*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
เป็นความซวยอย่างรุนแรง และเป็นการซวยข้ามปี 2007-2008

ในช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมานี้ ผมได้มาอยู่อาศัยกับเพื่อนที่เมือง Tucson ตั้งอยู่ในรัฐ Arizona ซึ่งเป็นรัฐที่มีพื้นที่ติดกับรัฐอื่น ๆ อีกหลายรัฐ ในส่วนฝั่งตะวันตก มีพื้นที่ติดกับ California และ Nevada ส่วนทางตะวันออกนั้นติดกับรัฐอื่น ๆ อีก 3 รัฐ New Mexico, Utah และ Colorado ซึ่งบริเวณที่ตัดกันทั้งสี่รัฐนี้เอง ได้ยินว่า เป็นจุดที่ไม่มีอะไรเลย แต่นักท่องเที่ยวก็มักจะไปกัน เพื่อให้ได้ชื่อว่า มายังจุดที่มีพื้นที่ของรัฐทั้งสี่รัฐมาบรรจบกัน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ทางตอนใต้ที่ติดกับ Mexico ที่พื้นที่เขตติดต่อเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง และเป็นที่พักตายสำหรับคน Mexican ที่หลบหนีเข้าเมืองมาเสี่ยงโชคทางทะเลแต่โชคไม่ดี ที่ไม่อาจผ่านทะเลทรายอันโหดร้ายมาถึงเมืองศิวิไลซ์ได้




เมือง Tucson เป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจาก Phoenix เมืองหลวงของรัฐนี้ มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 10 และ 19 เป็นเส้นทางสัญจรคมนาคมสำคัญ ลักษณะทั่วไปเป็นเมืองทะเลทราย มีหินอยู่ใต้พื้นดิน อากาศร้อน ฝนตกน้อย รัฐบาลสหรัฐฯ จึงใช้เป็นพื้นที่ในการเก็บรักษาเครื่องบินเก่าปลดระวางแล้ว เพื่อขายต่อยังประเทศพันธมิตรทั้งในลักษณะเป็นเครื่องบินทั้งลำและอะไหล่ ในหน้าร้อนอุณหภูมิจะเกิน ๑๐๐ องศาฟาเรนไฮต์ ในหน้าหนาว อุณหภูมิที่นี่ อุ่นสบาย อุณหภูมิต่ำสุด ก็ไม่ต่ำไปกว่า ๓๐ องศาฟาเรนไฮต์ ทำให้มีประชาชนจำนวนมาก จะหลบหนีหนาวมาพึ่งอุ่นใน Arizona ซึ่งคนเหล่านี้จะถูกเรียกว่า Snowbird เดาว่าคงจะเหมือนกับนกที่อพยพหนีหนาวมาพื้นที่ที่มีอากาศอุ่นสบายกว่า มีอาหารการกินสมบูรณ์กว่า ในหนังสือท่องเที่ยว แนะนำให้ผู้ที่มายังเมือง Tucson ต้องกระทำ 101 อย่าง ในระหว่างที่มาเที่ยวใน Tucson ซึ่ง ผมได้ไปทำบ้างในระหว่างที่อยู่ในเมืองนี้

ผมยังไม่ขอเล่าว่า 101 อย่างที่ว่า มีอะไรบ้าง แต่ขอรวบรัดตัดตอนไปเล่าเรื่องที่ เป็นความซวยอย่างรุนแรง และเป็นการซวยข้ามปี ในระหว่างที่ไปเที่ยว Grand Canyon สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อันเป็นแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาลได้ยุบตัวลงในระยะเวลาแสนยาวนาน เป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำ Colorado ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในหลายมลรัฐใกล้เคียงกับ Arizona นักท่องเที่ยงส่วนใหญ่จะเดินทางโดยเครื่องบินมายังสนามบิน Phoenix แล้วเช่ารถยนต์ขับไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 17 ขึ้นเหนือไปยัง Flagstaff จากนั้น จึงขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 40 ตะวันตก (ซึ่งอดีตเคยเป็นทางเส้นทางหลวงประวัติศาสตร์เส้นแรกของสหรัฐ คือ Route 66 ที่ตัดพาดผ่านชายฝั่งตะวันตกยันชายฝั่งตะวันออก) แล้วขับรถไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 64 เพื่อผ่านด่านเก็บเงินค่าเข้าชมทาง South Rim ที่เรียกเก็บค่าผ่านทางคนละ 25 เหรียญ สามารถท่องเที่ยวใน Grand Canyon ได้เป็นเวลา 7 วัน

