- ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
- ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
- ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
- เรื่องจริง,อุทาหรณ์
- ข่าวกีฬาทั่วไป
- ข่าวอาเซนอล
- ข่าวบาซ่า
- ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
- ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
- ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
- ข่าวสารภาพยนตร์
- ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
- ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
- ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
- ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
- ข่าวสารสุขภาพ
- ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
- สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
- สูตรอาหาร,ขนม
- แนะนำร้านอาหาร
- เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
- เรื่องตลก,ขำขัน
- ข่าวสารแนะนำเกม
- ต้นไม้,ดอกไม้
- ข่าวสารยานยนต์
- ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
- ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
- ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
- กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
- บล็อกส่วนตัวจ้า
|
|
|
|
|
|
ศาลเลื่อนคดี พนง. รถไฟ ฟ้องหมิ่น สรยุทธ์-ไบร์ท นำเสนอข่าวพาดพิง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram bright_ch3
ศาลเลื่อนนัดคดีพนักงานรถไฟ ฟ้องหมิ่น สรยุทธ์-ไบร์ท เหตุนำเสนอข่าวพาดพิง ชี้อยากให้แก้ข่าวและนำเสนอข่าวให้ถูกต้อง ยันไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย
วันนี้ (20 พฤษภาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลนัดพร้อมคู่ความคดีที่ นายสมเกียรติ กิจโสภี พนักงานรถไฟประจำโรงรถจักร บางซื่อ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และ ไบร์ท พิชญทัฬน์ จันทร์พุฒ สองพิธีกรจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 พิธีกรทั้งสองคนได้นำเสนอเหตุการณ์รถไฟขบวนรถด่วนนครพิงค์ตกราง ที่ จ.ลำพูน วันที่ 26 พฤษภาคม 2555 ในทำนองที่ว่า คนขับ หรือคนควบคุมขับขบวนด้วยความเร็วสูงเต็มพิกัด หรือคนควบคุมประมาท และให้มีการตรวจสอบการดื่มสุราด้วย ซึ่งทำให้โจทก์ในฐานะควบคุมรถได้รับความเสียหาย
แต่ทั้งนี้ เมื่อมาถึงยังศาล นายสมเกียรติได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ ส่วนฝ่ายจำเลยมีเพียงทนายที่มาศาลเท่านั้น ซึ่งทนายของนายสมเกียรติเปิดเผยว่า การนัดพร้อมวันนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งศาลนัดพร้อมให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยเจรจากันก่อน ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการไต่สวนมูลฟ้อง
ทนายฝ่ายโจทก์ ยังกล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้มีการกล่าวถึงรายงานบันทึกการสอบสวนเหตุรถไฟตกราง และฝ่ายโจทก์เองก็ไม่ได้เรียกร้องฟ้องค่าเสียหายใด ๆ ขอเพียงแค่ให้จำเลยแก้ไขข่าวให้ถูกต้องเท่านั้น ซึ่งศาลจะทำการนัดพร้อมคู่ความอีกครั้งในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.30 น. หากพูดคุยกันได้ ก็จะทำการถอนฟ้อง แต่ก็ต้องอยู่บนเงื่อนไขการแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง
ขณะที่ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ก่อนที่จะฟ้องคดีนี้ กลุ่มเพื่อน ๆ พนักงานรถไฟยังเคยร่วมลงชื่อเรียกร้องให้พิธีกรทั้งสองคนนำเสนอข่าวให้ถูกต้อง โดยผลการสอบสวนเหตุรถไฟตกรางก็ออกมาแล้วว่า พนักงานไม่ได้ประมาทหรือดำเนินการบกพร่องใด ๆ และตนก็อยากให้มีการนำเสนอข่าวใหม่ให้ถูกต้อง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา อีกฝ่ายก็ไม่ได้ประสานมายังตนเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด
//hilight.kapook.com/view/86238
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 20 พฤษภาคม 2556 | | |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2556 18:03:41 น. |
Counter : 966 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เผย! คดีซ่องเกาหลี ที่แท้สาว 17 ถูกอาหลอกไปขายบริการ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เผยคดีซ่องเกาหลี ที่แท้ต้นตอคือ อาแท้ ๆ ของสาววัย 17 ปี ที่หลอกให้ไปขายบริการถึงประเทศเกาหลีใต้ ปคม.ขอศาลออกหมายจับแล้ว
