เมืองป้อมปราการ Heusden
Heusden เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เดินทางมาถึงได้ หากขึ้นรถบัสที่หน้าสถานีรถไฟ Den Bosch ('s Hertogenbosch) ค่ะ

ภาพจากในทริป มาจากหลายๆครั้งนะคะ อย่าแปลกใจที่สีฟ้ามันต่างกัน

รูปมุมหนึ่งของเมือง ตรงที่เป็นเหลี่ยมกงจักรออกไปพอดี



ฝั่งนี้ของเมือง จอดรถฟรีได้



กังหันตัวแรกที่พบ



บ้านเรือนที่นี่จะสวยน่ารักตรงที่มันเป็นมุมเนี่ยล่ะ



ประตูเมืองอีกมุม



สันฝาย Dijk รอบเมือง ขึ้นไปเดินได้



จะเห็นว่าเมืองจะถูกล้อมอยู่ภายในฝายที่สร้างเป็นรูปดาวนี้ มีประตูเมืองอยู่รอบๆ



แต่ละมุมของฝายมีกังหัน (และปืนใหญ่ระวังรักษาเมือง)



ประตูน้ำสำหรับเรือออกจากท่า มีสะพานยก แบบโบราณ



ท่าเรือ และด้านหลังคือตลาดปลา Vismarkt



บ้านเรือนในเมืองเก่าแบบนี้ จะชิดติดกันเป็นทางยาว แทนกำแพงเมืองอีกชั้น





วิวตามซอกเล็กซอกน้อยระหว่างบ้านเรือน





ฤดูใบไม้ร่วง สวยงามดีจริงๆ



โบสถ์ประจำเมือง



ปราสาทเก่าของเมือง Burcht ที่โดนฟ้าผ่าลงมาในที่เก็บดินปืน มันจึงระเบิดตู้ม เป็นโกโก้ครันช์ เหลือซากมาเป็นลานเด็กเล่นประจำเมือง


แบบจำลองเมือง ชมได้ที่การท่องเที่ยว VVV



วิวนี้ที่เห็นกังหันและประตูท่าเรือ






Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 18:11:39 น.
Counter : 745 Pageviews.

0 comment
Den haag เมืองที่ตั้งของรัฐบาลฮอลแลนด์
อัลบั้มนี้ ยังไม่เสร็จดีนะคะ กำลังทำอยู่

The pier, Scheveningen



Kurhaus, Scheveningen



Vredepaleis ศาลโลก



Noordeind palace ที่ทรงงานของสมเด็จพระราชินี



Binnenhof ทำเนียบรัฐบาล





Create Date : 11 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2554 22:20:20 น.
Counter : 572 Pageviews.

0 comment
Deflt เมืองสีครามต้นกำเนิดของราชวงศ์สีส้ม
ของเก๋ๆ ในเมืองเดลฟท์



Markt, Delft



Souvenirs shop



City Hall



Oostport ประตูเมืองที่ยังเหลืออยู่



บ้านเก่าๆ ใน Delft







Create Date : 11 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2554 21:53:47 น.
Counter : 507 Pageviews.

0 comment
วันแดดใสๆไปดูรถใหม่ที่ Naarden
หลังจากอยากไปมาหลายอาทิตย์ เสาร์นี้ได้ฤกษ์ที่จะไปเมืองป้องปราการ Vesting ที่ชื่อว่า Naarden (นาร์เดิ้น) เสียที

อาทิตย์นี้ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะนอกจากจะขึ้นไปเที่ยวเมืองน่ารักๆนี้แล้ว ก็จะได้ไปดูรถ Corsa สีเขียว คนที่อยากได้ (แต่คงต้องรอสั่งปีหน้า เพราะเฮียโรเชไม่ยอมผ่อนรถ จะฟาดเงินสด แต่รถไม่มี เพราะสีนี้ ที่เข้ามามีคันเดียว คนอื่นก็เอาไปแล้ว ฮ่วย)



