทัย'
หาจุดหมายหนทางที่ ดับทุกข์ได้ นั่นคือ 'นิโรธ'
แล้วก็สอน 'มรรค' คือ สอนให้ปฏิบัติในหนทางนั้น
          
ศาสนาพุทธสอนอีกว่า "ทุกข์ทั้งหมดล้วนมาจาก 'กิเลส' 
กิเลสนั้นมี 3 ชนิด กิเลสของมนุษย์ล้วนอยู่ใน 3 ชนิดนี้ คือ 
ความอยากได้ (โลภะ) 
ความไม่อยากได้ (โทสะ) 
และความหลง ไม่รู้จริง ไม่รู้เนื้อรู้ตัว (โมหะ)
             
ในทางศาสนาพุทธนั้น เรามีเครื่องมือที่ทรงพลานุภาพมาก เอาไว้ใช้สู้กับกิเลส 3 อย่าง คือ “ทาน ศีล ภาวนา”
'ทาน' ทำหน้าที่ให้กิเลส จางลงบ้าง 
'ศีล' เป็นปราการกั้นกิเลสไม่ให้เข้ามาถูกเรา
'ภาวนา' นั้น เป็นอาวุธสำคัญ ที่จะใช้ตัดรากถอนโคนกิเลสได้
          
ชาวพุทธย่อมรู้ดีว่า ลำพัง 2 อาวุธ แค่ 'ทาน' กับ 'ศีล' นั้น ยังไม่ทำให้กิเลสสิ้นไป ถึงจะทำให้มันเจือจางลง หรือกั้นมันไว้แค่ไหน แต่มันก็ยังคงอยู่ และเมื่อใดก็ตามที่ 'ศีล' ของเราอ่อนแรงลง 'กิเลส' ก็จะจู่โจมเข้าสู่เราทันที
           
การ 'ภาวนา' การทำสมาธิ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ใช้ต่อสู้กับ 'กิเลส' อย่างแท้จริง โดยอาศัยกำลังเสริมจากอาวุธ 2 อย่างแรก ทั้ง 'ทานและศีล'
            
การ 'ภาวนา' ในพุทธศาสนามี 2 วิถี คือ 'สมถะสมาธิ' และ 'วิปัสนาสมาธิ'
วิถี 'สมถะสมาธิ' คือ ทำให้จิตสงบ ทำให้จิตใจมีกำลัง
วิถี 'วิปัสนาสมาธิ' คือ ทำให้เกิดปัญญา ให้รู้ถึง 'ไตรลักษณ์' ของจักรวาลทั้งหมด เมื่อนั้นตัวตนจึงมลายไป 
และเมื่อ 'ตัวตน' มลายไป 'กิเลส' จึงมลายไปด้วย
             
'สมถะสมาธิ' นั้น ก่อนมีศาสนาพุทธ ก็มีแล้วในศาสนาอื่น ก่อนที่ 'พระพุทธศาสนา' จะถือกำเนิด เหล่าพราหมณ์ทั้งหลายก็ทำ 'สมถะสมาธิ' กัน 
 
วิชาสมถะสมาธินี้ 'เจ้าชายสิทธัตถะ' ได้ร่ำเรียนจาก 'อาฬารดาบส' และ 'อุทกดาบส' แล้วพระองค์ก็พบว่า "แม้จะเข้า 'ฌาน' ไปลึกเพียงใด เมื่อออกจาก 'ฌาน' ก็ยังมี 'ทุกข์' อยู่ พระองค์จึงออกศึกษาด้วยตัวเองต่อไป 
 
สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบไปไกลกว่านั้น คือ “การทำ 'วิปัสนาสมาธิ' จนเกิดเป็น 'ตัวผู้รู้' ขึ้น เพื่อรู้แจ้งในความรู้สูงสุดของชีวิตและสรรพสิ่งอย่างแท้จริง นั่นคือ ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยงแท้"
           
ทุกสรรพสิ่งอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ 
ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่มีสิ่งใดเป็นของเรา 
จึงควบคุมไม่ได้ เป็น 'อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา' ที่เรียกว่า 'ไตรลักษณ์' นั่นเอง
     
