Group Blog
 
All blogs
 

รถพ่วง 18 ล้อ ซิ่งฝ่าไฟแดง ชนมอเตอร์ไซค์ยับ 5 คัน ดับ 4 สาหัส 5

รถพ่วง 18 ล้อ ฝ่าไฟแดง ชนมอเตอร์ไซค์ 5 คัน ดับ 4 สาหัส 5

รถพ่วง 18 ล้อ ฝ่าไฟแดง ชนมอเตอร์ไซค์ 5 คัน ดับ 4 สาหัส 5

รถพ่วง 18 ล้อ ฝ่าไฟแดง ชนมอเตอร์ไซค์ 5 คัน ดับ 4 สาหัส 5


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

เกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นเมื่อรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซิ่งฝ่าไฟแดงบริเวณสี่แยกสลกบาตร จ.กำแพงเพชร ชนกับรถจักรยานยนต์ 5 คัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 ราย

เมื่อวานนี้ (13 พฤษภาคม 2556) เวลา 08.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขาณุวรลักษณ์บุรี จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งอุบัติเหตุที่สี่แยกไฟแดงสลกบาตร ถ.พหลโยธิน หมู่ที่ 1 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากรถบรรทุก 18 ล้อ ทะเบียน 70-5220 ลำปาง หมายเลขพ่วงท้าย 70-2154 ข้างรถติดสติกเกอร์ หจก.รัศมีเรืองชัย บรรทุกปูนขาว ขับขี่โดย นายวันรบ หลอมทอง อายุ 31 ปี ชาว จ.พิษณุโลก พุ่งชนกับรถจักรยายนต์ จำนวน 5 คัน ทำให้ผู้ที่โดยสารมากับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 2 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี และโรงพยาบาลกำแพงเพชร อีก 2 ราย รวมเป็น 4 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ทั้งหมดอาการสาหัส

            จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถจักรยานยนต์ทั้ง 5 คัน วิ่งข้ามแยกดังกล่าวโดยมองไม่เห็นรถพ่วง 18 ล้อ ซึ่งวิ่งฝ่าไฟแดงมาชนกันเข้าอย่างจัง ส่วนคนขับรถพ่วงคือนายวันรบได้พยายามขับรถหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวได้ขณะอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร จึงได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส อันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ฯลฯ

ด้าน นายวันรบ คนขับรถบรรทุก เปิดเผยว่า ขับรถออกมาจากโรงปูนที่ จ.สระบุรี เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ต้องรีบไปด่านศุลกากร อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนเที่ยง ขณะขับรถมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุ ความเร็วรถอยู่ระดับที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตนเห็นสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีส้ม จึงเร่งส่งเครื่องยนต์ แต่ตัวพ่วงไปไม่พ้นจึงเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว

สำหรับผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คือ นางสุมาลี ดีคำ อายุ 45 ปี และ ด.ช.ภานรินทร์ ผึ้งเผื่อน อายุ 5 ขวบ ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี และโรงพยาบาลกำแพงเพชร แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมามี 2 ราย คือ น.ส.อรทัย ล่มทา อายุ 36 ปี และ น.ส.นิตยา ดีคำ อายุ 31 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 ราย มีรายชื่อ ดังนี้

นายวัชรินทร์ พงษ์รอด 45 ปี
น.ส.วันวิสา วันชุรี 19 ปี
นางสุกัญญา วันชุรี 55 ปี
นายทอง ปั้นแดง 56 ปี
ด.ช.นนทชัย ปั้นแดง อายุ 8 ปี

สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 5 คัน ได้แก่

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว-ดำ ทะเบียน ลพธ 919 กรุงเทพมาหนคร
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ขคจ 197 กำแพงเพชร
รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สีแดง ขลจ 423 นครราชสีมา
รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สีบรอนซ์ กลว 61 กำแพงเพชร
รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีเหลือง 1 กก 6393 กำแพงเพชร



ปล. ไฟเขียว ก็ตาม ต้องระวัง ดูรถให้ดี ว่ามีฝ่าไฟแดงมาไหม ไม่ต้องรีบออกรถทันทีเมื่อไฟเขียว  

//hilight.kapook.com/view/85948

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2556 17:45:45 น.
Counter : 2658 Pageviews.  