ปีหน้าน้องแมลงทับก็จะเป็นของเรา อิอิ ซ้าธุ

อีกอย่างคือ ร้านขายเกมส์ลดราคาอยู่ที่เมืองนี้ ก็จะไปขนหูฟังสำหรับเล่น Xbox มาโดยเฉพาะด้วย สำหรับเพื่อนนักเล่นเกม ลองดูที่เวบไซต์ //www.gamediscounter.com



นาร์เดิ้นเป็นเมืองที่มองจากมุมสูงแล้วเป็นเช่นนี้ รูปแรกจากกุ๊กเกิ้ล



รูปจากโปสการ์ดของ VVV Naarden



จากกำแพงรอบนอก ที่มีคลองน้ำล้อมรอบ





ประตูเมือง Utrechtsepoort



ประตูนี้ให้เข้าเฉพาะจักรยาน





ที่ทำการ VVV ตั้งอยู่ในประตูเมืองเก่านี้ แต่ไม่ค่อยมีสินค้าประจำเมืองมาก มีโปสการ์ดสวยๆ อย่างที่เห็นในรูปข้างบน ให้ซื้อติดมามาเป็นของที่ระลึกพอได้





ทุกวันเสาร์เช้า จะมีตลาดนัด ข้างๆ ริมประตูเมืองด้วย

วิวในเมือง





โบสถ์ประจำเมือง ภายในไม่สวยน่าประทับใจเท่าไหร่



ตาสอดรู้ แอบดูในหลังบ้านเขา





ถนนสายหลัก เรื่องอาหารไม่ต้องห่วงทั้งคาเฟ่ และร้านอาหารเพียบไปหมด



ร้านค้าของที่ระลึกส่วนใหญ่จะเป็นร้านของเก่า



นี่ก็อีก



ซิตี้ฮอลล์





อยู่ด้านข้างของโบสถ์





หน้าบ้านสวยๆ



ออกนอกถนนและตัวบ้านเรือน ไปเดินชมวิวบนเนินดิน กำแพงเมือง



คันดิน สร้างสูงเกือบ 10 เมตร ล้อมทั้งเมืองไว้ภายใน มีช่วงเปิดตรงแต่ละประตูเมือง



คลองขุด





ทางออกสู่แม่น้ำ มีท่าเรือ ซึ่งมีประตูน้ำ สำหรับออกนอกกำแพงเมือง



สำหรับหน้าร้อนจะมีบริการล่องเรือชมรอบกำแพงเมืองด้านนอก



ทางเข้าเมือง มีที่จอดรถบนสันกำแพงเมือง (บริการฟรี ไม่ให้นักท่องเที่ยวเอารถเข้าไปจอดในเมือง เพราะหาที่จอดลำบาก)





สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จะลำบากหน่อย เพราะมีรถบัสแค่สายเดียว 110 ของ Connexxion ให้บริการจากสถานีรถไฟ Weesp วิ่งชั่วโมงละคันค่ะ



Create Date : 06 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2554 15:18:05 น.
Counter : 1115 Pageviews.

0 comment
ทุ่งทิวลิป Bloembollenstreek
ทุ่งในย่านนี้ แต่ละปี จะมีดอกไม้ลายไม่เหมือนกัน เพราะชาวสวนทิวลิปเขาเปลี่ยนสลับพันธุ์กันไปบ้าง ไม่ได้เหมือนเดิมเป๊ะๆทีเดียวทุกปี

ย่านนี้เป็นย่านที่ใหญ่ ไม่แพ้ Annapaulowna เพราะแถว polder ทางเหนือนั้นก็เป็นย่านใหญ่เหมือนกัน รอบนี้จะพาไปดูทุ่งต่างๆ รอบย่าน Bollenstreek ซึ่งได้แก่หมู่บ้าน Katwijk, Noordwijk, Noordwijkerhout, Lisse, Hillegom และ Sassenheim ค่ะ