จากกรณีที่หญิงสาวชาวไทย อายุ 17 ปี โพสต์เฟซบุ๊กแจ้ง พ.ต.ท.ธานินทร์ จินดามณี รอง ผกก.สส.สภ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ว่า ตนเองถูกคนล่อลวงให้มาขายบริการอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยถูกบังคับให้รับแขกวันละ 20 ชั่วโมง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดต่อประสานไปยังสถานทูตเกาหลีใต้ และสถานกงสุลในกรุงโซล นำไปสู่การวางแผนเข้าไปช่วยเหลือเด็กสาวคนดังกล่าวได้สำเร็จ และนำตัวส่งกลับมายังประเทศไทยอย่างปลอดภัย ในคืนวันที่ 18 พฤษภาคม 2556 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) กล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ บก.ปคม. รีบชี้แจงคดีดังกล่าวให้รับทราบ เพราะที่ผ่านมา ทาง ปคม. ร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ติดตามคดีนี้มาโดยตลอดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนสามารถช่วยเหลือหญิงสาวออกจากสถานบริการดังกล่าวได้แล้ว 7 ราย และขณะนี้ ตำรวจสากลของเกาหลีใต้กำลังเตรียมจับกุมหัวหน้าแก๊งชาวเกาหลี คาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้
ในส่วนของประเทศไทยนั้น พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการชาวไทยได้แล้ว 1 ราย และกำลังอยู่ระหว่างฝากขังต่อศาล โดยในวันนี้จะมีการนัดไต่สวนเพื่อคัดค้านการประกันตัวอีกครั้ง
ด้าน นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ที่ถูกล่อลวงให้ไปทำงานที่ร้านอาหารไทยในกรุงโซล แต่กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี ให้การว่า แต่ก่อนตนเองทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งที่พัทยา ต่อมามีชายต่างชาติเข้ามาตีสนิท สอบถามประวัติความเป็นมาต่าง ๆ และชักชวนให้ตนไปทำงานร้านนวดแผนโบราณที่เกาหลีใต้ โดยอ้างว่าเดือน ๆ หนึ่ง ได้เงินเป็นแสน อีกทั้งยังนำภาพถ่ายของร้านมาให้ดูว่าตกแต่งอย่างหรูหรา สวยงาม ด้วยความที่ตนเองเป็นคนยากจน และอยากหาเงินส่งน้องเรียนหนังสือ จึงตัดสินใจเดินทางไปเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นางสาวบี เล่าต่อว่า เมื่อไปถึงที่กรุงโซลแล้ว กลับถูกยึดพาสปอร์ต ถูกพาไปที่ร้านนวดแผนโบราณ และถูกบังคับให้รับแขกในร้านวันละ 20 ชั่วโมง ไม่สามารถออกไปไหนได้ แต่โชคดีที่คนร้ายไม่ได้ยึดโทรศัพท์มือถือของตนไปด้วย ตนจึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านโปรแกรมไลน์ และเฟซบุ๊ก จนได้รับการช่วยเหลือกลับมาเมืองไทยได้สำเร็จ
ล่าสุด วันที่ 20 พฤษภาคม 2556 เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. เปิดเผยว่า ทราบข้อมูลจากนางสาวบี ว่าถูก นางเดือน (นามสมมุติ) วัย 43 ปี อาสาวแท้ ๆ ที่แต่งงานกับชาวเกาหลีใต้ และเปิดร้านนวดแผนไทยอยู่ในกรุงโซล หลอกว่าจะให้ไปทำงานร้านอาหารและอ้างว่ามีรายได้ดี แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกแก๊งมาเฟียเกาหลีใต้ยึดพาสปอร์ต แล้วบังคับให้ค้าประเวณี ถึงวันละ 20 ชั่วโมง จนนางสาวบีทนไม่ไหวและแจ้งมายังเพื่อนชาวไทยผ่านทางเฟซบุ๊กดังกล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะขอออกหมายจับ อาของนางสาวบี ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กต่อไป
//hilight.kapook.com/view/86217
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 20 พฤษภาคม 2556 | | |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2556 18:00:52 น. |
Counter : 1867 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
กทพ.เตรียมปรับขึ้นค่าทางด่วน 5-10 บาท ดีเดย์ 1 กันยายน
แฟ้มภาพ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
กทพ. เตรียมขึ้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) ตั้งแต่ 5-10 บาท เริ่ม 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป
วานนี้ (17 พฤษภาคม 2556) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการปรับอัตราค่าผ่านทางปี พ.ศ. 2556 ของทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าผ่านทางพิเศษเสนอ โดยหลังจากนี้คณะอนุกรรมการจะต้องไปเจรจากับ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ หรือบีอีซีแอล ผู้รับสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ถึงแนวทางการปรับค่าผ่านทางตามการพิจารณาของ กทพ.
ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษเป็นไปตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ที่ ซึ่งกำหนดให้วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2541 และทุกระยะเวลา 5 ปี นับจากนั้น เป็นวันพิจารณาปรับอัตราค่าผ่านทางฯ และให้อัตราค่าผ่านทางที่ปรับใหม่มีผลบังคับใช้ภายใน 6 เดือน นับแต่วันพิจารณาปรับอัตราค่าผ่านทาง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับอัตราค่าผ่านทางมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2541, 2546 และ 2551 โดยการปรับอัตราค่าผ่านทางในครั้งนี้ กทพ.ยังจะนำความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดในการปรับค่าผ่านทางทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมานำมาพิจารณาประกอบด้วย ซึ่งรวมถึงการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษตามสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา) และทางพิเศษบูรพาวิถีด้วย
ด้าน นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า การปรับอัตราค่าผ่านทางใหม่เป็นการปรับเพื่อให้อัตราค่าผ่านทางพิเศษในปัจจุบัน คงมูลค่าที่แท้จริงของอัตราค่าผ่านทางพิเศษเดิม ณ วันที่เปิดใช้งาน โดยอัตราค่าผ่านทางใหม่สำหรับโครงข่ายในเขตเมือง (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : ดินแดง-ท่าเรือ, บางนา-ท่าเรือ, ดาวคะนอง-ท่าเรือ, ทางพิเศษศรีรัช ส่วน A และ B : พญาไท-พระราม 9, พญาไท-บางโคล่) จะปรับอัตราค่าผ่านทางตามนี้
สำหรับรถ 4 ล้อ จากเดิม 45 บาท เป็น 50 บาท
สำหรับรถ 6-10 ล้อ จากเดิม 70 บาท เป็น 75 บาท
สำหรับรถมากกว่า 10 ล้อ จากเดิม 100 บาท เป็น 110 บาท
และส่วนโครงข่ายนอกเขตเมือง จะปรับเฉพาะทางพิเศษศรีรัช ช่วงถนนพระราม 9-ถนนศรีนครินทร์ โดยสำหรับ รถ 6-10 ล้อ จากเดิม 50 บาท เป็น 55 บาท และสำหรับรถมากกว่า 10 ล้อ จากเดิม 70 บาท เป็น 75 บาท ตามลำดับ
สำหรับทางพิเศษอุดรรัถยาและทางพิเศษบูรพาวิถี จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์และสัญญาที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นเดียวกัน โดยขั้นตอนต่อจากนี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าผ่านทางพิเศษจะต้องไปเจรจากับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด คู่สัญญา ซึ่งต้องการอัตราการปรับค่าผ่านทางขึ้นสูงกว่ามติของ กทพ.เพราะเทียบจากฐานค่าผ่านทางคนละปี ทั้งนี้การปรับอัตราค่าผ่านทางสำหรับทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 และทางพิเศษอุดรรัถยา จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เป็นต้นไป
//hilight.kapook.com/view/86153
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 19 พฤษภาคม 2556 | | |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2556 18:49:52 น. |
Counter : 1402 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|