• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
• ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
• เรื่องจริง,อุทาหรณ์
• ข่าวกีฬาทั่วไป
• ข่าวอาเซนอล
• ข่าวบาซ่า
• ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
• ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
• ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
• ข่าวสารภาพยนตร์
• ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
• ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
• ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
• ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
• ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
• ข่าวสารสุขภาพ
• ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
• สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
• สูตรอาหาร,ขนม
• แนะนำร้านอาหาร
• เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
• เรื่องตลก,ขำขัน
• ข่าวสารแนะนำเกม
• ต้นไม้,ดอกไม้
• ข่าวสารยานยนต์
• ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
• ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
• ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
• กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
• บล็อกส่วนตัวจ้า

จำคุกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฐานซ่องโจร วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2555 เวลา 11:23 น. พิพากษาจำคุก “เสือ พ่าว เซิง” พร้อมพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวม 22 คน คนละ 3 ปี ฐานซ่องโจร รับสารภาพเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้( 27 ส.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1520/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเสือ พ่าว เซิง หรือ นาย ชินเปาเชียง ชาวจีน กับพวกเป็นชาวจีน 15 คน และชาวไต้หวัน 7 คน ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-22 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นอันเป็นความผิดฐานเป็นซ่องโจร โจทก์ฟ้องสรุปความผิดว่า เมื่อต้นเดือน มี.ค.–28 มี.ค. 55 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และเจ้าหน้าที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด เข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 29/817 โครงการเมืองทองธานี 2 ซอย 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบของกลางคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์บ้าน บทสนทนาภาษาจีน รายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ จึงจับกุมจำเลยที่ 1-22 ซึ่งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และใช้บ้านเช่าดังกล่าวเป็นศูนย์คอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปหลอกลวงเหยื่อที่ประเทศจีนและไต้หวัน โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือตำรวจ เพื่อหลอกลวงเหยื่อว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย และให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 จำเลยทั้ง 22 คน ให้การรับสารภาพ ศาลพิเคราะห์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งหมดแล้วเห็นว่าจำเลยที่ 1-22 กระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นอันเป็นความผิดฐานเป็นซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 ลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 6 เดือน ปล.โทษเบาจัง ถ้าติดคุกแค่ปีกว่า ให้กินข้าววันละมื้อก็พอนะ ให้เอาต้นกล้วยสับ ใส่รำไปด้วยเหมาะดีอาหารประเภทนี้กับคนแบบนี้ //www.dailynews.co.th/crime/151831   Create Date : 27 สิงหาคม 2555     Last Update : 27 สิงหาคม 2555 13:32:00 น. Counter : 1629 Pageviews.   0 comment Share Tweet