วิธีการที่สะดวกคือไหนๆ ก็ไปเที่ยว Keukenhof อยู่แล้ว เช่าจักรยานสีส้มที่มีบริการอยู่ มาได้เลย ค่าเช่าคิดต่อวันค่ะ 7.5 ยูโร ขึ้นไป รวมประกันแล้ว



ก่อนจะไปปั่นจักรยาน พกเบอร์โทรศัพท์ของทางร้านไปด้วยนะคะ เผื่อคุณไปตกคลองข้างทาง จักรยานยางแบนหรือโดนรถเฉี่ยวชน จะได้มีคนตามไปช่วยได้

การปั่นจักรยานชมขึ้นอยู่กับแรงขาของคุณ หากไม่ค่อยมีแรง ใช้เส้นทางสั้นที่สุด จะมีระยะประมาณ 5 กิโลเมตร รอบนอกของสวน Keukenhof ค่ะ

วิธีการนะคะ เมื่อคุณได้จักรยานแล้ว ปั่นออกมานอกสวน ออกประตูปั๊บให้เลี้ยวซ้ายค่ะ ไร่ที่อยู่ตรงข้ามกับสวน เคยมีทิวลิปสะพรั่งอย่างนี้ด้วย แต่ในแต่ละปีเขาจะสลับปลูก จึงอาจจะไม่ได้เห็นเหมือนเดิมค่ะ







หากปีที่คุณมา สวนทิวลิปของชาวนาที่อยู่ตรงข้ามกะเคอเคิ่นโฮฟสวยสะพรั่ง แนะนำให้แวะเข้าไป หรือเลี้ยวอ้อมไป จะมีถนนเล็กๆ เรียบริมป่า ปั่นเข้าไปได้ค่ะ จะเห็นวิวแบบนี้ และจะมีบางจุดที่มีทางเข้าไปได้



เมื่อออกมาไปต่อ พอไปถึงวงเวียน เลี้ยวซ้ายได้ ให้ปั่นไปทางซ้ายเรื่อยๆ ฝั่งนี้จะมีทางจักรยานเฉพาะให้ คุณก็ปั่นไปเรื่อยๆเลย

พอมาถึงหัวมุมหนึ่ง บ้านหลังนี้เขาจะมีทุ่งทิวลิปเล็กๆ ปลูกไว้ตัดดอกขาย ไปขอถ่ายรูปได้ค่ะ จะช่วยทิปค่าเขาดูแลต้นทิวลิปก็ตามน้ำใจ ไม่ว่ากัน



บางครั้งคุณมองเห็นทุ่ง แต่เข้าไปไม่ได้ เนื่องจากมีคลองน้ำกั้นอยู่ อยากจะเข้าไป ก็ต้องปั่นอ้อมหาทางเข้ากันหน่อยล่ะค่ะ



บางไร่จำกัดการเข้าชม เพื่อป้องกันทรัพยากรเสียหาย ก็จะมีรั้วมากั้นไว้ หรือมีป้ายเขียนว่า Verboden toegang ก็อย่าพยายามฝ่าฝืนเข้าไปค่ะ อาจถูกแจ้งตำรวจมาจับได้ ไปข้างหน้าดีกว่า มีอีกหลายทุ่งให้ลงไป



เทคนิคการถ่ายทิวลิปให้สวย คือถ่ายจากโคนต้นมันขึ้นไปเห็นฟ้าใสๆ



คุณอาจจะไม่ได้เจอแค่ทิวลิปอย่างเดียว ถ้ามาในช่วงต้นฤดู อาจจะเจอสีม่วงๆ ปนเหลืองและขาว ของต้นครอคัส Crocus เป็นดอกไม้หัวฤดูใบไม้ผลิ