การหาที่พักใน Grand Canyon โดยตรงเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับคนที่มีงบประมาณท่องเที่ยวไม่มากนัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะเช่าโรงแรมที่เมือง Flagstaff หรือ ที่เมือง Williams แล้วจึงขับรถเข้าไปชมความงามใน Grand Canyon โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น หรือ พระอาทิตย์ตก ซึ่งอยู่ห่างจาก Grand Canyon เพียงชั่วโมงเศษ ๆ เท่านั้น ราคาค่าอาหารการกินใน Grand Canyon ก็แพงจนเกินความจำเป็นไปมาก ยกตัวอย่าง เช่น น้ำอัดลมแก้วละ ประมาณ 2 เหรียญ แซนวิซธรรมดา ชิ้นละ 6 เหรียญ เป็นต้น ค่าโรงแรมที่ต่ำสุดในช่วงหน้าหนาว มีราคาประมาณ 100 เหรียญต่อคืน เป็นต้น

ข้อมูลที่ได้มา ก็เนื่องมาจากการที่ผมได้ไป Grand Canyon แล้วมีเหตุที่ทำให้ต้องค้างที่นั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ที่ว่าเป็นความซวยข้ามปี จากปีเก่า 2007 ข้ามต่อเนื่องมายังปี 2008 ก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความที่ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอ ทำให้กุญแจรถเช่าหายไประหว่างการเดินท่องเที่ยวชมความสวยงามของ Grand Canyon ตาม Trail ที่ทาง National Park จัดไว้นักท่องเที่ยว หลังจากรู้ตัวว่า กุญแจไม่อยู่ในกระเป๋าตามที่มันเคยอยู่แล้ว ผมก็เดินงุ่นง่าน ใช้เวลาหามันไปตามเส้นทางที่เดินไปอยู่เยี่ยงนั้นหลายชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่า ไม่เจอ โทรศัพท์ติดต่อ Lost & Found ซึ่งเป็นแผนกบริการรับฝากของตกหล่นหาย ของ National Park ก็ปรากฏว่า “ปิดทำการ เนื่องจากเป็นช่วงปีใหม่” โทรศัพท์ไปตามแผนก Lost & Found ของโรงแรมต่าง ๆ ใน Grand Canyon ก็ไม่พบว่ามีกุญแจไปถูกฝากเอาไว้แต่ประการใด โทรศัพท์ขอคำแนะนำจากบริษัทรถเช่า ก็ได้รับคำตอบแรกว่า “อย่าถามฉัน ฉันไม่มีความชำนาญเรื่องกุญแจ” ไม่ทราบว่า มันตอบชั่ว ๆ มาเช่นนั้น ได้อย่างไร ต่อมาได้รับคำแนะนำว่า ควรจะขอความช่วยเหลือจาก Emergency Assistance ของบริษัทรถเช่าที่แยกต่างหากจากบริการรถเช่า คราวนี้ได้รับคำแนะนำว่า ให้รออยู่ที่ Grand Canyon เดี๋ยวบริษัท AAA จะมาบริการถึงที่ เปิดกุญแจ และเอากุญแจดอกใหม่ให้ เพื่อโทรศัพท์ไปตามคำแนะนำถึง AAA ปรากฏว่า ไม่ทำงานในยามค่ำคืน จึงต้องนอนที่นี่ 1 คืน

พอรุ่งเช้า ผมรีบโทรศัพท์ไปใหม่ คุยกันใหม่ เหมือนเดิมทุกประการ คราวนี้ AAA ถามรายละเอียดอีก ก็ตอบเหมือนเดิม กุญแจหาย แต่ตอนแรกคือเข้าใจว่า ผมล๊อคประตูรถและกุญแจอยู่ในรถ จึงจะมาเปิดให้ แต่ผมบอกว่า ผมทำกุญแจหาย จะมาเปิดให้เท่านั้น แล้วผมจะทำอย่างไรต่อไป ความจึงแจ้งว่า AAA ไม่สามารถทำกุญแจดอกใหม่ให้ผม ตามที่ตัวแทน Emergency Assistance แนะนำในตอนแรก ซึ่งเขาเข้าใจผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่า AAA สามารถเปิดประตูแล้วทำกุญแจดอกใหม่ให้ได้ เมื่อความแจ้งเช่นนี้ Emergency Assistance จึงบอกว่า คงจะต้องใช้บริการลากรถจาก Grand Canyon ไปยังตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อที่ผมเช่ามาที่ใกล้เคียงที่สุดกับบริเวณที่ผมอยู่ คือ Flagstaff ซึ่งรถบริษัทลากรถทั้งหมดจะต้องไปจาก Flagstaff ด้วย สนนราคาค่าลากรถ ประมาณ 289 เหรียญเท่านั้น (แป่ว ..... แพงเหี้ย ๆ แหละคร๊าบพี่น้อง) เมื่อไม่มีทางเลือกก็ตอบตกลงไป ให้รีบมาลากเร็วที่สุด เพื่อจะได้ทำกุญแจดอกใหม่ ให้เรียบร้อยไป เหตุการณ์ดูเหมือนจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะต้องใช้ทุนในระดับราคาแสนแพง