แทงคอแฟนสาวดับ ก่อนฆ่าตัวตาย หลังถูกปฏิเสธแต่งงาน-เพิ่งรู้คบซ้อน

ฆ่าปาดคอ

ฆ่าปาดคอ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คลิป เสี่ยคลั่ง มีดปักคอสาว แล้วฆ่าตัวตาย2ศพ โพสต์โดย DuangAestheti สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

เจ้าของโรงงานรีไซเคิลย่านเมืองนนท์ วัย 33 ปี ก่อเหตุใช้มีดแทงคอแฟนสาวดับ ก่อนปาดคอตัวเองตายตาม คาดปมจากเรื่องความรักไม่ลงตัว

          เมื่อเวลา 14.30 น. ของวานนี้ (12 พฤษภาคม 2556) เจ้าหน้าที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ภายในพื้นที่ หมู่ 1 ถนนบางบัวทอง-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง จ.นนทบุรี  จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานรับซื้อของเก่า จากการตรวจสอบภายในห้องนอน พบศพ นายพหล โสวาปี อายุ 33 ปี เจ้าของโรงงาน มีบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคมที่ลำคอจนหลอดลมหวิดขาดและที่ข้อมือซ้ายอีก 2 แผล

          นอกจากนี้ ใกล้กัน พบศพ น.ส.พัชราพรรณ ศักดิ์รัตนา อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่งานพัสดุและทรัพย์สิน กองคลังเทศบาลเมืองบางบัวทอง มีบาดแผลถูกแทงที่ลำคอด้านขวา 2 แผล และลำคอซ้ายอีก 1 แผล สภาพทั้งคู่นอนหงายอยู่บนเตียง โดยศีรษะของนายพหล พาดมาที่หน้าอกของ น.ส.พัชราพรรณ เบื้องต้นแพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังพบอาวุธมีดเดินป่ายาวประมาณ 20 เซนติเมตร เปื้อนเลือดตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

          ทั้งนี้ น.ส.นรพร โสวาปี พี่สาวนายพหล ให้การว่า
นายพหล กับ น.ส.พัชราพรรณ คบหากันมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกันบ้าง โดยในช่วงหลังมานี้ทางครอบครัวได้ปรึกษากันว่า จะจัดงานแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ น.ส.พัชราพรรณ กลับปฏิเสธ ทำให้น้องชายตนเกิดความเครียด และก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งคู่ได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนถึงขั้นจะเลิกรากัน แต่น้องชายก็ตามไปขอคืนดีสำเร็จ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุน้องชายได้โทรศัพท์มาสอบถามด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า มีซีดีภาพยนตร์สนุก ๆ ดูบ้างหรือไม่ ซึ่งตนตอบไปว่าไม่มี ก่อนจะวางสายไป จนมาทราบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุมีผู้ชายมาบอกว่าเป็นแฟนของ น.ส.พัชราพรรณ อยู่ด้วยกันมา 10 ปีแล้ว ตนก็ตกใจ เพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

          ด้าน พ.ต.ท.จามร สุนทรกิจ รอง ผกก.สส. กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าทางฝ่ายหญิงได้อยู่กินกับหัวหน้าส่วนราชการแห่งหนึ่งในบางบัวทอง มากว่า 10 ปีแล้ว โดยไม่ได้จดทะเบียน ส่วนนายพหลเพิ่งมาคบหากัน 2 ปี และคงเพิ่งทราบเรื่อง จึงขอฝ่ายหญิงแต่งงานอยู่กินกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ทางฝ่ายหญิงปฏิเสธ จึงอาจเป็นสาเหตุให้นายพหลที่ไม่สมหวังในความรัก ตัดสินใจก่อเหตุฆ่าแฟนสาวก่อนฆ่าตัวตายตาม อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะได้เร่งสอบสวนพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง




คลิป เสี่ยคลั่ง มีดปักคอสาว แล้วฆ่าตัวตาย2ศพ โพสต์โดย DuangAestheti

//hilight.kapook.com/view/85904 Smiley
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2556 18:45:50 น.
Counter : 1561 Pageviews.  