หรือดอกสีเหลือง ขาว ก้านยาวของ Daffodil / Nacissus หรือ ดอกไม้ที่หอมจนปวดกระโหลกไปหมด อย่างไฮยาซินต์ Hyacint ซึ่งจะมีหลายสี ไม่ว่าจะขาว ชมพูอ่อน ชมพูเข้ม แดง ม่วง ส้ม เหลือง น้ำเงิน



รูปแบบนี้ เก๋เป็นพิเศษ หาได้ง่ายดายทั่วไป ทุกๆแปลง มีแน่นอน



เสร็จแล้วปั่นต่อ ไปเรื่อยๆ พอเจอถนน เลี้ยวซ้ายได้ ก็เลี้ยวเข้าไปอีก สองข้างทางตรงนี้จะเป็นทุ่งสลับสี แล้วแต่ว่าไร่ไหนปลูกอะไรไว้บ้าง ตรงไปเรื่อยๆ พอเจอทางแยกอีกครั้งก็เลี้ยวซ้ายอีกค่ะ วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ



รับรองไม่หลงไปไหน วงในสุดนี่้จะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง (รวมเวลาถ่ายรูปแล้ว) ปั่นจริงไม่ถึง 5 กิโลเมตรค่ะ

หลายๆ คนบอกว่า มาไม่ทัน ทิวลิปโรยหมดแล้ว เวลาที่ควรมาชมคือช่วงสงกรานต์ค่ะ ชาวไร่จำเป็นต้องตัดทิวลิปทิ้ง ทำให้คุณอดชม

ทิวลิปนั้นหากรอให้โรยไปเอง ก็จะทำให้หัวและรากต้องทำงานหนักดูดอาหารมาเลี้ยงกระเปาะ(ตรงกลางดอก)ให้เติบโต ดังนั้นชาวไร่จะต้องใช้รถมาตัดดอก โดยไม่ได้แค่ทำให้กลีบร่วงเท่านั้น แต่มีดคมๆ จะตัดดอกออกทั้งหมด เพื่อให้หัวได้เติบโตต่อไปโดยไม่ต้องเอาอาหารไปเลี้ยงดอก

คุณก็จะเห็นชาวนาชาวไร่ กะรถแบบนี้ค่ะ



รูปที่ถ่ายมาได้ก่อนเหลือแต่ตอ เพราะรถอย่างนี้ทำงานไวมาก



บางดอก หนีรอดเครื่องตัดออกมาได้ ชาวนาก็จะให้ลูกหลาน หรือเด็กๆที่มารับจ้างหาเงินพิเศษ เดินเด็ดทิ้งค่ะ ดังนั้นหากคุณเจอดอกทิวลิปบานสดสวยอยู่ในทุ่งที่เพื่อนๆมันไม่เห็นดอกแล้ว อยากจะเด็ดก็ทำได้ค่ะ ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ มันจะหร็อมแหร็มๆ แบบซอยแถวบนๆ ที่เห็นในรูป



สำหรับดอกทิวลิปที่ปลูกไว้ตัดดอกขายนั้น เวลาเก็บจะต้องเก็บขึ้นมาจากดิน ถอนมาทั้งรากทั้งหัว เพื่อให้ดอกยังสดอยู่และจะต้องเอามาตั้งแต่ยังตูมอยู่มาก มาเก็บไว้ในที่ร่มและมืดแบบนี้ค่ะ



เมื่อดึงก้านดอกออกจากกาบไปแล้ว ส่วนหัว และกาบต้นที่ไม่เอา ชาวนาก็จะโยนไปกองรวมกันไว้ ต่อไปก็จะเก็บเฉพาะหัวไว้ปลูกต่อค่ะ