รอสักพัก ตัวแทน Emergency Assistance ก็โทรศัพท์มาว่า “ขอโทษด้วยนะ เนื่องจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่ใกล้ที่สุดจะปิดทำการในเวลาบ่ายสองโมงเท่านั้น จากนั้นจะปิดทำงานปีใหม่ อีก 1 วัน อย่างไรเสีย รถลากไปไม่ทัน ขอให้ท่านเดินทางไปยัง Flagstaff เพื่อติดต่อขอทำกุญแจใหม่ แล้วขับรถลงมาแล้วกัน” เอ้า .... ทำไม เพิ่งบอก แล้วข้อมูลนี้จะถูกอีกหรือไม่เหนอ ผมจึงได้ขอหมายเลขโทรศัพท์บริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อนั้น แล้วโทรไปถามว่า ถ้าผมไปตัวเปล่า ๆ ไม่มีรถยนต์ไปด้วย จะทำกุญแจดอกใหม่ให้ผมได้หรือไม่ คำตอบ คือ “ทำได้” ผมจึงได้นั่งรถยนต์ Open Tour ราคา 27 เหรียญ ลงไปยัง Flagstaff ด้วยหัวใจพองโตว่า ปัญหาคงได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วเป็นแน่

ไปถึง Flagstaff เวลาเที่ยงตรง ดีใจมาก ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะแยะ แต่เหตุการณ์ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น ฝ่ายเทคนิคตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อนั้น ได้บอกกับผมว่า “ข้อมูลที่คุณได้มานั้น ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ถ้าคุณไม่ลากรถยนต์ลงมาด้วย แม้ผมจะทำกุญแจให้ใหม่ ซึ่งแน่นอนคุณต้องจ่ายราคากว่า 250 เหรียญ โดยไม่ได้มีการติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์พร้อม ๆ กันรถยนต์แล้ว ก็ไร้ผล เพราะกุญแจใหม่ จะใช้สตาร์ทรถยนต์ และติดได้เพียง 10 วินาทีเท่านั้น จากนั้น รถยนต์จะตายโดยไม่มีทางแก้ไขอื่น ๆ แม้จะได้กุญแจสำรองมาก็ตาม” อ้าว ... ทำไม เป็นแบบนี้ แล้ว เมื่อกี้ ตอนข้าฯ โทรศัพท์มา คนของคุณทำไม บอกว่าทำได้....

ด้วยความเหนื่อยและเพลีย แม้จะอยากนอนใจจะขาด ก็พยายามครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เลยสอบถาม เจ้าหน้าที่เทคนิคท่านนั้นว่า ท่านมีคำแนะนำอะไรหรือไม่ เขาว่า น่าจะลองสอบถามบริษัทที่ให้เช่ารถยนต์ที่ Tucson ว่ามีกุญแจสำรองหรือไม่ หากมี ก็เช่ารถยนต์กลับไปเอามา ไอเดียบรรเจิด โทรศัพท์กลับไปบริษัทที่เช่ารถยนต์ทันที รออยู่ประมาณ 15 นาที ได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า .......... “.....กำลังพยายามค้นหา เพราะบริษัทเรามีรถยนต์กว่า 4,500 คัน แต่คุณจะต้องมารับกุญแจให้ทันในเวลา 5 โมงเย็น ก่อนเราจะปิดทำการปีใหม่” โอ้ เจอสถานการณ์ปิดประตูตายอีกแล้ว