สุดช้ำ! เจ้าสาวโร่แจ้งจับเจ้าบ่าวเบี้ยวขันหมาก สูญเงินกว่า 2 แสน

เจ้าบ่าวเบี้ยวขันหมาก

เจ้าบ่าวเบี้ยวขันหมาก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ Lakornhd Thaitv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

เจ้าสาวหม้ายขันหมาก โดนแฟนหนุ่มหลอกแต่งงานด้วย แต่วันงานกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำฝ่ายเจ้าสาวสูญเงินค่าจัดงานกว่า 2 แสนบาท

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ทัตชญา ประชุมสาร อายุ 21 ปี พร้อมนางภาวนา ประชุมสาร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแม่ พร้อมด้วยพี่น้องและเพื่อน ๆ อีกจำนวนหนึ่ง รวมกว่า 10 คน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายณัฐพัชร์ โฮฬาร อายุ 29 ปี แฟนหนุ่ม ซึ่งหลอกลวงให้สูญเสียทรัพย์

            โดย น.ส.ทัตชญา ให้การว่า ตนรู้จักชอบพอคบหากับ นายณัฐพัชร์ หรือ บาส แฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี มานานกว่า 1 ปีแล้ว ต่อมานายณัฐพัชร์ มาหานางภาวนาซึ่งเป็นแม่ของตน พร้อมกับเอ่ยปากขอแต่งงานกับตน โดยเสนอให้สินสอดเป็นเงินสด 300,000 บาท และทองรูปพรรณหนัก 5 บาท และมีการตกลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานกันวันที่ 12 พฤษภาคม โดยช่วงเช้าจัดให้มีพิธีสงฆ์พร้อมรดน้ำสังข์ที่บ้านใน ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี บ้านของนางภาวนาซึ่งเป็นแม่ ส่วนตอนเย็นจัดให้มีงานกินเลี้ยงกันที่สวนอาหารบัวหลวง ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี โดยนายณัฐพัชร์ แฟนหนุ่ม ขอให้นางภาวนาออกเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานไปก่อน และจะใช้คืนในภายหลัง โดยนางภาวนาจ่ายเงินไปแล้ว 240,000 บาท

แต่ในวันงาน ตนรอนายณัฐพัชร์จนถึงเวลาประมาณ 07.30 น. นายณัฐพัชร์ก็ยังไม่ปรากฏตัว ติดต่อทางโทรศัพท์มือถือก็ปิดเครื่อง ตนพร้อมด้วยนางภาวนาผู้เป็นแม่และญาติ พร้อมเพื่อนบ้านอีกกว่า 10 คน จึงนั่งรถไปตามนายณัฐพัชร์ที่บ้านแต่ไม่พบ พบกับพ่อแม่ของนายณัฐพัชร์ ซึ่งจากการสอบถามพ่อแม่ของนายณัฐพัชร์ ก็ไม่ทราบเช่นกันว่านายณัฐพัชร์ไปไหน และนายณัฐพัชร์ไม่เคยบอกพ่อกับแม่เลยว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของนายณัฐพัชร์กับตน เมื่อตนทราบเรื่องจึงมั่นใจว่าคงจะถูกนายณัฐพัชร์หลอกเรื่องที่จะแต่งงานด้วย จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ช่วยติดตามหาตัวนายณัฐพัชร์ ให้มาตกลงพูดคุยกัน เพราะนอกจากนายณัฐพัชร์จะทำให้แม่ของตนเสียเงินค่าจัดงานแต่งงานไป 2 แสนกว่าบาทแล้ว ยังทำให้เกิดความอับอายเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะได้แจกการ์ดงานแต่งให้แขกหลายร้อยใบด้วยกัน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมออกหมายเรียกนายณัฐพัชร์ หรือ บาส หนุ่มแบงก์ ธกส. มาพูดคุยตกลงกันต่อไป




//hilight.kapook.com/view/85905
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2556 18:38:19 น.
Counter : 1562 Pageviews.  

WHO เตือนไวรัสคล้ายซาร์สอาจติดต่อจากคนสู่คน

ไวรัส NCoV WHO เตือน ไวรัสคล้ายซาร์ส อาจติดต่อจากคนสู่คน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า องค์การอนามัยโลกเผย ไวรัสคล้ายซาร์ส NCoV อาจติดต่อจากคนสู่คนได้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด อยู่ที่ 18 รายทั่วโลก และมีผู้ติดเชื้อกว่า 33 ราย

รายงานระบุว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการติดต่อของเชื้อไวรัส Novel Coronavirus (NCoV) หรือไวรัสคล้ายซาร์ส ที่ยังไม่มีวิธีรักษา แต่กำลังเริ่มแพร่ระบาดในแถบยุโรปแล้ว พร้อมกันนี้ ยังได้เตือนว่า ไวรัสชนิดนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะติดต่อจากคนสู่คนได้ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ล่าสุด มีรายงานจากกรมอนามัยฝรั่งเศสว่า มีผู้ป่วยวัย 65 ปี ติดเชื้อไวรัส NCoV หลังจากที่เขากลับมาจากดูไบ และระหว่างนั้น ทางโรงพยาบาลก็ได้ให้ผู้ป่วยรายนี้ นอนห้องรวมกับผู้ป่วยรายอื่น ต่อมาไม่นาน ก็พบว่ามีผู้ป่วยวัย 50 ปี ที่นอนห้องเดียวกันนั้น ติดเชื้อ NCoV เช่นเดียวกัน