สลดโจ๋ไทยตั้งแก๊งโจรปล้นรถจยย. วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2555 เวลา 07:58 น. ตำรวจประสานงานกันจับแก๊งวัยรุ่นก่อเหตุปล้นรถจยย.ของเหยื่อกลางถนน ใช้แผนขี่รถจยย.ประกบเหยื่ือแล้วชักปืนข่มขู่ก่อนยึดกุญแจรถขี่หลบหนีไปหน้าตาเฉย เผย น่าสลดคนก่อเหตุเป็นเยาวชนทั้งนั้น ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 04.30น. เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับคนร้ายได้4คน โดยตำรวจสายตรวจสน.โชคชัยสามารถสกัดจับผู้ต้องหาได้2ราย ที่บริเวณปั๊มคาลเท็กซ์ ริมถนนประดิษฐ์มนูธรรมเป็นเยาวชนอายุ16-18 ปี พร้อมของกลางรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาที่สน.โชคชัย ส่วนอีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสน.โคกคราม สกัดจับได้ที่บริเวณหน้าโรงเรียนเลิศหล้า ริมถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงจระเข้บัว เขตบางเขน  ได้ผู้ต้องหาเป็นเยาวชน2คน พร้อมของกลางรถ จยย.ยี่ห้อ สกูปี้ไอ สีดำเทา หมายเลขทะเบียน สจก652 กทม. เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบปากคำต่อ หลังจากนั้นได้มีผู้เสียหายเดินทางมาที่สน.โชคชัย และยืนยันว่าทั้ง4คนเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ปล้นรถจยย.และทรัพย์สินของพวกตนไป โดยนายอนุชา ราชวงศ์ อายุ34 ปี ผู้เสียหายกล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ03.00น.ขณะที่ตนและภรรยากำลังขับรถคนละคันมาจากบ้านเพื่อมาช่วยภรรยากวาดขยะตรงแยกลาดพร้าวตัดประดิษฐ์มนูธรรม เมื่อมาถึงตรงทางยกระดับหน้าห้างเดอะมอลล์บางกะปิ ได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 5 คน ขี่รถจยย.3 คัน มาประกบรถตนในลักษณะด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ในขณะที่รถก็ยังวิ่งอยู่ จากนั้นคนร้ายที่ประกบข้างได้เอื้อมมือมาปิดกุญแจรถตน เมื่อรถดับ คนร้ายก็ได้ชักปืนออกมาข่มขู่ พร้อมกับชิงรถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน อบธ 938 กทม. ของตนไป ซึ่งขณะนั้นภรรยาตนที่ขับรถจยย.นำหน้าไม่รู้เรื่อง ส่วนอีกรายคือนายนิวัฒน์ ทะดวง อายุ30 ปี ซึ่งถูกคนร้ายใช้พฤติกรรมในลักษณะเดียวกันลงมือปล้นทรัพย์ที่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 41(ซอยภาวนา) คนร้ายได้รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีแดงของตนไป  เบื้องต้น ร.ต.อ.ภาสกร กิตติวณิชานนท์ พงส.(สบ1)สน. //www.dailynews.co.th/crime/151755   Create Date : 27 สิงหาคม 2555     Last Update : 27 สิงหาคม 2555 13:21:14 น. Counter : 1051 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณปราสาทตาควาย วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2555 เวลา 11:22 น. ชาวสุรินทร์นำเครื่องอุปโภค-บริโภคเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณปราสาทตาควาย พบสถานการณ์ยังปกติ ทหารไทย-เขมร พูดคุยถ่ายรูปเปฯที่ระลึก วันนี้ (27 ส.ค.) นายเสรี จึงสิริพรชัยประธานมูลนิธิไต่ฮงกงสุรินทร์ พร้อมคณะร่วมกับชาวจังหวัดสุรินทร์ นำข้าวสารปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำดื่มสะอาด เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจทหาร  ที่ฐานปฏิบัติการหนองแค ปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและแสดงออกถึงความห่วงใยจากแนวหลังสู่แนวหน้า โดยมี พ.อ.ทัศน์พล สุพีสุนทร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26  เป็นตัวแทนกล่าวต้อนรับและนำกำลังพลรับมอบสิ่งของ โอกาสนี้ชาวสุรินทร์ยังได้จัดอาหารซึ่งมีทั้ง ขนมจีนแกงไก่ ปากหม้อ ของหวานไอศกรีม ร่วมรับประทานอาหารกับทหารกล้า บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น นายเสรีจึงสิริพรชัย กล่าวว่า ชาวสุรินทร์ที่อยู่แนวหลังทุกคนมีความห่วงใยทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวชายแดนแม้ขณะนี้จะไม่มีสถานการณ์ความตึงเครียดขึ้นแต่ชาวสุรินทร์ยังคงมีความห่วงใยทหารกล้าจึงพร้อมใจกันนำสิ่งของพร้อมเครื่องอุปโภค มามอบให้ในครั้งนี้เพื่อแสดงออกถึงความห่วงใย