ผมจะทำอย่างไรดี ก็ต้องติดต่อเพื่อนให้มารับกุญแจให้ ซึ่งก็กลัวว่าจะไม่มีใครอยู่ในเมืองแล้ว เพราะมันเป็นเทศกาลท่องเที่ยว ซึ่งตอนแรกทางบริษัทให้เช่ารถยนต์แจ้งว่า ไม่อาจให้คนอื่นมารับแทนได้ ผมบอกว่า ผมไม่อยากจะอยู่ข้างบน Grand Canyon แล้ว จะเมลล์ให้ผมได้หรือไม่ เธอว่า ไม่ได้ แต่ยินยอมให้เพื่อนมารับแทนได้ ถ้าบอกรายละเอียด ฯลฯ มาให้ทราบล่วงหน้า ก็พยายามติดต่ออยู่นาน จนมีเทวดามาโปรด เป็นเพื่อนของเพื่อน ของเพื่อน ฯลฯ ไปรับกุญแจให้ ผมเช่ารถยนต์ขนาดจิ๋วขับกลับมาจาก Flagstaff มุ่งหน้าไปที่ Tucson ทันที ซึ่งปกติ จะต้องใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงนิด ๆ แต่เหมือนจะหายตัวได้ ผมใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง โชคดีไม่เจอตำรวจเลย ไม่งั้นใบสั่งคงจะอานไปแล้ว ได้กุญแจมา แล้วบึ่งกลับไป Grand Canyon คราวนี้ ไม่เร็วอย่างที่คิดครับ ผมว่า สมองผมคงจะเบลอ ทำให้ขับหลงทางไปสองช่วง คือ ช่วงเลี่ยงเมือง Phoenix กับช่วงที่จะแยกไป Williams ผมหลงเข้าไปในเมือง Flagstaff แบบไม่รู้ตัว เมื่อเข้าไปแล้ว จึงต้องไปสอบถามเส้นทางใหม่ แทนจะไปเส้นทางหลัก ผมเลยต้องใช้เส้นทางหลวงสาย 180 แทน ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว ขับคนเดียว เหงาใจมาก ๆ กว่าจะไปถึง Grand Canyon ก็ปาเข้าไป ตีสอง เห็นจะได้ คราวนี้ก็ให้เพื่อนอีกคนขับรถคันแรกลงมา ส่วนผมก็ขับรถเช่าคันใหม่ไปคืนที่ Flagstaff ก่อนจะมุ่งหน้าเมือง Chandler ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากPhoenix เพื่อไปพักที่บ้านที่พี่แป๊ด อันแสนจะอบอุ่นต่อไป




บทเรียนครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า สุภาษิตที่ว่า ความประมาท เป็นหนทางแห่งความตาย นั้นเป็นอย่างไร และ ทำให้รู้ว่า อุดมคติตำรวจ บรรทัดสุดท้าย ที่เตือนให้รักษาความไม่ประมาท เสมอชีวิตนั้น สำคัญแค่ไหน เพราะเมื่อทุกอย่างยุติลง นอกจากค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป จากการเช่ารถสองครั้ง ค่าน้ำมัน ค่าทำกุญแจใหม่ ค่าที่พัก ฯลฯ ที่มีราคาเสมอแขนและขาของผมนั้นแล้ว ด้วยความที่มีอายุมากแล้ว การใช้พลังมากมายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ประกอบกับ ต้องเจอสภาวะอากาศเลวร้ายใน Grand Canyon นั้น ผมต้องกลายเป็นไข้ อุณหภูมิร่างกายสูง ความดันต่ำ ฯลฯ นอนซมไปหลายวัน จนกระทั่งต้องไปหาหมอ เสียค่ายาเป็นอย่างมาก ได้แต่จำเป็นบทเรียนครับว่า คราวหน้าต้องมีตั้งสติให้ดี อย่าทำอะไรโดยไม่มีสติอีก




หมายเหตุ : ยังไรเสีย ก็ยังได้เก็บภาพงาม ๆ ที่ Grand Canyon ก่อนเกิดเรื่องร้าย ๆ นะครับ ไว้จะเอามาลงให้ดูครับ



Create Date : 09 มกราคม 2551
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 14:39:06 น. 15 comments
Counter : 686 Pageviews.

 
อ่านแล้ว ได้แต่ส่งความเห็นใจ และ เอาใจช่วยไปด้วยตามแต่ละบรรทัดที่อ่านอย่างใจจดใจจ่อ

ถือเป็นบทเรียนราคาแพง ที่แม้อยากจะลืม ก็ไม่อาจเลือนไปได้ง่าย ๆนะคะ


โดย: endeavour วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:12:57:31 น.  

