ประถมปลาย - จุดเปลี่ยน
ประถมปลาย หรือ ป.4 ของฉันตอนนั้น มันอยู่ในปี 2531 กำลังอายุสิบขวบพอดี จุดเปลี่ยนแปลงนี้มาจากเพื่อนหญิงคนมุสลิมข้างบ้าน ชื่อด๊ะ เป็นคนพาฉันไปเปิดโลกใหม่

วันหนึ่งด๊ะ หรือสุมาลี กะเพื่อนสนิทของเธอแวะมาชวนเราไปเล่นต่างถิ่น ด๊ะบอกว่าเดี๋ยวพาไปดูเด็กโรงเรียนอื่น ฉันเป็นคนทีออกเที่ยวตั้งแต่เด็กแล้ว เคยกลัวอะไรที่ไหนล่ะ สงขลาก็บ้านเราเอง ก็ตัดสินใจตามไปทันที แบบไม่ต้องคิดยาว

โรงเรียนที่ด๊ะบอก มีลานกว้าง มีเสาธง มีอาคารห้องสมุด มีโรงอาหารเป็นเรื่องเป็นราว ดูใหญ่โตกว่าโรงเรียนส.น.ที่ฉันเรียนอยู่อย่างมากมาย

ในสายตาเด็กอายุแค่สิบขวบ บอกได้คำเดียวว่ามันใหญ่มาก เราแอบไปเดินเล่นบนตัวตึกได้ยินเสียงคนเล่นดนตรีมาเป็นวง ฉันทึ่งมาก เพราะที่โรงเรียนโน้น ไม่เคยมีอะไรแปลกๆ ยังงี้ ดังนั้นเมื่อกลับมา ฉันจึงบอกแม่สั้นๆ ง่ายๆ ว่า ฉันอยากย้ายไปอยู่โรงเรียนเทศบาล

แม่ไม่พูดอะไร คงอึ้งไปพักใหญ่ ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าพ่อกะแม่จะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้เราย้ายโรงเรียน แต่ฉันมั่นใจว่า ปีหน้า ฉันได้ไปเจอเพื่อนใหม่ ที่นั่นแน่นอน

++++++++++++++

ประมาณต้นเดือนพ.ค. แม่ก็จัดการให้น้าเจี๊ยบ เอาเสื้อนักเรียนของน้องๆ ไปปักใหม่ด้วยกันหมด จากด้ายสีแดง เราก็มีชื่อใหม่เป็นสีน้ำเงิน ชื่อโรงเรียน ท.1 เป็นตัวเลขไทยม้วนๆ ดูแล้วสวยงามดี

จริงๆแล้วฉันว่าสิ่งที่มีส่วนทำให้แม่ทำตามใจฉันได้อย่างรวดเร็ว คือคุณครูชั้นป.สามที่โรงเรียนเก่าของฉัน ที่เกือบมีเรื่องกะแม่ แม่ไปโวยวายกับครูใหญ่ที่โรงเรียน เพราะยัยคุณครูทุบหลังฉันดังอึ๊ก หลังจากนั้นฉันปวดหลัง ปวดไหล่ไปหลายวัน แม่บอกว่าดีแล้ว ฉันจะได้มีโลกทัศน์ใหม่ๆ นอกโรงเรียนรั้วแคบๆ นั้นบ้าง

+++++++++++++++

วันแรกที่ไปโรงเรียน ต้องไปแนะนำตัว ฉันจำครูใหญ่ที่โรงเรียนเทศบาล 1 ได้อย่างแม่นยำ ครูใหญ่เป็นผู้ชายมีอายุ ท่าทางใจดี ชื่อคุณครูประสาร มลิวัลย์ ชื่อนี้ฉันไม่มีวันลืม คุณครูมาเรียกให้ครูประจำชั้นพาฉันไปแนะนำตัว ฉันเข้าไปเรียนห้องชั้นป.4 มีคณครูชูศรีเป็นครูประจำชั้น ครูชูศรีเป็นครูผู้หญิงผมดัดหยิกสั้นเป็นลอนๆ ดูท่าทางมีอายุกว่าคุณแม่ฉัน ฉันรู้แต่ว่าถูกชะตากะคุณครูอย่างมากมาย

+++++++++++++++

หลังจากแนะนำตัวว่าชื่อกชกร ชอบธรรม ชื่อเล่นว่าบอลลูน เพื่อนๆ ในห้องก็พากันฮือฮา มาขอจับลูบคลำของใช้ที่ฉันพกไปด้วย ฉันมีกระติกน้ำใหม่สีแดง แบบมีหลอดพลาสติกใสเสียบอยู่ด้วย แล้วก็มีกล่องข้าวห่อ ที่แยกข้าว กะกับไว้คนละทาง เพื่อนๆเห็นเป็นสิ่งน่าทึ่งมาก เด็กผู้หญิงในห้องก็ดีกับฉันทุกคน ตอนเที่ยงๆ หลังจากกินข้าว เราก็ไปนั่งเอาหลังพิงฝาห้อง แล้วก็หัดทำงานฝีมือกันบ้าง บางวันที่อากาศไม่ร้อนมาก เราก็ไปกระโดดยางกัน แม้ว่าฉันจะไม่เคยเล่นกระโดดยางมาก่อน แต่พวกเพื่อนๆ สอนได้อย่างเข้าใจง่ายมาก แป๊บเดียวฉันก็เล่นยางเป็นทุกเหลี่ยม ไม่ว่าจะสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยม (ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เล่นด้วยกัน)

+++++++++++++++

วิชาที่เราเรียนในห้อง ก็มีภาษาไทย คณิตศาตร์ สปช. กพอ. สลน. เหมือนที่เรียนที่โรงเรียนส.น.มาก่อน ฉันชอบวิชาภาษาไทยที่สุด เพราะครูชูศรีเป็นคนสอนเองด้วย ฉันชอบคำศัพท์ที่คุณครูบอกให้เขียน เพราะอันนี้ที่บ้านแม่ก็ชอบให้พวกเราหัดเขียนเหมือนกัน แล้วต้องเขียนให้ถูกด้วย ไม่งั้นจะต้องกลับไปอ่านในพจนานุกรมมาใหม่ คำที่คนอื่นเขียนผิด ฉันมักจะไม่ผิด ครูชูศรีชมว่าฉันลายมือสวย ต้องขอบคุณแม่ล้วนๆ เพราะแม่เป็นคนจับมือฉันเขียน

+++++++++++++++

ชีวิตเด็กๆ ชอบเล่นซุกซนอย่างฉัน มีอะไรใหม่ๆ ให้เรียนรู้มากมายในโรงเรียนนี้เลยล่ะ ต้องติดตามดูแล้วอย่าหัวเราะขำกันเสียก่อนนะ



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 16:41:59 น.
Counter : 539 Pageviews.

3 comments
  
โดย: new pek วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:16:56:02 น.
  
โดย: winzar2 วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:18:32:43 น.
  
เรื่องมันเป็นยังงี้นี่เองเหรอเนี่ย ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟังบ้างเลย
นึกว่าตอนนั้นแม่ส่งเสียเราสามคนไม่ไหว
ก็เลยย้ายโรงเรียน 555
โดย: buaart วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:20:03:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เที่ยวไปสองไพเบี้ย
Location :
สงขลา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



รบกวนอย่าส่งข้อความหลังไมค์ค่ะ ติดต่อที่อีเมล์ตรง smileyinbelgium@hotmail.com นะคะ