ที่ทหารทุกนาย ได้เสียสละในการดูแลความสงบและปกป้องอธิปไตยของชาติและขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตลอดจนพระบารมีปกเกล้า ปกกระหม่อมแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถโปรดดลบันดาล พระราชทานพรให้ทหารกล้าทุกนาย ประสบแต่ความสุข ความเจริญมีความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ตลอดภารกิจ สำหรับบรรยากาศบริเวณปราสาทตาควายบ้านไทยนิยมพัฒนา สถานการณ์ยังคงปกติไม่มีความตึงเครียด ทหารไทยและกัมพูชา มีการพูดคุยกันด้วยความสนิทสนมนอกจากนี้ทหารกัมพูชายังร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับผู้เดินทางไปท่องเที่ยวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม  แสดงออกถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างทหารของทั้งสองประเทศ และยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทอย่างต่อเนื่อง  หากประชาชนสนใจสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวชมโบรารสถานแห่งนี้ได้ทุกวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารไทยคอยดูแลความปลอดภัยให้อย่างใกล้ชิด //www.dailynews.co.th/thailand/151837   Create Date : 27 สิงหาคม 2555     Last Update : 27 สิงหาคม 2555 13:18:14 น. Counter : 995 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ทหารฝึกโจมตีกลางคืนบึ้มพลาดเจ็บ20นาย วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2555 เวลา 00:17 น. ทหาร ร.1 พัน 3 ฝึกซุ่มโจมตีตอนกลางคืนที่กาญจนบุรี เกิดผิดพลาดทางเทคนิคในการขว้างระเบิดควัน ทำให้กำลังพลถูกสะเก็ดระเบิด บาดเจ็บ 20 ราย ( 26 ส.ค.)  เมื่อเวลา 20.30 น. ที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี มีรถฮัมวี่ของทหารจำนวน 2-3 คัน นำร่างทหารได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมรบมาส่งที่ รพ. ซึ่งได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 20 ราย เป็นพลทหาร 18 ราย ทหารยศนายสิบ 2 นาย แต่ละรายถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ ลำตัว แขนและขา ทางแพทย์และพยาบาลให้ระดมกันช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด จากการสอบถามรายละเอียด ทราบว่า ทหารสังกัด ร.1 พัน 3 (กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ) ได้เดินทางมาฝึกยุทธวิธีการซุ่มโจมตีตอนกลางคืน ที่ค่ายฝึกเขากำแพง หมู่ 12 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี  ในระหว่างทำการฝึกซ้อมดังกล่าว ได้มีการใช้ระเบิดลูกซ้อมและระเบิดควัน โดยให้กำลังพลที่ฝึกคลานหลบระเบิด แต่ปรากฏว่าขณะที่กำลังซ้อมอยู่นั้น ได้มีระเบิดลูกหนึ่งเกิดไปกระแทกกับต้นไม้แล้วเด้งกลับไปตกใกล้กับกลุ่มทหารที่กำลังฝึกซ้อม ทำให้ทหารถูกสะเก็ดระเบิดใส่ได้รับบาดเจ็บหลายคน หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ช่วยกันลำเลียงส่ง ร.พ.พหลพลพยุหเสนา ต่อมามีผู้บังคับบัญชาได้เดินทางไปดูอาการทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และได้สั่งให้พาทหารทั้งหมดที่ทำแผลเสร็จแล้วออกจาก รพ.พหลพลพยุหเสนาทันที แต่ยังมีทหารที่ต้องเฝ้าดูอาการอีก 2 นาย ซึ่ง เป็นพลทหารทั้ง 2 นาย. //www.dailynews.co.th/thailand/151741   Create Date : 27 สิงหาคม 2555     Last Update : 27 สิงหาคม 2555 13:16:25 น. Counter : 1149 Pageviews.   0 comment Share Tweet