ชาวไร่ทิวลิปที่รวย คือคนที่เลือกปลูกเฉพาะดอกที่สวยเป็นที่ต้องการของตลาด และหายาก เพราะแม้จะขายได้ แต่มีผู้จำหน่ายหลายเจ้า ก็จะทำให้ราคาตก อย่างไร่ที่เห็นของเพื่อนลี่คนนี้ ปลูกเฉพาะสีชมพูพันธุ์ซ้อนนี้เท่านั้น ราคาต่อกำ จึงสูง และแม้จะปลูกไม่เยอะก็ได้เงินคุ้มค่าค่ะ

ก่อนจะเอารถกลับเข้าไปคืน ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานในหมู่บ้านเล็กๆน่ารัก ที่ชื่อ Lisse กันก่อนดีไม๊คะ จากวงเวียนที่เดิมเราเลี้ยวซ้าย ให้ข้ามถนนแล้วตรงเข้าไปเลยค่ะ



เริ่มต้นจากตรงนี้เข้าสู่หมู่บ้าน (ทางด้านล่าง) เคอเคินโฮฟ อยู่ด้านบนของแผนที่



บ้านในหมู่บ้าน มักจะเป็นบ้านเดี่ยว เจ้าของบ้านเป็นผู้สูงอายุซะส่วนใหญ่



ข้างๆ โบสถ์ประจำเมือง



ในหมู่บ้านนี้มีร้านค้าให้ช้อป และคาเฟ่ให้เลือกนั่งพอสมควร ไม่ได้เงียบเหงา แต่คนจะเยอะกว่าในวันที่มีแดดจ้า



ปั่นเที่ยวในเมืองแล้ว ก็กลับเอารถมาคืน และชำระค่าเสียหายกันค่ะ



ตรงวงเวียน ทางขวามือ จะมีรถขายหัวดอกไม้จอดอยู่ทุกปี หากสนใจแวะซื้อไปลองปลูกดูได้ค่ะ แนะนำว่าลิลลี่ปลูกขึ้นนะคะ Gladiolus พันธุ์สีสวยๆ ก็ขึ้นค่ะ ลี่ปลูกที่บ้านทางใต้ ออกดอกสวยงามดี โดยคุณแม่คะ จึงกล้ารับประกัน
+++++++++++++++

สำหรับคนที่มีกำลังขา และเวลา แนะนำรูทสุดสวย ระยะทางทั้งสิ้น 8-10 กิโลเมตรค่ะ โดยเมื่อคุณไปถึงแยกที่ข้างที่จอดรถทัวร์ และทางเข้าหมายเลข 2 ของเคอเคิ่นโฮฟ ให้ปั่นต่อไปทางขวามือค่ะ ไม่ต้องเลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ จะได้เห็นดอกไม้มากขึ้น



ทิวลิปแบบนี้เรียกว่า Franje คือที่ปลายมันจะมีฉีกๆ รุ่งริ่งๆ



เวลาอยู่กันเป็นซอย สวยมากๆ ทิวลิปนั้นมีกลิ่นหอมนะคะ พันธุ์สีที่มีกลิ่นหอม คือ Apricot beauty และอีกหลายพันธุ์ ที่มีสีออกส้มอ่อน



กลิ่นทิวลิปนั้นยากที่เทียบกับน้ำหอมยี่ห้อกลิ่นใดๆ เป็นกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ นุ่มนวล ที่รู้สึกถึงความเป็นผู้ดี เอ น้ำหอมอะไรหนอ

ทิวลิปส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ก้านยาว Triumph



แบบนี้เตี้ยๆ และรูปทรงดอกตูมอยู่ตลอดเวลาเหมือนทิวลิปที่เราเคยวาดตอนเด็กๆ มีปลายเป็นแฉกๆ แบบ Botanic



ลูกหลงจะมีอยู่แทบทุกไร่ล่ะค่ะ



บางไร่ปลูกอยู่สีเดียว แหมไม่ถูกใจวัยรุ่นเลย



หากออกมาเส้นทางนี้โอกาสจะได้เห็นดอกไม้ชนิดอื่นๆ ด้วย และวิวสวยๆ ก็มีมาก ปั่นไปสักพัก คุณจะมาถึงหมู่บ้านที่มีชื่อแปลว่าครึ่งทางแล้ว (ซึ่งก็ครึ่งทางจริงๆ) ยังไม่รวมขากลับอีกหนึ่งเท่าตัว เอิ๊ก