ผู้เขียน เขียนดี จน 'ท่านคมสรณ์' อยากให้ส่งต่อดังนี้
1. ในแต่ละปี จงทำชีวิตให้ 'ดีขึ้น' เพราะในแต่ละวัน ชีวิตกำลัง 'สั้นลง'
2. การ 'อยู่กับปัจจุบัน' ไม่ใช่การ 'หยุดทำ' ในเรื่องสำคัญ
แต่มัน คือ การ 'หยุดทุกข์' ไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ
3. อารมณ์ 'ลบ' ทุกชนิด จะทำร้ายเรา ก่อนที่จะทำร้ายคนอื่นเสมอ...
ส่วนอารมณ์ 'บวก' ทุกชนิด จะให้พรเรา ก่อนที่จะให้พรคนอื่นเสมอ เช่นกัน...
4. วิจารณ์คนอื่นทุกวัน... ใจต่ำลงทุกวัน
วิจัยตัวเองทุกวัน... ใจสูงขึ้นทุกวัน
5. ถ้าไม่มีคนมาทำให้คุณ 'โกรธ' 
คุณจะไม่รู้เลยว่า ระดับจิตคุณอยู่ตรงไหน
ถ้าไม่มีใครมาทำให้คุณ 'ทุกข์ใจ' 
คุณจะไม่รู้เลยว่า ตัวเองยังมีอะไรต้องพัฒนา
6. ไม่ว่า 'ภายนอก' เราจะอยู่กับคนมากแค่ไหน แต่ 'ภายใน' เรายังอยู่ตัวคนเดียวเสมอ
จงหาวิธี 'รักตัวเอง' ให้เจอ เพราะ ไม่มีใครในโลกนี้ ที่จะอยู่กับเธอ สม่ำเสมอเท่ากับ 'ตัวเธอเอง'
7. การฝึกจิต และพัฒนาตัวเอง อาจไม่ทำให้เรา 'พ้นทุกข์ตลอดกาล' แต่มันทำให้เรา 'เป็นทุกข์นานน้อยลง'
8. การ 'แก้กรรม' ที่ดีที่สุด คือ การแก้ไข 'ความคิด' 'คำพูด' และ 'การกระทำ' ของตัวเอง
9. ความดีเล็กๆ ที่ทำไปนานๆ สุดท้ายอาจสร้าง 'ปาฏิหาริย์' ให้ชีวิต
10. 'ไป' ได้เร็วแค่ไหน ก็ 'ถึง' เร็วเท่านั้น
'ปล่อย' ได้เร็วแค่ไหน ก็ 'สุข' เร็วเท่านั้น
11. จำไว้ว่า 'ความทุกข์' และ 'ความเจ็บปวด' ทั้งมวล
ไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อมอบ 'คำสาป'
แต่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อมอบ 'คำสอน'
12. ก้าวแรกของการใช้ชีวิตอย่าง 'ผู้ตื่น' คือ การหยุดยุ่งวุ่นวายเรื่อง 'คนอื่น' แล้วหันกลับมาวิเคราะห์ 'ใจตัวเอง'
13. ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิต ไม่ได้เกิดจาก "สิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ" แต่มันเกิดจาก "สิ่งที่คุณคิด ว่า 'คนอื่นคิด' เกี่ยวกับคุณ"
14. ต้องขอบคุณคนที่ทำ 'ไม่ดี' ที่ช่วยเป็นตัวอย่างที่ 'ดี' ว่า "อะไร ไม่ควรทำ"
15. ไม่ว่าจะทุกข์หนักหนาสาหัสสักแค่ไหน ทางออกก็ไม่เคยอยู่ไกลไปกว่า 'ใจ' ของเราเอง
16. เกลียดเขา 'เราทุกข์'
 เมตตาเขา 'เราสุขเอง'
17. คนเราฝึกเดินจนเก่งได้ ฉันใด ก็สามารถฝึกใจ จนเป็นสุขได้ ฉันนั้น
18. 'ความตาย' เป็นเรื่องธรรมดา แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า เป็นเรื่อง 'อัศจรรย์'
19. โปรดสังเกตดูให้ดีว่า "สิ่งที่ทำให้เรา 'ทุกข์' บ่อยที่สุดในแต่ละวัน ไม่ใช่ 'พฤติกรรม' ของคนอื่น แต่คือ 'ความคิด' ของเราเอง"
20. อย่าถือโทษ โกรธคน ไม่คู่ควร
อย่าตีตรวน ตนไว้ กับอดีต
ชะตาเรา อย่าให้ใคร มาเขียนขีด
อย่าเอาคำ ที่เหมือนมีด มากรีดใจ    
    ( แถมให้อีกหนึ่งอัน ! )
21. หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะมี 'เงิน' วันไหนเงินหมด คุณค่าคุณก็หมด 
หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะ 'หน้าตา' ดี วันไหนคุณแก่ลง จนหน้าตาไม่ดี คุณค่าคุณก็หมด 
แต่ตราบใดที่คุณรู้ว่าตัวเองมีค่า เพราะเป็น 'คนดี' ตราบที่คุณมีความดี คุณก็จะ 'มีคุณค่า' ได้ตลอดไป
 
#ท่านคมสรณ์ 
ขออนุโมทนาท่านผู้เขียนบทความ
ฝากส่งต่อๆ รับสิ่งดีๆ ให้กันไป เจริญธรรมนำสุขมาก



Create Date : 16 มิถุนายน 2566
Last Update : 16 มิถุนายน 2566 14:39:35 น.
Counter : 231 Pageviews.

0 comments

comicclubs
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]



Group Blog
All Blog
  •  Bloggang.com