รถพ่วงชนกันเละพุ่งเสยร้านก๋วยเตี๋ยวพังยับ วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2555 เวลา 10:40 น. รถพ่วง18ล้อเสยท้ายพ่วงด้วยกันก่อนพุ่งเข้าบ้านพังฯ ด.ญ.วัย 7 ขวบกระเด็นออกนอกตัวรถพ่วงขาเกือบขาด หลังน้าชายขับชนท้ายพ่วง 18 ล้อ ก่อนพุ่งเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว   วันนี้ ( 26 ส.ค.) พ.ต.ท.ปริญญา สุขคันธวโชติ สารวัตรเวรสอบสวน(สบ 3) สภ.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนกับรถพ่วง 18 ล้อ และพุ่งเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว เลขที่ 31/2 ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ม.6 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู                ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 81-6909 กาญจนบุรี ท้ายพ่วง หมายเลขทะเบียน 81-8759 กาญจนบุรี ซึ่งบรรทุกทรายมาเต็มคัน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน โดยหน้ารถพุ่งชนประตูเหล็กม้วนเข้าไปในร้านขายก๊วยเตี๋ยว เกือบครึ่งคัน ทำให้ข้าวของและทรัพย์สินภายในร้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังพบ ด.ญ.ธนยาพร แก้วต่าง หรือ“น้องแตงโม” อายุ 7 ขวบ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเท้าซ้ายเกือบขาด และมีบาดแผลแกรรจ์ที่ขาขวา รวมทั้งตามใบหน้าบอบช้ำ ซึ่งกระเด็นออกมาจากรถพ่วงคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯต้องช่วยกันปฐมพยาบาล ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.ปทุมธานี  นอกจากนี้ยังมี ด.ญ.กิรนา เหมือนมี หรือ“น้องแอ้ม” อายุ 7 ขวบ และนายทูร เหมือนมี อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนที่ท้ายรถพบค้นปาล์มล้มขวางถนนขาด 2 ท่อน เจ้าหน้าที่ฯต้องเร่งขนย้ายออกจากที่เกิดเหตุทันทีเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายซ้ำซ้อนเนื่องจากถนนมืดไม่มีไฟฟ้าส่องแสงสว่าง   ส่วนบริเวณกลางถนนฝั่งตรงข้ามขาเข้าตัวเมืองปทุมธานี พบรถพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 81-4614 นนทบุรี ท้ายพ่วง หมายเลขทะเบียน 81-8921 นนทบุรี ซึ่งบรรทุกกล่องกระดาษบรรจุขวดเปล่าของสุรายี่ห้อหนึ่ง มาเต็มคันรถ ที่ท้ายรถมีรอยถูกชนได้รับความเสียหาย จนเป็นเหตุให้ขวดเหล้าตกกระจัดกระจายแตกเกลื่อนเต็มพื้นถนน  โดยมีนายแรมชัย เผ่านิยม อายุ 49 ปี คนขับยืนรอให้การอยู่  นายแรมชัย ให้การว่าขณะที่ได้ขับรถเพื่อนำขวดเปล่าเหล้าขาว มาจาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อมาส่งที่ บ.ปทุมรีไซเคิล และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุทันใดนั้นรถพ่วงคู่กรณีก็ชนท้ายรถตนก่อนที่จะพุ่งข้ามเกาะกลางไปชนต้นปาล์มจนขาด 2 ท่อน และรถก็พุ่งไปชนร้านค้าข้างทาง และเมื่อตนจอดรถลงไปดูก็พบเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกระเด็นออกมาจากรถพ่วงคันดังกล่าว ตกอยู่บนต้นปาล์มที่ล้มขวางถนนโดยได้รับบาดเจ็บสาหัส  ส่วนนายทูร คนขับรถพ่วงบรรทุกทราย กล่าวว่า ได้ขับรถบรรทุกทรายมาจาก จ.กาญจนบุรี เพื่อนำไปสงในเขตมีนบุรี กรุงเทพฯโดยมีหลานสาวทั้งสองคนนั่งมาด้วย และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถพ่วงคู่กรณี ได้ขับเปลี่ยนเลนแบบกะทันหันทำให้ตนเบรกไม่ทันและพยายามหักหลบแต่ไม่พ้นและได้ชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางและชนต้นปาล์มก่อนจะไปชนร้านค้าอีกจนเป็นเหตุให้ ด.ญ.ธนยาพรฯ กระเด็นออกจากจากตัวรถได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ตนและ ด.ญ.กิรนา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สำหรับนายวีระพงศ์ สุดใจ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านก๋็วยเตี๋ยว  เปิดเผยว่า ตนและภรรยากำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอนหลังร้าน จู่ๆก็มีเสียงดังโครมสนั่น ทำให้สะดุ้งสุดตัว คิดว่าอาคารถล่ม แต่พอตั้งสติได้ออกมาดูก็พบว่ารถพ่วงพุ่งชนเข้ามาในร้านและมีเด็กผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังโชคดีที่รถไม่พุ่งเข้าไปถึงในห้องนอน  ด้าน พ.ต.ท.ปริญญา คาดว่ารถบรรทุกทรายน่าจะขับมาด้วยความเร็วและเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุจึงพุ่งชนท้ายรถพ่วงคู่กรณี แต่จะได้ทำการสอบสวนและสอบพยานแวดล้อมในทีเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป //www.dailynews.co.th/crime/151582   Create Date : 26 สิงหาคม 2555     Last Update : 26 สิงหาคม 2555 13:43:31 น. Counter : 1622 Pageviews.   0 comment Share Tweet