สำหรับเชื้อไวรัส NCoV เริ่มระบาดเมื่อปีที่แล้ว โดยมีจุดเริ่มต้นจากประเทศฝั่งตะวันออกกลางอย่างซาอุดีอาระเบีย และจอร์แดน จากนั้นไม่นาน ก็มีการพบผู้ป่วยไวรัสชนิดนี้ในเยอรมนี อังกฤษ และล่าสุดที่ฝรั่งเศส โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ก่อนจะเป็นปอดบวม และบางรายก็มีอาการไตวาย

ทั้งนี้ สำหรับยอดผู้ติดเชื้อนับตั้งแต่มีการค้นพบนั้น มีทั้งสิ้น 33 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 18 ราย ขณะที่ล่าสุด มีรายงานจากซาอุดีอาระเบียว่า มีผู้ป่วยเสียชีวิตไปอีก 2 ราย แต่ทางองค์การอนามัยโลกยังไม่มีแถลงการณ์ยืนยันแต่อย่างใด




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2556 18:35:44 น.
Counter : 1508 Pageviews.  

สหพันธ์ฯ ขนส่งชี้ขึ้นเงินเดือนตำรวจไม่ลดส่วย - ตำรวจรีดไถเพราะนิสัยส่วนตัว


ตำรวจจราจร



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ 

ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบก ชี้ ขึ้นเงินเดือนตำรวจ ไม่ลดเก็บส่วย มอง ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา ขณะที่นิด้าโพลเผยตำรวจจราจรชอบรีดไถเพราะนิสัยส่วนตัว 

วันนี้ (12 พฤษภาคม 2556) นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผย ว่า จากแนวคิดการปรับขึ้นเงินเดือนตำรวจจราจร ตามค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะกับตำรวจชั้นผู้น้อย ส่วนแนวคิดเรื่องที่เป็นการลดปัญหาส่วยนั้น คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากการเรียกเก็บส่วยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินเดือน แต่ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาการมากกว่า


ขณะที่ นิด้าโพล ของ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ตำรวจจราจรกับการรีดไถเงิน" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9 – 10 พ.ค. 2556 จากประชาชนที่ขับขี่ยานพาหนะ ทั่วประเทศ ทุกภูมิภาค จำนวน 1,253 หน่วยตัวอย่าง  พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.21 ระบุว่าสาเหตุที่ตำรวจจราจรบางคนชอบรีดไถเงินกับผู้ขับขี่ยานพาหนะเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของตำรวจบางคน ขณะที่ร้อยละ 17.80 เห็นว่าเพราะเงินเดือนน้อย และร้อยละ  17.61 เพราะต้องหาเงินส่งตามคำสั่ง รวมถึงร้อยละ 17.30 เพราะผู้ขับขี่เป็นคนเสนอ 

ส่วนแนวทางการแก้ไขเกี่ยวกับตำรวจจราจรรีดไถเงิน พบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.31 เห็นว่าควรลงโทษตำรวจที่รีดไถเงินตามระเบียบวินัยตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือนไปจนถึงให้ลาออกจากราชการ รองลงมา ร้อยละ 17.48 ลงโทษผู้บังคับบัญชา ร้อยละ 12.53 โอนงานจราจรให้ท้องถิ่น เช่น กทม. อบจ. อบต. ดำเนินการ  ร้อยละ 8.06 เพิ่มเงินเดือนหรือสวัสดิการให้กับตำรวจ ร้อยละ 1.20 ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามกฎจราจร หากถูกปรับก็ควรไปเสียค่าปรับที่โรงพัก ไม่ควรเสนอเงินให้กับตำรวจ และ ร้อยละ 2.95 อื่น ๆ เช่น ไม่แอบซุ่มตรวจจับในที่ลับตาหรือยามวิกาล เพิ่มกฎหมายให้เข้มงวด แก้ไขกฎหมายจราจรให้ชัดเจน สร้างจิตสำนึกให้กับตำรวจ

//hilight.kapook.com/view/85901

อ่านรายระเลียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2556 17:28:12 น.
Counter : 1705 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.