 
คิดซะว่า ฟาดเคราะห์ส่งท้ายปีก็แล้วกันนะครับ
แม้ว่ามันจะเป็นเคราะห์ที่ต้องฟาดด้วยเงินมูลค่าหลายตังค์อยู่
ก็คงพูดเหมือน คห ข้างบนน่ะ
ว่า ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต ที่น่าจดจำอีกครั้งหนึ่ง
แค่นี้ ไม่ตายนี่ครับ
สู้ๆ ครับ


โดย: Commencer วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:13:38:29 น.  

 
โห...น่าเห็น ใจจริงๆครับ....ขอให้อย่าเกิดเรื่อง อย่างงี้อีกเรยนะครับ..ภาวนา..ช่วย..


โดย: ลิงจ๊ากจ๊าก วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:15:03:44 น.  

 
ประสบการณ์สุดยอด (แย่) เลยนะครับ สงสัยต้องจำไปจนตายแหงเลย คิคิ
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันนะครับ


โดย: sak (psak28 ) วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:16:28:44 น.  

 
ซวยเสร็จเรียบร้อย

ทีนี้ก็เริ่มโชคดีได้แล้วนะคะ ขอให้หายป่วยไวๆ


โดย: ตา (ta/'o-o/' ) วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:16:50:19 น.  

 
ซวยแบบเดิมอีก แหล๊ะ....

แต่ก้อชอบอ่านเรืองซวยๆของคุณ นะคะ คราวหน้าคิดว่าคงมีโชคมาให้อ่าน...แหงม


โดย: . IP: 124.120.3.191 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:20:37:57 น.  

 
...Get well soonnnn...


โดย: The Zephyr วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:21:25:12 น.  

 
สวัสดีครับพี่ เป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆเลยละครับ
ส่วนผมช่วงปีใหม่ต้องตั้งด่าน 7 วัน เลยครับพี่


โดย: จักรพรรดิ์ (เล็ก) บางบัวทอง IP: 124.121.56.196 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:2:17:30 น.  

 
Thanks everyone. My intention is only telling my story that I guess it might be useful to remind the readers to be aware of what they are going to do. To me, it just a story that I cannot fix and make it better but let it be. Everything seems fine to me right away. I am ready to study in soon; welcome new legal classes I have enrolled and prepared for working in Thailand soon.

Best wishes!


โดย: POL_US IP: 70.171.221.137 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:6:01:04 น.  

 
อ่านแล้วเห็นภาพและเห็นใจมากๆเลยค่ะ
เข้าใจความรู้สึกคุณ ขนาดจิ๊บแค่รถยางแบนยังรู้สึกแย่เลย
แถมยังไม่ใช่บ้านเราอีกตะหาก


เอาใจช่วย หายไวๆ กายและใจแข็งแรงนะคะ

ถือว่ามันผ่านไปพร้อมปีเก่าก็แล้วกัน



โดย: จิ๊บ (มดน้อยในไร่ส้ม จิ๊บๆ ) วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:11:24:06 น.  

 
น่าฉงฉานเฮีย..อดนับดาวเรย


โดย: เก่งกว่าผมตายไปหมดแล้ว วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:10:49:32 น.  

 
Ha... That's you! You should also add that you were also running out of cellphone battery when you drove back to Tucson. ^^

I and my friend talked about you that night, wondering how fast you drove to Tucson. Please don't drive that fast again.


โดย: caffe latte วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:14:34:48 น.  

 
โห ขอบคุณครับ ที่ช่วยเหลือในวันก่อน ไม่งั้น จะแย่กว่านั้นอีกหลายเท่าตัว เพราะต้องติดใน Grand Canyon อีกหลายวัน (ในช่วงวันหยุดปีใหม่) กว่าจะแก้ไขปัญหาได้


โดย: POL_US วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:2:55:32 น.  

 
ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก็ต้องขอบคุณน้องอีกคนด้วย ที่รับช่วงส่งกุญแจให้พี่ เพราะเราติดธุระ


โดย: caffe latte วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:4:28:44 น.  

 
เข้ามาอ่านแล้วชื่นชมพี่ครับ


โดย: บอล IP: 124.120.160.102 วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:23:27:25 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.