เลยจากตรงนี้ไป คือสถานีรถไฟเก่าประจำเมือง Lisse ปัจจุบันเปิดเป็นคาเฟ่ เวลาปั่นจักรยานข้ามไปก็ระวังรถไฟด้วยค่ะ ถ้าเขาเอาประตูกั้นลง อย่าได้ฝ่าฝืนข้ามไป

เมื่อข้ามมาแล้ว ปั่นไปอีกนิด จะเจอสะพานข้ามน้ำ พอลงจากสะพานนี้แล้วให้เลี้ยวซ้าย ปั่นไปเลียบแม่น้ำนะคะ อย่าไปตามถนนสายใหญ่



สีเหลืองๆ นั้นคือดอกนาซิสซัส



เส้นทางนี้จะสวยมากตรงนี้มีถนนให้ยานพาหนะทั้งห้าชนิด ขนานไปพร้อมกันได้ ก็มีทางจักรยาน ถนนสายริมน้ำ เรือ ทางรถไฟที่ขนานกะแม่น้ำอีกที และเครื่องบิน ที่บินผ่านเหนือหัวเราเป็นระยะ เนื่องจากใกล้สนามบินอีก Amazing จริงๆ



สองข้างทางนี้จะมีกังหัน พอให้ได้ถ่ายรูปด้วย



หน้าตาดอกนาซิสซัสพันธุ์หนึ่ง บางคนเรียกเดฟโฟดิล



ถ้าคุณปั่นจนมาถึงเมืองนี้ได้ ขอซูฮกกำลังขาจริงๆ



หากมาถึงที่นี่แล้ว ไม่แน่ใจว่าจะกลับไหวหรือเปล่า ก็ให้เลือกกลับทางเดิมได้ จะได้ประมาณถูกว่าต้องปั่นอีกกี่กิโลเมตรนะคะ



ระหว่างทางขากลับ คุณจะต้องผ่านแน่ๆ คือ Keukenhof Kasteel วังเดิมของเจ้าของที่ดินที่ปัจจุบันมาสร้างเป็นสวนดอกไม้สวยๆ นี้ ภายในมีปราสาทเก่า แต่ว่าห้ามขับรถ หรือปั่นจักรยานเข้าไปค่ะ ให้ไปหาที่จอด หรือเดินจูงไป



สองข้างทางระหว่างขากลับ ไม่ว่าคุณจะใช้เส้นทางสั้น หรือยาว ก็จะต้องผ่านทางนี้เท่านั้นค่ะ ถ้าไม่เห็นรถตู้นอนจอดกันแบบนี้ ระวังหลง



ปราสาทเคอเคิ่นโฮฟ น้อยคนนักจะรู้จัก





ภายในก็มีการจัดสวนป่า และโรงเรือสัตว์เลี้ยง





เห็นอาคารนี้ทางซ้ายมือปั๊บ อีกอึดใจเดียวถึงที่คืนจักรยานแล้วจ้า



หากสนใจเรื่องดอกไม้หัวพันธุ์ต่างๆ ไว้เรียนรู้ชื่อดอกไม้เหล่านี้กันจากทริปใน Keukenhof นะคะ



Create Date : 30 ตุลาคม 2554
Last Update : 15 ธันวาคม 2554 21:55:00 น.
Counter : 1948 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  

เที่ยวไปสองไพเบี้ย
Location :
สงขลา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



รบกวนอย่าส่งข้อความหลังไมค์ค่ะ ติดต่อที่อีเมล์ตรง smileyinbelgium@hotmail.com นะคะ
All Blog